บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ตายแล้วก็ข้ามภพมาเกิดใหม่ (2/3)

“นี่ข้ายังไม่ทันพูดอะไร เจ้าก็จะคิดค่าจ้างแล้วเรอะ”

“แน่นอนค่ะ เลี้ยงชาแพงๆ ขนมหรูๆ แถมบอกฟรี ชัวร์เลยว่าที่คุณตาจะจ้างหนูทำอะไรซักอย่างนี่ น่าจะงานยากระดับงานโอลิมปิกเลยล่ะมั้ง ที่สำคัญนะคะ ไม่มีใครหว่านพืชแล้วไม่หวังผลหรอกค่ะ”

ตาเฒ่าคนนี้ต้องยิ้มออกมาอย่างชอบใจ “ก็ดี งั้นข้าก็จะบอกเจ้าตามตรง คือว่า...”

“...ยามนี้เจ้าตายแล้ว”

“เดี๋ยวนะคะคุณตา มุขนี้ไม่ตลกค่ะ เอาใหม่”

“เจ้าตายแล้วจริงๆ คือ ที่จริงคนที่จะต้องตายจะเป็นยายแก่คนนึง แต่เผอิญข้าทำพลาด เข้าใจผิดว่าเป็นเจ้า จึงนำวิญญาณเจ้าออกจากร่าง กว่าข้าจะรู้ตัวว่าทำผิดก็ผ่านไปแล้วสามวัน ร่างเจ้าก็ถูกทำพิธีศพและฝังในสุสานเรียบร้อยแล้ว ส่วนยายแก่ที่ถึงฆาตแล้วต้องไปเกิดใหม่ ข้าก็เพิ่งจัดการเสร็จไปก่อนหน้าจะเรียกวิญญาณของเจ้ามาคุยนี่แหละ”

คราวนี้ฮุ่ยหลันตาโตอ้าปากค้างแล้วจริงๆ เพราะไอ้ที่เธอสงสัยดันใช่ เธอเองก็เป็นนักอ่านนิยายเหมือนหลายๆ คน แล้วไอ้แนวตายแล้วไปเกิดในโลกใหม่ มันก็ต้องมาอยู่ในที่ที่มีหมอกควันคล้ายๆ แบบนี้แล้วก็ต้องเจอพระเจ้าที่เป็นผู้สร้างโลกทั้งหมด นี่เป็นแนวนิยายที่ฮิตสุดๆ แนวหนึ่งเลยทีเดียว ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมาเกิดกับตัวเองจริงๆ

“ที่เรียกวิญญาณเจ้ามาคุยเนี่ย คือ ข้าก็เตรียมจะรับผิดชอบที่ข้าทำผิดพลาด”

ฮุ่ยหลันยังนั่งนิ่งอึ้งไปหมด นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลย

“เอ่อ...อย่างนั้นคุณตาก็คือพระเจ้าผู้สร้างโลกซึ่งก็รวมโลกที่หนูอยู่ด้วยใช่มั้ยคะ” ฮุ่ยหลันถามออกมาหลังจากตั้งสติได้

“ใช่”

“แล้วทำไมคุณตาถึงทำพลาดล่ะ” นี่เป็นสิ่งที่ฮุ่ยหลันสงสัยที่สุด ระดับพระเจ้าเนี่ยนะทำพลาด !

“ทุกทีมันไม่ใช่หน้าที่ข้า แต่เผอิญ ‘ฉินกวงหวาง’ ติดธุระสำคัญ เขาจึงฝากให้ข้าช่วยดูแลแทนเขาหนึ่งวัน แล้ว...เอ่อ...ข้าก็ใช้กระจกส่องกรรมไม่ชำนาญ พอส่องดูเจ้า เลยเกิดข้อผิดพลาดขึ้น” น้ำเสียงตอนท้ายของตาเฒ่าผู้นี้พลันอ่อยลง

ฮุ่ยหลันถอนหายใจเฮือก สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แล้วคุณตาจะชดเชยให้หนูยังไงคะ”

“ข้าจะให้เจ้าไปมีชีวิตแทนนางเซียนผู้หนึ่ง”

คำตอบนี้ทำให้ฮุ่ยหลันนิ่งอึ้ง นางเซียน !

“นางเซียนผู้นี้วาสนาน้อยนัก ถือกำเนิดในครรภ์ของมารดาได้เพียงสามเดือนก็หมดวาสนา แต่เพราะมารดาของนางและทุกคนรอบข้างยังไม่มีผู้ใดทราบว่าทารกน้อยนี้ได้ดับสูญไปแล้ว ประกอบกับตัวเจ้าที่ข้าตรวจดูจากกระจกส่องกรรม เจ้าประกอบแต่บุญกุศลและช่วยเหลือผู้อื่นมาตลอด ทำแต่ความดีมาตลอด ทั้งยังกตัญญูต่อบิดามารดาอย่างยิ่ง เจ้าจึงมีวาสนาสูงพอที่จะได้บังเกิดเป็นเซียน แต่เจ้าจะเลื่อนระดับเป็นเซียนขั้นสูงต่อไปได้เพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับความประพฤติของเจ้ายามที่ใช้ร่างนางเซียนนี้”

“หากเจ้าประพฤติดี ประพฤติชอบ อย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมั่นฝึกฝนเพิ่มพูนปราณเซียน การเลื่อนระดับขั้นเซียนของเจ้าก็ย่อมทำได้ง่ายดาย”

ฮุ่ยหลันทำตาปริบๆ

“เอ่อ...แล้วเป็นนางเซียนต้องทำอะไรมั่งคะ”

“เจ้าก็ใช้ชีวิตตามปกติเช่นยามที่เจ้าเป็นมนุษย์นั่นแหละ”

“เอ่อ...แต่ตอนที่หนูยังมีชีวิตอยู่ หนูเป็นสตรีมเมอร์นะคะ”

“สตรีมเมอร์คืออะไร” คราวนี้คุณตาพระเจ้าต้องถามออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพระเจ้าผู้สร้างแต่รายละเอียดเล็กน้อยเช่นนี้ที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เขาย่อมไม่ทราบ

“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยนะคะ หนูชื่อ ‘ฮุ่ยหลัน’ อายุ 34 ปี เป็นสตรีมเมอร์ (Streamer) เกมออนไลน์แบบ MMORPG มา 10 ปีแล้วค่ะ หนูผลิตสื่อต่างๆ ให้คนดูเป็นจำนวนมากแล้วมีผู้ติดตามจำนวนมาก ช่องสตรีมเมอร์ของหนูมีคนติดตามห้าล้านคนค่ะ ส่วนเกมคือ...อย่างคุณตาเนี่ย หนูเดาว่าคงชอบเล่นหมากล้อม ในโลกมนุษย์ที่หนูอยู่ก็มีคนเล่น แต่เราเรียกว่าเกมหมากล้อม พูดง่ายๆ ก็คือ หนูเล่นเกมให้คนจำนวนมากดู พวกเขาก็ได้ Trick ต่างๆ ในการเล่นเกมจากการดูหนูเล่น แล้วหนูก็มีรายได้จากการที่มีคนดูหนูเล่นเกม ประมาณนี้ค่ะ” ฮุ่ยหลันพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุด

พระเจ้ามองฮุ่ยหลันอย่างนึกทึ่ง

“แปลกดี” คุณตาหลุดปากออกมา

“ข้าชื่อ ตว๋อเทียน” คุณตาพระเจ้าแนะนำตัวเองบ้าง

“เจ้าก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนอย่างตอนเป็นมนุษย์ แต่เมื่อเจ้าเป็นเซียน เจ้าก็ต้องมีภาระหน้าที่ ข้าจะอธิบายระดับขั้นของเซียนให้เจ้าฟัง”

“ระดับขั้นเซียนมีทั้งหมดห้าขั้น ได้แก่ กุ่ยเซียน เหรินเซียน ตี้เซียน เสินเซียน และเทียนเซียน ระดับขั้นเซียนนี้จะเกี่ยวกับระดับปราณเซียนที่เจ้าต้องฝึกฝนและบำเพ็ญตน”

“ระดับปราณจะมีทั้งหมดสิบเก้าขั้น แต่ละขั้นมีสิบขั้นย่อย แบ่งแยกตามระดับขั้นเซียน นั่นคือ กุ่ยเซียน ประกอบด้วยลมปราณในระดับสร้างลำต้น แตกหน่อ ผลิดอก รวมปราณ”

“เหรินเซียน ประกอบด้วยพิชิต มองทะลุ นักพรต พ้นบาป”

“ตี้เซียน ประกอบด้วย ขึ้นสวรรค์ แปลงเซียน และเซียนกนก”

“กุ่ยเซียนและเหรินเซียนคือปราณในขอบเขตมนุษย์ ตี้เซียนคือปราณในขอบเขตครึ่งเทพ”

“ขอบเขตแห่งเทพแบ่งลำดับเพียงสองคือเสินเซียนและเทียนเซียน เสินเซียนประกอบด้วย เซียนเมธี เซียนปฐพี และเซียนนภา”

“เทียนเซียนประกอบด้วย เจ้าเซียน จอมเซียน ราชาเซียน จักรพรรดิเซียน และเทพเทวา”

“ระดับปราณยังมีขอบเขตอีกขั้นคือขอบเขตสุญญตา นี่เป็นขอบเขตในระดับเทพผู้สร้างโลกเช่นข้า ยามนี้ยังไม่มีผู้ใดฝึกฝนได้ถึงขอบเขตนี้ ขอบเขตสุญญตาประกอบด้วย วิถีเริ่มต้น วิถีควบคุม วิถีเผาจิต วิถีจิตเทพ วิถีสวรรค์ วิถีสูงสุด วิถีวัฏจักร มหายาน และสุดท้ายคือสุญญตา แต่ละขั้นของขอบเขตสุญญตาย่อมมีสิบขั้นย่อยเช่นกัน”

“เข้าใจแล้วค่ะ แล้วภาระหน้าที่ของหนูคืออะไรคะ”

“กำจัดมาร”

“หยุดก่อนเลยค่ะ ขอถามเหตุผลก่อนว่าทำไมต้องกำจัดมาร”

“เพราะมันเป็นมาร”

“เหตุผลแค่นี้เหรอคะ”

“ใช่ แค่นี้”

“ถ้าเหตุผลแค่นี้ หนูขอปฏิเสธค่ะ หนูไม่กำจัดมาร และจะช่วยมารด้วย”

“นังหนู !” คุณตาพระเจ้าลงเสียงหนักทันที

“ทำไมล่ะคะ ก็หนูถามแล้วนี่ว่าทำไมต้องกำจัดมาร คุณตาก็บอกเองว่าเพราะเป็นมาร ถ้าเหตุผลมีแค่นี้ หนูว่าไม่ยุติธรรม แค่คนๆ นี้เป็นมารก็ต้องกำจัดทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ถ้าอย่างนั้น สมมติว่าคุณตาเป็นมาร หนูก็ควรกำจัดคุณตาเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย ถูกมั้ยคะ”

“แล้วถ้าหากว่ามารสังหารมนุษย์ ฆ่าเทพเซียนล่ะ”

“นั่นก็ต้องดูก่อนค่ะว่าเขาทำแบบนั้นทำไม หนูเชื่อว่าทุกการกระทำมีเหตุผลในตัวของมัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลงี่เง่าแค่ไหนก็ตาม หากเขาถูกบีบคั้นจนไม่มีทางเลือกทำให้ต้องลงมือสังหารด้วยความจำเป็น โทษที่เขาควรได้รับก็ต้องพิจารณาไปตามเหตุแห่งการกระทำ ไม่ใช่ตัดสินบนสิ่งที่เขากระทำแต่เพียงอย่างเดียว”

“แต่หากเขาลงมือสังหารโดยไร้เหตุผล กระทำไปเพียงเพราะความพอใจ แบบนี้ถ้าจะต้องกำจัดมารก็ถูกต้องค่ะ”

“แต่ถ้าเจ้าคิดและกระทำเช่นนี้ เหล่าเทพเซียนทั้งหลายย่อมไม่พอใจ หาว่าเจ้าเข้าข้างมารและจะกล่าวหาว่าเจ้าเป็นมารไปด้วยนะ” คุณตาพระเจ้ากล่าวเตือน

“แล้วไงคะ หนูต้องแคร์? ถ้าเป็นเทพเซียนแล้วไม่พิจารณาเหตุและผลให้ถูกต้อง เช่นนั้นก็ไม่ควรเรียกว่าเทพเซียนแล้วค่ะ ควรเรียกว่ามารต่างหาก ความเห็นของคนหมู่มากใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไปนะคะ”

“ถ้าคุณตายังยืนยันว่านางเซียนคนนั้นต้องกำจัดมาร อย่างงั้นหนูก็ไม่ไปเกิดเป็นนางเซียนนั่นหรอกค่ะ ถ้าต้องไปเกิดเป็นนางเซียนงี่เง่าขนาดนั้น หนูไปเกิดเป็นมารซะเลยดีกว่า ไหนๆ ก็หาว่ามารชั่วแล้ว หนูก็จะไปป่วนสวรรค์ซะให้เข็ด เอาให้สวรรค์ระเบิดกันไปเลย ช่วยเข้าใจให้ตรงกันนะคะ”

“ดี เจ้าตอบได้ดี เจ้าไปเกิดเป็นนางเซียนผู้นั้นเถิด ไม่ต้องกังวลกับเรื่องกำจัดมาร เมื่อถึงเวลา เจ้าก็พิจารณาด้วยเหตุและผลอันแท้จริงให้ดี”

***ฉินกวงหวาง คือเทพผู้มีหน้าที่ตรวจสอบบาปบุญคุณโทษที่ทุกคนได้กระทำมาทั้งหมด โดยจะใช้ “กระจกส่องกรรม” เป็นอาวุธวิเศษส่องดูความดีความชั่วของดวงวิญญาณว่าตอนมีชีวิตทำกรรมไว้มากแค่ไหน ถ้าไม่ทำกรรมชั่วเลย (ทั้งชีวิตทำแต่ความดี) ก็จะได้รับการปล่อยตัวให้เดินข้ามสะพานทองคำไปสู่สวรรค์ทางตะวันตกที่มีแต่ความสุข ถ้าทำกรรมชั่วน้อยก็เดินข้ามสะพานเงินไปสู่สวรรค์ทางทิศใต้ พอบุญหมดก็จะต้องกลับมารับโทษเบาแล้วได้ไปเกิดใหม่ และถ้าใครทำสิ่งที่ไม่ดีไว้เยอะ ก็ต้องถูกส่งไปยังนรกอีก 9 ขุมต่อไป

MMO ย่อมาจาก Massive Multiplayer Online ซึ่งจะแปลได้ตรงตัวว่า ออนไลน์รวมกันเป็นจำนวนมาก นั่นคือเกมประเภทเกมออนไลน์ต่างๆ ที่เอาทุกคนมารวมตัวกัน เหมือนการสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นมา โดยมีผู้เล่นสวมบทเป็นหนึ่งในโลกเสมือนจริงนั้นๆ ขึ้นอยู่กับรูปแบบเกมที่ผู้พัฒนาเกมต้องการ

Role Playing Game หมายถึงเกมประเภทหนึ่งที่ผู้เล่นรับบทเป็นตัวละครหนึ่งในเกม โดยเล่นตามกฎกติกาของเกมผ่านการป้อนคำสั่งและเลือกเงื่อนไขที่เกมกำหนดมา โดยผลลัพธ์ที่เกิดจะแตกต่างกัน ตามเงื่อนไขที่เลือก

เมื่อเอาคำสองคำมารวมกัน จะได้ชื่อเต็มก็คือ MMORPG ย่อมาจาก Massive Multiplayer Online Role-Playing Game ก็จะแปลให้ได้ความหมายที่เข้าใจง่ายก็คือ เกมส์ออนไลน์ที่เล่นตามท้องเรื่อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel