36 ทะเลหวาน
“ไปบ้านแม่ก่อนนะ แม่จะไปเชียงใหม่พรุ่งนี้กลับอีกทีก็ปีหน้าเลย” เมื่อเช้าก่อนที่เขาจะออกจาบ้านมารดาก็บอกว่าจะไปฉลองปีใหม่กับหลานสาวที่เชียงใหม่
“ได้ค่ะ แวะตลาดก่อนได้ไหมคะ พุดจะซื้อพวงมาลัยไปไหว้แม่เพราะช่วงปีใหม่เราก็คงไม่ได้เจอท่าน”
“ได้สิ ซื้อให้พี่ด้วยนะ ปกติพี่ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย โชคดีจังที่ได้รู้จักกับพุด แม่เองก็คงจะดีใจไม่น้อย”
“เราทำตอนที่ยังมีโอกาสค่ะ แม่ของพุดท่านมาด่วนจากไปโดยที่พุดยังไม่ทันได้ทำอะไรแบบนี้เลย”
“พี่เชื่อว่าแม่ของพุดคงภูมิใจในตัวพุดมากๆ พุดเติบโตมาเป็นคนดี อยู่ที่ไหนใครก็รักใคร่เอ็นดู” เขาสัมผัสได้ถึงความเป็นคนจิตใจดีของหญิงสาว
พุดพิชชาลองชุดแต่งงานไปแล้วเกือบ 10 ชุด ทั้งชุดไทยสำหรับใส่ตักบาตรในตอนเช้า ชุดสำหรับพิธีหมั้นและชุดใส่สำหรับงานเลี้ยงในตอนเย็น
“สวยทุกชุดเลยนะครับ” รัญภาคย์ที่นั่งมองก็อดชมไม่ได้ ทุกชุดที่ทางร้านเลือกมาให้เธอลองสวมนั้นสวยจนเขาอยากจะให้เธอใส่ครบทุกชุดเลยทีเดียว
“นั่นสิคะ สวยทุกชุดเลย พุดเลือกไม่ถูก ขอไปตัดสินใจอีกทีได้ไหมคะ”
“ได้สิพี่อยากให้พุดเลือกชุดที่ชอบที่สุด”
“พุดขอปรึกษาแม่ดากับป่านแก้วก่อนได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ เราไม่ได้รีบอะไร เหลือเวลาอีกตั้งนานครับ”
“พี่รัญได้ถ่ายรูปตามที่พุดบอกหรือเปล่าคะ”
“ถ่ายแล้วครับ เดี๋ยวกลับไปคราวนี้ก็ให้ป่านแก้วช่วยเลือกอีกที ว่าแต่พุดกับป่านนี่ใครแต่งก่อน พี่ลืมไปเสียสนิทเลย”
“ป่านคะ เพราะของเราเลื่อนจากเมษาไปตุลาแล้วนะคะ” เธอเตือนเขา เพราะตอนแรกนั้นกำหนดที่เดือนเมษายนแต่พระที่วัดบอกว่าไม่มีวันดีสำหรับทั้งสองคน เมื่อมารดาของเขาแจ้งไปทางบิดาของเธอแล้วบิดาของเธอก็เห็นด้วย งานแต่งเลยต้องเลื่อนไปเดือนตุลาคมแทน
“ถนนโล่งมากเลยนะคะ คนคงออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหมดแล้ว” พุดพิชชามองถนนข้างหน้า ตอนนี้มีรถวิ่งอยู่แค่ไม่กี่คันผิดจากแต่ก่อนที่แทบไม่มีที่ว่างถนนเลยสักนิด
“พี่ชอบช่วงปีใหม่ที่กรุงเทพฯ ก็เพราะแบบนี้แหละ พุดอยากไปหาพ่อไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
“ไหนว่าจะไม่โกรธท่านแล้ว”
“ก็ไม่โกรธค่ะ แต่ไม่อยากไปพุดไม่อยากเจอผกาค่ะ”
“เราไปเที่ยวทะเลกันไหม อากาศแบบนี้คนนิยมไปเที่ยวทางเหนือกันเยอะเลย คงไม่ค่อยมีใครไปทะเลกันหรอกว่าไหม”
“ดีเหมือนกันค่ะ กลับไปเอาเสื้อผ้ากับของใช้ก่อนไหมคะ”
“ไปซื้อเอาข้างหน้าก็ได้ นั่นไง ห้างก็อยู่อีกไม่ไกล” เขาชี้ให้เธอดูตำแหน่งของห้างสรรพสินค้าที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่ในรถเบนซ์คันหรูของเขา
เมื่อได้ของใช้ที่จำเป็นและเสื้อผ้ารวมไปถึงชุดว่ายน้ำแล้วรัญภาคย์ก็พาเธอมายังโรงแรมแห่งหนึ่งที่หัวหิน เป็นโรงแรมขนาดใหญ่มีชายหาดส่วนตัวดูแล้วเหมาะกับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง
“พุดไปเล่นน้ำกันไหม” รัญภาคย์เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็เดินมาถามหญิงสาวที่กำลังเอาของใช้ที่ซื้อมาเก็บเข้าที่ ตอนนี่เขาใส่กางเกงว่ายน้ำแค่ตัวเดียวเดินออกมาจากห้อง พุดพิชชาเห็นแล้วก็ต้องรีบเบือนหน้าหนี เพราะไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอนั้นชื่นชมรูปร่างของเขามากแค่ไหน
“ได้ค่ะ” เธอตอบตกลงทันทีเพราะตัวเองก็ไม่ได้เมาเที่ยวทะเลนานแล้ว
“พี่รัญ” เห็นชุดว่ายน้ำที่พุดซื้อมาใหม่ค่ะ พุดหาหลายรอบแล้วไม่เจอสักที”
“อ๋อ สงสัยมันติดมากับถุงใส่ชุดของพี่เดี๋ยวพี่ไปเอาให้นะครับ”
รัญภาคย์เดินถือถุงชุดว่ายน้ำมาส่งให้กับหญิงสาว พูดพิชชารีบรับมาแล้วเปิดดู
“นี่ไม่ใช่ชุดที่พุดเลือกนี่คะพี่รัญ พุดจำได้ว่าชุดที่เลือกสีครีมนะคะ”
“พอดีตอนไปจ่ายเงิน พนักงานแจ้งว่าชุดมันมีตำหนินิดหน่อย พี่เลยเปลี่ยนเป็นสีดำให้น่ะครับ” ชุดนั้นไม่ได้มีตำหนิอะไรตามที่เขาบอกเลยสักนิด เพียงแต่เขาคิดว่าสีครีมมันดูจะกลมกลืนไปกับสีผิวของเธอไปหน่อยเขากลัวว่าเวลาโดนน้ำแล้วจะบางเกินไป เลยเปลี่ยนเป็นสีดำเพื่อให้ตัดกับผิวขาวเนียนของหญิงสาว
พุดพิชชากลับเข้าห้องเพื่อเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ พอเธอเดินออกมารัญภาคย์ก็มองตาไม่กระพริบเขาคิดว่าวันก่อนที่เห็นเธอใส่ชุดแซกนั้นก็เซ็กซี่แล้วแต่พอเธอใส่ชุดนี้แล้วดูเหมือนชุดนั้นจะชิดซ้ายไปเลย หญิงสาวมีรูปร่างที่ใครๆ เห็นต่างก็ต้องพากันมอง ไม่ว่าจะเป็นเนินอกที่อวบอิ่ม สะโพกกลมกลึงและเรียวขาสวยกับชุดว่ายน้ำที่เว้าสูงนั้นก็ทำให้เขาไม่อยากให้เธอออกไปจากห้องนี้
“ไปค่ะ พุดพร้อมแล้ว เราไปเล่นน้ำที่สระก่อนดีไหมคะ รอให้แดดร่มกว่านี้ค่อยไปลงไปที่หาดนะคะ”
“พุดลืมเสื้อคลุมหรือเปล่า” เขาไม่อยากให้ใครเห็นเธออยู่ในชุดนี้เลย
