บท
ตั้งค่า

10 ทำทุกอย่างที่ได้เงิน

วันนี้ลูกค้ากลุ่มเดิมก็มาอุดหนุนที่ร้าน พุด-ชา ของเธอเหมือนเดิม เธอเลยชวนคุยระหว่างที่ชงชา

“สัปดาห์หน้าพุดจะทำอาหารคลีนมาวางขายด้วยนะคะ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นเตรียมการอยู่ค่ะ ถ้าพรุ่งนี้พุดจะมีตัวอย่างเมนูมาให้ลองชิมพี่อย่าลืมแวะมาชิมนะคะ” เมื่อคิดเงินเสร็จแล้วพุดก็นั่งคิดว่าเธอจะทำเมนูอะไรบ้าง หญิงสาวจดทุกอย่างลงในสมุดเล่มเล็กที่อยู่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน

“พี่คะ ชานมไต้หวันพิเศษมุก 1 แก้วค่ะ” เสียงเด็กวัยรุ่นเรียกให้เธอต้องรีบวางปากกาลงก่อน แล้วรีบชงให้ทันที พุดพิชชารู้แล้วว่าวันธรรมดาเธอจะไม่ชงชาใส่ถังชาไว้ตั้งแต่เช้าเหมือนวันเสาร์ อาทิตย์ เธอจะชงแก้วต่อแก้วแม้จะช้าแต่ก็ยังดีกว่าชงแล้วขายไม่หมด

“พิเศษมุกปกติพี่คิดเพิ่ม 5 บาท แต่สำหรับเดือนนี้พี่ไม่คิดเพิ่มค่ะ” เธอส่งแก้วชานมให้เด็กสาว

“ขอบคุณค่ะพี่ พรุ่งนี้หนูจะชวนเพื่อนมาอุดหนุนนะคะ” เด็กสาวท่าทางดีใจ

“ได้เลยจ้ะ โปรซื้อ 2 ฟรี 1 ใช้ได้ทั้งเดือนเหมือนกันนะคะ” พุดพิชชารีบบอก

รัญภาคย์ลงจากเครื่องก็นั่งแท็กซี่กลับมาที่บ้านทันที โดยไม่ได้โทร. ให้คนขับรถของมารดามารับ

“สวัสดีครับแม่” ชายหนุ่มสวมกอดมารดาอย่างเคย

“ไหว้พระเถอะลูก แล้วทำไมไม่ให้ลุงผลไปรับ” ลดาหมายถึงนายผลคนขับรถของเธอตอนที่อยู่กรุงเทพฯ และตอนนี้ลูกชายของเธอก็ให้ลุงผลและภรรยาย้ายตามมาด้วยเมื่อไม่กี่วันมานี้ ส่วนบ้านที่กรุงเทพฯ ก็ปิดไว้ เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยชอบอยู่บ้านหลังใหญ่ ชายหนุ่มเลือกที่จะไปนอนที่คอนโดฯ เสียมากกว่า

“ผมรีบมาคุยกับแม่ครับ”

“มีเรื่องด่วนอะไร” ลดามองหน้าลูกชาย เพราะคิดว่าเขาคงมีเรื่องด่วนแน่ๆ

“คือผมว่าจะเปิดฟิสเนตฯ ในเมืองครับแม่ มีที่แปลงหนึ่งประกาศขายราคาดีเลยครับเพราะเจ้าของต้องรีบใช้เงิน ผมว่าพรุ่งนี้จะพาแม่ไปดู”

“เรื่องแค่นี้ถึงกับไม่รอให้คนไปรับเลยเหรอ แม่ว่ามีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า”

“เปล่าครับแม่ เรื่องแค่นี้จริงๆ”

“รัญคิดว่าตัวเองโกหกแม่ได้เหรอลูก”

“คือผมเจอจ๋าครับ” รัญภาคย์หมายถึงมนัสยาภรรยาเก่าของเขา ที่เลิกรากันไปนานแล้ว เพราะชายหนุ่มจับได้ว่าภรรยาของเขาแอบไปมีอะไรกับฟิตเนสแทรนเนอร์ที่เขาจ้างมาทำงาน

“แล้วได้คุยกันไหม”

“ไม่ครับผมเห็นเธอกำลังจะเดินมาเลยรีบวิ่งขึ้นแท็กซี่กลับมาที่บ้านนี่แหละครับ”

“ที่รัญยังไม่ยอมมีแฟน เพราะยังลืมเธอไม่ได้ใช่ไหมลูก” ลดารู้สึกเห็นใจลูกชาย เพราะรู้ว่ามนัสยาเป็นคนรักคนแรกของลูกชายตั้งแต่สมัยเรียน พอเรียนจบได้ไม่นานทั้งคู้ก็แต่งานกัน แต่อยู่กินกันได้ไม่

“เปล่าครับแม่ ผมลืมไปแล้วว่าแต่ก่อนเคยรู้สึกยังไงกับเธอ แต่ที่ผมไม่มีใครเพราะผมไม่อยากเจ็บแบบเดิมๆ อีกแล้ว”

“ผู้หญิงไม่ได้เหมือนกันทุกคนละลูก ทำไมไม่ลองเปิดใจให้คนอื่นเข้ามาในชีวิตบ้าง”

“ผมไม่คิดเรื่องนั้นแล้วครับแม่ ผมว่าอยู่กับแม่อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้วครับ” เขาคิดตามที่พูดกับมารดาจริงๆ

“อย่าคิดอย่างนั้นสิรัญแม่ไม่รู้จะอยู่กับลูกได้นานแค่ไหน แม่อยากเห็นรัญมีความสุข มีคู่ชีวิตที่ดี ดูอย่างน้องสาวเราสิ ทุกวันนี้ชีวิตมีแต่ความสุข”

“แม่ต้องอยู่กับผมอีกนานเลยครับ ส่วนเรื่องคู่ชีวิต เอาเป็นว่าผมจะไม่ปิดกั้นตัวเอง แต่ตอนนี้ผมยังไม่เจอคนที่ใช่ครับแม่”

“ให้แม่ช่วยหาคนที่ใช่ให้ดีไหม” เธอเสนอ

“อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยครับแม่ ผมว่าของอย่างนี้ถึงเวลาเราก็จะเจอคนที่ใช่เองนั่นแหละครับ” ชายหนุ่มตอบไปอย่างนั้นเพราะรู้ดีว่าคงอีกนานที่เขาจะเจอคนๆ นั้น

“แล้วทานอะไรมาหรือยัง” เมื่อเห็นว่าลูกชายไม่สนใจเรื่องนี้จริงๆ เธอจึงเปลี่ยนเรื่อง

“ยังเลยครับแม่ ว่าจะมาทานอาหารฝีมือแม่สักหน่อย” รัญภาคย์ไปกรุงเทพฯ หลายวันเขาอาศัยข้าวกล่องข้างออฟฟิศเกือบทุกมื้อเพราะไม่อยากเสียเวลาไปนั่งทานตามร้านอาหาร ครั้นจะทำอาหารเองก็เกรงว่าจะได้เข้าไปนอนที่โรงพยาบาลเพราะท้องเสียแทน

“วันนี้แม่ไม่ได้ทำกับข้าวเลยน่ะสิ นึกว่ารัญจะมาพรุ่งนี้ แต่ในตู้พอมีข้าวกล่องอยู่นะ พอทานได้ไหม แต่ถ้าพอทนไหวก็รอแม่สักครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวแม่ทำให้” ได้ยินคำว่าข้าวกล่องชายหนุ่มก็รู้สึกฝืดคอขึ้นมาทันที

“ไม่เป็นไรครับแม่” เขาไม่อยากให้มารดาต้องเหนื่อย ทานข้าวกล่องอีกสักมื้อก็คงไม่เป็นไร เพราะตั้งแต่วันพรุ่งนี้เขาก็จะอยู่ที่บ้านยาวเกือบสิบวันคงได้ทานอาหารฝีมือมารดาอย่างแน่นอน

รัญภาคย์เดินเข้าไปห้องอาหาร ป้าใจภรรยาของลุงผลก็เดินถืออาหารที่อุ่นแล้วเข้ามาพอดี ชายหนุ่มคิ้วขมวดเพราะข้าวกล่องที่เขาทานมาตลอดหลายวันนั้นไม่มีอะไรคล้ายกับข้าวกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะเลย จะว่าเป็นเพราะป้าใจเทใส่จานก็ไม่น่าจะใช่เพราะที่เขาเห็นในจานคือข้าวกล้องกับปลานึ่ง พอได้ลองตักเข้าปากคำแรกก็ยิ้มจากนั้นข้าวและปลารวมถึงผักในจานก็ไม่เหลือเลยสักนิด

“อร่อยมากเลยครับแม่ ข้าวกล่องร้านไหนครับ” รัญภาคย์ถามอย่างแปลกใจ

“แม่ไม่ได้ซื้อมาหรอกจ้ะ รัญจำหนูพุดได้ไหม”

ชายหนุ่มพยักหน้า “เค้าทำขายเหรอครับแม่”

“ไม่ได้ขาย แต่แบ่งมาให้แม่ช่วยชิม รัญว่าถ้าทำขายจะมีคนซื้อไหม” เธอถามความเห็นลูกชาย

“ก็คงจะมีคนอยู่นะครับ เมนูไม่ค่อยซ้ำกับข้าวกล่องที่ผมเคยทาน เหมือนอาหารคลีนเลย”

“ก็ใช่น่ะสิแม่ ว่าถ้าหนูพุดขายเมื่อไหร่ แม่นี่แหละจะเป็นลูกค้าประจำ”

“พูดอย่างนั้นแสดงว่าแม่เบื่อที่จะทำกับข้าวให้ผมแล้วใช่ไหมครับ”

“แม่ไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย แม่ก็ทำให้รัญทานตามปกติน่ะแหละ แต่แม่ก็ทานอาหารคลีนของหนูพุดบ้าง สลับกันไปดีไหม แม่อยากสนับสนุนคนที่ทำมาหากินอย่างหนูพุด”

“ตามใจแม่เลยครับ” ชายหนุ่มเห็นด้วย เพราะวันนั้นเขาได้ทานแกงเขียวหวานก็รสชาติอร่อยจนเขาอยากจะทานอีก แต่ก็ไม่กล้าบอกเธอเพราะยังไม่ได้สนิทกันขนาดที่จะขอให้เธอทำอาหารให้เขาได้

“พุด ทำอะไรอยู่” ปราณติญาเห็นเพื่อนนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นนานสองนานตั้งแต่ก่อนเธออาบน้ำจนถึงตอนนี้เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว

“ฉันกำลังหารูปอาหารที่เคยถ่ายไว้”

“แล้วหาเจอไหม”

“เจอ แต่ดูแล้วภาพมันเก่าๆ ไม่ค่อยสวยเลย แกว่าไง” พุดพิชชาขยับให้เพื่อนเห็นหน้าจอโน้ตบุ๊กได้อย่างถนัด

“อือ มันดูเก่าๆ ถ่ายมานานแล้วใช่ไหม”

“ถ่ายนานแล้วคงต้องถ่ายใหม่” พุดมองภาพอาหารคลีนที่เธอทำขายกับมารดาแล้วก็ถอนหายใจ เพราะถ้าจะถ่ายใหม่เธอก็คงต้องทำอาหารอีกหลายๆ อย่างถึงจะได้ภาพครบตามที่ต้องการ

“ไม่เห็นจะยาก วันศุกร์ที่โรงพยาบาลจะมีตลาดสุขภาพแกก็ทำเมนูต่างๆ ถ่ายรูปเสร็จก็เอาไปวางขายสิพุด”

“ฉันจะไปขายได้ยังไง ฉันไม่รู้จักใครเลย แล้วป่านรู้ได้ยังไงว่าเค้ามีตลาดนัดสุขภาพ”

“ก็พี่ญาบ้านติดๆ เรานี่แหละเป็นคนบอก พี่ญามีร้านขายของอยู่ที่นั่นพอถึงวันศุกร์พี่เค้ามักจะเอาผักและผลไม้ปลอดสารพิษไปวางขาย”

“แล้วมันจะมาน่าเกลียดเหรอ อยู่ๆ จะฝากของเอาไปขาย” แม้อยากจะขายของแต่ก็ไม่อยากเอาเปรียบใคร

“ไม่น่าเกลียดหรอก เราลองให้เค้าไปชิมก่อนสิ ถ้าเค้าบอกอร่อยก็ลองแกล้งถามดูว่ามีที่ไหนที่จะไปวางขายได้บ้างดีไหม” ปราณติญาช่วยเพื่อนคิด

“วันนี้ฉันให้พี่ญาลองชิมไปแล้วหนึ่งกล่อง” พุดพิชชาบอกเพื่อนเพราะตอนที่เธอกำลังจะออกจากบ้านก็เจอเพื่อนบ้านคนนี้กลับมาจากข้างนอกพอดี

“ดีเลยถ้าเจอครั้งหน้าฉันจะได้ลองถามว่าอร่อยถูกใจไหม ถ้าพี่เค้าบอกอร่อยก็เข้าทางเราเลย”

“ขอบใจนะป่านแก้ว” พุดพิชชาซึ้งน้ำใจเพื่อนคนนี้เป็นที่สุด “แล้วที่โรงเรียนชอบกันไหม”

“ชอบสิ ฉันว่าจะบอกอยู่เหมือนกัน ถ้าพรุ่งนี้จะให้แกทำไปส่งอีกสัก 10 กล่องจะได้ไหม ฉันรับปากไปแล้ว”

“ได้สิ อยากทานเมนูไหนกันล่ะ จะเอาอาหารธรรมดาหรืออาหารคลีน”

“อะไรก็ได้ฉันแจ้งราคาไว้ว่าประมาณ 69 บาทนะ เพราะเบื่อกับข้าวที่โรงเรียนเต็มที ถ้าสลับกันได้ก็ดีเมื่อวานอาการคลีนไปแล้ววันพรุ่งนี้ก็อาหารธรรมดาก็ได้ ”

“อาหารธรรมดา พุดว่าราคาสัก 50 ก็พอนะ ส่วนอาหารคลีนค่อยคิด 69 ดีไหม พุดกลัวว่าจะแพงเกินไป”

“ไม่แพงหรอกแก เพราะครูที่โรงเรียนเคยสั่งเจ้าที่เค้าทำอาหารส่งก็ก็ราคาประมาณนี้ ยิ่งถ้าเป็นแซลมอนก็บวกเพิ่มไปอีก ไหนจะค่าส่งอีกนะพุด”

“อย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันทำสุดมือเลยมีใครแพ้อาหารอะไรไหม” พุดพิชชามักจะระมัดระวังเรื่องนี้เสมอเพราะเคยเห็นคนแพ้อาหารจนหายใจแทบไม่ออก

“เท่าที่รู้ก็ไม่มีนะ เดี๋ยวจะถามในไนล์กลุ่มให้”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะทำอาหารธรรมดา ในราคา 69 บาทแต่จะมีชาแถมไปด้วยดีไหม” พุดพิชชาถามความเห็นเพื่อน

“ดีเลยเพราะชาร้านแกอร่อยมาก แต่ไม่ต้องใส่น้ำแข็งไปนะ เอาแค่ชาใส่ถุงก็พอที่โรงเรียนมีน้ำแข็งใส่กระติกไว้ให้ที่ห้องพักครู”

“ก็ดีเหมือนกัน ชาจะได้ไม่ละลายให้เสียรสชาติ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel