24 เมื่อเพื่อนมีแฟน แล้วเราอยู่ตรงไหน
“ฉันมีแฟนแล้ว” ปราณติญาบอกด้วยเสียงเบา
“ดีใจด้วยนะป่านแก้วไม่เห็นต้องทำหน้าเครียดอย่างนั้นเลย แล้วเป็นใครหล่อไหม”
“เป็นครูที่โรงเรียนนั่นแหละ คนที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง”
“คนที่สอนคอมพิวเตอร์ใช่ไหม ฉันเคยแต่ได้ยินยังไม่เคยเห็นหน้าเลย มีรูปไหม” พุดพิชชาตื่นเต้นเพราะตั้งแต่เลิกกันแฟนคนล่าสุดเพื่อนของเธอก็ไม่คบใครอีกเลยซึ่งก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปี
“อือ” แล้วปราณติญาก็ยื่นโทรศัพท์ส่งให้เพื่อนดู ในนั้นมีรูปที่เธอกับเขาถ่ายด้วยกันตอนที่ทางโรงเรียนพาไปเที่ยวหลังจากที่เสร็จจากการดูงาน
“ว้าว! หล่อดีเหมือนกันนะ ดูๆ ไปหน้าก็คล้ายๆ แกอยู่นะ คงจะเป็นเนื้อคู่กันแน่เลย”
“จริงเหรอ” ปราณติญาดีใจที่เพื่อนไม่มีท่าทางน้อยใจอย่างที่คิดไว้
“จริงสิ แล้วเมื่อไหร่จะพามาให้ฉันรู้จักล่ะ”
“ฉันก็คิดอยู่ว่าคงต้องพาพี่เมฆมาทานข้าวกับเราสักมื้อ แกว่างวันไหนบ้างล่ะพุด”
“ว่างตลอดเลย แต่จะมาวันไหนแกบอกล่วงหน้านะ ฉันจะได้เตรียมทำอาหารอร่อยๆ ไว้ต้อนรับเพื่อนเขย”
ปราณติญายิ้มแต่ยังไม่ตอบอะไรเพราะที่เธอบอกเพื่อนไปนั้นแค่เริ่มต้น เธอยังไม่กล้าบอกเรื่องที่ตกลงจะแต่งงานกับเขาและเขาจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วย คงต้องรอให้สองคนนั้นได้มีโอกาสทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้สักหน่อย เพราะถ้าต้องมาอยู่ร่วมบ้านกันจริงๆ เธอก็อยากให้เพื่อนกันแฟนของเธอเข้ากันได้ดี
ลดากลับมาจากเชียงใหม่แล้ว เมื่อเห็นแจ๊สสีเหลืองผ่านหน้าบ้านไป เธอก็เดินตามหลังมาทันที
“สวัสดีค่ะป้าดา คิดถึงจังเลยค่ะ” พุดพิชชาวิ่งเข้ามาสวมกอดป้าลดาด้วยความคิดถึง
“ป้าเองก็คิดถึงหนูเหมือนกัน แล้วหนูสบายดีไหม ผอมลงหรือเปล่า” เธอมองหญิงสาวที่ดูเหมือนตอนนี้เธอจะผอมลงไปมากจากการเจอกันครั้งสุดท้าย
“ผอมลงนิดหน่อยค่ะ” เพราะที่ผ่านมาเธอไม่ค่อยได้ทานอาหารตรงเวลาเพราะต้องทำงานหลายอย่างทั้งข้าวกล่อง ทั้งแซนวิชและชาที่ร้านก็ขายดีทุกวัน
“คงไม่ค่อยได้พักเลยล่ะสิ แล้วเจ้าลูกชายป้าก็ยังไม่สบายให้หนูต้องแบ่งเวลามาดูแลอีก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นี้เองพุดไม่ได้ลำบากอะไรมาก ป่าดาคะ เย็นนี้มาทานข้าวด้วยกันไหม ป่านแก้วจะพาแฟนมาแนะนำค่ะ”
“จะดีเหรอ บางทีหนูป่านอาจอยากได้ความเป็นส่วนตัว”
“ดีสิคะ เราจะได้ช่วยดูด้วยว่าแฟนของป่านเป็นคนยังไง”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่ป้าขอกลับไปเอาของฝากก่อนนะ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่หนูพุดโทร. ไปตามป้าก็ได้” ลดามีของฝากจากเชียงใหม่มาให้สองสาวแต่ที่ไม่ได้ถือมาเพราะอยากมาทักทายก่อนหลังจากที่ไม่ได้เจอกับเกือบ 2 เดือน
“ได้ค่ะป้าดา พุดเองก็กำลังจะทำอาหารสำหรับเย็นนี้เหมือนกันค่ะ” แล้วทั้งสองคนก็แยกย้าย
หญิงสาวลงมือทำอาหารอย่างรวดเร็วเพราะตามที่นัดไว้นั้นปราณติญาจะพาแฟนของเธอมาที่นี่เวลาประมาณ 1 ทุ่ม วันนี้หญิงสาวทำปลาทับทิมนึ่งมะนาว กุ้งอบวุ้นเส้น ต้มยำทะเลรวมน้ำข้นและยังมีไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ปราณติญาบอกว่าเป็นของโปรดของเมฆาแฟนหนุ่มของเธอ
เสียงรถยนต์ดังมาจากหน้าบ้านขณะที่พุดพิชชาทำอาหารเสร็จทันเวลาพอดี หญิงสาวดูนาฬิกาข้อมือแล้วเห็นว่าปราณติญามาก่อนเวลานัดเล็กน้อย เธอรีบเก็บผ้ากันเปื้อนและล้างมือออกไปต้อนรับทันที
“สวัสดีค่ะ” เธอทักทายผู้มาใหม่เมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาเหมือนที่ปราณติญาให้เธอดูไปเมื่อหลายวันก่อน ผู้ชายคนนี้ไม่ได้สูงมากอย่างที่เธอคิด เขาสูงกว่าปราณติญาเพื่อนของเธอไปเพียงเล็กน้อย หน้าตาหล่อตามแบบหนุ่มเกาหลีที่ปราณติญาชอบ
“คุณคงชื่อพุดนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อเมฆาครับ” ชายหนุ่มรีบแนะนำตัว
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ เชิญด้านในก่อนนะคะกับข้าวเสร็จพอดีเลยค่ะ”
“ป่านแก้วมานี่หน่อยสิ” พุดพิชชาเดินมากระซิบกับเพื่อนเมื่อเห็นว่าแฟนของเธอเดินไปนั่งที่ห้องรับแขกแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่า”
“คือวันนี้ป้าดาพึ่งกลับมาจากเชียงใหม่ แล้วฉันเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่ป่านจะได้แนะนำแฟนให้ป้าดารู้จักฉันก็เลยชวนป้าดามาทานข้าวกับเราด้วยโดยที่ไม่ได้บอกแกก่อน”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ดีเสียอีกเพราะฉันเองก็นับถือป้าดาเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ถ้าได้รู้จักกันไว้ก่อนน่าจะดีนะ” ปราณติญาบอกกับเพื่อนเพราะเธอเองมองว่าถ้าถึงวันแต่งงานจริงก็คงจะให้ป้าดาช่วยเป็นญาติผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าสาว
“โล่งใจไปที เดี่ยวฉันเดินไปตามป้าดาก่อน ป่านไปอยู่กับแฟนก่อนนะ”
“ไม่ต้องรีบนะ ฉันยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” ปราณติญาบอกแล้วก็เดินกลับไปยังห้องรับแขกที่เมฆาแฟนหนุ่มของเธอนั่งรอยู่
“เพื่อนป่านไปไหนแล้วล่ะครับ”
“ไปบ้านป้าดาค่ะ บ้านที่อยู่ติดๆ กันนี่แหละค่ะ ป้าดาจะมาทานข้าวกับเราด้วย”
“ดีเหมือนกันครับ ทานกันแค่ 3 คนพี่รู้สึกอัดอัด”
“ทำไมพูดอย่างนั้นละคะ มีอะไรในใจหรือเปล่า”
“ก็อย่างที่เราคุยกันนั่นแหละ ป่านน่าจะบอกเพื่อนได้แล้วนะว่าจะแต่งงานและพี่จะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วย”
“ป่านกำลังหาจังหวะบอกอยู่เหมือนกันค่ะ” เธอยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับเพื่อน
“ไม่เห็นต้องหาจังหวะอะไรเลย แค่บอกไปตรงๆ เท่านั้น นี่มันบ้านของป่านนะ”
“ค่ะ ป่านรู้เอาไว้ป่านจะบอกเพื่อนเองนะคะ พี่เมฆอย่ากังวลไปเลย”
“รีบหน่อยก็ดีนะครับ อีกไม่กี่เดือนเราก็แต่งงานกันแล้ว เพื่อนของป่านอาจต้องหาที่อยู่ใหม่นะ”
“ไหนว่า เราจะให้พุดอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ” ปราณติญาแปลกใจที่อยู่ๆ เขาก็อยากให้เพื่อนของเธอย้ายออก
“พี่พูดเผื่อไว้นะครับ เพราะคงไม่มีใครอยากอยู่แบบนี้ไปตลอดหรอก เธอจะได้หาที่อยู่อื่น แต่ระหว่างที่หาไม่ได้ก็ให้อยู่กับเราไปก่อน”
“ค่ะ แต่พุดเพิ่งย้ายมาที่นี่ได้ยังไม่ถึงครึ่งปีเลยนะคะ ป่านกลัวว่าเพื่อนจะต้องเหนื่อยถ้าจะต้องย้ายอีกรอบ เราอีกสักพักค่อยบอกดีกว่าไหมคะ” ปราณติญากังวลเพราะถ้าพุดพิชชาต้องไปหาเช่าบ้านอยู่ก็คงจะลำบากไม่น้อย เพราะเธออยู่ที่นี่มีห้องครัวให้ทำอาหารกล่อง ถ้าต้องไปเช่าบ้านอยู่เองก็เกรงว่าค่าใช้จ่ายสูง แต่ถ้าไปเช่าห้องก็ลำบากในการทำอาหาร
“อย่าพึ่งคิดแทนเพื่อนเลย พี่ว่าคนเราต้องมีทางเดินของตัวเองทั้งนั้นแหละครับ” แม้ไม่เห็นด้วยกับแฟนหนุ่มแต่ปราณติญาก็รักเขาเกินกว่าจะเอาเรื่องแบบนี้มาทำให้ทั้งสองต้องทะเลาะกัน
พุดพิชชาก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อได้ยินบทสนทนาที่ทั้งสองคนคุยอยู่ เธอบอกว่าจะเดินไปตามป้าลดา แต่พอออกไปยังไม่ถึงหน้ารั้ว ป้าลดาก็เดินเขามาพอดีทำให้ทั้งสองคนได้ยินทั้งหมดที่ปราณติญากับแฟนหนุ่มคุยกัน
“กลับไปที่บ้านป้าก่อนไหม” เสียงที่ห่วงใยของป้าลดาทำให้เธอรู้สึกว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
“ไม่เป็นไรคะ พุดก็คิดไว้เหมือนกันว่าสักวันคงต้องหาที่อยู่ใหม่ ที่ที่เป็นของพุดเองจริงๆ”
“ไปอยู่บ้านป้าก็ได้นะ หนูจะได้ทำข้าวกล่องได้สะดวก”
“ไม่เป็นไรคะป้าดา พุดคงจะหาห้องเช่าอยู่ไปก่อน ส่วนเรื่องข้าวกล่องถ้าไม่ได้ทำก็ไม่เป็นไรคะ ตอนนี้ร้านชากับแซนวิชก็ยังพอทำให้พุดมีรายได้พอเลี้ยงตัวเองอยู่” น้ำเสียงของหญิงสาวดูมุ่งมั่นจนลดาเห็นถึงความเป็นมุ่งมั่นและเข้มแข็งของหญิงสาว
“พร้อมที่จะเข้าไปข้างในไหม” ลดาถามหญิงสาวหลังจากที่ยืนอยู่นานจนปราณติญากับแฟนหนุ่มนั้นหยุดคุยกันไปได้สักพักแล้ว
“ค่ะป้าดา” หญิงสาวยืดตัวตรงสูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างที่เคยทำเป็นประจำเวลาเจอกับปัญหาต่างๆ
ลดาเดินเข้าไปในบ้านเป็นคนแรก
“อ้าวป้าดา สวัสดีค่ะ” แล้วปราณติญาก็แนะนำแฟนของเธอให้กับป้าลดาและนั่งคุยกันได้สักพักในห้องรับแขก
“ไปทานข้าวกันเลยดีไหม” พุดพิชชาเดินเข้ามาทางประตูหลังทำเหมือนกับว่าเธอพึ่งเดินกลับเข้ามา
“นั่นสิ ป้าเองก็ชักจะเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน หนูพุดทำอะไรบ้างละวันนี้”
“หลายอย่างเลยค่ะ”
“อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยนะครับ” เมฆาเอ่ยชมจากใจจริง
“ขอบคุณค่ะ ทานเยอะเลยนะคะวันนี้ฉันทำสุดฝีมือเลยค่ะ” พุดพิชชาบอกแฟนหนุ่มของเพื่อน
หลังมื้ออาหารปราณติญาก็ยังไม่ได้บอกเรื่องที่เธอจะแต่งงานและจะให้แฟนหนุ่มย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้าน เพราะไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อหน้าป้าลดาและแฟนหนุ่ม ปราณติญาอยากหาโอกาสคุยเรื่องนี้ตามลำพังกับเพื่อนเพียงสองคน
พุดพิชชาออกจากบ้านแต่เช้าแม้เมื่อคืนจะนอนไม่หลับหลังจากที่รู้ว่าปราณติญาจะแต่งงานและจะให้แฟนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้าน แม้ว่าปราณติญาจะยังไม่บอกเธอ แต่หญิงสาวก็คิดว่าถ้าต้องให้อยู่กัน 3 คนภายในบ้านก็คงจะอึดอัดอยู่ไม่น้อยและคนที่รู้สึกอึดอัดมากที่สุดจะไม่ใช่เธอ แต่คงจะเป็นปราณติญาเพราะเป็นคนกลางระหว่างเพื่อนและแฟน เธอมาอยู่ที่นี่ได้เกือบครึ่งปีแล้วก็ควรที่จะหาบ้านหรือห้องเช่าของตัวเองสักที