“ไม่ลืมค่ะ แต่พุดว่าแค่เอาผ้ามาผูกแค่นี้ก็คงพอนะคะ” หญิงสาวหยิบผ้าบาติกที่ซื้อมา เธอจับมุมผ้ามาผูกไว้ที่เอว แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยปิดอะไรเลย รัญภาคย์ไม่คิดว่าเธอจะใจกล้าขนาดนี้ หรือผิดที่เขาทำให้เธอคิดว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย เธอเลยเปิดเผยกับเขาทุกอย่างจนเขาเองแทบจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้
“ครับ” รัญภาคย์ลอบกลืนน้ำลายก่อนเดินตามเธอไปยังสระว่ายน้ำด้านข้างโรงแรม
รัญภาคย์ไม่ค่อยสนใจจะว่ายน้ำเท่าไหร่นัก เขาได้แต่แอบมองหญิงสาวที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในสระโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย แม้จะไม่มีคนไทยอยู่บริเวณนี้สักคนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ดูจะสูงอายุกันแล้วทั้งนั้นแต่เขาก็ไม่อยากให้ใครเห็นรูปร่างที่เย้ายวนของพุดพิชชาเลยแม้แต่คนเดียว
“ไม่มีแดดแล้วเราไปเดินเล่นกันเถอะพุด” เขาว่ายน้ำเข้าใกล้ เมื่อเห็นว่าตอนนี้คนที่สระน้ำเริ่มเยอะกว่าเดิม
“ได้ค่ะ ขอพุดล้างตัวก่อนนะคะ” เธอรีบขึ้นจากสระน้ำแล้วเดินไปล้างตัวโดยมีเขาเดินตามไม่ห่าง ผมยาวสลายสีน้ำตาลเข้มของเธอยาวเกือบถึงบั้นท้ายทำให้นึกอย่างสัมผัส เขาอยากรู้ว่ามันจะนุ่มมืออย่างที่คิดหรือเปล่า
รัญภาคย์มองผืนน้ำจรดกับผืนฟ้าเบื้องหน้าแล้วก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะทำให้ความรู้สึกของเขาและเธอมาบรรจบกัน จากนี้เขาและเธอจะกลายเป็นคู่รักที่กำลังรอการแต่งงานอย่างแท้จริง ไม่ใช่คู่รักกำมะลออีกต่อไป
“พุดครับ พี่มีเรื่องจะสารภาพ” เขาขยับมายืนใกล้เธอจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ปะทะใบหน้า
“เรื่องอะไรคะ” พุดพิชชาหันมาถามทันที
ชายหนุ่มจับมือเธอมากุมไว้ เขาหันหน้ามาเผชิญกับเธอแล้วมองลึกลงไปในตาสวยคู่นั้น
“แต่พุดต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธ ไม่เกลียดและไม่หนีหายไปจากพี่”
“เรื่องมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ พุดชักไม่แน่ใจแล้วสิ” เธอคิดว่าเรื่องที่เขาจะบอกนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่เขาอยากยกเลิกงานแต่งงานระหว่างเขากับเธอก็เป็นได้
“ไม่ได้ร้ายแรงครับ เพียงแต่พี่อยากมั่นใจว่าพุดจะยังคงอยู่เคียงข้างพี่อยู่แบบนี้”
“พุดไม่กล้ารับปาก เอาเป็นว่าถ้าพุดโกรธ พุดก็จะพยายามหายโกรธให้เร็วที่สุด แต่พุดสัญญาได้อย่างหนึ่งว่าพุดจะไม่เกลียดพี่และจะไม่ทิ้งพี่รัญไปไหน” เธออยากจะบอกเหลือเกินว่านอกจากจะไม่เกลียดแล้วเธอยังรักเขาอีกด้วย
“พี่ว่าเอาไว้คืนนี้ค่อยบอกแล้วกันครับ ตอนนี้เรามานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันดีกว่านะครับ”
ทั้งสองนั่งลงบนพื้นทรายรัญภาคย์โอบเอวของหญิงสาวไว้ ส่วนเธอก็พิงศีรษะกับไหล่กว้างของเขา
พุดพิชชาอยากเก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ให้นานที่สุด ไม่ว่าเรื่องที่เขาจะบอกคืนนี้คือเรื่องอะไร เธอก็จะยอมรับฟังและจะยังคงอยู่กับเขาตามที่ให้สัญญาไว้
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีไปเรื่องจากสีส้มแล้วค่อยๆ มืดลงทีละนิด ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวมืดไปหมด ทั้งสองคนยังคงนั่งฟังเสียงคลื่นที่กระทบฝั่งไม่มีใครพูดอะไร เบื้องหน้ามองเห็นแสงไฟดวงเล็กจากเรือหาปลาที่อยู่ไกลลิบ ท้องฟ้าในคืนเดือนมืดมีดวงดาวพราวระยับ ช่างเป็นบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก แล้วรัญภาคย์ก็ตัดสินใจเป็นคนทำลายความเงียบนั้น
“พี่ว่าเราไปอาบน้ำแล้วหาอะไรทานกันดีไหม”
“พุดนึกว่าจะนั่งกันจนเช้าแล้วนะคะ” เธอเองก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน
“ถ้าได้นั่งอยู่กับพุดแบบนี้ถึงเช้า พี่ก็ว่าโรแมนติกดีนะครับ”
“พุดไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ดูสิคะยุงเริ่มมากันแล้ว” หญิงสาวชี้ให้เขาเห็นรอยแดงที่เกิดจากยุงกันบริเวณแขนของเธอ
“งั้นรีบไปกันเถอะ” เขาเอามือลูบแขนเธอเบาๆ จากนั้นก็เดินจับมือกันกลับห้อง
เพราะเป็นช่วงเทศกาลแขกของโรงแรมค่อนข้างเยอะ ตอนโทรศัพท์มาจองก่อนจะออกจากรุงเทพฯ รัญภาคย์ก็เป็นคนอาสาโทร. มาจอง เขาบอกกับเธอว่าเหลือห้องแบบนี้ว่างเพียงห้องเดียว พุดพิชชาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังดีกว่าต้องไปโรงแรมอื่นที่ไม่มีหาดส่วนตัว
“พุดจะทานอาหารที่โรงแรมหรือว่าจะออกไปทานข้างนอกครับ”
“พี่รัญว่าอย่างไหนดีกว่ากันคะ ถ้าต้องออกไปข้างนอกพี่รัญจะทนหิวได้หรือเปล่าคะ”
“นั่นสิ พี่กลัวคนที่ร้านอาหารคนจะเยอะด้วย เดี๋ยวพี่โทร. สั่งให้ทางโรงแรมเอาขึ้นมาให้ดีกว่านะ พุดอยากทานอะไร”
“พุดขอข้าวผัดปู บร๊อคโคลี่ผัดกุ้งค่ะ พี่รัญล่ะคะ”
“เดี๋ยวพี่สั่งเองแต่ขอคิดแป๊บนะครับ พุดเข้าไปอาบน้ำก่อนเลยครับ” พอหญิงสาวเดินเข้าไปในห้องแล้วชายหนุ่มก็โทร. สั่งอาหารจากทางโรงแรมตามที่เธอบอกแล้วเพิ่มของตัวเองและแชมเปญอีก 1 ขวดพร้อมให้พนักงานโรงแรมไปซื้อดอกกุหลาบสีแดงช่อโตหนึ่งช่อ
“ถ้าจะขึ้นมาส่งก็ให้โทร. หาผมก่อนนะครับ” เขากำชับให้พนักงานโทร. หาเขาก่อนที่จะเอากุหลาบขึ้นมาส่ง