บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก (1/3)

ยามนี้เป็นเวลาดึกมากแล้ว ทุกคนในวังพายัพหลับสนิท เบื้องหน้าของเสวี่ยหลินตอนนี้คือ Platform ที่เป็นหน้าต่างสกิลต่างๆ ที่นางสามารถใช้ได้ นัยน์ตาเล็กๆ กำลังอ่านรายละเอียดของแต่ละสกิลอย่างตั้งอกตั้งใจ นางมีแต้มเพียง 75 แต้ม ยังถือว่าน้อย ดังนั้น การเลือกสกิลมาใช้จึงต้องเลือกอย่างระมัดระวังและให้เกิดประโยชน์สูงสุดแม้นางจะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดก็ตาม เพราะนางคร้านที่จะเปลี่ยนบ่อยๆ สกิลที่ใช้บ่อยเท่าใด นางก็จะคุ้นเคยและมีความชำนาญมากขึ้น

สกิลที่นางสามารถใช้ได้เวลานี้สามารถอัพเกรดได้สูงสุดถึงเลเวลสิบ หากจะอัพเกรดมากกว่านั้น นางก็ต้องเพิ่มระดับลมปราณให้ได้ แต่บางสกิลตอนนี้ก็สามารถอัพได้ถึงเลเวลสิบห้า

เสวี่ยหลินกำลังจดชื่อสกิลที่นางต้องการออกมาก่อน เพื่อที่จะคัดเลือกอีกครั้ง บิดามารดาของนางยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่านางอ่านออกเขียนได้แล้วอย่างคล่องแคล่วด้วยความทรงจำเมื่อครั้งที่ยังเป็นฮุ่ยหลัน

มือเล็กๆ ขีดฆ่าชื่อสกิลที่ไม่ต้องการ จนกระทั่งเหลือเพียงแปดสกิลที่น่าสนใจที่สุด

ทลายเกราะ เลเวล 15 – ลดการป้องกันของเป้าหมาย PDEF-15%, MDEF-15%, CC Resistance-15% นาน 15 วินาที CD= 3 วินาที ผลการลดเกราะสามารถซ้อนทับได้

สกิลทลายเกราะนี้ แรกที่เห็น เสวี่ยหลินต้องยิ้มกว้าง ลดเกราะได้แถมซ้อนทับได้แบบไร้ขีดจำกัด เท่ากับฝ่ายตรงข้ามจะไม่เหลือเกราะป้องกันใดๆ เลย เรียกได้ว่าเดินตัวเปล่าล่อนจ้อนมาให้นางเชือดเสียด้วยซ้ำ แถม CD แค่ 3 วินาที เรียกได้ว่าเป็นสกิลที่โกงสุดๆ แล้วนางจะไม่ใช้ได้อย่างไร

แหลมคม เลเวล 10 – ลด HIT ของเป้าหมาย -70% นาน 5 วินาที และเพิ่ม HIT ของตนเอง +35% นาน 10 วินาที ไม่มีผลซ้อนทับ CD=10 วินาที

สกิลแหลมคมบอกชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่าต่อให้ฝ่ายตรงข้ามมีฝีมืออย่างไร แต่หากโจมตีไม่โดนก็ไม่มีความหมายเช่นกัน และนางได้ความแม่นยำเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยกว่าแต่ก็ใช้ได้นานกว่า คิดอย่างไรก็คุ้ม

ห้วงนิทรา เลเวล 10 – ทำให้เป้าหมายและศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ หลับ โดนศัตรูสูงสุด 8 ตัว หลับเป็นเวลา 10 วินาที ไม่มีผลซ้อนทับCT=5วินาที, CD=1วินาที

เคลิ้มฝัน เลเวล 10 - ทำดาเมจ 5 ครั้งใส่ศัตรูและกระทบไปโดนตัวรอบๆ สูงสุด 10 ตัว ทำให้ศัตรูมึนงงนาน 3 วินาที CT=4.2วินาที ไม่มีผลซ้อนทับ CD=1.5วินาที

คลี่คลาย เลเวล 10 - ลบ Debuff ทั้งหมดที่ตนเองได้รับ จากนั้นจะป้องกัน Debuff จากศัตรูนาน 10 วินาที ถ้าใช้ใส่กับศัตรู จะลบ Buff ทั้งหมดของศัตรู และจะทำให้ศัตรูไม่ได้รับ Buff ของฝ่ายศัตรูนาน 10 วินาที CT=5วินาที, CD=7 วินาที

เกราะทองคำ เลเวล 10 - สร้างเกราะคุ้มกันป้องกันการโจมตีทั้งหมด นาน 50 วิ หรือโดนตีจำนวน 15 ครั้ง เกราะก็จะหายไป CT=0.5วินาที

โจมตีสัมฤทธิ์ผล เลเวล 10 (Passive Skill) – เพิ่ม MATK ของตัวเอง 20%, มีโอกาส 20% โจมตีติดคริติคอล และทำดาเมจคริติคอล 220%

อาณาจักรแห่งฝัน (AOE) เลเวล 10 สกิลประจำเผ่าพันธุ์จิ้งจอกทองเก้าหาง - มีระยะสกิลกว้าง 10 จั้ง (1 จั้ง = 2.5 เมตร) ทำให้ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในระยะสกิลได้รับ CC effect สามประการ ได้แก่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้นาน 5 วินาที จากนั้นจะหลับนาน 5 วินาที สุดท้ายจะมึนงงนาน 5 วินาที ผลของอาณาจักรแห่งฝันไม่สามารถแก้ไขได้นอกจากเจ้าของสกิลจะยกเลิกเอง CD=3 นาที

สกิลที่เลือกมาทั้งหมดนี้ เสวี่ยหลินยิ้มแล้วยิ้มอีก เพราะทุกสกิลที่นางเลือกมี CC หมดทุกอัน นั่นหมายความว่า ผู้ที่เผชิญหน้ากับนาง แทบไม่มีโอกาสต่อสู้ เพราะนางก็ไม่คิดเปิดโอกาสต่อสู้ให้ผู้ใดเช่นกัน

ในระยะแรกนี้สกิลที่เสวี่ยหลินมั่นใจว่าจะได้ใช้บ่อยที่สุดต้องเป็นทลายเกราะ แหลมคม ห้วงนิทรา เคลิ้มฝัน ส่วนคลี่คลาย เกราะทองคำ อาณาจักรแห่งฝัน สามสกิลนี้น่าจะยังไม่ค่อยได้ใช้

เมื่อเลือกสกิลที่ต้องการได้แล้ว เสวี่ยหลินก็อัพสกิลด้วยแต้มทั้งหมดที่มีคือ 75 แต้ม เพียงอัพเสร็จสรรพ นางก็รู้สึกได้ทันทีว่านางสามารถใช้งานมันได้แล้ว นางสามารถใช้บทเวทได้แล้ว แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้

เสวี่ยหลินหันมามองหาอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่อย่างอื่น นั่งอ่านอย่างละเอียดอีกหนึ่งชั่วยาม นางก็ต้องถอนหายใจ นางต้องหาวัตถุดิบมาจากการล่าสัตว์อสูรระดับสูงทั้งสิ้นเพื่อสร้างพวกมันขึ้นมา แต่อาวุธที่เหมาะสมกับนางที่สุดคือ คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก

คุณสมบัติของคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกก็คือ

ค่าสถานะทุกค่า +20% แต่ INT+40%

Perfect Hit+25%, Perfect Dodge+25%, ASPD+25%

All Skill Effect+10%

เพียงเห็นคุณสมบัติของคทานี้ เสวี่ยหลินก็แทบกรีดร้องด้วยความอยากได้ขั้นสุด ความสามารถของมันเรียกได้ว่าโกงขั้นเทพไปเลย

แต่ที่ทำให้เสวี่ยหลินตาลุกคือ คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก กลับอยู่ที่คลังสมบัติของวังพายัพของเผ่าจิ้งจอกเก้าหางนี่เอง มันอยู่ในคลังมาหลายแสนปีแล้ว ไม่มีจิ้งจอกเก้าหางตนใดใช้มันได้ นั่นเพราะมันจะตอบรับเฉพาะจิ้งจอกทองเก้าหางเท่านั้น

เสวี่ยหลินแทบจะอดทนรอให้ถึงตอนเช้าไม่ไหว นางอยากได้มันเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ

คืนนี้ทั้งคืนนางแทบนอนไม่หลับ เพราะใจนึกถึงแต่คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก แม้ในระบบจะไม่ได้แสดงรูปร่างหน้าตาของคทานี้ไว้ แต่นางก็เชื่อว่าต้องเป็นคทาที่สวยมากแน่ๆ

เมื่อถึงตอนเช้าก่อนจะถึงเวลารับประทานอาหารเช้าร่วมกับบิดาและมารดา โดยไม่มีพี่ใหญ่เสวี่ยซานของนางเพราะพี่ใหญ่เสวี่ยซาน ยามนี้เขาอายุ 44,000 ปี ได้กลับไปร่ำเรียนที่หุบเขาบูรพานิรันดร์แล้ว

หุบเขาบูรพานิรันดร์เป็นสถานที่ที่เหล่าเทพเซียนทุกเผ่าต่างพากันส่งบุตรหลานมาร่ำเรียนที่นี่ หุบเขาบูรพานิรันดร์จะสั่งสอนทั้งศาสตร์การต่อสู้ การปรุงยา การสร้างอุปกรณ์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นตั้งแต่โรงเรียนกระทั่งมหาวิทยาลัยของเหล่าเทพเซียนได้เลย แต่จะเริ่มรับเข้าศึกษาเมื่ออายุ 25,000 ปี ดังนั้น เสวี่ยหลินจึงต้องร่ำเรียนที่แดนพายัพของเผ่าจิ้งจอกไปอีก 11,000 ปี จึงจะถึงเกณฑ์ไปศึกษาที่บูรพานิรันดร์

หลังจากรีบแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เสวี่ยหลินจึงวิ่งออกจากห้องนอนของตนเองมาที่หน้าห้องบรรทมของราชาและราชินีแห่งเผ่าจิ้งจอกทันที แม้จะทราบดีว่านางมาถึงเช้ามาก บิดามารดาของนางยังไม่ตื่นแน่นอน แต่ทำอย่างไรได้ล่ะ นางอยากได้คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกจะแย่แล้ว

มือเล็กยกมือเคาะประตูห้องครู่หนึ่ง

“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ตื่นบรรทมหรือยังเพคะ ลูกอยากพบเพคะ” เสียงหวานใสเล็กๆ ร้องเรียกออกไป

เสวี่ยหลินยืนรออยู่ไม่กี่อึดใจ ประตูห้องก็เปิดออก เป็นเหม่ยเมิ่ง ท่านแม่คนงามของนางนั่นเองที่มาเปิดประตู เห็นท่านแม่มีสีหน้าสงสัย

“เอ่อ...ลูกอยากพบเสด็จพ่อเพคะ” เสวี่ยหลินยิ้มแห้ง

เหม่ยเมิ่งมีสีหน้าแปลกใจหากก็เปิดประตูกว้างกว่าเดิมให้บุตรสาวเข้าไป “พ่อเจ้า เขายังไม่ตื่นเลย”

เสวี่ยหลินมีสีหน้ารู้ทัน “เมื่อคืนเสด็จพ่อจุ๊กจิ๊กกับเสด็จแม่ไปกี่รอบล่ะเพคะ”

“ลูกคนนี้นี่ อายุแค่หมื่นกว่าปี ทำเป็นรู้ดี เสวี่ยปิงบอกเจ้าหรือไร” เหม่ยเมิ่งเอ็ดออกมาหากก็แก้มแดงซ่าน ตั้งแต่เสวี่ยหลินรู้ความเมื่อราวที่นางอายุได้เพียง 12,000 ปี เหม่ยเมิ่งก็รู้สึกได้ว่าบุตรสาวตัวน้อยดูจะรู้อะไรมากมายนัก นางได้แต่สงสัยว่าบุตรสาวไปรู้มาได้อย่างไร เหม่ยเมิ่งย่อมไม่คาดว่าเสวี่ยหลินยังมีความทรงจำเมื่อยามที่นางเป็นฮุ่ยหลัน ทั้งโลกมนุษย์ที่นางตายจากมาก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทันสมัยกว่าโลกแห่งเซียนนี้

“แหม เสด็จแม่ ลูกก็ต้องเห็นบ้าง อะไรบ้างสิเพคะ” เสวี่ยหลินตอบกลับยิ้มๆ

***PDEF=Physical Defense (การป้องกันกายภาพ), MDEF=Magic DEF (การป้องกันเวท)

HIT คือ ค่าความแม่นยำ

อ้างอิงจากข้อมูลเกม Ragnarok M Eternal Love สำหรับคำอธิบายเรื่อง STR, AGI, VIT, INT, DEX, LUK

STR (Strength) มีผลต่อพลังโจมตีทางกายภาพ (Physical Attack: PATK) แบบ “ระยะประชิด” ของตัวละคร ทำให้สามารถสร้างความเสียหายได้ แม้จะไม่มีอาวุธใดๆ ติดตั้ง หากมีการอัพค่า STR จำนวนมาก ค่า STR จะถูกคูณกับค่าอาวุธ ATK เพื่อเพิ่มความเสียหายได้มากยิ่งขึ้นกับอาวุธประเภท “ระยะประชิด”

AGI (Agility) มีผลต่อความเร็วของตัวละครในหลายๆ ด้าน ทำให้สามารถโจมตีได้เร็วขึ้น (ASPD ย่อมาจาก Speed Attack เป็นค่าความเร็วในการโจมตี ยิ่งมีค่านี้สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้การโจมตีรวดเร็วเท่านั้น) และยังสามารถหลบการโจมตีจากศัตรูได้บ่อยยิ่งขึ้น (FLEE) แต่ค่านี้ ไม่ส่งผลต่อความเร็วในการเคลื่อนที่ และยิ่งอัพค่านี้มาก จะถูกลดค่าป้องกัน (Defense: DEF) ลงไปเรื่อยๆ

VIT (Vitality) มีผลต่อการเพิ่มพลังชีวิต (Health Point: HP) ให้สูงมากยิ่งขึ้น (Max HP) อีกทั้งยังเพิ่มพลังฟื้นฟูของตัวละคร ทำให้สามารถทนต่อมอนสเตอร์ได้นานขึ้นและฟื้นชีวิตด้วยไอเทมรักษาได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย การอัพค่านี้มากๆ ยังทำให้ช่วยต้านสถานะผิดปกติ และยิ่งอัพค่านี้มาก จะถูกลด DEF ลงไปเรื่อยๆ

INT (Intelligence) มีผลต่อพลังอำนาจทางจิตของตัวละครทำให้สามารถสร้างความเสียหายเวทได้ แม้จะไม่มีอาวุธใดก็ตาม โดยค่านี้จะขยาย SP (Spell Point หรือเรียกว่า มานา ซึ่งจะเป็นค่าที่แสดงให้เห็นถึงพลังเวทที่สามารถใช้งานได้ และจะลดลงทุกครั้งที่มีการใช้สกิลใดๆ ที่ต้องอาศัย SP) ให้สามารถใช้งานได้มากขึ้น เพิ่มพลังโจมตีทางเวท (Magical ATK: MATK) และป้องกันเวทย์ (Magical DEF: MDEF) ค่านี้ยังมีความสามารถในการช่วยฟื้น SP ได้เร็วยิ่งขึ้น การอัพค่านี้เป็นจำนวนมาก จะทำให้ระยะเวลาในการร่ายเวทเร็วขึ้น

DEX (Dexterity) มีผลต่อความแม่นยำในการโจมตี (HIT) ของตัวละคร เพราะมีโอกาสที่จะโจมตีโดนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่ม PATK ให้กับสายโจมตีระยะไกล DEX ยังไปเพิ่มในส่วนของการลดเวลาในการร่ายสกิล เพิ่มอัตราความสำเร็จในการขโมย ตีบวก สร้างสิ่งของ และอาหาร เป็นต้น

LUK (Luck) มีผลต่อการโจมตีของตัวละครบางสายอาชีพที่หวังการโจมตีแบบติดคริติคอล (Critical Hit) ให้เกิดขึ้นได้บ่อยๆ และยังเพิ่มค่าอื่นๆอีกมากมาย อย่างละเล็กๆน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มอัตราความสำเร็จในการขโมย ตีบวก สร้างสิ่งของ และอาหาร ต้านทานสถานะผิดปกติ และยังเพิ่มอัตราการหลบหลีก

Cooldown (CD) หมายถึงกลไกอย่างหนึ่งของระบบการเล่นเกม ในรูปแบบของช่วงเวลาที่ผู้เล่นจะต้องรอ ก่อนที่จะสามารถเรียกใช้การกระทำเดิมได้อีกครั้ง

AoE (Area of Effect) คือ ขอบเขตที่แสดงผล คำว่า AoE จะใช้เรียกกับสกิลที่เป็นวงกว้าง สกิลรูปแบบนี้โดยส่วนมากจะเป็นสกิลที่มีผลต่อการต่อสู้เป็นอย่างมาก มักจะพ่วงมาด้วย ความสามารถ CC ที่เป็นวงกว้าง ข้อดีของทีมที่มี AoE คือสามารถสร้างความเสียหาย (Damage) ได้ดีกว่า และมี CC เป็นวงกว้างทั้งการเปิดการต่อสู้หรือการช่วยเหลือเพื่อน ส่วนข้อเสียคือ เรื่องของ CD ที่นาน ส่วนใหญ่แล้วสกิลที่มี AoE กว้าง ๆ จะมี CD นาน ดังนั้นการใช้แต่ละครั้งจะมีผลต่อทีมหรือการต่อสู้มาก หากใช้พลาดไม่เกิดประโยชน์ไป 1 ครั้ง อาจทำให้อีกทีมเอาชนะฝ่ายเราได้

Crowd Control (CC) เป็นความสามารถในการลดประสิทธิภาพในการต่อสู้ของคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เคลื่อนได้ช้าลง ใช้สกิลไม่ได้ ติดมึน ติดหยุดนิ่ง ติดตาบอดจนโจมตีไม่โดน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ทีมของเราสามารถต่อสู้กับคู่แข่งได้ง่ายขึ้น CC แฝงอยู่แทบทุกที่ภายในเกม ไม่ว่าจะเป็นการแฝงอยู่ในสกิลต่างๆ ทั้ง Passive Skill และ Active รวมถึงอาจแฝงอยู่ในไอเทมต่างๆ ในรูปแบบของการใช้งานแบบมีเงื่อนไข เช่น ใส่ให้ครบเซ็ต หรือถ้าตัวละครโดนโจมตี คู่แข่งที่โจมตีจะมีความเร็วในการโจมตีลดลง เป็นต้น โดยสรุป CC คือความสามารถในการก่อกวนคู่แข่งให้เล่นยากขึ้น CC มี 3 ประเภทคือ

1) Movement CC เป็น CC ที่เน้นก่อกวนการเคลื่อนที่ของคู่แข่งเป็นหลัก เช่น ทำให้คู่แข่งเคลื่อนที่ช้าลง (Slow), ทำให้คู่แข่งเคลื่อนไหวไม่ได้ (Root และ Stun) และทำให้คู่แข่งเคลื่อนที่หรือลอยไปในทิศทางที่เรากำหนด (Knockback)

2) Action CC เป็น CC ที่เน้นก่อกวนการออกท่าโจมตีหรือการใช้สกิลต่างๆ ของคู่แข่ง ทำให้การโจมตีครั้งนั้นไม่สำเร็จ เช่น การติดใบ้ทำให้ไม่สามารถใช้สกิลได้ (Silence), การปลดอาวุธทำให้ไม่สามารถโจมตีแบบปกติได้ (Disarm) และการขัดขวางไม่ให้คู่แข่งใช้สกิลได้สำเร็จ (Interrupt และ Stun) CC ประเภทนี้ถือว่าร้ายแรงและส่งผลต่อรูปเกมมากที่สุด จริงอยู่ที่ CC เหล่านี้มีผลไม่กี่วินาที แต่เวลาไม่กี่วินาทีนี้ทำให้เราสามารถพลิกเกมจากแพ้เป็นชนะหรือชนะเป็นแพ้ได้เลย

3) Forced CC เป็น CC ที่จะบังคับตัวละครของคู่แข่งให้เคลื่อนที่ โจมตี หรือใช้สกิลบางอย่างออกมาเองโดยที่คู่แข่งไม่สามารถยกเลิกการกระทำนั้นได้ เช่น การบังคับให้ตัวละครของคู่แข่งเข้ามาโจมตีตัวละครของเราทั้งๆ ที่เป้าหมายคือตัวละครอื่น (Taunt) การบังคับให้คู่แข่งเดินเข้ามาหาเราอย่างช้าๆ (Charm) และการบังคับให้คู่แข่งเคลื่อนที่หนีออกไปจากตัวเรา (Fear) CC ประเภทนี้จะทำให้คู่แข่งไม่สามารถบังคับตนเอง ฝ่ายตรงข้ามจะเคลื่อนที่หรือกระทำตามที่เราต้องการจนกว่าผลของ CC จะหมดไป

Active Skill เป็นสกิลประเภทกดใช้งาน การใช้งานแต่ละครั้งก็จะมี CD ในการใช้งาน และใช้ค่า SP ในการใช้งานด้วย แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นสกิลประเภทโจมตีและบัฟเพิ่มความสามารถให้กับตัวเราและเพื่อนร่วมทีม

Passive Skill คือ สกิลติดตัว เมื่ออัพแล้วจะได้ผลของสกิลนั้นๆ ทันที ส่วนใหญ่ Passive Skill จะเป็นสกิลเพิ่มความสามารถในการป้องกันและคุณสมบัติพิเศษประจำสายอาชีพนั้นๆ Passive Skill ของแต่ละสายอาชีพจะมีทั้งที่เหมือนกับสายอาชีพอื่นและมีเฉพาะสายอาชีพตัวเอง

Perfect Hit (PH) คือ โอกาสที่เป้าหมายจะมีค่าหลบหลีก (Flee) = 0 หรือก็คือโอกาสที่จะโจมตีโดน 100% โดยไม่สน Flee ถ้า PH 100% ก็จะตีปกติและสกิลโดนแน่นอน โดยไม่ต้องมี Hit เลยก็ได้

Perfect Dodge (PD) คือ โอกาสที่จะหลบการโจมตีปกติ 100% ถ้า PD 100% ก็จะหลบการโจมตีปกติได้แน่นอน โดยไม่ต้องมี Flee

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel