บท
ตั้งค่า

บทที่ 26 พบหน้าครั้งแรก (2/3)

เสวี่ยหลินพยักหน้ารับรู้ แต่ในใจกลับนึกตงิดๆ แปลกๆ

ข้าเตรียมเผื่อมหาเทพหยางหลงไว้ด้วยดีกว่า หากไม่มาก็แล้วไป แต่ถ้าดันมาแล้วไม่มีของเตรียมไว้ งานนี้ร้านชาข้าได้เสียชื่อแน่ เสวี่ยหลินคิดเผื่อไว้ล่วงหน้า

“พี่ชาย ข้าขอรายชื่อแขกทั้งหมดที่ได้รับเชิญด้วยเจ้าค่ะ เพราะข้าจะได้จัดเตรียมได้ถูกต้อง และอีกสิบห้าวันข้างหน้า ข้าจะไปดูสถานที่จัดงาน ท่านช่วยทูลเทียนจวินให้ด้วยว่าข้าจะเตรียมสถานที่ให้ด้วย เพราะข้าจะยกร้านชาจิ้งจอกน้อยไปเปิดที่อุทยานบุปผามังกร”

“พ่ะย่ะค่ะ” เซียนรับใช้ผู้นั้นรับคำอย่างตื่นเต้น คาดไม่ถึงว่าเสวี่ยหลินจะถึงกับยกร้านชาจิ้งจอกน้อยไปเปิดที่อุทยานบุปผามังกรเป็นการชั่วคราว งานนี้ลาภปากเซียนรับใช้และนางกำนัลทุกคนของเทียนจวินแน่นอน

เสวี่ยหลินให้คนไปบอกข่าวกับจิ้นเหอเพื่อให้เขาเตรียมตัวเมื่อนางจะไปวังมังกรนภาของหยางเจี้ยนเทียนจวินเป็นครั้งแรก

ผ่านไปอีกสิบห้าวัน ราชาเสวี่ยหมิงจึงพาเสวี่ยหลินและเทพจิ้นเหอมาเฝ้าหยางเจี้ยนเทียนจวิน หยางเจี้ยนให้เสวี่ยหลินดูพื้นที่จัดงานในอุทยานบุปผามังกรตามสบาย นางจึงมาพร้อมกับเทพจิ้นเหอและหั่วเย่เซียนกวนที่เป็นเซียนรับใช้คนสนิทของเทียนจวิน

หั่วเย่บอกให้เสวี่ยหลินทราบว่าพื้นที่ในอุทยานบุปผามังกรส่วนใดที่จะใช้จัดงานเลี้ยงยามบ่าย เสวี่ยหลินและเทพจิ้นเหอเหาะขึ้นเหนือพื้นที่อุทยานเพื่อดูอาณาบริเวณให้ชัดตาก่อนจะเหินร่อนลงมาเพื่อเดินดูให้ละเอียดชัดเจน

เสวี่ยหลินถามหั่วเย่ถึงความสัมพันธ์ของแขกทั้งสามร้อยคนและครอบครัวของเทียนจวิน เพื่อจะได้ทราบว่าควรจัดที่นั่งอย่างไร ทำให้หั่วเย่แปลกใจแต่ก็ตอบไปตามที่นางถามจนครบถ้วน

เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนตามต้องการแล้ว เสวี่ยหลินจึงกลับมาพบบิดาของนางที่นั่งคุยอยู่กับเทียนจวิน ก่อนจะทูลลาจากไป

เสวี่ยหมิงและเสวี่ยหลินมาที่หุบเขาบูรพานิรันดร์เพื่อมาพบเสวี่ยซาน

“ซานเอ๋อร์ เจ้าพาพ่อกับน้องไปดูที่พักของเจ้าหน่อยสิ หลินเอ๋อร์อยากมาดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง อีกสี่พันปีข้างหน้า นางก็จะต้องมาศึกษาที่นี่แล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ” เสวี่ยซานรับคำอย่างแปลกใจ ร้อยวันพันปี เสด็จพ่อของเขาไม่เคยขอมาดูที่พักของเขาในหุบเขาบูรพานิรันดร์ ครั้งนี้กลับมาขอดูเสียได้

“จิ้นเหอ เจ้ารออยู่ที่นี่” เสวี่ยหมิงหันไปสั่งเทพจิ้นเหอที่มาด้วยกัน

“พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเข้ามาในห้องพักของเสวี่ยซานแล้ว เสวี่ยหมิงแผ่ปราณจิ้งจอกออกตรวจสอบทันทีว่ามีผู้อื่นแอบซ่อนอยู่ในห้องพักหรือไม่ เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีผู้อื่น เสวี่ยหมิงจึงวาดมือสร้างม่านปราการครอบคลุมห้องพักนี้ทันที ก่อนจะหยิบกล่องหยกหนึ่งออกมายื่นส่งให้เสวี่ยซาน

“เจ้าหลอมรวมกับจตุธาตุอัญมณีเสีย”

คำ ‘จตุธาตุอัญมณี’ ทำให้เสวี่ยซานตกตะลึง หากยังไม่ทันเอ่ยอะไรต่อ

“พี่ใหญ่หลอมรวมเสียก่อน เรื่องอื่นเดี๋ยวข้ากับเสด็จพ่อจะเล่าให้ฟัง”

ใช้เวลาราวหนึ่งเค่อ เสวี่ยซานก็หลอมรวมกับจตุธาตุอัญมณีเรียบร้อย เสวี่ยหลินจึงเล่าให้พี่ชายของนางฟังว่านางได้จตุธาตุอัญมณีมาอย่างไร เสวี่ยซานตะลึงงันไปกับเรื่องราวที่ได้ยิน

“ตอนนี้น้องมาอยู่ที่นี่แล้ว พี่ใหญ่ท่านอยู่เฉยๆ สักครู่ ให้ข้าได้ดูท่านสักหน่อย” เสวี่ยหลินบอกกล่าว เสวี่ยซานแม้งุนงงกับคำขอของน้องสาว หากก็ยอมอยู่เฉยแต่โดยดี

เสวี่ยหลินจับจ้องมองค่าสถานะของพี่ชาย จึงได้พบว่าค่าสถานะของเขาล้วนแต่มาจากการหมั่นฝึกฝนทั้งสิ้น ทั้งตัวมีเพียงอาวุธคู่กายคือ กระบี่ใจเหมันต์ ที่ทำให้เขาใช้วารีธาตุได้ดี

เสวี่ยซานมองเห็นน้องสาวของตนเองวาดฝ่ามือขึ้น นางจับจ้องมองความว่างเปล่านั้นอยู่ชั่วครู่ก่อนจะใช้มือปาดผ่านอะไรบางอย่าง เสวี่ยหมิงนั่งรอโดยไม่เอ่ยปากใดๆ เพราะไม่ต้องการรบกวนสมาธิของเสวี่ยหลิน เขาทราบดีว่านางกำลังค้นหาของวิเศษที่เหมาะสมกับเสวี่ยซานและจะสร้างของวิเศษนั้นให้

ผ่านไปอีกราวครึ่งชั่วยาม เสวี่ยหลินจึงค้นหาของที่เหมาะสมกับพี่ชายได้จนครบ นางล้วงหยิบแร่และวัตถุดิบต่างๆ ที่ยังเหลืออยู่มากจากที่ไปเสาะหากับบิดามารดาในครั้งนั้น

“แร่และวัตถุดิบที่ข้ามีในตอนนี้ เพียงพอจะสร้างอาวุธและเกราะอ่อนให้ท่านได้เท่านั้น ไว้รอข้ามาศึกษาที่บูรพานิรันดร์ ข้าจะสร้างให้พี่ใหญ่จนครบ”

เสวี่ยหลินนำแร่และวัตถุดิบออกมาก่อนจะร่ายเวทสร้างอาวุธและเกราะอ่อนให้เสวี่ยซาน ไม่นานนักเขาก็ได้เห็นเกราะอ่อนสีเงินยวงงดงามทอประกายงดงาม และกระบี่เหมันต์ลวงตา

เสวี่ยหลินยื่นกระบี่และเกราะอ่อนให้เสวี่ยซาน พี่ชายของนางรับไปอย่างตื่นตะลึงก่อนจะแผ่ปราณออกตรวจสอบก่อนจะยิ่งมีสีหน้าแตกตื่นตะลึงลาน เพราะของวิเศษที่น้องสาวของเขาสร้างให้ดีกว่าที่เขาใช้อยู่จนเทียบไม่ติด

“น้องเล็ก เจ้าทำได้อย่างไร จึงสร้างของที่เหมาะกับพี่ได้เช่นนี้”

เสวี่ยหลินแย้มยิ้มไม่ตอบคำ

“ซานเอ๋อร์ เจ้าเก็บกระบี่และเกราะอ่อนนี้ไว้ให้ดี ของที่หลินเอ๋อร์สร้างให้ ล้วนดีเลิศ ยามเจ้าใช้ออกและมีผู้ใดถามเจ้า ก็ให้บอกไปว่าพ่อเป็นคนสร้างให้เจ้า อย่าได้บอกใครว่าเป็นฝีมือของน้องสาวเจ้าเด็ดขาด”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ผ่านไปจนกระทั่งวันรุ่งขึ้นจะเป็นวันจัดงานเลี้ยงยามบ่าย เสวี่ยหลินบอกลูกค้าทุกคนล่วงหน้าไว้ก่อนแล้วว่าจะปิดร้านสามวันคือวันนี้ วันรุ่งขึ้น และวันมะรืน เสวี่ยหลินพานางกำนัลในร้านชาจิ้งจอกน้อย เสวี่ยปิง และเทพจิ้นเหอ มาที่อุทยานบุปผามังกร ด้วยอาภรณ์อันแปลกตาของนางกำนัลประจำร้านชาจิ้งจอกน้อยจึงเรียกความสนใจของทุกคนในวังมังกรนภาได้ทันที

เสวี่ยหลินให้เทพจิ้นเหอเนรมิตร้านชาจิ้งจอกน้อยตามแบบที่นางคิดไว้ ครั้งนี้ร้านชาจิ้งจอกน้อยที่อุทยานบุปผามังกรมิได้มีลักษณะเดียวกับที่แดนพายัพ หากเป็นซุ้มขนาดใหญ่ที่หลังคาเป็นระแนงไม้และกรุไว้ด้วยเถาไม้ที่เต็มไปด้วยบุปผาดอกเล็กๆ สีขาว พื้นที่ครึ่งหนึ่งของซุ้มนี้ถูกเนรมิตให้เป็นพื้นที่สำหรับการชงชา ผนังด้านหลังของพื้นที่เป็นชั้นไม้เพียงสี่ชั้น ชั้นไม้นี้กว้างและยาวจนเต็มพื้นที่ผนัง ใกล้ๆ กันเป็นพื้นที่สำหรับเตาต้มน้ำร้อน พร้อมโถกระเบื้องขนาดใหญ่สำหรับใส่น้ำที่จะนำมาต้มและชงชา อีกครึ่งหนึ่งของซุ้มจึงเป็นตู้ขนาดใหญ่มากมาย และพื้นอีกส่วนเป็นพื้นที่ครัวสำหรับทำขนมหวานและของว่าง

“พวกเจ้าที่ทำหน้าที่ชงชา ทำขนมหวานและของว่าง เข้าไปจัดเตรียมทุกอย่างเสียให้เรียบร้อย หากมีสิ่งใดขาด ให้รีบบอก” เสวี่ยหลินหันไปสั่งนางกำนัลกลุ่มหนึ่งที่ยืนรอรับคำสั่ง

“เพคะ”

มองเห็นนางกำนัลเหล่านั้น เข้าไปจัดเตรียมข้าวของต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ ชี้ให้เห็นว่าพวกนางทุกคนล้วนถูกฝึกมาอย่างดี

ที่เหลือจึงเป็นการตกแต่งสถานที่เพื่อทำเป็นที่นั่งจิบชาและรับประทานขนมหวานและของว่าง เทพจิ้นเหอเนรมิตหลังคาระแนงไม้โปร่งต่อจากชายคาของส่วนที่ใช้ชงชาและทำขนม หลังคานี้มีเสาไม้สีขาวเรียบช่วยค้ำยันที่มุมทั้งสี่และตรงกลาง หากพริบตาต่อมา ทุกคนที่มองเห็นก็ต้องตื่นตะลึงเมื่อปรากฏพวงบุปผาสีม่วงเข้ม สีม่วงอ่อน สีชมพู และสีขาวขึ้นมาปกคลุมจนเต็ม นี่ย่อมเป็นจื่อเถิงหลัว (ดอกวิสทีเรีย) และอิงฮวา (ดอกซากุระ) เสาไม้สีขาวเรียบก็มีเถาไม้ที่มีดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ เช่นเดียวกับที่เห็นที่หลังคาของซุ้มชงชาเลื้อยพันจนปิดบังเสาไม้หมดสิ้น มุมหนึ่งของพื้นที่นี้เป็นยกพื้นสำหรับให้นักดนตรีนั่งบรรเลงดนตรี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel