บท
ตั้งค่า

3 ไม่มีเงิน

เมื่อเสี่ยวเอ้อยกกะละมังกับผ้าชุบน้ำมาให้ หญิงสาวก็เปลี่ยนไปนั่งที่ฝั่งเดียวกันกับเด็กชาย นางรอให้เขากินดื่มให้เสร็จ จากนั้นก็เริ่มจัดการเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับเขา

เว่ยเจี้ยนไคเมื่อเห็นว่าพี่สาวใจดีกับตนมาก ก็เริ่มร้องไห้น้ำตาไหล แต่ก็พยายามสุดชีวิตที่จะกลั้นเอาไว้ เพราะท่านพ่อเคยบอกว่า ‘เป็นลูกผู้ชายอย่าให้สตรีเห็นน้ำตา’ เขายังจำคำนั้นได้ดี

“เจ้าเป็นอะไร เหตุใดจึงทำหน้าเช่นนั้น”

“ข้าน้อยเปล่าขอรับ” เจ้าเด็กน้อยเม้มปากให้เต็มที่เพราะเกรงว่าตัวเองจะส่งเสียงร้องไห้ออกมาแล้วรบกวนพี่สาวคนงาม

“อยากร้องไห้งั้นหรือ หากอยากร้องก็ร้องไปเถอะ ข้าไม่เห็นหรอก” นางเห็นท่าทางเช่นนี้ของเด็กชายแล้วก็นึกขัน

“ข้าเปล่าสักหน่อย ท่านพ่อบอกว่าเป็นลูกผู้ชายห้ามร้องไห้ให้ใครเห็น”

แต่กระนั้นน้ำเสียงของเว่ยเจี้ยนไคก็เต็มไปด้วยเสียงสะอื้นไปเสียแล้ว เขานั่งเงียบ ๆ ไม่ปริปากสิ่งใดต่อ เพราะเกรงว่าจะทำให้พี่สาวตรงหน้าเสียใจไปกับเขา

ฟู่ลี่อิ๋งยิ้มอย่างเอ็นดู ระหว่างนั้นก็เช็ดหน้าเช็ดตาให้เด็กน้อยอย่างใจดี

ผิวของเจ้าเด็กน้อยนวลผ่องขาวละเอียด ใบหน้าก็น่ารักน่าเอ็นดู เห็นทีที่เขาบอกว่าพลัดหลงกับครอบครัวน่าจะเป็นเรื่องจริง คนตัวเล็กกำลังคิดหาวิธีจัดการกับเด็กชายผู้นี้ นางไม่อยากทิ้งเขาไว้ตามลำพังและก็ไม่อยากพาเขากลับจวนโหว งั้นควรจะจัดการกับเด็กน้อยผู้นี้อย่างไรดี

“ข้าจะทำอย่างไรกับเจ้าดีนะ” ฟู่ลี่อิ๋งพึมพำ

“ไม่ต้องทำอะไรกับข้าน้อยเลยก็ได้ขอรับ อย่างน้อยไคไคก็ได้กินข้าวแล้ว ตอนนี้ไคไคมีแรงพอจะเดินตามหาครอบครัว พี่สาวไม่ต้องเป็นห่วง ไคไคไม่อยากรบกวนพี่สาวอีกแล้ว” เด็กน้อยเปลี่ยนสรรพนามแทนตนเองเพราะเริ่มรู้สึกไว้ใจ

“ข้าไม่ได้เป็นห่วงเจ้าเสียหน่อย อย่าสำคัญตัวเองผิดไป” ฟู่ลี่อิ๋งพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจ “เอาเถอะ เจ้าไปศาลเจ้ากับข้าก่อน แล้วจากนั้นข้าจะพาเจ้าไปส่งไว้ที่ศาลาว่าการ”

ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ เด็กน้อยก็ยิ้มร่าสิ่งที่เขาพูดออกไป ตัวเขาเองก็มิรู้จะไปตามหาครอบครัวที่ไหน ได้แต่แสร้งแสดงทำเป็นว่าตนนั้นแข็งแกร่ง

เมื่อเด็กน้อยกินอิ่ม ก็ถึงเวลาคิดเงิน ส่วนนางก็ควรจะได้ไปดูดวงเสียที มือเรียวยกมือขึ้นคลำหาถุงเงินของตัวเองแต่ก็พบว่ามันว่างเปล่า แย่แล้วถุงเงินทั้งหมดนางดันฝากเอาไว้กับเสี่ยวถิงและเสี่ยวเยว่

“ถุงเงินข้า” ใบหน้าสวยหวานของฟู่ลี่อิ๋งฉายแววเคร่งเครียด นางไม่น่าขี้เกียจและฝากถุงเงินเอาไว้กับบ่าวรับใช้พวกนั้น

เสี่ยวเอ้อ ที่ยืนอยู่รอเก็บเงินอยู่ไม่ห่างเริ่มทำเสียงฟึดฟัด

“แม่นาง ไหนละเงิน คิดจะกินฟรีหรืออย่างไร”

“เปล่าเสียหน่อย ข้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว ไม่เคยกินของผู้ใดแล้วไม่จ่ายเงิน” ฟู่ลี่อิ๋งอวดเบ่งไม่มีหยุด

“เชอะ!! เงินสักแดงยังไม่มี อย่างเจ้าน่ะเหรอเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว ใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณหนูใหญ่จวนโหวร่ำรวยขนาดไหน ใช้เงินมือเติบ ไปไหนมาสาวใช้องครักษ์เดินตามกันเป็นขบวน แล้วดูสภาพเจ้ากับเด็กสกปรกผู้นี้สิ” เสี่ยวเอ้อชี้นิ้วไปที่เด็กชาย “หากเจ้าเป็นคุณหนูจวนโหว ข้าก็เป็นเว่ยอ๋องแล้วสิ”

แต่ไหนแต่ไรมา นางเคยแต่ใช้อำนาจข่มผู้อื่นไปทั่ว ทำให้เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยพบเจอใครเสียมารยาทเช่นนี้ ฟู่ลี่อิ๋งทำตัวไม่ถูก ร่างเล็กแบบบางยืนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ได้แต่จับมือเด็กชายเอาไว้แน่น

“อย่าเสียมารยาทกับข้านะ คอยดูเถอะ หากข้ากลับไปที่จวนเมื่อไหร่ ข้าจะสั่งให้ท่านพ่อจัดการพวกเจ้า” ฟู่ลี่อิ๋งดึงตัวเด็กชายเอามาอยู่เบื้องหลังของตนเชิงปกป้อง ระหว่างนั้นก็ชี้หน้าคนไร้มารยาทด้วยโทสะและเย่อหยิ่ง นางจำหน้าพวกนั้นทีละคน ตั้งใจว่าจะเอาคืนในภายหลัง

“โธ่ ก่อนเจ้าจะวิ่งโร่ไปฟ้องบิดา จัดการเรื่องจ่ายค่าอาหารให้ได้ก่อน หากไม่จ่ายก็อย่าคิดหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่” เสี่ยวเอ้อลูบปากบีบมือ ก่อนจะคิดอะไรดี ๆ ได้ “แต่เจ้าก็งดงามใช่เล่น นานทีข้าจะได้เห็นสาวงามเช่นนี้ จับไปขายหอนางโลมเสียดีกว่า คงจะได้ราคาไม่น้อย”

พูดจบคนของร้านอาหารก็ปรี่เข้ามาจับตัวนางเอาไว้ โดยที่คนทั้งร้านทำแค่เพียงยืนมอง ทำเหมือนกับสิ่งที่พวกนางกำลังเผชิญเป็นเรื่องสนุกบ้างก็ชี้มือชี้ไม้ปรบมือกันอย่างอารมณ์ดี บุรุษบางคนถึงขั้นตะโกนถามว่าจะส่งนางไปที่หอนางโลมใด พวกเขาจะได้ไปเที่ยวบ้าง

ร่างเล็กแบบบางอยู่ในอาการตื่นตระหนกหวาดหวั่น

“อย่ามาแตะต้องตัวข้านะ” ฟู่ลี่อิ๋งหวีดร้องโวยวาย “ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย” ไม่เพียงเท่านั้นนางยังขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น แต่ก็มิมีผู้ใดใส่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง

“ปล่อยพี่สาวเดี๋ยวนี้” เด็กชายสำนึกในบุญคุณ หากนางไม่เลี้ยงอาหารเขา ก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ จึงวิ่งปรี่เข้ามาช่วยเหลือ แต่แรงเด็กเช่นเขานะหรือจะไปสู้ผู้ใหญ่ตัวโต ๆ หลายคนได้

“เจ้าเด็กน้อยอย่ามายุ่งหนีไปเสีย อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก” ถึงตัวเองจะลำบาก แต่นางก็ยังมีอารมณ์หันไปเป็นห่วงเป็นใยเด็กชายตัวน้อย นางเห็นพวกบุรุษตัวโตใช้เท้าทั้งเตะทั้งเขี่ยเด็กชายอย่างไร้มารยาท จึงรีบไล่ให้เขาไปไกล ๆ

เด็กชายร้องไห้น้ำตาไหลพราก ที่ถูกผู้ใหญ่พวกนั้นเตะเมื่อกี้ทั้งเจ็บทั้งจุก กระทั่งสายตาของเด็กชายหันออกไปมองที่นอกหน้าต่าง เห็นคนคุ้นเคยเดินผ่านไป เด็กน้อยรีบวิ่งออกไปตามคนด้านนอกในทันที

“พี่สาวรอข้าก่อนนะขอรับ ข้าจะไปตามคนมาช่วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel