บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 จตุธาตุอัญมณี (2/3)

ส่วนวารี อัคคี วายุ และสายฟ้านั้น จากตำราทั้งหมดที่นางศึกษามาอย่างละเอียด นางต้องครอบครองอัญมณีธาตุ แต่อัญมณีธาตุที่เทียบเคียงกับอัญมณีต้นกำเนิดธาตุทั้งสี่คือ จตุธาตอัญมณี ซึ่งกล่าวได้ว่าหายากอย่างที่สุด หากผู้ใดได้ครอบครองจตุธาตุอัญมณี กล่าวได้ว่าเทพเซียนผู้นั้นจะเป็นเจ้าแห่งธาตุ และยามนี้ผู้ที่ครอบครองและหลอมรวมกับจตุธาตอัญมณีได้สำเร็จคือ มหาเทพหยางหลง เพียงผู้เดียว

มิน่า มหาเทพถึงสร้างกำไลหยกขาวกับกำไลหยกแดงได้ง่ายดายนัก เสวี่ยหลินรำพึงอยู่ในใจ

นางพยายามทบทวนถึงทรัพย์สมบัติในคลังที่วังพายัพ แต่ในคลังนั้นย่อมไม่มีจตุธาตุอัญมณี มีเพียงอัญมณีธาตุชั้นเลิศเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ แล้วนางจะหาจตุธาตุอัญมณีได้อย่างไร

เสวี่ยหลินเปิดหน้าต่างระบบของส่วนที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสัตว์อสูร นางเชื่อว่าจตุธาตุอัญมณีน่าจะดรอปจากบอสเท่านั้น และยังต้องเป็นบอสที่ร้ายกาจอย่างยิ่ง ทั้งอัตราดรอปก็น่าจะต่ำสุดขีด นางไล่อ่านรายละเอียดของสัตว์อสูรที่ถูกจัดว่าเป็นบอสแต่ละตัวว่ามันดรอปอะไรออกมาบ้าง บอสช่างมีมากมายนักจนนางนึกท้อ

นัยน์ตาดำหวานกวาดอ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง...

อสูรสี่ตา ดรอปจตุธาตุอัญมณี แต้มสกิลจำนวนห้าแต้ม

บุปผากินคน ดรอปโอสถเพิ่มพลังเวทระดับบรรพกาลขั้นสิบ ความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วน จำนวนสิบเม็ด

...

สายตาที่กวาดผ่านไปแล้ว พลันตวัดกลับมาอย่างนึกขึ้นได้

อสูรสี่ตา ดรอปจตุธาตุอัญมณี แต้มสกิลจำนวนห้าแต้ม

เจอแล้ว ! ! เสวี่ยหลินแทบจะโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ

นางรีบอ่านรายละเอียดของบอสตัวนี้ทันที

อสูรสี่ตา เลเวล 90 อาศัยอยู่ที่เทือกเขาครองพายัพอันเป็นเทือกเขาแบ่งเขตแดนระหว่างแดนพายัพและแดนอุดร เมื่อสังหารบอสได้ จะมีโอกาส 0.5% ดรอปจตุธาตุอัญมณี เมื่ออสูรสี่ตาถูกสังหาร จะเกิดใหม่ทุกสี่ชั่วยาม

นั่นคือ บอสตัวนี้จะเกิด 3 ตัว/วัน และที่ดรอปแน่นอนคือแต้มสกิลจำนวนห้าแต้ม ส่วนจตุธาตุอัญมณีจะดรอปหรือไม่ต้องแล้วแต่โชคของนางล่ะ ถ้าโชคดีก็ดรอป ถ้าโชคไม่ดี นางคงได้ตีบอสตัวนี้กันจนต่างฝ่ายต่างจำหน้ากันได้

ด้วยเหตุที่ไม่มีผู้ใดทราบว่าจะหาจตุธาตุอัญมณีได้อย่างไร ทั้งมันก็ยากที่จะดรอป ทำให้การได้มันมาจึงยากเย็นยิ่งนัก เสวี่ยหลินโชคดีที่นางตัดสินใจขอระบบเกมมาจากผู้เฒ่าตว๋อเทียน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ นางไม่มีวันหามันได้แน่

แต่อสูรสี่ตาเลเวล 90 ยามนี้เลเวลของนางเพียง 85 ลมปราณอยู่ในระดับขึ้นสวรรค์ขั้นที่ห้า ยามนี้นางจึงสามารถตรวจสอบค่าสถานะของผู้อื่นได้รวมทั้งบอส

เอาวะ อย่างน้อยตอนนี้เราก็สามารถเห็นค่าสถานะของบอสได้ ไปลองซัดกับมันดูก่อน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็กลับมาที่สถานศึกษา เตรียมตัวกันใหม่ ตอนนี้เราเตรียมเสบียงไปสักสามเดือนก็แล้วกัน เผื่อเราจะสู้ไหวแล้วต้องตีบอสตัวนี้นาน แล้วก็ต้องแอบออกจากสถานศึกษาด้วย ถ้าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ทราบล่ะก็ ไม่มีทางให้เราไปที่เทือกเขาครองพายัพเด็ดขาด เสวี่ยหลินวางแผนไว้ในใจ

เสวี่ยหลินเปิดหน้าจอที่แผนที่ของแดนเซียนขึ้นมาก่อนจะมองหาเทือกเขาครองพายัพและทำเครื่องหมายกากบาทสีแดงไว้ เป็นสัญลักษณ์ให้มันนำทางนางไปยังที่นั่นเมื่อถึงกำหนดที่นางออกเดินทาง

เสวี่ยหลินทำทีเป็นยืมตำราเล่มหนาๆ ออกมา 4 เล่มก่อนจะบอกกล่าวอาจารย์บรรณารักษ์ว่า

“ศิษย์จะไปอ่านที่เรือนพักสักสามเดือนเจ้าค่ะ นั่งอ่านตำราที่นี่มาก็ปีกว่าแล้ว เลยเกรงกว่าตนเองจะเบื่อเสียก่อน” นางบอกกล่าวเพื่อมิให้อาจารย์บรรณารักษ์สงสัยว่าไฉนนางจึงไม่มาอ่านหนังสือเช่นเคย

อาจารย์บรรณารักษ์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาเองก็เห็นนางมาอ่านหนังสือได้ปีกว่าแล้วจริงๆ

วันรุ่งขึ้นตอนใกล้รุ่งสาง เสวี่ยหลินแปลงกายเป็นจิ้งจอกห้าหาง หากอยู่ในรูปลักษณ์ของจิ้งจอกขาว นั่นเพราะสร้อยมายาจิ้งจอกได้อำพรางและปกปิดลักษณะแท้จริงของนางไว้ นางมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนืออันเป็นที่ตั้งของเทือกเขาครองพายัพ

เป็นครั้งแรกที่เสวี่ยหลินได้ออกมาห่างไกลวังพายัพและออกมาเพียงผู้เดียว แต่เวลานี้นางไม่มีกะจิตกะใจจะชมทิวทัศน์รอบด้าน เพราะนางจดจ่อแต่เพียงเทือกเขาครองพายัพเท่านั้น เข็มทิศที่ปรากฏให้นางเห็นเพียงผู้เดียวกำลังนำทางนางไปยังเทือกเขาแห่งนั้น

ด้วยการเร่งเดินทาง นางจึงมาถึงเทือกเขาครองพายัพในตอนเย็นของวันนั้น กวาดตามองในแผนที่อีกครั้งหนึ่ง ก็มองเห็นจุดกะพริบสีแดง เป็นสัญลักษณ์ว่าบอสของแผนที่นี้อยู่ที่จุดนั้น จิ้งจอกขาวตัวน้อยพุ่งทะยานไปยังทิศทางนั้นทันที ใช้เวลาอีกราวสองเค่อจึงมาถึงที่ราบขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง รอบที่ราบแห่งนี้เต็มไปด้วยโขดหินและก้อนหินใหญ่น้อยสีเทามากมาย

บอสอยู่ไหนล่ะ ออกมาหน่อยสิ ขอดูค่าสถานะหน่อย

เสวี่ยหลินนึกในใจ นางอยากเห็นค่าสถานะของมันเสียก่อนจะได้เตรียมตัวถูก

แม้แสงสีแดงที่กะพริบวาบในแผนที่จะบ่งบอกชัดเจนว่าบอสอยู่ในที่ราบแห่งนี้ หากเสวี่ยหลินมองหาเท่าใดก็หาไม่เจอ

บอสเวรเอ๊ย หน้าตาก็ไม่ได้หล่อ ยังเล่นตัวไม่ยอมโผล่ออกมาอีก เสวี่ยหลินนึกในใจอย่างหงุดหงิดเมื่อรออยู่ถึงครึ่งเค่อแล้วก็ยังไม่เห็นตัวมัน ทั้งๆ ที่สัญลักษณ์ของบอสก็ยังกะพริบอยู่ในแผนที่บริเวณที่นางอยู่

นางหงุดหงิดเสียจนกระทืบเท้าอย่างแรงไปสองที แต่แล้วร่างจิ้งจอกขาวห้าหางของนางก็แทบร่วง นางต้องรีบพุ่งทะยานไปยังอีกด้านหนึ่งทันทีจึงได้พบว่าก้อนหินที่นางนั่งรออสูรสี่ตานั้น แท้จริงแล้วก็คือตัวมันนั่นเอง เสวี่ยหลินถอนหายใจอย่างหนาวเหน็บ ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะมีสีสันเหมือนกับก้อนหินขนาดนี้

อสูรสี่ตาที่ขยับเขยื้อนครั้งนี้ เสวี่ยหลินได้เห็นอย่างเต็มตาจนต้องเบิ่งตากว้างอย่างตกตะลึงว่ามันมีลักษณะเหมือน...เอ่อ...ไดโนเสาร์ !

ใช่ ไดโนเสาร์ ! แถมยังเป็นพันธุ์ที่นางเคยเห็นในภาพยนตร์เรื่อง Jurassic Park ภาคแรกเสียด้วย

ไทแรนโนซอรัส เรกซ์ (Tyrannosaurus rex) หรือเรียกอย่างย่อว่า ที. เรกซ์ (T. rex) !

เสวี่ยหลินต้องกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ เพราะในระบบเกมนั้นมันไม่ได้แสดงรูปร่างหน้าตาของบอสตัวใดเอาไว้เลย นางเลยไม่คาดว่าอสูรสี่ตาคือ ไอ้ตัวโหดนี้

T. rex เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ เดินสองขา มีกะโหลกศีรษะที่ใหญ่ และเพื่อสร้างความสมดุลมันจึงมีหางที่มีน้ำหนักมาก มีขาหลังที่ใหญ่และทรงพลัง แต่กลับมีขาหน้าขนาดเล็ก มีสองกรงเล็บ ดูจากรูปร่างของมันตอนนี้ มันยาวราว 5 จั้ง (1 จั้ง = 2.5 เมตร) สูงราว 2 จั้ง

เสวี่ยหลินหลบไปอยู่หลังหินใหญ่ก้อนหนึ่งก่อนจะเพ่งมองอสูรสี่ตาตรงหน้า ยามนี้นางมองเห็นค่าสถานะของมันแล้ว

PATK 23,587

Max HP 873,642

DEF 8,369

MDEF 3,624

CC Resistance 30%

Damage Reflection 10% เมื่อ Max HP ลดลงครั้งละ 10%

เห็นสถานะนี้ เสวี่ยหลินก็ตัดสินใจได้ทันทีว่านางสามารถจัดการอสูรสี่ตาได้ ประการแรกคือมันแพ้ทางสายเวทเช่นนาง MDEF มีเพียง 3,624 และนางมีสกิลทลายเกราะที่สามารถลดการป้องกันและ CC Resistance ของมันได้จนไม่เหลือ

ประการที่สองคือ สกิลของนางทุกสกิลมี CC นี่ถือเป็นข้อได้เปรียบเพราะจะทำให้นางโจมตีมันได้แต่เพียงฝ่ายเดียว และประการที่สามคือ การสะท้อนความเสียหายของมันนั้น ทำร้ายนางไม่ได้เพราะนางมีสกิลเกราะทองคำ

ดังนั้น นางต้องคอยใช้สกิลทลายเกราะ แหลมคม และเกราะทองคำไว้เรื่อยๆ จากนั้น จากนั้นจึงโจมตีมันด้วยห้วงนิทราและเคลิ้มฝัน เมื่อเลือดของมันเหลือต่ำกว่า 10% นางจึงค่อยใช้อาณาจักรแห่งฝันเพื่อปิดฉาก เท่านี้นางก็สามารถเอาชนะมันได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel