บท
ตั้งค่า

33 เรื่องราวที่ผ่านมา

หลังจากนั้นเขาก็ทำงานอย่างหนักแล้วเรื่องเดิมก็วนมาอีกครั้ง

‘ที่ผมทำทุกย่างก็เพื่ออนาคตของเรานะจ๋า’

‘อนาคตของเราอย่างนั้นเหรอคะ จ๋าไม่ต้องการอนาคตจ๋าต้องการปัจจุบันค่ะ’

‘คุณ หมายถึงอะไรกันแน่’

‘จ๋าหมายถึงตอนนี้เวลานี้ จ๋าอยากให้รัญหันมาสนใจจ๋าบ้างไม่ใช่ออกไปแต่เช้าแล้วกลับอีกทีก็มืดค่ำ จ๋าอยากให้เรามีเวลาไปเที่ยว ไปทานข้าว ไปดูหนัง ไปเที่ยวด้วยกับบ้าง รัญจำได้ไหมว่าครั้งสุดท้ายที่เราไปเที่ยวด้วยกันนั้นทันนานแค่ไหนแล้ว’

มนัสยาทะเลาะกับสามีบ่อยขึ้น เธอไม่รู้จะคุยเรื่องนี้กับใคร เพราะถ้าจะไปปรึกษาเพื่อนก็ไม่กลัวว่าจะโดนหัวเราะเยอะที่แต่งงานไม่ทันไรก็มีปัญหากันเสียแล้ว

‘คุณจ๋า มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ ผมเห็นว่าวันนี้คุณไม่มีสมาธิเลย’

‘อย่างนั้นเหรอคะ คุณปาล์มช่างสังเกตเหมือนกันนะคะ’

‘ครับ ผมว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ อันที่จริงคุณจ๋าก็หุ่นดีอยู่แล้วนะครับ ไม้ต้องออกกำลังกายหนักมาก็ได้’ ปาล์มหรือกิติพัทเทรนเนอร์บอกกับเธอ

‘จ๋า เครียดๆ น่ะคะ ได้ออกกำลังกายให้เสียเหงื่อออกมาบ้าง ให้ร่างกายได้เหนื่อยเข้าไว้ พอกลางคืนจะได้นอนหลับสบายค่ะ’

‘เครียดเรื่องอะไรเล่าให้ผมฟังได้นะครับ รับรองได้ว่าผมจะเป็นผู้ฟังที่ดี’

มนัสยาเห็นว่าเขาเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ ตั้งแต่วันนี้เธอก็มักจะเลาเรื่องที่เธอมีปัญหากับรัญภาคย์ให้กับเขาฟังทุกเรื่อง ทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว และแอบมีความสัมพันธ์กัน มนัสยารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มาเติมเต็มให้กับชีวิตที่แห้งเหี่ยวของเธอ เขาเป็นคนคุยสนุก มีเวลาให้เธออย่างเต็มที่

กิติพัทพาเธอไปทานข้าว เดินซื้อของด้วยกัน บางวันก็ไปดูหนัง มนัสยากลับมามีความสุขอีกครั้ง เธอไม่สนใจแล้วว่ารัญภาคย์จะกลับบ้านดึกแค่ไหน เพราะตอนนี้เธอเองมีความสุขและรอคอยให้เขาออกไปทำงานโดยเร็ว

‘คิดถึงคุณจัง’ กิติพัทไม่ได้มาหามนัสยาถึง 2 วัน เพราะเขาต้องไปทำงานที่ฟิตเนสเซ็นเตอร์แทนเพื่อนที่ไม่สบาย

‘จ๋าก็คิดถึงคุณค่ะ เมื่อไหร่เราจะได้อยู่กับแบบเปิดเผยสักทีคะปาล์ม’

‘รออีกไม่นานเพราะตอนนี้ผมแอบไปสมัครงานที่ใหม่ไว้แล้ว ครั้งนี้ผมจะไม่ใช่แค่ฟิตเนสเทรนเนอร์แล้วนะครับ เพราะชื่อเสียงที่สั่งสมมา เจ้าของที่ใหม่เลยเสนอทั้งเงินเดือนที่เยอะขึ้น และยังให้ผมเป็นหุ้นส่วนอีกด้วย’

‘คนเก่งอย่างคุณใครก็อยากให้ไปทำงานด้วยกันทั้งนั้น จ๋ายินดีด้วยนะคะ’

‘ครับ แล้วมีรางวัลให้คนเก่งอย่างผมไหมครับ’

‘แน่นอนค่ะ’ จากนั้นมนัสยาก็ไม่รอช้า เธอโผเข้าจูบเขาอย่างที่ไม่เคยทำแบบนี้กับรัญภาคย์มาก่อน กิติพัทรู้ทันทีว่าเธอต้องการอะไร เขาอุ้มเธอตรงไปยังห้องนอนแล้วผัดกันปรนเปรอความสุขให้กันและกันอย่างไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ มนัสยามีความสุขมากกิติพัทเก่งเรื่องบนเตียงอย่างที่เธอก็คาดไม่ถึงว่าจะมีความสุขได้ขนาดนี้ เขาทำให้เธอเรียนรู้ที่จะหาความสุขให้กับตัวเอง แล้วความสุขที่กำลังถึงขีดสุดก็ทำให้เธอต้องตกใจเมื่อเห็นประตูห้องนอนเปิดกว้าง รัญภาคย์มองมาที่เธอและกิติพัท จากนั้นเขาก็ปิดประตูลงอย่างเดิม

มนัสยาตกใจมากที่เห็นรัญภาคย์เปิดประตูเข้ามา เพราะเวลานี้เขาน่าจะอยู่ที่ทำงานมากกว่า แต่เธอไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยสักนิด เพราะเขารู้อย่างนี้แล้วการขอเลิกกับเขาก็จะง่ายขึ้นด้วย

แล้วเธอกับเขาก็ตกลงแยกทางกันเธอไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขาเลยสักนิด เพราะเธอไม่รู้ว่าธุรกิจของเขากำลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

พอมาใช้ชีวิตอยู่กับกิติพัท ในช่วงแรกก็ดูจะมีความสุขเพราะเขามีเวลาให้เธอและเอาอกเอาใจเธอตลอดเวลา จนกระทั่งเขามีปัญหาสุขภาพ งานเทรนเนอร์ที่มีอยู่ก็เลยลดน้อยลง เงินเดือนที่เคยมีมากจนใช้จ่ายได้สบายก็ลดลง แม้จะได้เงินจากการเป็นหุ้นส่วนแต่ก็ยังไม่มาก พอเขาให้มนัสยาขอค่าเลี้ยงดูจากรัญภาคย์ เพราะรู้ว่าตอนนี้นี้ชายหนุ่มมีเงินมากพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายโดยไม่ต้องออกไปทำงานหนักเหมือนแต่ก่อน หญิงสาวไม่ได้คิดแค่นั้น เธอคิดว่าจะกลับไปอยู่กับเขาอย่างเดิม

มนัสยาพยายามติดต่อกับอดีตสามีอีกครั้ง แต่ตอนนี้การเข้าถึงตัวชายหนุ่มนั้นยากเหลือเกิน เพราะทุกอย่างต้องผ่านผู้ช่วย เธอไม่โอกาสคุยกับเขาโดยตรงเลยสักครั้ง จนในที่สุดก็ต้องบอกผู้ช่วยของเขาไปตามตรงว่าตอนนี้เธอกำลังลำบากและอยากจะกลับไปคืนดีกับเขา แล้วเธอก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเบอร์โทรศัพท์ที่โทร. เข้ามาหาเธอนั้นเป็นเบอร์ของเขา คนที่เธอพึ่งทิ้งมาได้เพียงไม่กี่เดือน

‘รัญคะ จ๋าขอโทษ จ๋ารู้ว่าตัวเองทำผิด จ๋าอยากขอโอกาสจากคุณหน่อยได้ไหมคะ จ๋ารับรองว่าเรื่องแบบนั้นมันจะไม่เกิดขึ้นอีก’ หญิงสาวพยายามง้อเขาอย่างเต็มที่ เธอพูดจบก็รอลุ้นว่ารัญภาคย์จะตอบว่าอย่างไร

‘พรุ่งนี้เช้า เขามาที่บริษัทสัก 9 โมงแล้วกันนะครับ’ น้ำเสียงที่ฟังดูห่างเหินนั้นทำให้มนัสยาใจเสียไปไม่น้อย แต่เธอมั่นใจว่ายังไงเขาก็ต้องใจอ่อนเพราะไม่อย่างนั้นจะให้เธอเข้าไปหาที่ทำงานทำไม

รุ่งเช้าพอกิติพัทออกไปทำงานเธอก็เอาของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋า เพราะคิดว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว เธอเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่หน้าบริษัทของเขาที่เธอไม่ได้มาเสียนาน เธอรู้สึกแปลกตาไปมากเพราะจากบริษัทขนาดเล็กมีพนักงานเพียงไม่กี่คน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าบริษัทจะมีพื้นที่มากขึ้น เธอไม่รู้ว่าเขาขยายบริษัทออกมาได้ใหญ่โตขนาดนี้ ด้านล่างเป็นที่ตั้งโชว์ของอุปกรณ์ออกกำลังกาย ติดกันก็มีชุดและรองเท้าสำหรับออกกำลังกายจำหน่ายอีกด้วย เธอเดินตรงไปยังด้านในสุดเพื่อใช้บันได้ขึ้นไปยังชั้นสอง แต่พนักงานไม่ยอมให้เธอขึ้นไป

‘นี่มาทำงานใหม่ใช่ไหม ถึงไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร’ เธอทั้งอายและเสียหน้า เพราะตอนนี้คนอื่นที่กำลังเลือกซื้อชุดกีฬาอยู่นั้นเริ่มหันมามอง

เธอบอกให้พนักงานคนเดิมโทร. ขึ้นไปบอกว่าตอนนี้เธอมาถึงแล้ว เมื่อได้รับคำอนุญาตเธอก็เดินเชิดหน้าขึ้นไปทันที

‘ไม่ต้องมาโกหกหรอกนะคะ รัญจะไม่อยู่ได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นคนให้ฉันมาพบที่นี่เอง’ เธอบอกกับวริษาไป

‘ค่ะ ษารู้แต่คุณรัญไม่ได้เข้ามาที่นี่จริงๆ คุณรัญฝากนี่ไว้ให้คุณค่ะ’ วริษายื่นซองสีขาวให้กับหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นภรรยาของเจ้านายเธอ

มนัสยาหยิบซองขึ้นมาเปิดดูนั้นมีเช็คเงินสดจำนวนสามแสนบาทหญิงสาวดีใจมากและเมื่อหยิบกระดาษแผ่นสีขาวเล็กที่แนบมากับเช็คแล้วเธอก็ต้องหุบยิ้มทันที

‘ผมคงช่วยคุณได้เท่านี้นะครับ โชคดีนะครับ’

ข้อความบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่อยากจะกลับมาคืนดีกับเธออีก แต่เธอก็ไม่ล่ะความพยายามเพราะหลังจากวันนั้นเธอก็ยังมาหาเขาที่นี่อีกแต่ก็ไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง

เธอเสียใจที่ทิ้งเขาไปในวันนั้น ถ้าอดทนรออีกนิดตามที่เขาบอกตอนนี้เธอคงจะสุขสบายเป็นอย่างมาก ในขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาว่าเธอทำผิดมากแค่ไหนเขาจึงไม่ให้อภัยเธอเสียที่ เธอเดินเหม่อลอยจนเกือบจะโดนรถชน นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอไดรู้จักกับธาราเจ้าของธุรกิจส่งออก หลังจากพุดคุยกับเขาและนัดทานอาหารด้วยกันบ่อยๆ เมื่อเขาชวนเธอไปเที่ยวที่บ้านของเขา เธอก็ตอบตกลง เธอเห็นเห็นโรงงานที่ใหญ่โต รวมไปถึงบ้านหลังใหญ่ที่มีคนคอยรับใช้อยู่ตลอดเวลาแล้วก็ก็เลิกล้มความตั้งใจที่จะคืนดีกับรัญภาคย์

ผ่านไปเพียง 3 เดือนธาราก็ขอเธอแต่งงาน นับจนถึงวันนี้ก็เกือบจะ 5 ปีแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel