บท
ตั้งค่า

37 คำสัญญา

หลังจากทานอาหารกันเสร็จเขาก็โทร. ให้พนักงานขึ้นมาเก็บจานชามจากนั้นก็พากันมานั่งดูทีวีบนเตียงนอนขนาดใหญ่ รัญภาคย์แอบมองนาฬิกาอย่างกระวนกระวายเพราะเลยเวลานัดให้พนักงานเอาแชมแปญและดอกไม้มาส่งไปเกือบ 20 นาที่แล้ว เขากลัวว่าพุดชิชาจะง่วงแล้วหลับไปเสียก่อนเพราะจากที่นั่งดูทีวีในตอนแรกตอนนี้เธอล้มตัวลงไปนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มขอตัวออกมารับข้างนอก เขารับช่อดอกไม้ดอกใหญ่และแชมแปญมาจากพนักงานพร้องส่งเงินให้ในจำนวนที่พนักงานรับไปแล้วยิ้มเลยทีเดียว

ชายหนุ่มแชมแปญลงบนโต๊ะทานทานข้าวเล็กๆ จากนั้นก็ถือช่อดอกไม่เดินเข้าไปพาพุดพิชชาที่ตอนนี้ตาปรือแทบจะปิด

“พุดครับ” เขาเรียนเธอเบาๆ เพราะกลัวหญิงสาวจะตกใจ

“คะพี่รัญ มีอะไรหรือเปล่า” เธอหันมาแล้วก็เห็นชายหนุ่มลงไปคลุกเข่าที่พื้นห้องพร้องส่งช่อดอกไม้

“แต่งงานกันนะครับ” ………….

“อะไรนะคะ” พุดพิชชาไม่เข้าใจการกระทำของเขา

“แต่งานกันนะครับ” เขาย้ำอีกที

“พี่รัญลุกขึ้นมาก่อนเถอะค่ะ พุดงงไปหมดแล้วนะคะ ก็เราตกลงแต่งงานกันไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ”

“ก็นั่นมันข้อตกลงที่เราทำเพราะตกกระไดพลอยโจน แต่วันนี้พี่ทำจากความรู้สึกของพี่ที่มีต่อพุดจริงๆ”

“พี่รัญรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา”

“รู้สิ พี่รู้ว่าพี่รักพุด รักมานานแล้วด้วย แต่ที่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าพุดจะไม่รักไม่ชอบพี่ เพราะเราอายุห่างกันเยอะมาก”

“แล้วทำไมตอนนี้ถึงกล้าบอกล่ะคะ”

“ก็เพราะพี่รู้น่ะสิ ว่าเราใจตรงกัน” แล้วเขาก็เล่าถึงเหตุการณ์ที่เธอเมาคืนนั้นให้เจ้าตัวฟัง

“น่าอายจังเลยนะคะ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ พี่รัญไม่ได้เป็นเก้งกวางหรอกเหรอคะ”

“พี่เคยบอกพุดอย่างนั้นเหรอครับ” เขาถามเพื่อให้หญิงสาวทบทวนความจำ

พุดพิชชานิ่งเงียบ เธอกำลังพยายามใช้ความคิดอย่างหนัก ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้ยินเขาพูดว่าเขาชอบผู้ชายด้วยกัน อย่างตอนนี้บอกว่ามารดาอยากให้แต่งงาน เขาก็บอกเพียงว่าอยากให้มารดาสบายใจที่เห็นเขาแต่งงาน เขาไม่เคยบอกเธอเลยสักครั้ง มิหนำซ้ำหนังสือที่เธอเห็นเขาอ่านเธอก็พึ่งมารู้ตอนนี้ไปทำงานเป็นผู้ช่วยเขาว่าเขาซื้อมาเพราะเกี่ยวกับการทำงานทั้งนั้น ไม่ใช่ซื้อเพราะความชอบส่วนตัว

“พุดควรจะดีใจใช่ไหมคะ” เธอถามอย่างไม่แน่ใจ

“ครับ” เขาตอบอย่างมั่นใจแล้วหยิบแหวนที่เตรียมมาสวมให้เธอโดยที่เธอเองไม่ทันตั้งตัว

“พุดสับสนค่ะ พี่รัญไม่ได้หลอกพุดใช่ไหมคะ” พุดพิชชาอยากให้เขายืนยันอีกครั้ง เธอน้ำตารื่นทั้งสองตา

“พี่ไม่เคยหลอกพุดเลยนะ มีแต่พุดนั่นแหละที่เข้าใจพี่ผิดไปเอง”

“แล้วทำไมถึงไม่บอกแต่แรกล่ะคะ”

“ก็ถ้าพี่บอกออกไปพี่จะมีโอกาสใกล้ชิดพุดแบบที่ผ่านมาเหรอครับ”

“แล้ววันนี้ทำไมถึงบอก” เธอยังถามไม่เลิก

“เพราะพี่อยากให้เราสองคนได้พูด ได้บอกความรู้สึกที่มีให้กันจริงๆ ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำ”

“นี่คือเรื่องที่จะสารภาพใช่ไหมคะ”

“ครับ พุดไม่โกรธพี่ใช่ไหม”

“ตอนนี้ยังไม่โกรธค่ะ แต่พี่รัญมีเรื่องอะไรอื่นอีกไหมที่ยังไม่ได้บอกพุด”

“ไม่มีแล้วครับ พี่ขอโทษนะครับ ที่ทำให้พุดเข้าใจผิด”

“แน่นะคะ พุดไม่ชอบคนโหก ถ้าพุดจับได้พุดหนีไปจริงๆ ด้วยนะคะ”

“ไหนสัญญาไว้ตอนเย็นแล้วว่าจะไม่หนีไปไหนไงคะ”

“ก็ตอนนั้นยังไม่รู้นี่คะ ว่าพี่รัญไม่ใช่เก้งกวาง แต่ตอนนี้รู้แล้ว ถ้าจะหนีก็คงไม่ผิดอะไร”

“พี่ไม่ยอมให้พุดหนีพี่ไปไหนหรอกครับ พี่รักของพี่” เขาเข้ามากอดเธอครั้งนี้เป็นการกอดที่ดูเหมือนจะพิเศษกว่าครั้งอื่นๆ ไม่ใช่การกอดในฐานะเพื่อนหรือการปลอบใจ แต่เป็นการกอดที่เต็มไปด้วยความรักที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กันอย่างแท้จริง

รัญภาคย์ชวนหญิงสาวมานั่งจิบแชมแปญกันต่อหลังจากที่เปิดเผยความในใจแล้วต่างพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม พุดพิชชามีความสุขมากที่เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดตั้งแต่แรก รัญภาคย์เองก็มีความสุขไม่น้อยไปกว่าหญิงสาวเลย เขามองหน้าคนรักด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุข แล้วค่อยๆ โน้มใบหน้ามอบจุมพิตที่นุ่มนวลและแผ่วเบาให้กับเธอก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นจูบที่ร้อนแรงเมื่ออีกฝ่ายก็ตอบรับด้วยความรักที่ล้นปรี่ เขาอุ้มเธอมายังเตียงนอนขนาดใหญ่จากนั้นทั้งสองก็หลอมรวมความรักความรู้สึกเข้าด้วยกันเหมือนกับว่าต่างรอคอยกันมานานแสนนาน ร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อพร่ำบอกตลอดเวลาว่าเขานั้นรักเธอมากเพียงใด พุดพิชชาเองก็ถูกเติมเต็มด้วยความรักทั้งหมดที่ชายหนุ่มคนรักมอบให้เธอมีความสุขเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของเขา

พุดพิชชาไม่เสียใจเลยที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา เธอคิดว่าเขาสมควรได้รับสิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอ และถ้าย้อนเวลากลับไปใหม่ได้เธอก็ยังยังมอบสิ่งนี้ให้เขาเหมือนเดิม

“ตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงของเขาที่ดังอยู่ไกลๆ ทำให้เธอต้องรีบยกผ้าห่มมาคลุมใบหน้า เพราะไม่กล้าสบตาของเขา

“พี่ขอบคุณที่พุดไม่รังเกียจพี่ ขอบคุณที่พุดมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดของผู้หญิงให้พี่ พี่สัญญาว่าจากนี้ไปพี่จะไม่ทำให้พุดเสียใจหรือผิดหวัง” เขาให้คำมั่นสัญญาพร้อมกระชับร่างใต้ผ้าห่มเข้าหาตัว

พุดพิชชานอนนิ่ง หญิงสาวไม่กล้ามองหน้าเขาและก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขาในตอนนี้

“พุดนอนต่อเถอะ พี่ไม่แกล้งแล้ว พี่ไปอาบน้ำก่อนนะครับ” เขากดปลายจมูกลงบนแก้มเนียนช้าๆ หญิงสาวได้เพียงแต่ยิ้มให้ ตอนนี้เธอยังไม่คุ้นชินที่ตื่นมาแล้วมีเขาอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ยอมรับว่ามีความอบอุ่นและไม่อยากให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปเลย

เมื่อชายหนุ่มเดินออกไปจากห้องแล้วพุดพิชชาก็พาตัวเองออกมาจากผ้าห่ม แล้วรีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะกลัวว่าเขาจะกลับเข้ามาอีกครั้ง

รัญภาคย์โทร. ไปบอกมารดาว่าเขาสารภาพรักกับพุดพิชชาและขอเธอแต่งงานแล้ว ลดารู้ว่าพุดพิชชานั้นรักลูกชายของเธอแต่ตัวเองไม่เหมาะสมกับรัญภาคย์และยังเข้าใจผิดว่ารัญภาคย์ไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆ ลดาเคยให้ลูกชายบอกความจริงแต่ลูกชายของเธอก็ยังไม่ยอมบอกสักที จนถึงเมื่อวานลดาดีใจมากในที่สุดรัญภาคย์ก็ได้เจอคนที่รักเขาด้วยหัวใจอย่างแท้จริง

“แม่ครับ เลื่อนงานแต่งได้ไหม ผมอยากแต่งเร็วๆ” เสียงออดอ้อนดังมาตามสาย

“ใจร้อนเป็นวัยรุ่นเลยนะ” ลดาดีใจที่ลูกชายมีความสุข

รัญภาคย์อยากใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากับพุดพิชชาแม้จะจดทะเบียนสมรสกันแล้วแต่คนอื่นก็ยังไม่รู้ถึงข้อนี้ถ้าเขาจะมาหาและนอนค้างกับเธอที่บ้านบ่อยๆ ก็กลัวคนอื่นจะว่าเอาได้

ตลาดน้ำช่วงวันหยุดผู้คนค่อนข้างจะพลุกพล่านแต่นั่นก็ทำให้รัญภาคย์รู้สึกดี เพราะเขาได้ใกล้ชิดกับพุดพิชชาอย่างที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสมากนัก กว่าทั้งสองจะเดินกันจนทั่วก็เกือบบ่าย

“หิวไหมครับ” เขาถามขณะที่เอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อบริเวณไรผมออกให้อย่างเบามือแล้วส่งขวดน้ำให้กับหญิงสาวคนรัก

“ไม่เลยค่ะ สนุกดี” พุดพิชชานั้นเดินซื้อของและทานมาตลอดทางซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับรัญภาคย์ทั้งสองจึงไม่ได้ทานอาหารกลางวัน แต่พากันขับรถมายังที่พักแล้วนอนดูทีวีด้วยกันจนถึงเวลาอาหารเย็น

หลังจากทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมแล้วรัญภาคย์ก็ชวนหญิงสาวไปไหว้พระที่วัดห้วยมงคลก่อนจะพากันไปเดินเที่ยวที่ตลาดน้ำสามพันนาม การได้เดินเที่ยวด้วยกันทำให้รัญภาคย์รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ยิ่งอยู่ด้วยก็มีแต่รอยยิ้ม เธอเดินเที่ยวซื้อของและขนมตลอดเส้นทาง เธอสดใสและมองโลกในแง่ดีอย่างที่รัญภาคย์ไม่เคยคิดมาก่อน เธอชวนเขาซื้อเสื้อที่ระลึกของตลาดน้ำจากนั้นก็ชวนเขาไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องน้ำก่อนที่จะพากันมาเดินเที่ยวต่อ

“พี่รัญใส่เสื้อแบบนี้แล้วดูวัยรุ่นขึ้นเยอะเลยนะคะ”

“อ้าว ทำไมพูดอย่างนั่นล่ะ แสดงว่าที่ผ่านมาพี่ดูแก่มากเลยใช่ไหม”

“พุดยังไม่ได้ว่าพี่รัญแก่สักหน่อยนะคะ อย่าคิดมากสิคะ” เธอยิ้มให้เขาอย่างเอาใจ

“บางทีพี่ก็คิดนะว่าพี่แก่แล้ว”

“พี่รัญทั้งหล่อ ทั้งหนุ่มสาวๆ ที่ไหนเห็นก็มองกันทั้งนั้นแหละค่ะ” เธอชมเขาจากใจจริง

“ชมกันอย่างนี้พี่ก็เขินแย่ล่ะสิ แต่พี่ไม่สนใจหรอกนะครับว่าใครจะมีสาวๆ ที่ไหนมามอง แค่พุดมองพี่คนเดียวก็พอแล้วครับ”

“ปากหวานจังเลยนะคะ สงสัยต้องมีรางวัลให้แล้ว” พุดพิชชาจูงมือเขามายังร้านขายไอศกรีมแล้วก็สั่งให้เขาโดยไม่ต้องถามว่าเขาจะทานรสไหน จากนั้นก็ยื่นให้เขา

“ทำไมรู้ว่าพี่จะทานรสนี้ล่ะครับ” เขามองไอศกรีมรสมอคค่าในมือ

“เดาเอาค่ะ เพราะรสอื่นมันไม่ค่อยเหมาะกับผู้ชายเท่าไหร่นี่คะ”

“พี่ก็นึกว่ารู้ใจพี่เสียอีก” เขาแกล้งแหย่เธอเล่น

เมื่อเห็นเธอสะพัดหน้าหนีอย่างงอนๆ แล้วเขาก็หัวเราะก่อนที่จะเดินตามไปง้อ เขารู้สึกว่าหัวใจกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้งหลังจากที่มันแห้งเหี่ยวมานาน

ตลาดน้ำช่วงวันหยุดผู้คนค่อนข้างจะพลุกพล่านแต่นั่นก็ทำให้รัญภาคย์รู้สึกดี เพราะเขาได้ใกล้ชิดกับพุดพิชชาอย่างที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสมากนัก กว่าทั้งสองจะเดินกันจนทั่วก็เกือบบ่าย

“หิวไหมครับ” เขาถามขณะที่เอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อบริเวณไรผมออกให้อย่างเบามือแล้วส่งขวดน้ำให้กับหญิงสาวคนรัก

“ไม่เลยค่ะ สนุกดี” พุดพิชชานั้นเดินซื้อของและทานมาตลอดทางซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับรัญภาคย์ทั้งสองจึงไม่ได้ทานอาหารกลางวัน แต่พากันขับรถมายังที่พักแล้วนอนดูทีวีด้วยกันจนถึงเวลาอาหารเย็น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel