11 รายได้อีกทาง
แล้ววันอังคารก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนเข้าพุดพิชชาทำข้าวกล่องและชาไปส่งที่โรงเรียนพอตอนสายก็มาเปิดร้านลูกค้าก็ยังคงมีอยู่ทุกวัน ดูเหมือนว่าโปรโมชั่นซื้อ 2 แก้ว ฟรี 1 แก้วจะยังคงเป็นที่สนใจอยู่ หญิงสาวอาจต้องแลกกับภาระต้นทุนที่มากขึ้นเพื่อแลกกับจำนวนลูกค้าที่มากขึ้นแต่ก็นับว่าคุ้ม ระหว่างนี้เธอก็ต้องหารายได้จากที่อื่นเพิ่มขึ้นด้วยเพราะยังมีค่าใช้จ่ายๆ ต่างรออยู่มาก เงินเก็บที่มีเธอก็เริ่มลดลงเนื่องจากลงทุนซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เข้าร้านค่อนข้างมาก
“น้องพุดคะ น้องพุด” เสียงเรียกดังมาจากข้างกำแพง
พุดพิชชาเดินไปตามเสียงเรียกนั้น หญิงสาวเหยียบเก้าอี้ไม้ขึ้นไปจนหัวพ้นกำแพงก็เห็นเพื่อนบ้านยืนรออยู่แล้ว
“สวัสดีค่ะพี่ญา” หญิงสาวทักทายเพื่อนบ้าน
“น้องพุด ว่างหรือเปล่าพี่มีอะไรจะถามหน่อยค่ะ”
“ว่างค่ะพี่” พุดพิชชาพึ่งกลับมาถึงบ้านเธอบังไม่ได้เตรียมอาหารเย็นเลยด้วยซ้ำ แต่อย่างที่ปราณติญาบอกว่ากรกนกหรือพี่ญาอาจช่วยเธอเรื่องข้าวกล่องที่จะไปขายที่โรงพยาบาลก็ได้
“พี่อยากถามน้องพุดว่าข้าวกล่องที่ให้พี่ชิมเมื่อวานน้องพุดทำเองใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะพี่ญา มีอะไรหรือเปล่าคะ” พุดพิชชาใจคอไม่ดีเพราะกลัวคนทานจะท้องเสียหรือแพ้อาหาร
“น้องพุดทำอาหารคลีนอร่อย พี่เลยอยากถามว่าน้องพุดทำอาหารอย่างอื่นเช่นพวกผัดกะเพรา หมูทอด ผัดพริกอ่อน อะไรพวกนี้ได้ไหม”
“ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบรับเพราะอาหารที่กรกนกพูดมานั้นล้วนแต่เป็นอาหารที่เธอเคยทำเป็นประจำอยู่แล้ว
“น้องพุดสนใจทำวางขายไหม เจ้าเดิมที่พี่เคยซื้อมาขายอร่อยสู้ของพุดไม่ได้เลย ขนาดอาหารคลีนยังอร่อยพี่ว่าอย่างอื่นก็ต้องอร่อยแน่ๆ เลย” กรกนกนั้นเปิดร้านขายของใช้เบ็ดเตร็ดในโรงพยาบาล แต่ก็กันพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้วางขายอาหารด้วย โดยเธอจะซื้ออาหารกล่องจากตลาด ไปวางขายแล้วบวกเพิ่มกำไรนิดหน่อย
“สนใจค่ะ แต่ว่าเจ้าเดิมที่พี่ญาเคยซื้อจะไม่ว่าเอาเหรอคะ” แม้จะอยากมีรายได้เพิ่มแต่ถ้าต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนหญิงสาวก็ไม่ยากจะทำ
“ไม่หรอกจ้ะ เพราะปกติพี่จะไปซื้อเองที่ตลาด เปลี่ยนเจ้าไปเรื่อยๆ ไม่ได้สั่งเจ้าไหนเป็นประจำ พี่มีเมนูที่ซื้อประจำอยู่แล้ว ให้น้องพุดทำตามนั้นไปก่อน หรือจะเพิ่มอาหารอย่างอื่นก็ได้นะคะ วันหนึ่งก็ประมาณ 30 กล่องส่วนวันศุกร์พี่สั่งเป็นอาหารคลีนแบบเมื่อวาน เพิ่มอีก 20 กล่องรวมเป็น 50 กล่อง”
“แล้วพี่ญาซื้อมากล่องละเท่าไหร่คะ” แม้ค้าอย่างเธอต้องคำนวณต้นทุนและกำไรอยู่ตลอดเวลา
“พี่รับมา 30 ค่ะ ขาย 35 ถ้าเมนูไหนมีไข่ก็จะเพิ่มอีก กล่องละ 5 บาท แต่พวกอาหารทะเลก็จะ 40 ค่ะ” กรกนกบอกอย่างตรงไปตรงมา
“ตกลงค่ะ พุดจะทำให้ พี่จะให้เริ่มวันไหนคะ”
“วันศุกร์นี้เลยก็ได้ค่ะ”
“เป็นอาหารคลีน 20 กล่องนะคะ แล้วอีก 30 ก็อาหารธรรมดา” พุดพิชชาย้ำอีกที เพราะว่าเธอยังไม่ตกลงราคาอาหารคลีนกับกรกนกเลย
“ใช่จ้ะ”
“ราคาอาหารคลีนจะสูงหน่อยนะคะ”
“ตายจริง พี่ลืมบอกขอโทษที อาหารคลีนพี่รับอยู่ที่ 55 พี่ขาย 60 น้องพุดพอจะให้ราคานี้ได้ไหมคะ”
“พุดขอเป็นราคาสัก 57 ได้ไหมคะ เพราะกล่องอาหารคลีนของพุดจะใช้กล่องคนละแบบกับอาหารธรรมดา กล่องจะเป็นกล่องพลาสติกใสสามารถเข้าไมโครเวฟได้ค่ะ”
กรกนกกำลังคิดว่าถ้าเธอขายได้ 20 กล่องก็จะได้กำไรเพียง 60 บาทแม้จะแค่ไปวางขายไม่ได้ลงทุนไรเลยแต่เธอก็ควรจะได้มากกว่านี้
“ถ้าอย่างนั้นพี่สั่งเพิ่มเป็น 30 กล่อง แล้วขอราคาเป็น 56 ได้ไหมคะ ส่วนอาหารธรรมดาก็ 30 กล่องอย่างเดิม”
“ได้ค่ะ แล้วไข่ดาวพี่ญาจะให้ใส่ทุกล่องเลยไหมคะ”
“ใส่ อย่างสัก 20 กล่องก็พอค่ะ”
พุดพิชชายิ้มรับกับออเดอร์ที่ได้ในวันนี้
“พี่ต้องวางมัดจำก่อนไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ บ้านใกล้กันแค่นี้เอง” ถ้าเป็นคนอื่นพุดพิชชาก็คงให้เธอจ่ายเงินค่ามัดจำก่อนแต่สำหรับกรณีนี้บ้านของกรกนกก็อยู่แค่นี้และจะดูน่าเกลียดถ้าเธอเก็บเงินค่ามัดจำ
“นึกว่าจะคุยกันถึงเช้าซะแล้ว” ปราณติญาทักทายเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอพึ่งเดินเข้าบ้าน
“ป่านแก้ว แกมาตอนไหนฉันไม่เห็นได้ยินเสียงรถเลย”
“มานานแล้วแกคงคุยเพลินจนไม่ได้ยินเสียงรถน่ะสิ”
“คงอย่างนั้นฉันมีข่าวดีจะบอกด้วย” แล้วพุดพิชชาก็ถ่ายทอดเรื่องราวที่คุยกับกรกนกให้เพื่อนฟังด้วยน้ำเสียงที่แสนจะยินดี
“ดีใจด้วยนะพุด แกมีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกได้เลยนะ”
“แกไม่ต้องช่วยหรอก แค่งานสอนก็เยอะอยู่แล้วไหนจะต้องมาตรวจการบ้านอีก บางทีฉันอาจต้องตื่นเช้ากว่าเดิมแต่จะพยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุด”
“ตามสบายเลยแกก็รู้นี่ว่าฉันนอนขี้เซาขนาดไหน แต่ว่าทำขายให้พี่ญาแล้วก็อย่าลืมทำให้ฉันเอาไปที่โรงเรียนอย่างเดิมด้วยนะ”
“ได้สิ ฉันไม่ลืมลูกค้ากลุ่มแรกอยู่แล้วล่ะ ว่าแต่เย็นนี้เราจะกินอะไรกันดีล่ะ ฉันกลับมาถึงก็ยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย ไปหาอะไรกินข้างนอกไหม ฉันเลี้ยงเอง” พุดพิชชาอารมณ์ดีเพราะได้ออเดอร์ข้าวกล่องมาเยอะ
“ได้เลยฉันเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน ไปกินชาบูกันไหม กินเสร็จก็ไปเดินย่อยสักหน่อย แกต้องซื้อของเพิ่มไหมล่ะ ฉันจะได้ไปช่วยซื้อ”
“โอเคเลย ฉันขอไปล้างหน้าล้างตาแป๊บนะ” พุดพิชชาวิ่งไปเข้าในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ปราณติญามองเพื่อนแล้วก็ยิ้มที่เห็นเพื่อนกลับมาร่าเริง
วันนี้พุดพิชชาตื่นนอนตั้งแต่ตีสามกว่าๆ เพราะต้องหุงข้าวหลายรอบ เนื่องจากหม้อหุงข้าวที่ปราณติญามีอยู่นั้นเป็นหม้อหุงข้าวขนาดเล็ก เธอคิดว่าจะลงทุนซื้อหม้อหุงข้าวขนาดใหญ่จะได้ประหยัดเวลาในการหุงข้าว แต่ก็คงต้องรอดูไปอีกสักพักว่ากรกนกจะสั่งอาหารเธออีกนานไหม ระหว่างนี้ก็ต้องทนเหนื่อยไปก่อน เธอทำทุกอย่างด้วยความเงียบที่สุดเพราะไม่อยากรบกวนปราณติญา พอถึงเวลาที่เพื่อนเธอตื่นอาหารเช้าก็รออยู่แล้ว
“นี่ทำข้าวกล่องแล้วยังมีเวลาทำอาหารเช้าให้ฉันอีกด้วย ฉันว่าจะตื่นมาช่วยทำสักหน่อย ที่ไหนได้หลับเป็นตายเลย”
“ฉันรู้แกเหนื่อย ไม่ต้องตื่นมาช่วยหรอก ฉันทำคนเดียวได้สบายมาก นี่กาแฟ” พุดพิชชายื่นแก้วกาแฟให้เพื่อน
“หอมอร่อยเหมือนเดิม แล้วแกไม่กินด้วยกันเหรอ” ปราณติญามองจานไข่ดาวกับไส้กรอกที่มีแค่จานเดียวก็อดห่วงเพื่อนไม่ได้
“ฉันทำไปชิมไปจนอิ่มแล้ว”
“พุดมื้อเย็นแกไม่ต้องทำกับข้าวแล้วนะ”
“อ้าวทำไมละ แกกลัวฉันเหนื่อยใช่ไหม”
“เปล่า”
“แล้วเพราะอะไรล่ะ”
“ก็แกมาอยู่กับฉันไม่ถึงเดือนน้ำหนักฉันขึ้นมาเกือบจะ สามกิโลแล้ว” ป่านหมุนตัวให้เพื่อนดู
“นึกว่าอะไร เอางี้นะมื้อเย็นงดข้าว แต่กินผลไม้หรือสลัดดีไหม เดี๋ยวฉันจัดเมนูให้ รับรองแกลดได้ภายในหนึ่ง 2 อาทิตย์”
“ได้จริงนะ” เธอสนใจที่เพื่อนบอก
“จริงสิ ถ้าแกกินตามที่ฉันบอก แต่ห้ามแอบไปกินขนมกับน้ำอัดลมที่โรงเรียนนะ” หญิงสาวรีบบอกอย่างรู้ทัน
“นิดหน่อยได้ไหมะ ตอนบ่ายๆ ฉันหิว” ปราณติญาต่อรอง
“ได้สิ แต่อย่าเยอะจนเกินไปก็พอ อีกอย่างถ้าเป็นพวกผลไม้หรือธัญพืชอบแห้งก็คงจะดีกว่าพวกขนมก๊อปแก๊ปอย่างที่แกชอบนะป่าน”
“ฉันจะพยายาม แต่ไม่รับปากนะ” พอพูดแล้วก็อดหัวเราะตัวเองไม่ได้
“ดีมาก รีบกินรีบไปทำงานได้แล้ว” พุดพิชชาเตือนเพื่อนเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาทำงานแล้ว
“โอ้ย! คุยเพลินอีกแล้ว”
“ไปเลย ไม่ต้องเก็บจาน เดี๋ยวฉันเก็บให้” พุดพิชชาช่วยเพื่อนถือของไปส่งที่รถ
“ไปละนะ ขอบใจมากนะแก” ปราณติญาไปแล้วพุดพิชชาก็ทำอาหารต่อ เพียงไม่นานทุกอย่างก็พร้อมส่ง หญิงสาวแวะที่ร้านเครื่องเขียนเพื่อซื้อใบเสร็จรับเงินเพราะอยากให้มีหลักฐานการซื้อขายไม่ใช่เพราะกลัวว่ากรกนกจะโกงแต่เพราะเธอจะได้เก็บดูไว้ว่ามีรายได้อะไรเข้ามาบ้างในแต่ละวัน