บท
ตั้งค่า

5 พี่สาว

นอกจากสตรีที่บุตรชายเอ่ยถึงแล้ว เขายังพบว่าร้านอาหารแห่งนี้กักขังสตรีเอาไว้หลายนาง สอบสวนคร่าว ๆ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ถูกหลอกมาไม่ก็ถูกลักพาตัวมาจากครอบครัว เพื่อเตรียมตัวส่งขายให้กับนายหน้าค้าประเวณี งดงามมากหน่อยก็ส่งไปเป็นอนุภรรยาของขุนนางกังฉิน

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่พบสตรีที่เว่ยเจี้ยนไคเอ่ยถึง

“ลูกไค เจ้าจำหน้านางได้จริง ๆ ใช่ไหม” ผู้เป็นบิดาถามบุตรชายอีกครั้ง

“จำได้ขอรับ นางเป็นสตรีที่งดงามมาก ๆ ข้าไม่เคยเห็นสตรีที่ไหนงดงามเท่านาง แม้กระทั่งพระสนมในวังของเสด็จปู่ก็ยังไม่งดงามเท่ากับนาง” เด็กชายพูดความจริง สนมเอกของเสด็จปู่ที่ว่างดงามยังไม่สามารถเทียบเท่ากับพี่สาวคนสวยที่ช่วยเหลือเขาในวันนี้

จะงดงามสักแค่ไหนกัน สตรีในวังล้วนแต่งดงาม ดูท่าเจ้าลูกคนนี้ออกจะพูดเกินจริงไปเสียหน่อยกระมัง คงเห็นว่านางเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำก็คิดทึกทักเอาเองว่านางงดงาม ผู้เป็นบิดาคิดในใจ

“ก็ได้ ๆ” เขาหมุนตัวกลับไปออกคำสั่งกับคนของตนให้รีบเร่งตามหาสตรีที่บุตรชายเอ่ยถึง

ตอนแรกก็ว่าจะนั่งจิบชาเฝ้ารอให้ลู่เจียงและคนของตนออกไปตามหา แต่เพราะถูกบุตรชายบังคับให้เขาเป็นผู้ร่วมตามหาด้วย คนตัวสูงจึงจำใจต้องหอบหิ้วบุตรชายออกตามหาพี่สาวที่เขาเอ่ยถึงอย่างทุลักทุเล กระทั่งไปถึงห้องสุดท้ายที่อยู่ท้ายร้านอาหาร เป็นห้องที่ดูร้างผู้คน เว่ยเจิ้งหยางจึงตัดใจว่าจะไม่เข้าไปหา

“ท่านพ่อ จะไปไหนขอรับ ห้องนั้นท่านยังไม่ได้เข้าไปเลยนะขอรับ” เด็กชายทัดทาน

“เจ้าดูสิ ที่พื้นฝุ่นหนาขนาดนี้ แต่ไม่มีรอยเท้าของใครสักคน แสดงว่าพวกนั้นคงไม่ได้เอานางมาเก็บไว้ที่นี่หรอก” เพราะไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ภายในห้อง เขาจึงไม่ได้อยากเข้าไปดู แถมยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งได้กลิ่นไม่พึงประสงค์

“ไม่ได้ขอรับ ยังไงท่านก็ต้องเข้าไปดู” เจ้าตัวน้อยงอแง “ท่านเป็นถึงเว่ยอ๋อง ทำไมถึงกลายเป็นคนไม่ละเอียดรอบคอบเช่นนี้” เขาบ่น

ผู้เป็นบิดาถอนหายใจแบบปลง ๆ

“งั้นเจ้ารออยู่ที่นี่เผื่อด้านในมีกับดัก” เขาวางเด็กชายเอาไว้ข้างนอกก่อนจะส่งสัญญาณเรียกลู่เจียงให้มาเฝ้าเอาไว้

ร่างสูงก้าวขายาว ๆ เข้าไปบริเวณหน้าห้องพบว่ามีแม่กุญแจขนาดใหญ่ผูกมัดกับโซ่เส้นใหญ่เอาไว้แน่น จึงใช้กระบี่ในมือฟันเพียงหนึ่งครั้ง ทั้งกุญแจและโซ่ก็ถูกทำลายทิ้ง

ภายในห้องเต็มไปด้วยไหหมักเครื่องปรุงสำหรับร้านอาหาร กลิ่นน้ำหมักฉุนขึ้นจมูกเดินหาอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติ จนจมูกพลันไปได้กลิ่นหอมอ่อนโยนโชยมาจากส่วนลึกสุดของห้อง

เมื่อเข้าไปไกลพบกว่ามีกลไกง่าย ๆ ทำเป็นประตูลับปิดขังเอาไว้ งั้นแสดงว่าด้านหลังกำแพงนี้จะต้องมีอะไรแอบซ่อนอยู่แน่ ๆ เขาจึงลองทำลายกลไกพวกนั้นทิ้ง เมื่อประตูลับถูกเปิดออก กองผ้าสีชมพูมอมแมมก็ปรากฏขึ้น ร่างสูงขมวดคิ้ว เขาดูให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดอันตรายใดกับตน เมื่อแน่ใจแล้วจึงเดินเข้าไปสำรวจให้แน่ใจว่ากองผ้าสีชมพูนั่นคืออะไร

ร่างเล็กแบบบางของสตรีนอนหมดสติอยู่กับพื้น เนื้อตัวของนางมอมแมมจนมองไม่ออกว่าเป็นสตรีงดงาม ดูท่าบุตรชายของเขาจะเอ่ยเกินจริงไปมาก ที่เขาเห็นเวลานี้ไม่ใกล้เคียงคำว่างามล่มเมืองเลยสักนิด

“ลูกไค นางใส่ชุดสีชมพูใช่หรือไม่” เขาตะโกนออกไปถามบุตรชาย

“ขอรับ!! ใช่ขอรับนางสวมชุดผ้าไหมสีชมพู บนตัวของนางมีกลิ่นกายหอมอ่อนโยน” เด็กชายพูดสิ่งที่ตนเองจำได้ตอนได้พบกับพี่สาวให้ผู้เป็นบิดาฟังทั้งหมด พร้อมกับวิ่งหนีลู่เจียงตามเข้าไปในห้องเก็บของ

เป็นเช่นนั้นลู่เจียงจึงวิ่งตามเข้ามาด้วยเช่นกัน

“อ๋องน้อย”

“พี่สาว!!” ทันทีที่เห็นนางนอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น เด็กชายก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง “ท่านพ่อช่วยนางด้วย”

ร่างสูงหันไปหาลู่เจียงตั้งใจให้องครักษ์ของตนมาเป็นผู้พาออกไป แต่กลับถูกอ๋องน้อยเข้ามาขวางเอาไว้ก่อน

“อย่าไปขวางลู่เจียง” ผู้เป็นบิดาปราม

“ไม่ได้ขอรับจะให้ลู่เจียงมาแตะต้องนางไม่ได้ ข้าจะเป็นผู้อุ้มนางเอง” เด็กชายทำตัวใหญ่โตถลกแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ทำท่าจะเข้าไปอุ้มสตรีที่นอนสลบ

“เจ้าอุ้มนางไม่ไหวหรอก ให้เป็นหน้าที่ของลู่เจียงเถิด” เว่ยเจิ้งหยางนึกเอ็นดูบุตรชาย

“ไม่ได้ ให้พี่ลู่เจียงใกล้นางไม่ได้ นางเป็นสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน บุรุษอื่นจะมาแตะต้องนางได้อย่างไรกัน” เขายังคงยืนขวางและดึงดันไม่ยอมให้ลู่เจียงเข้ามาใกล้พี่สาวคนงาม

“เอาเถอะ ๆ ถ้าเป็นพ่อของเจ้าอุ้มนาง จะได้หรือไม่” ผู้เป็นบิดาเสนอตัว เพราะอยากออกไปจากห้องเหม็น ๆ นี่เสียที

ผู้เป็นบุตรมองหน้าบิดา สองแขนเล็ก ๆ ยกขึ้นมากอดอก พร้อมกับทำท่าทางครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจ

“ก็ได้ขอรับข้าอนุญาตให้ท่านพ่ออุ้มนาง” เขาทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของสตรีที่นอนหลับอยู่และยินยอมให้ผู้เป็นบิดาเข้าไปอุ้มนาง “ท่านอาจารย์ไม่ใช่ว่าข้าไม่ไว้ใจท่านหรอกนะ แต่เป็นเพราะท่านมีภรรยาแล้ว เกรงว่าถ้าภรรยาท่านเห็นท่านอุ้มสตรีอื่น ฮูหยินลู่จะเข้าใจผิดได้ แต่ท่านพ่อของข้ายังไม่มีภรรยาหรืออนุสักคน ไม่ต้องกังวลว่าใครจะกล่าวหาเขา” เด็กชายหันไปบอกกับลู่เจียง เพราะไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด กลัวว่าท่านอาจารย์ของตนจะน้อยใจ

ลู่เจียงกลั้นขำแทบไม่อยู่กับท่าทางที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัยของอ๋องน้อย

“งั้นให้ข้าอุ้มท่านได้หรือไม่”

“ได้ขอรับ” เด็กชายอ้าแขนเพื่อรอให้ลู่เจียง เขาเองก็เหนื่อยมากแล้ว

“เราออกไปกันเถอะให้เว่ยอ๋องอุ้มพี่สาวแสนสวยของท่านก็แล้วกัน”

“ท่านพ่ออุ้มนางดี ๆ นะขอรับถ้านางบาดเจ็บข้าจะโทษว่าเป็นความผิดของท่าน” ผู้เป็นบุตรชายตะโกนไล่หลังในขณะที่ถูกลู่เจียงอุ้มออกไปนอกห้องเก็บของ

ได้กลับมาอยู่กันตามลำพังอีกครั้ง เว่ยเจิ้งหยางคุกเข่าก้มตัวลงไปตรวจชีพจร พบว่าเต้นเป็นปกติ นางแค่ดูอ่อนแอแต่ก็ไม่ได้ป่วยอะไรอาจจะเพราะเหนื่อยจึงสลบไป เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็จัดแจงอุ้มนางเอาไว้แนบอก ดูแลนางอย่างทะนุถนอมตามความตั้งใจของบุตรชาย และพานางออกไปจากห้องเหม็น ๆ นี่สักที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel