บท
ตั้งค่า

บทที่ 24 ร้านชาจิ้งจอกน้อย (ปลาย) [3/3]

ยามนี้มีนางเซียนมากมายและเซียนบุรุษหลายคนอยากมาทำงานที่ร้านชาจิ้งจอกน้อย เพราะนอกจากจะได้ค่าจ้างที่ดีแล้ว ยังได้รับชาและขนมหวานทุกวันๆ ละหนึ่งชุด ทั้งยังสามารถเลือกได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้า ที่พัก และอาหารให้พร้อม รวมถึงยังได้ความรู้ในการเพาะปลูก ชงชา ทำขนมหวานติดตัวไปด้วย

เสวี่ยหลินจึงคัดเลือกคนเพิ่มได้ครบจำนวนที่นางคิดคำนวณไว้ พร้อมกับฝึกหัดให้พวกเขาทำงานให้เป็น ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ยาก การฝึกหัดจึงใช้เวลาไม่กี่วันจึงเสร็จสิ้นสมบูรณ์

ยามนี้เสวี่ยหลินจึงมีเซียนรับใช้ที่ทำหน้าที่เพาะปลูกจำนวน 25 คน นางกำนัลจำนวน 118 คน แยกเป็นทำหน้าที่ชงชาจำนวน 20 คน ทำขนมจำนวน 30 คน ให้บริการลูกค้าจำนวน 60 คน และขายขนมสำหรับนำกลับไปบ้านจำนวน 8 คน

นอกจากนี้ เสวี่ยหลินยังลงมาแดนมนุษย์ที่นางเคยอาศัยอยู่บ่อยครั้ง เพื่อหาขนมหวานและของว่างใหม่ๆ ไปลองทำและขายในร้านชาจิ้งจอกน้อย

ร้านชาจิ้งจอกน้อยของเสวี่ยหลินมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งแดนพายัพภายในเวลาสามเดือน เซียนจิ้งจอกทั้งหลายล้วนชมชอบมานั่งจิบชา ชิมขนมของว่าง และนั่งพักผ่อนที่ร้านนี้ ทำให้ร้านชาจิ้งจอกน้อยไม่เคยว่างตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน ร้านชาจะว่างเมื่อปิดร้านเท่านั้น

มีเซียนจิ้งจอกหลายคนคิดทำร้านชามาแข่งขันกับร้านชาจิ้งจอกน้อย หากพวกเขาก็ต้องจนหนทาง เพราะปัญหาคือวัตถุดิบ เสวี่ยหลินมีพื้นที่ในการเพาะปลูกวัตถุดิบอย่างเพียงพอและควบคุมคุณภาพของมันไว้ตลอด ทำให้ผู้ที่คิดจะเลียนแบบไม่สามารถกระทำได้ ทั้งการตกแต่งร้านที่งดงามแปลกตา เข้ากับธรรมชาติของพื้นที่ ก็เป็นอีกสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถเลียนแบบได้เลย และมารยาทของนางกำนัลที่คอยดูแลลูกค้าในร้านก็เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถเลียนแบบได้เช่นกัน

นางกำนัลในร้านชาจิ้งจอกน้อยทุกนาง ราวกับทราบอยู่เสมอว่าเมื่อใดจึงควรเข้าไปพบลูกค้า เมื่อใดจึงควรถอยห่างออกมา และพวกนางควรยืนอยู่ในจุดใดที่ลูกค้าสามารถมองเห็นและเรียกใช้ได้ทันทีแต่ไม่เกะกะรำคาญตา พวกนางยังให้บริการด้วยท่าทีสุภาพนุ่มนวล มารยาทเช่นนี้ยากยิ่งที่จะสามารถฝึกหัดให้เลียนแบบกันได้ พวกเขาต่างสงสัยว่าเสวี่ยหลินฝึกฝนอย่างไรจึงสามารถฝึกให้นางกำนัลทุกนางในร้านสามารถกระทำได้เช่นนี้

แม้จะมีร้านชาหลายร้านเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ห่างไกลจากนครพายัพอันเป็นนครหลวงของแดนพายัพ แต่ไม่มีร้านใดเลยที่จะมีเอกลักษณ์เท่าร้านชาจิ้งจอกน้อย หากเซียนจิ้งจอกคนใดไปถึงนครพายัพและซื้อขนมหวานจากร้านชาจิ้งจอกน้อยมาเป็นของฝาก ผู้ที่ได้รับต่างปลาบปลื้มยินดีกันถ้วนหน้า เพราะเมื่อพูดถึงชาชั้นเลิศ ขนมชั้นเยี่ยม บรรยากาศในร้านที่สบายและผ่อนคลาย มีเพียงร้านชาจิ้งจอกน้อยเท่านั้น

เซียนจิ้งจอกหลายคนถึงกับตั้งปณิธานว่าหากมีโอกาสมาเยือนนครพายัพ จะต้องแวะชิมชาและขนมที่ร้านชาจิ้งจอกน้อยให้ได้ เพราะหากไม่มาร้านชาจิ้งจอกน้อย เท่ากับยังมาไม่ถึงนครพายัพ

ผ่านไปอีกหนึ่งพันปี ชื่อเสียงของร้านชาจิ้งจอกน้อยจึงเข้าไปถึงแดนประจิมของเผ่าเสือขาว เพราะไป๋เฮ่อ ราชาเสือขาวแห่งเผ่าเสือขาว สหายของราชาเสวี่ยหมิงมาเยี่ยมเยือน ด้วยความอยากอวดผลงานของลูกสาวสุดที่รัก ราชาเสวี่ยหมิงจึงพาราชาไป๋เฮ่อมาที่ร้านชาจิ้งจอกน้อย

แรกที่เห็นร้านชานี้ ไป๋เฮ่อต้องมองอย่างแปลกใจ เพราะร้านชาจิ้งจอกน้อยตกแต่งอย่างแปลกตาแต่ก็งดงามเข้ากับธรรมชาติรอบด้านอย่างยิ่ง เสวี่ยหลินที่ทราบก่อนแล้วว่าวันนี้บิดาจะพาราชาไป๋เฮ่อมาเยือนจึงออกมาต้อนรับด้วยตนเอง

“เชิญเสด็จพ่อและเสด็จอามาด้านนี้เพคะ ลูกจัดเตรียมทุกสิ่งไว้ให้แล้ว”

เมื่อเข้าไปในร้าน ไป๋เฮ่อจึงได้เห็นว่าร้านนี้ตกแต่งด้วยดอกไม้และพืชพรรณต่างๆ อย่างงดงาม กลิ่นชาอ่อนๆ หอมกรุ่นแตะจมูกจนเขาต้องสูดลมหายใจเพื่อดมกลิ่นให้ชื่นใจ มองเห็นเซียนจิ้งจอกหลายคนนั่งสนทนากันด้วยท่าทีสบายๆ คล้ายมาพักผ่อน เมื่อมองเลยไปก็เห็นชั้นขนาดใหญ่ที่จัดวางขนมสีสวยหน้าตาแปลกไว้มากมาย มีเหล่าเทพเซียนเข้าไปชี้ว่าต้องการอะไร จำนวนเท่าใด กันไม่ขาดสาย หูยังแว่วเสียงเพลงเบาๆ อันไพเราะที่ฟังแล้วผ่อนคลายอย่างยิ่ง

เดินตามเสวี่ยหลินไปไม่นาน ก็มาถึงซุ้มต้นไม้และดอกไม้ที่จัดวางโต๊ะและเก้าอี้ไว้ เก้าอี้นั้นกว้างและหุ้มไว้ด้วยผ้านุ่มหนาให้เอนอิงพักผ่อนสบายๆ

“เสด็จอาไป๋เฮ่อเพิ่งมาที่ร้านชาของหลานเป็นครั้งแรก หลานจึงเสนอชาและขนมหวานนี้ให้เจ้าค่ะ” เสวี่ยหลินบอกกล่าวก่อนจะหยิบของจากในถาดที่นางกำนัลผู้หนึ่งนำมาให้

“Haute Couture Tea Set จะมี White House Tea ซึ่งเป็นชาขาวผสมผลไม้และกลีบกุหลาบ ให้กลิ่นหอมและมีรสชาติของผลเบอร์รี่”

“ส่วนขนมหวานในชั้นเหล่านี้นั้น ชั้นบนสุดจะเป็นขนมหวานที่เป็นสัญลักษณ์ของร้าน ประกอบด้วย พานาคอตต้า มาการอง คุกกี้รูปผีเสื้อ คุกกี้รูปดอกไม้ และสปันจ์เค้กชารูปหัวใจ”

“ชั้นที่สองจะเป็นของว่าง ประกอบด้วยปลาทูน่าและแซลมอนห่อด้วยแตงกวาและหอมแดงดอง แซนด์วิชสามชั้นไส้แซลมอนรมควัน หัวไชเท้าแดงและไข่ ปิดท้ายด้วยไข่นกกระทาบนขนมปังครอสตินี่ มาพร้อมกับครีมเปรี้ยว ส่วนชั้นล่างจะเป็นของว่างพิเศษ ซึ่งในของว่างแต่ละชนิดก็จะมีส่วนผสมของชาชั้นเลิศของเราผสมอยู่ด้วย”

“ชุดที่สองจะเป็น Lobster Timbale เป็นกุ้งล็อบสเตอร์หั่นเป็นชิ้นๆ ปรุงแบบสุกกำลังดี เนื้อหวาน คลุกเคล้ากับซอสสูตรพิเศษรสเข้มข้น กุ้งนี้จะอยู่ในกระทงทอดกรอบทำจากชีสพาร์เมซาน วางอยู่บนอะโวคาโดทิมเบล ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยซอสซึ่งมีส่วนผสมของ Love Me Tea ทำให้รู้สึกสดชื่น”

“ชุดที่สามเป็น Afternoon Tea Set ชั้นด้านบนจะประกอบด้วยมาการอง พานาคอตต้า ส่วนด้านล่างจะเป็นครัวซองต์แซลมอนรมควัน ที่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของ Russian Earl Grey และโรลล์ไส้กรอกไก่”

“สุดท้ายจะเป็นชาที่สามารถเลือกได้สามรสชาติ ได้แก่ Strawberry Silver moon, Vanilla bourbon Banana and Honey และ Blackberry Crumble แต่หลานนำมาให้เสด็จอาและเสด็จพ่อทั้งสามรสชาติเลยเพคะ”

ฟังแล้วไป๋เฮ่อต้องงุนงง ชื่อชาและขนมหวานช่างแปลกหูเหลือเกิน แต่กลิ่นชา ของว่าง และขนมหวานที่วางตรงหน้าก็ชวนให้อยากรับประทานเสียเหลือเกิน

“ทั้งหมดห้าร้อยตำลึงทองเพคะ เสด็จพ่อ” เสวี่ยหลินตบท้าย

ราชาเสวี่ยหมิงสะดุ้งทันที

“ห้าร้อยตำลึงทอง? ทำไมจึงแพงนักเล่า”

“เพราะลูกมาดูแลเสด็จพ่อและเสด็จอาเองไงเพคะ ก็ต้องแพงกว่าปกติ แต่เสด็จพ่อไม่ต้องห่วง รับประกันว่าได้ชิมแล้ว ท่านจะไม่เสียดายห้าร้อยตำลึงทองนี้เลย” นางบอกกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างพร้อมกับแบมือรับตำลึงทองที่เสวี่ยหมิงจำใจควักออกมา

“รับประทานให้อร่อยนะเพคะ” เสวี่ยหลินบอกกล่าวก่อนจะเดินจากมาพร้อมกับหัวเราะชอบใจที่นานๆ จะได้ขูดรีดบิดาสุดที่รักสักที

เมื่อเสวี่ยหมิงและไป๋เฮ่อได้ชิม พวกเขาก็ต้องทอดถอนใจ จริงอย่างที่เสวี่ยหลินบอกกล่าว เพียงชาคำแรกที่จิบเข้าไป พวกเขาต้องเคลิบเคลิ้มและผ่อนคลายลงทันที ยิ่งเมื่อได้ชิมของว่างและขนมหวานตรงหน้า รสชาติที่ลงตัวเข้ากับชาอย่างที่สุด กล่าวได้ว่าคุณภาพเกินห้าร้อยลตำลึงทองไปมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel