15 ใกล้ชิด
รัญภาคย์มองดูมารดากับหญิงสาวเพื่อนบ้านทำขนมกันด้วยความสุข นานแล้วที่เขาไม่เห็นมารดามีรอยยิ้มแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่บิดาของเขาเสียชีวิต เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะดังมาเป็นระยะ เขาแอบมองดูอยู่ห่างๆ เพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัด แต่ก็แปลกที่เขาเดินมาแอบดูอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน
เมื่อเห็นว่าสองสาวต่างวัยคงจะไม่มีเวลาทำอาหารเย็นให้เขาแน่ๆ ชายหนุ่มจึงโทรไปสั่งอาหารที่ร้านประจำของครอบครัวที่มีบริการส่งถึงที่
กลิ่นของคุกกี้หอมไปทั้งบ้านทำให้คนที่นั่งทำงานเอยู่ต้องละมือแล้วเดินเข้ามาถึงในครัว
“หอมจังครับ”
“ชิมไหมรัญ”
ชายหนุ่มหยิบคุกกี้ไปกัดเพียงนิดก็รีบกัดคำต่อไปทันที
“อร่อยครับแม่ แม่ทำเองใช่ไหมครับ”
“เปล่าจ้ะ หนูพุดช่วย”
“คุณป้าเก่งค่ะ ครั้งแรกก็ทำออกมาดีคงเพราะป้าดาใจเย็น ค่อยใส่ส่วนผสมช้าๆ ตอนพุดทำครั้งแรกพุดใจร้อนใส่ส่วนผสมลงไปทีเดียวเลย จำได้ว่าตอนนั้นต้องทิ้งทั้งหมดเลยค่ะ” เธอยิ้มเมื่อนึกไปถึงครั้งแรกที่ทำขนมกับมารดา
“แต่ตอนนี้ก็เก่งจนสอนป้าได้แล้วนะ”
“ยังไม่เก่งหรอกค่ะเพราะตั้งแต่แม่เสียพุดก็ไม่มีเวลาทำอีกเลย” น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเธอยังมีความเศร้าอยู่ในนั้น
“หนูพุดก็มาทำขนมกับป้าบ่อยๆ สิลูก ป้าเองก็ไม่มีใครหนูมาเป็นลูกสาวป้าอีกคนก็ได้นะลูก”
“พุดขอบคุณป้าดามากๆ ที่เอ็นดูพุด แล้วแล้วพุดจะมารบกวนบ่อยๆ นะคะ”
“รบกวนอะไรกัน ป้าสิรบกวนเพราะยังมีขนมอีกหลายอย่างเลยที่ป้ายังอยากทำ”
“ได้ค่ะป้า”
ขณะกำลังช่วยกันเก็บของในครัวรัญภาคย์ก็ถือถุงกับข้าวมาวางกลางโต๊ะในห้องครัว
“รัญไปซื้อกับข้าวมาทำไม แม่ว่าเย็นนี้จะชวนหนูพุดออกไปทานร้านประจำเสียหน่อย”
“ไม่ทันแล้วครับแม่ ผมเห็นว่าแม่ยังเก็บของกันไม่เสร็จเลยโทร. ไปสั่ง นี่เขาพึ่งเอามาส่ง”
“หนูพุดอยู่ทานข้าวเย็นกับป้านะ เดี๋ยวป้าให้ลียาไปตามหนูป่านมาทานด้วยอีกคน”
พุดพิชชามองถุงอาหารแล้วก็ไม่กล้าปฏิเสธเพราะดูแล้วชายหนุ่มคงสั่งอาหารมาเผื่อเธอกับปราณติญาเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ก่อนกลับบ้านพุดพิชชาก็ต้องแปลกใจเพราะหม้อหุงข้าวขนาด 5 ลิตรที่ลดาบอกว่าลูกสาวเธอซื้อมาผิดนั้นเธอยกให้พุดพิชชา แลกกับเธอต้องมาสอนป้าลดาทำขนมอีกหลายครั้ง พุดพิชชาไม่อยากรับเพราะเธอเกรงใจและวันนี้เธอก็ไปดูราคาหม้อหุงข้าวมาแล้วยี่ห้อที่ลดาให้เธอนั้นราคาค่อนข้างแพงกว่ายี่ห้ออื่นอยู่มากเลยทีเดียว
“พุดไม่รับได้ไหมคะ”
“รับไปเถอะ ถ้าไม่สบายใจก็หมั่นมาสอนป้าบ่อยๆ ก็พอ ป้าเองไม่ได้ใช้อะไรถ้าหนูพุดเอาไปใช้ประโยชน์ป้าจะดีใจมากกว่านะ”
“รับไว้เถอะพุด แกจะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามากเหมือนอย่างทุกวันนี้ไง” ปราณติญารีบสนับสนุนเพราะไม่อยากเห็นเพื่อนต้องเหนื่อยตื่นแต่เช้าทุกวัน
“พุดรับไว้ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าวันไหนป้าดาอยากได้คืนป้าก็บอกพุดได้เลยนะคะ”
“ป้าให้แล้วไม่เอาคืนหรอกลูก อย่าทำหน้ากังวลอย่างนั้นป้าเห็นแล้วไม่สบายใจเลย”
“พุดขอบคุณอีกครั้งนะคะป้าดา” ไม่เพียงแค่พูดแต่หญิงสาวเดินเข้ายกมือไหว้ลดดาดึงหญิงสาวเข้ามากอดอย่างเอ็นดู รัญภาคย์มองภาพมารดากับหญิงสาวแล้วก็ยิ้มกว้างดูเหมือนมารดาของเธอจะมีลูกสาวเพิ่มมาอีกคนเป็นแน่
ตอนที่ 5
เหมือนเรากำลังออกเดท
“พุดเตรียมอะไรตั้งแต่เช้า ไหนว่าได้หม้อมาแล้วไม่ต้องตื่นเช้าไง”
“เตรียมของใส่บาตร นี่ฉันเตรียมเผื่อแกแล้ว รีบไปอาบน้ำเลย” ปราณติญารีบทำตามที่พุดพิชชาบอก เพราะนานแล้วเหมือนกันที่เธอนั้นไม่ได้ ใส่บาตร
“พระมาหรือยังพุด”
“ยังเลย”
“แกแน่ใจนะว่าพระท่านจะมาบิณฑบาต” ปราณติญาถามเพราะเธอมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ค่อยได้ใส่บาตรเท่าไหร่
“แน่ใจสิ เมื่อวานป้าดาบอกฉัน ดูสิ ป้าดาก็พึ่งออกมารอเหมือนกัน” เธอชี้ให้เพื่อนหันไปดูที่หน้าบ้านหลังใหญ่
“เราไปรอกับป้าดาดีไหม” ปราณติญาชวน
“อือ ไปสิ” หญิงสาวก็เห็นด้วยกับเพื่อน จากนั้นก็พากันถือของตรงไปยังหน้าบ้านหลังใหญ่
“สวัสดีค่ะป้าดา ขอหนูสองคนมาใส่บาตรด้วยนะคะ” พุดพิชชาเป็นคนทักทาย
“ได้สิลูก นี่ทำกับข้าวมาใส่บาตรเองเลยใช่ไหม” ลดามองถุงกับข้าวในถาดของหญิงสาว
“ค่ะป้าดา พุดขอบคุณป้าดาอีกครั้งนะคะเรื่องหม้อหุงข้าวพุดเลยมีเวลาเยอะขึ้นเช้านี้ก็เลยเตรียมของมาใส่บาตรค่ะ”
“ป้าดีใจที่หนูรู้จักแบ่งเวลามาทำบุญ ไม่เหมือนลูกชายป้า ดูสิตื่นมาวิ่งแต่เช้าแทนที่จะมาใสบาตรกับแม่บ้าง แต่นี่ไม่สนใจเลย” ลดาบ่นลูกชายอย่างไม่จริงจังนัก
และเมื่อเห็นว่าพระกำลังเดินมาทางนี้ทั้งหมดเลยหยุดคุยกัน พอใส่บาตรเสร็จปราณติญาก็ขอตัวก่อนเพราะต้องรีบไปทำงาน ส่วนพุดพิชชาก็คุยกับป้าลดาต่ออีกครู่แล้วจึงแยกย้ายกันเข้าบ้าน
รัญภาคย์ที่มองอยู่บริเวณหน้าบ้านแอบชำเลืองดูว่าเช้านี้เธอจะเข้ามาที่บ้านหรือเปล่า แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเห็นหญิงสาวเดินตรงกลับเข้าบ้านตัวเองไปแล้ว
“ป่านแก้วไปแล้วเหรอครับแม่” เขาถามมารดาทั้งที่จริงอยากถามถึงเพื่อนของเธอมากกว่า
“ไปตั้งนานแล้วจ้ะ แล้วนี่เราทำไมไม่ไปอาบน้ำสักทีหรือว่าจะวิ่งต่อ”
“แม่หิวแล้วเหรอครับ”
“แม่ยังไม่หิวแต่แม่ว่ารัญรีบไปอาบน้ำก่อนดีไหมดูสิเหงื่อเต็มเลยเดี๋ยวจะได้รีบมาทานข้าวเช้า”
“ไหนแม่ว่าไม่หิวแล้วทำไมให้ผมรีบล่ะครับ” ชายหนุ่มสงสัย
“เดี๋ยวหนูพุดจะมาทานด้วย ถ้ารัญอยากวิ่งต่อแม่ก็ทานพร้อมหนูพุดแค่สองคนก็ได้นะ” ลดาไม่อยากบังคับลูกชาย
“ผมเองก็ชักจะหิวแล้วเหมือนกันครับแม่” ชายหนุ่มรีบวิ่งขึ้นชั้นสองแล้วตรงไปยังห้องนอนทันที
พุดพิชชาเดินเข้ามายังบ้านหลังใหญ่ตอนนี้ในห้องรับแขกมีเพียงชายหนุ่มกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว
“ขอโทษนะคะ ฉันมาหาป้าดาค่ะ” เธอบอกเจ้าเของบ้านที่หันมาทันมีเมื่อเธอเดินเข้ามา
“แม่อยู่ในครัว” รัญภาคย์บอกหญิงสาวแล้วเขาก็ลุกขึ้น ผายมือให้เธอเดินไปยังห้องอาหารที่อยู่ติดกับห้องครัว ซึ่งบนโต๊ะมีข้าวต้มกุ้งส่งกลิ่นหอมไปทั่ว
“หนูพุดนั่งเลยจ้ะ มาลองชิมข้าวต้มฝีมือป้าบ้าง ไม่รู้จะอร่อยไหม ไม่ได้เข้าครัวเสียนานเลย”
“แค่ได้กลิ่นพุดก็ว่าอร่อยแล้วค่ะ”
“ลองชิมดูก่อนนะ” ลดาบอกหญิงสาวที่เธอเอ็นดูไม่ต่างจากลูกสาว
“อร่อยมากๆ ค่ะ สงสัยพุดต้องขอสูตรบ้างแล้วล่ะคะ”
“จะเอาไปให้ใครทานจ๊ะ”
“ก็คงทำให้ป่านแก้วนั่นแหละค่ะ”
“ป้าก็นึกว่าจะไปทำให้แฟนทานเสียอีก” ลดาพูดออกไปแบบนั้นเพราะเธออยากรู้ว่าหญิงสาวมีคนที่คบหาอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าถามไปตรงๆ ก็คงจะเสียมารยาทไปสักหน่อย
“พุดยังไม่มีแฟนหรอกค่ะป้าดา”
คำตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่แอบยิ้มที่มุมปาก เขากลัวว่าจะใครเห็นจึงรีบยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบเพื่อกลบเกลื่อนรอยยิ้มนั้น
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าสาวๆ สวยๆ อย่างนี้ยังไม่มีแฟน”
“เชื่อเถอะค่ะป้าดา พุดว่าอยู่คนเดียวแบบนี้ก็สบายดีค่ะ”
“คนรุ่นใหม่นี่ก็แปลกเหมือนกันนะ ไม่รู้ทำไมถึงไม่อยากมีครอบครัวกัน ดูอย่างตารัญสิ อายุ 35 แล้วก็ยังไม่มีครอบครัวสักที”
“อ้าว ไหงมาลงที่ผมละครับแม่ ผมก็อยากอยู่กับแม่แบบนี้ไปตลอด ถ้าผมเกิดมีแฟนแล้วแต่งงานไปแม่จะเหงาเอานะครับ”
“ขอให้มันจริงเหอะ” ลดามองหน้าลูกชายแล้วยิ้ม
หญิงสาวแอบมองสองแม่ลูกคุยกันแล้วก็นึกแปลกใจว่าทำไมชายหนุ่มหน้าตาดี ฐานะดีอย่างรัญภาคย์ถึงยังไม่มีแฟนสักทีหรือเขาจะเป็นพวกไม้ป่าเดียวกันอย่างที่เธอเคยสงสัย
มื้อเช้าผ่านไปแล้วพุดพิชชาก็ขอตัวกลับเพราะต้องมาเตรียมทำข้าวกล่องไปส่งที่โรงเรียนและส่งที่ร้านของกรกนกในโรงพยาบาล ทุกอย่างเสร็จเร็วกว่าทุกวัน เพราะของบางอย่างเตรียมไว้ล่วงหน้าบ้างแล้ว ขณะกำลังเก็บกวาดทำความสะอาดเธอก็นึกถึงบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเมื่อเช้า หญิงสาวคิดถึงความอบอุ่นที่เคยมีในครอบครัวของตัวเองก่อนที่มารดาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ไม่นานหลังจากนั้นบิดาก็พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ที่บ้าน นั่นยังไม่ทำให้เธอเสียใจเท่าการที่เธอได้ยินว่าพ่อจะยกร้านกาแฟที่เป็นของมารดาให้ผู้หญิงคนใหม่ดูแล พุดพิชชารับไม่ได้ที่จะให้ใครมาทำหน้าที่นั้นแทนมารดาแต่เธอรู้ดีว่าไม่อาจขัดคำสั่งบิดาได้ หญิงสาวจึงเลือกที่จะหนีมาอยู่ที่นี่และตั้งแต่เธอมาอยู่กับปราณติญาบิดาไม่เคยโทรศัพท์มาหาเลยสักครั้งมีแต่ผกาที่พยายามโทร. มาแต่เธอก็ไม่รับสายเพราะรู้ดีว่าผกาคงจะโทร. มาต่อว่าเรื่องที่เธอทำไว้กับร้านกาแฟมากกว่าที่จะโทร. มาเพราะเป็นห่วงที่เธอหายมาจากบ้าน