บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 : รับตัวเจ้าสาว

หน้าจวนของท่านเจ้ากรมการคลังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ชาวเมืองต่างให้ความสนอกสนใจกับพิธีมงคลสมรสในครั้งนี้มาก เนื่องจากเป็นการแต่งภรรยาของท่านเสนาบดีกรมยุติธรรมแห่งสำนักผู้ตรวจการ เจียงจื่อหยางกับคุณหนูเพียงคนเดียวของสกุลหวัง หวังลี่จวิน

เจียงจื่อหยางส่งขบวนเกี้ยวมารับเจ้าสาวโดยมีเจียงเฉิงผู้เป็นอากับแม่สื่อจางมาเป็นผู้ใหญ่รับตัวเจ้าสาวไป ตัวเขาไม่ได้เดินทางมารับเจ้าสาวด้วยตนเองโดยให้เหตุผลว่ามีธุระสำคัญต้องไปจัดการด่วน

สินสอดที่ตระกูลเจียงนำมาด้วยนั้นมากมายก่ายกอง พร้อมทั้งขบวนเกี้ยวรับเจ้าสาวถูกจัดอย่างเอิกเกริกจนแทบมองไม่เห็นปลายแถว ซึ่งนี่ก็ถือเป็นการให้เกียรติเจ้าสาว แม้ว่าตัวเขาจะมิได้มารับด้วยตัวเอง

“นี่เจ้าว่าคุณหนูหวังผู้นี้จะอยู่ได้นานเท่าไรกัน ข้าได้ยินมาว่าคนที่แต่งเข้าไปต่างก็อยู่กันไม่ได้ทั้งนั้น” บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ในกลุ่มของผู้มามุงดูขบวนรับเจ้าสาวเอ่ยถามขึ้นมา

สตรีที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาตอบโดยที่สายตายังคงจดจ่ออยู่กับความยิ่งใหญ่ของขบวนรับเจ้าสาวที่อยู่ตรงหน้า “ข้าว่านางน่าจะอยู่ได้นะ นางแต่งเข้าไปเป็นภรรยาเอกมิใช่อนุเสียหน่อย”

“จะเป็นภรรยาเอกหรืออนุนั้นก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับว่าท่านเสนาบดีชมชอบนางหรือไม่” บุรุษหนุ่มผู้นั้นพูดขัดขึ้นมา เขาเองก็เดาว่านางน่าจะอยู่ในจวนอ๋องเจียงได้ไม่นาน จากนั้นก็ทนความเหงาไม่ไหวหนีกลับจวนบ้านเดิมของตนเหมือนกับอนุคนอื่น ๆ เป็นแน่

“เดี๋ยวอยู่กันไปก็รักกันเองนั่นแหละ เจ้าอย่าได้ไปคิดแทนพวกเขาเลย” สตรีคนเดิมตอบกลับ ใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้

การแต่งงานน้อยคนนักจะเกิดจากความพึงใจของคนทั้งคู่ ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นคำสั่งบิดามารดาและแม่สื่อทั้งนั้น หลาย ๆ คู่ก็พบหน้ากันคราแรกในวันแต่งงานเลยเสียด้วยซ้ำ จากนั้นอยู่ ๆ กันไปก็เกิดความรักความสัมพันธ์ที่ดีกันขึ้นมาเอง

สิ่งของบางอย่างถูกขนเข้าไปในจวนท่านเจ้ากรม จากนั้นผู้นำขบวนที่มาจึงเปิดฉากพูดคุยเพื่อที่จะรับตัวเจ้าสาวกลับไป

ตัวเจ้าสาวอย่างหวังลี่จวินตื่นเต้นมากกับการได้เห็นงานแต่งงานแบบโบราณแท้ ๆ นี้เป็นครั้งแรกซึ่งไม่เคยเจอในยุคปัจจุบันมาก่อน อีกทั้งยังเป็นงานแต่งของตนเองแม้จะมิได้รักใครบุรุษผู้บุกเข้ามาในห้องของนาง ไปมาแบบไร้ร่องรอยผู้นั้น แต่ก็ยังตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก นางได้แต่ค่อย ๆ ทำตามที่แม่สื่อบอกทีละขั้นทีละตอน

หวังลี่จวินในชุดเจ้าสาวบัดนี้ใบหน้างดงามราวกับเทพเซียนถูกคลุมไว้ และนั่งรออยู่ในห้องโถงพร้อมกับบิดามารดา แต่ทว่าผู้ที่เดินเข้ามานั้นมีเพียงแต่เจียงเฉิงที่เป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและก็แม่สื่อจางที่เคยมาทำพิธีสู่ขอเท่านั้น ไร้วี่แววของเจ้าบ่าวอย่างเจียงจื่อหยาง

เดิมทีแล้วตามธรรมเนียมเจ้าบ่าวจะเป็นคนมารับเจ้าสาวด้วยตนเอง โดยจะขี่ม้านำหน้าขบวนเกี้ยวมา แต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนที่หวังลี่จวินคิดไว้

ตอนแรกนางคิดว่าจะเหมือนกับในละครทีวี หรือซีรีส์โบราณที่เคยดูในชาติที่แล้วเสียอีก แต่ก็ไม่เป็นไร คิดในแง่ดีว่าท่านเสนาบดีอาจจะมีธุระสำคัญจริง ๆ ก็เป็นได้ หากมองในแง่ร้ายสักหน่อยก็อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับนาง ซึ่งนั่นก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้เช่นกัน

เมื่อผู้ใหญ่คุยกันเสร็จแล้ว หวังลี่จวินก็คารวะเพื่อเป็นการบอกลาบิดามารดา นางในชุดเจ้าสาวสีแดงก้าวเท้าออกจากจวนขึ้นเกี้ยวไปตามฤกษ์เวลามงคลที่กำหนด ขบวนเกี้ยวรับเจ้าสาวออกเดินทางไปยังจวนเจียงอ๋องที่บุตรชายของเขาพวงตำแหน่งเสนาบดีกรมยุติธรรมด้วย เจ้าสาวที่นั่งอยู่บนเกี้ยวนั้นกลับรู้สึกใจหายเมื่อต้องจากบ้านของตนไป

ถึงแม้ว่าจะข้ามภพมาอยู่ได้เพียงไม่กี่วัน แต่ก็รู้สึกได้ว่าที่จวนแห่งนี้คือจุดเริ่มต้นและครอบครัวช่างอบอุ่นยิ่งนัก มีทั้งท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านย่า แล้วก็ยังบ่าวไพร่อีกมากมายจึงอดรู้สึกหวิว ๆ ในใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าเมื่อไปอยู่ที่จวนอ๋องเจียงแล้วนางจะสบายใจได้เท่าอยู่ที่นี่หรือไม่

‘เหตุใดสวรรค์ถึงได้ไม่เมตตาข้าบ้างนะ’

นางคิดว่าสวรรค์ให้โอกาสนางกลับมาเจอครอบครัวที่ค่อนข้างอบอุ่น ตอนแรกก็คิดว่าสวรรค์ช่างเมตตานางเสียจริง แต่ตอนนี้คล้ายดั่งสวรรค์แกล้งให้ต้องแต่งงานกับบุรุษที่มีวีรกรรมด้านมืดในเรื่องคู่ครองเสียได้

............

ขบวนเกี้ยวรับตัวเจ้าสาวเคลื่อนตัวมาถึงหน้าจวนอ๋อง หลังจากนั้นแม่สื่อจางจึงได้พาหวังลี่จวินเดินเข้าจวนไป แต่ทว่าในจวนกลับเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีใครอยู่เลย แต่นางก็มองไม่เห็นเพราะมีผ้าคลุมหน้าอยู่

นางถูกพามาที่ห้องห้องหนึ่งซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นห้องใด เนื่องจากถูกผ้าคลุมหน้าไว้ตั้งแต่ก่อนขึ้นเกี้ยวก็เลยไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ แต่ถ้าคิดตามความเป็นไปได้ห้องแห่งนี้ก็น่าจะเป็นห้องหอ

หวังลี่จวินนั่งรออยู่บนเตียงเกือบหนึ่งชั่วยามก็ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดเข้ามา นางจึงหมดความอดทนแล้วเปิดผู้คลุมหน้าสีแดงสดออกด้วยตัวเอง ก็พบว่าขณะนี้นางกำลังนั่งอยู่ในห้องหอที่ตกแต่งด้วยผ้าสีแดงเต็มไปหมด เป็นห้องที่ใหญ่พอสมควร ข้าวของเครื่องใช้ของบุรุษถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

ในใจก็คิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี จะถอดชุดเจ้าสาวออกเปลี่ยนเป็นชุดอื่นหรือว่านั่งรอจนกว่าเขาจะมา แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อไร ไม่มีแม้แต่สาวใช้หรือใครที่นางสามารถสอบถามได้เลย

“ก๊อก ก๊อก”

“ผู้ใด” มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้งท่ามกลางความเงียบ หวังลี่จวินตะโกนถามกลับไปด้วยความตกใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel