ตามรักจิ้งจอกน้อย

411.0K · จบแล้ว
สวรรยสร
151
บท
9.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

มหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียน พระเจ้าผู้สร้างจักรวาลแห่งนี้ ได้สร้างสรรค์สัตว์เทพขึ้นมาเจ็ดเผ่า ได้แก่ มังกร กิเลน จิ้งจอกเก้าหาง หงส์แดง สิงโต เต่ามังกร และเสือขาว แต่ละเผ่าล้วนมีความสามารถและเก่งกาจแตกต่างกันไป แดนเซียนที่มหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียนสร้างขึ้นถูกเรียกว่า สี่ทะเลแปดดินแดน แน่นอนว่าเผ่ามังกรย่อมทรงพลังและอำนาจสูงสุด ครอบครองสี่ทะเลและสองดินแดน อีกหกเผ่าที่เหลือครอบครองกันเผ่าละหนึ่งดินแดน เผ่ามังกรนั้น มหาเทพตว๋อเทียนได้รังสรรค์มหาเทพองค์หนึ่งที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติและรูปสมบัติขึ้นปกครองเผ่ามังกรและเป็นดั่งนายเหนือของทุกเผ่า มหาเทพองค์นี้จึงเป็นที่รับทราบกันทั่วว่าเป็นบุตรชายสุดที่รักของมหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียน นามของเขาคือ หยางหลง (มังกรสุริยัน) มหาเทพหยางหลงนั่งบัลลังก์ประมุขฟ้าดินได้ราว 300,000 ปี ก็สละบัลลังก์ให้หยางเจี้ยน (กระบี่สุริยัน) แม่ทัพคู่ใจของเขาขึ้นครองแทน มหาเทพหยางหลงที่ยามนี้มีเวลาว่างมากมายเพราะหาแพะรับบาปมารับภาระแทนตนเองได้สำเร็จ จึงถือโอกาสนี้ท่องเที่ยวไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดนและแดนมนุษย์ถึง 80,000 ปี ก่อนจะกลับสู่แดนบูรพาที่เผ่ามังกรครอบครอง และพักผ่อนอยู่เพียงผู้เดียวที่วังมังกรสวรรค์ของตนมาได้ 20,000 ปีแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้เห็นปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้น นั่นคือ ร่างเงาของจิ้งจอกเก้าหางที่ส่องแสงสีทองปรากฏขึ้นกลางผืนฟ้า ทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนได้เห็นเหตุการณ์นี้ต่างงุนงงสงสัยว่ามันหมายถึงสิ่งใด หากไม่มีผู้ใดไขปริศนานี้ได้กระทั่งมหาเทพหยางหลงเอง หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน มหาเทพจึงทราบว่าเหม่ยเมิ่ง ราชินีของราชาจิ้งจอกเก้าหางเสวี่ยหมิง ให้กำเนิดธิดาน้อยนางหนึ่ง นามของนางคือ เสวี่ยหลิน ทราบแล้วจึงส่งของขวัญไปแสดงความยินดีเสียหน่อย แต่ผู้ใดจะคาดได้ว่าผ่านไปอีกเพียงหนึ่งหมื่นแปดพันปี เขาจะมีโอกาสได้พบเจอจิ้งจอกน้อยนี้ ทั้งยังคบหานางเป็นกึ่งสหายต่างวัยกึ่งหลานสาว แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจอย่างยิ่งที่มีเซียนบุรุษมากหน้าหลายตาพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับนาง

นิยายเกมออนไลน์นิยายแฟนตาซีนิยายเทพเซียนนิยายจีนโบราณนิยายรักนางเอกเก่งเกิดใหม่ฝึกพลังเซียนพระเอกเก่งผู้ชายอบอุ่น

บทที่ 1 ตายแล้วก็ข้ามภพมาเกิดใหม่ (1/3)

“ฮู้ววว จบซะที ขอบใจมาก เสี่ยวหลัน วันนี้ถ้าเธอไม่ซัพได้เยี่ยมขนาดนี้ พวกเราไม่ชนะ PvP ข้ามเซิร์ฟแน่ๆ อาชีพนักบวชคลาสสิบนี่หาคนเล่นเก่งๆ ดีๆ ยากจริงๆ ในเกมนี่มีแทบนับคนได้” ฉีรุ่ย หัวหน้ากิลด์ ‘แท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์’ ของเกม ‘บันทึกสวรรค์’ เกมออนไลน์ชื่อดังที่สุดและเป็นที่นิยมที่สุดของจีนกล่าวด้วยความดีใจถึงขีดสุด

“โอยยยย ถ้าฉันไม่ได้นายกับคนอื่น นักบวชอย่างฉันก็ไม่รอดเหมือนกัน พวกกิลด์ Red Code นั่นก็โหดชิบ ฉันแทบจะซัพพวกนายไม่ทันอยู่แล้ว” ฮุ่ยหลันหรือที่เพื่อนในเกมเรียกเธอว่า ‘เสี่ยวหลัน’ โอดครวญให้ฟัง

“นั่นแหละ ยังไงก็ต้องขอบใจมาก เออนี่ พวกเรามาดูรางวัลที่ได้มาดีกว่า ฉันจำได้ว่ามีผลึกอันหนึ่งที่เธอจะเอานี่ ใช่มั้ย”

“อื้อ ใช่ ผลึกแสงสวรรค์ ของสำหรับเลื่อนคลาสนักบวช ฉันจะได้เลื่อนเป็นสังฆราชคลาสหนึ่งเสียที ไอ้ผลึกบ้านี่ก็มีให้เฉพาะทีมที่ได้ที่หนึ่งด้วยนะ ไปตีบอสก็ยังไม่ยอมดรอปให้ ตีจนหน้าบอสกับหน้าฉันจะเหมือนกันแล้วเนี่ย เลเวลก็ตันมาจะสามเดือนแล้ว ค่าประสบการณ์ก็สะสมแล้วสะสมอีก” ฮุ่ยหลันบ่นออกมายาวเหยียดอย่างหงุดหงิด

ฉีรุ่ยยื่นส่งผลึกสีเหลืองสว่างให้ฮุ่ยหลัน “เอ้า นี่ ผลึกที่เธอต้องใช้ รีบเอาไปเลื่อนคลาสเลย เดี๋ยวอีกสามเดือน ทีมเราต้องได้เจอพวกนั้นอีกแน่ๆ เดาได้เลยว่าพวกนั้นต้องไปอัพของมาอีกเพียบ”

“Thanks คุณหัวหน้ากิลด์ ฉันไปเลื่อนคลาสก่อนล่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ เลื่อนคลาสเสร็จแล้วฉันจะนอนยาว เหนื่อยมาก ตื่นแล้วค่อยมาสตรีมเกมใน YouKu กับ Iqiyi แล้วเก็บเวลต่อ เพราะฉะนั้น ห้ามโทรมาปลุกก่อนเด็ดขาด ถ้านายโทรมา ฉันด่านายยับแน่”

“OK พรุ่งนี้เจอกัน เวลาเดิม มาเก็บเวลด้วยกัน”

“เลื่อนคลาสซะที” ฮุ่ยหลันกล่าวออกมาหลังจากเลื่อนคลาสเป็นสังฆราชคลาสหนึ่งเรียบร้อย

“ไหนดูซิ สังฆราชคลาสหนึ่งมี Skill อะไรบ้าง”

ฮุ่ยหลันจิ้มนิ้วลงบนปลอกแขนที่สวมใส่อยู่ ครู่เดียวก็ปรากฏหน้าต่าง Skill ของสังฆราชคลาสหนึ่งขึ้นมา

“ว้าววว สกิลชุบชีวิตหมู่ ชุบชีวิตทุกคนในทีมได้พร้อมกันแถมเลือดกับพลังเวทเต็มหลอด แถมอมตะให้อีกห้าวิ แต่...โห คูลดาวน์สิบนาที เฮ่อ นานเกิ๊น ถ้าซักห้านาทีจะแจ่มมาก”

“ไรเนี่ย มี FCT ห้าวิ แถม VCT อีกสิบห้าวิ รวมเป็นยี่สิบวิ กรรมของสังฆราชอย่างฉันเลย กว่าจะร่ายจบ ฉันจะตายก่อนมั้ยเนี่ย” ฮุ่ยหลันบ่นยาวหากก็ยังคงอ่าน Skill ใหม่ของสังฆราชคลาสหนึ่งต่อไป

“เอาวะ Skill ใหม่ดีๆ ก็มีหลายอันอยู่ เดี๋ยวไปนั่งศึกษาให้ละเอียดแล้วค่อยเลือกว่าจะใช้อันไหนดีกว่า ตอนนี้ขอออกเกมก่อนเถอะ จะขาดใจตายอยู่แล้ว”

ไม่นานฮุ่ยหลันก็ Logout ออกจากเกมก่อนจะออกมากินข้าว อาบน้ำ แล้วรีบเข้านอน

เราอยู่ที่ไหนเนี่ย มีแต่หมอกเต็มไปหมดเลย ฮุ่ยหลันนึกในใจ แปลกใจว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

ฮุ่ยหลันเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ทิศทาง แต่ทุกแห่งรอบด้านมีแต่หมอกสีขาวเต็มไปหมด เธอรู้สึกได้แค่ว่าที่แห่งนี้ไม่มีใครเลย มีเธอเพียงผู้เดียวเท่านั้น ฮุ่ยหลันเดินงงราวกับหลงทางอยู่ท่ามกลางหมอกขาวเหล่านั้นอยู่เนิ่นนาน

“นังหนูฮุ่ยหลัน มาตรงนี้” พลันมีเสียงแหบพร่าของชายชราผู้หนึ่งดังขึ้น

ฮุ่ยหลันเหลียวมองล่อกแล่ก

ผีหลอกรึเปล่าวะ

ฮุ่ยหลันคิดในใจอย่างผวา ก็บรรยากาศรอบตัวมันวังเวงน้อยเสียที่ไหนล่ะ ถ้าจะมีผีโผล่มาซักฝูงเนี่ย เธอจะไม่แปลกใจเลย

“ข้าไม่ใช่ผี ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ข้าน่ะดีกว่าผีเยอะ เดินตรงมานี้ เดี๋ยวเจ้าก็พบข้าแล้ว” เสียงแหบพร่านั้นตอบกลับมาทันทีราวกับรู้ว่าฮุ่ยหลันคิดอะไร

เมื่อเดินตรงต่อไปข้างหน้าได้อีกระยะหนึ่ง ฮุ่ยหลันจึงค่อยมองเห็นชายชราผมเผ้าคิ้วและหนวดเคราขาวโพลน หน้าตาท่าทางใจดี กำลังยิ้มให้เธออยู่แต่เป็นรอยยิ้มประหลาดพิกล เพราะเธอรู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มแบบคนทำอะไรผิดแล้วรอสารภาพผิดอยู่ ชายชราผู้นี้แต่งกายในชุดจีนโบราณ แม้จะเฒ่าชราแต่ท่าทีกลับสูงศักดิ์สง่างาม น่าเลื่อมใส ตาเฒ่าผู้นี้นั่งเอนอิงอยู่บนเก้าอี้โยกตัวหนึ่ง

เดี๋ยวนะ ใส่ชุดจีนโบราณ แต่นั่งเก้าอี้โยกแบบฝรั่ง มันมาด้วยกันได้ไง ฮุ่ยหลันคิดในใจอย่างงงๆ

“เอ่อ...คุณตา...เอ่อ...เป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหน” เธอถามออกไป

“นั่งลงเสียก่อน อยากจะดื่มอะไรมั้ย ชาหรือกาแฟ ของว่างด้วยก็ได้นะ”

ฮุ่ยหลันตาโตอ้าปากค้าง

ชาหรือกาแฟ ของว่าง นี่ฉันหูฝาดไปรึเปล่าวะเนี่ย ฮุ่ยหลันคิดในใจอย่างทำตัวไม่ถูก

“เจ้าจะอ้าปากอีกนานรึไม่ จะเอาชาหรือกาแฟ บอกมา ของว่างด้วยมั้ย”

ฮุ่ยหลันอ้าปากพะงาบๆ อยู่ชั่วครู่จึงค่อยตั้งสติได้ “เอ่อ...ชาค่ะ ของว่างขอเป็น...เอ่อ...มาการองได้มั้ยคะ”

“ได้ จะดื่มชาอะไร มาการองแบบไหน”

ตาเฒ่าคนนี้ตอบกลับมาได้ทันควัน ทำเอาฮุ่ยหลันต้องหน้าเหวอ ครู่หนึ่งก็จ้องหน้าชายชราผู้นี้อย่างสงสัย สีหน้าและแววตาของเธอทอประกายวาบถึงบางความคิดที่แล่นเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว เหลือบตามองรอบด้านอีกหน ฮุ่ยหลันค่อนข้างแน่ใจว่าไอ้ความคิดที่เพิ่งเกิดขึ้นมันเข้าเค้าอยู่ไม่น้อย แต่เธอไม่มั่นใจและไม่แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ

เอาวะ ทดสอบดูก็ไม่เสียหาย ถ้าไม่ใช่ก็ค่อยว่ากันตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่ถ้าใช่นี่สิ เราจะเอาไงต่อดี ฮุ่ยหลันคิดในใจพร้อมกับมีสีหน้ายุ่งยาก

ฮุ่ยหลันนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ ชายชราก็ปล่อยให้เธอคิดตามสบาย

“ชาร้อนขอเป็น Always Sakura Tea เป็นชาเขียวผสมกับเชอร์รี่ บลอสซั่ม ขอกาใหญ่นะคะ” ฮุ่ยหลันเอ่ยปากออกมา

“ได้”

บนโต๊ะตรงหน้าเธอปรากฏชาร้อนในกาขนาดใหญ่ที่ส่งกลิ่นหอมของเชอรี่ บลอสซั่มเสียหอมฟุ้งให้เธอได้จิบชาจนพอใจ พร้อมถ้วยชา จานรอง และช้อนคันเล็ก

ฮุ่ยหลันจ้องตาค้าง มองชาร้อนกาใหญ่ตรงหน้าก่อนจะกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ

เอาวะ เป็นไงก็เป็นกัน ไหนๆ ก็มาขนาดนี้แล้ว เธอนึกในใจ

“มาการองขอเป็นของร้าน Pierre Herme รสของมาการองที่อยากทานขอเป็นรส Ispahan ที่ตัวครีมจะเป็นรสลิ้นจี่กับราสพ์เบอร์รี่และได้กลิ่นของกุหลาบ ส่วนมาการองของอีกร้านที่อยากทานคือร้าน Laduree ขอเป็นรส Orange Blossom, รส Pétale de Rose, รส Salted Caramel และรส Antoinette ที่ไส้เป็นชาดำกับน้ำผึ้งค่ะ”

ฮุ่ยหลันจาระไนแบบละเอียดยิบ เพราะมาการองเป็นของหวานที่เธอชอบมาก แต่ราคาที่แพงชนิดหูดับตับไหม้ ทำเอาเวลาจะซื้อมากินซักกล่องเล็กๆ เธอต้องน้ำตาไหลทุกครั้งเพราะความแพงของมัน

เพียงฮุ่ยหลันบอกความต้องการจบ บนโต๊ะตรงหน้าเธอก็ปรากฏจานกระเบื้องสีขาวที่จัดวางมาการองรสชาติที่เธออยากกินไว้อย่างละสามชิ้น

ฮุ่ยหลันจ้องมองขนมหวานตรงหน้าตาแทบถลนก่อนจะเหลือบมองตาเฒ่าผมขาวอีกทีอย่างไม่แน่ใจอยู่ครู่หนึ่ง จึงค่อยจัดการรินชาใส่ถ้วย แล้วค่อยๆ ละเลียดจิบชา สูดกลิ่นหอมของชาอย่างสบายใจ กัดมาการองกินไปหนึ่งชิ้นพร้อมกับหลับตาซาบซึ้งกับทั้งกลิ่นหอมของชาและรสชาติหวานน้อยๆ ของมาการองที่เข้ากันอย่างพอดิบพอดีที่สุด

“เอาล่ะค่ะ คราวนี้คุณตาอยากคุยอะไรกับหนูคะ เลี้ยงชากับขนมซะเลิศหรูดูแพงขนาดนี้ คงไม่เลี้ยงหนูฟรีๆ หรอก” ฮุ่ยหลันถามขึ้นหลังจากกลืนมาการองชิ้นที่สองลงไปพร้อมกับจิบชาตามหลังอีกสามคำ

“ฟรี”

ฮุ่ยหลันตาโตหากก็นึกขึ้นได้ทันที

“ถ้าฟรี แสดงว่าคุณตาต้องมีเรื่องอะไรจะใช้หนูล่ะสิ แต่จะใช้หนูทั้งที เลี้ยงแค่ชากับมาการองนี่ น้อยไปนะคะ คุณตาบอกหนูมาตามตรงดีกว่าว่าอะไร หนูจะได้เรียกค่าจ้างได้ถูกต้อง” ฮุ่ยหลันเข้าประเด็นทันที

**ซัพ หมายถึง support การช่วยเหลือผู้เล่นในทีมเดียวกันด้วย Buff และ Debuff ซึ่ง Buff คือ การเสริมให้ตัวละครใดๆ ของฝ่ายตนเองมีสถานะที่ดีขึ้น ส่วน Debuff ก็ตรงข้าม คือ การทำให้ตัวละครใดๆ ที่อยู่ในสถานะติด Buff อยู่ แล้วทำให้ Buff นั้นๆ หายไป เช่น ทำให้สถานะผิดปกติของฝ่ายเราหายไป เป็นต้น

Guild (กิลด์) เป็นระบบหนึ่งในเกมออนไลน์ทั่วไปมีไว้สำหรับจัดการผู้เล่นที่ต้องการอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะในจำนวนมาก โดยเป็นระบบที่ดีกว่าระบบปาร์ตี้ เพราะระบบปาร์ตี้นั้นเป็นระบบที่สามารถรับคนได้ไม่เกิน 3-6 คน และบางทีก็อยู่ด้วยกันเพียงครั้งคราวหรือเพียงวัตถุประสงค์เรื่องการเก็บเลเวล ทำเควส เท่านั้นบางคนเมื่อทำสิ่งที่ต้องการเสร็จก็ออกจากปาร์ตี้ไป ต่างจากระบบกิลด์ ที่มีการรับสมาชิกเป็นจำนวนมาก จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นตามระดับเลเวลกิลด์ คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาสมัครในกิลด์ คือกลุ่มคนที่ต้องการอยู่ร่วมกันในระยะเวลานานๆ มีกิจกรรมร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเควส หรือ เรื่องเก็บเลเวล ก็ได้

PvP ข้ามเซิร์ฟ หมายถึง Cross-Server PvP ซึ่ง PvP คือ Player versus Player จะให้ตัวละครของผู้เล่นต่อสู้กันเองมักจะอยู่ในเกมประเภทออนไลน์เป็นหลัก บางเกมก็จะเป็นเกม PvP ล้วนๆ หรือบางเกมก็มีแยกโหมดนี้ออกมาต่างหากเป็นสนามประลอง Arena ก็แล้วแต่ผู้พัฒนาเกมจะออกแบบ การ PvP ไม่จำเป็นต้องเป็นการดวล 1 vs 1 บางเกมก็มีการต่อสู้แบบ 2 vs 2 หรือ 3 vs 3 กระทั่ง 6 vs 6

ดังนั้น Cross-Server PvP เป็นการต่อสู้กันระหว่างผู้เล่นต่างพื้นที่ เช่น ประลองระหว่างผู้เล่นใน Server หนึ่งกับผู้เล่นที่อยู่อีก Server หนึ่ง

Cast Time (ระยะเวลาร่าย) จะเห็นได้ขณะที่ใช้สกิลจะมีหลอดสีเขียวบนหัวตัวละคร ระยะเวลาร่ายมี 2 ประเภท คือ Variable Cast Time (VCT) และ Fixed Cast Time (FCT) การที่จะร่ายไร้หลอดจำเป็นต้องทำให้ระยะเวลาร่ายทั้ง 2 แบบหมดไป (บางสกิลอาจจะมีแค่แบบเดียว บางสกิลมีสองแบบ ต้องดูรายละเอียดของแต่ละ Skill)