บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 โดนตัวร้ายตามล่า

ณ จวนอ๋องกลางเมืองหลวง

"คุณหนูจ้าวฉิงไม่ยอมออกจากจวน อีกทั้งคุณชายโม่ยังส่งคนมาอารักขาจวนสกุลจ้าวอย่างหนาแน่นด้วยพ่ะย่ะค่ะ" 

ปึง! 

มือหนาของเกาเหรินหมิงตบลงบนโต๊ะเสียงดัง โม่เสว่ชงทำเช่นนี้เพราะรู้ว่ากำลังเสียเปรียบเขาเรื่องการประลองสินะ ถึงได้เลือกตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ยอมให้จ้าวฉิงเข้าร่วมงานประลองเพื่อไม่ให้นางใกล้ชิดเขา อีกทั้งยังขอเปลี่ยนอาวุธในการต่อสู้เพื่อให้รับมือกับอาวุธที่เขาเลือกไว้ในคราแรกได้

จะเป็นไปได้อย่างไรกัน! 

เกาเหรินหมิงคิดไม่ตกกับสิ่งที่ได้ยิน เขามั่นใจว่าเขากระทำการวางแผนอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง แล้วเหตุใดโม่เสว่ชงถึงได้รู้เรื่องนี้ไปได้

"มีหนอนบ่อนไส้แฝงตัวอยู่ในคนของเราหรือไม่" 

"ไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอเอาศีรษะเป็นประกัน คนของเราจงรักภักดีต่อท่านอ๋องทุกคน" 

"แล้วโม่เสว่ชงรู้ได้อย่างไรว่าข้าเลือกอาวุธชนิดใดในการประลองครั้งนี้" ร่างสูงกระแทกกายลงนั่งด้วยความหงุดหงิด ขบคิดด้วยความสับสนระคนแค้นใจ

"หากข้ารู้ว่าสุนัขจรจัดตัวไหนเป็นคนคาบข่าวไปบอกโม่เสว่ชง ข้าไม่มีวันปล่อยมันไว้เป็นแน่!" เกาเหรินหมิงผรุสวาทด้วยความโกรธเกรี้ยว ใครกล้าเหยียบหางเสืออย่างเขา เขาก็จะเอาคืนมันผู้นั้นอย่างสาสมเลยทีเดียว! 

เมื่อครบกำหนด เพ่ยเหวินจวินก็เดินทางมาพบโม่เสว่ชงที่จวนสกุลโม่ตามนัดหมาย เมื่อรู้ถึงการมาเยือนของนาง เขาก็ออกมาพบนางอย่างไม่อิดออด เพราะเขาลองเชื่อในความลับที่นางมาขายให้เขาทำให้การประลองของเขากับเกาอ๋องผลปรากฏว่าเสมอกัน ไม่มีผู้ใดได้รับชัยชนะไป แต่อย่างไรก็ตามทั้งเขาและเกาอ๋องได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ แต่เขาอาจจะเจ็บหนักกว่าเล็กน้อย

"เจ้ารู้เรื่องที่เกาอ๋องจะร่วมประลองและใช้ดาบวงพระจันทร์เป็นอาวุธได้อย่างไร" โม่เสว่ชงถามด้วยความสงสัย เขาเคยส่งคนติดตามเกาเหรินหมิงอยู่หลายปี เพื่อดูว่าเกาอ๋องคิดวางแผนการทำสิ่งใดอยู่ แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว หนำซ้ำคนของเขายังเกือบถูกจับได้ แต่เหตุใดสตรีตัวเล็กๆเช่นนี้กลับรู้แผนการของเกาเหรินหมิงได้ 

"ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกันน่า" เพ่ยเหวินจวินยักไหล่ขึ้นอย่างถือดี นอกจากเรื่องของการประลองแล้ววันนี้นางยังมีความลับสำคัญมาขายให้เขาต่ออีกด้วย และครั้งนี้นางตั้งใจจะเรียกราคาความลับแพงขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว

"เช่นนั้นหรือ..." โม่เสว่ชงพึมพำเสียงเบา ก่อนจะมองคนตรงหน้าอย่างสำรวจ มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงแผนการอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

"เจ้าเป็นสตรีหน้าตางดงามใช้ได้" 

"อะไรนะ?" เพ่ยเหวินจวินเอียงคอถามคนตรงหน้าด้วยความสงสัย อะไรกันเนี่ย... อยู่ๆเขาก็เอ่ยปากชมนางอย่างนั้นหรือ เอ๊ะ! หรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจจากจ้าวฉิงมาหานางแทน

"แหม คุณชายโม่ชมข้าเช่นนี้ข้าก็เขินเป็นนะเจ้าคะ" นางยกมือขึ้นปิดปากส่งเสียงหัวเราะอย่างมีจริตจะก้าน 

ทว่าโม่เสว่ชงกลับส่งยิ้มตอบนางบางๆ ก่อนจะหันไปหยิบถุงใส่เงินขึ้นมา 

"ในถุงเงินนี้มีเงินอยู่หนึ่งร้อยตำลึงทอง" 

ดวงตาคู่งามวาวโรจน์ขึ้น เอื้อมมือคว้าถุงเงินที่อยู่ในมือของเขา ทว่าโม่เสว่ชงกลับดึงมือกลับได้ทันอย่างเฉียดฉิว ทำให้ร่างบางของเพ่ยเหวินจวินเกือบล้มหน้าคะมำ

กระนั้นพระเอกก็คือคนที่แสนดี โม่เสว่ชงใช้แขนรวบเอวบางของนางเอาไว้ได้ทันท่วงที คนทั้งสองเงยหน้าสบตากันในระยะประชิด ก่อนที่เสียงนุ่มทุ้มจะเอ่ยถามขึ้น

"ซุ่มซ่ามนะเรา เจ็บตรงไหนหรือไม่"

"ไม่!" เพ่ยเหวินจวินตอบเสียงแข็ง สะบัดหน้าหนีเขา แต่โม่เสว่ชงยังกอดรัดร่างบางแน่นไม่ยอมปล่อย

"ข้าจะให้เงินหนึ่งร้อยตำลึงทองแก่เจ้าเพื่อแลกกับการทำงานหนึ่งอย่าง"

"คุณชายจ้าวจะให้ข้าทำอะไรหรือ"

"ทำลายภาพวาดของจ้าวฉิงที่อยู่ในจวนของเกาอ๋อง"

เพ่ยเหวินจวินเบะปากที่แท้โม่เสว่ชงก็หึงหวงภาพวาดของจ้าวฉิงสินะ

"ข้าจะเข้าไปที่จวนของเกาอ๋องได้อย่างไรกัน" ถามด้วยความสงสัย โม่เสว่ชงทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรจากการไล่ให้นางไปตาย

"ไม่ต้องห่วง ข้ามีวิธีก็แล้วกัน"

"มันอันตรายเกินไป" ถึงจะอยากได้เงิน แต่ความรักตัวกลัวตายกลับมีมากกว่า 

"เงินตั้งหนึ่งร้อยตำลึงทองเชียวนะ เจ้าไม่สนใจหรือ" โม่เสว่ชงพยายามโน้มน้าวคนในอ้อมแขน ยิ่งเห็นท่าทางครุ่นคิดของนางก็แย้มยิ้มกว้าง

เพ่ยเหวินจวินมองถุงเงินตาวาว หากนางทำงานนี้สำเร็จนางก็จะได้เงินจากเขา เงินหนึ่งร้อยตำลึงทองสามารถเช่าโรงเตี๊ยมดีๆ อยู่ได้ทั้งปี และถ้าหากนางขายความลับเรื่องกบฏที่เมืองหลงซานให้เขา นางก็จะได้เงินเพิ่มขึ้นมาอีกมากโข เผลอๆ นางจะสามารถนำเงินที่ได้ในครั้งนี้ไปซื้อบ้านเล็กๆ อยู่ที่แถบชานเมืองได้อย่างสบายอีกต่างหาก

"ไม่เป็นไร หากเจ้าไม่สนใจ ข้าก็จะจ้างคนอื่นแทน" โม่เสว่ชงเห็นนางคิดนาน แววตามีความลังเลอยู่เต็มไปหมดจึงแกล้งเอ่ยตัดบท

"ตกลง! เอาก็เอา แต่ท่านต้องสัญญาว่าจะดูแลข้าไม่ให้เกาอ๋องจับได้" เพ่ยเหวินจวินต่อรอง นางเป็นสตรีตัวเล็กๆ ชีวิตโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพิงจะสามารถต่อกรกับคนอย่างเกาเหรินหมิงที่มีศักดิ์เป็นถึงจวิ้นอ๋องได้อย่างไรกัน แต่ถ้าหากเป็นโม่เสว่ชงแล้วล่ะก็ เขาต้องสามารถปกป้องนางได้อย่างแน่นอน

"สัญญา" เขายกนิ้วขึ้นเกี่ยวก้อยของนางแทนคำสัญญา

ตุ้บ!

"คุณชายโม่" เสียงหวานดังขึ้นที่หน้าประตู เรียกความสนใจให้คนทั้งสองหันไปมอง

เพ่ยเหวินจวินมองดรุณีน้อยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตน ดวงหน้างามดุจหยกของนางงดงามจนแทบละสายตาไม่ได้ ดวงตากวางมีรอยหยดน้ำเคลือบอยู่จางๆ บนพื้นมีกล่องอาหารหล่นอยู่ โฉมงามสะคราญหยาดฟ้าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนางเอกของเรื่อง จ้าวฉิง

"ขออภัยหากข้ามารบกวน เชิญพวกท่านตามสบายเถอะ" เอ่ยจบเพียงเท่านั้น ร่างหงส์ก็หมุนกายวิ่งจากไป

"ฉิงเอ๋อร์!" โม่เสว่ชงเรียกคนตรงหน้าด้วยความตกใจ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางของเพ่ยเหวินจวินทันที เพ่ยเหวินจวินไม่ทันตั้งตัวจึงล้มคะมำลงกับพื้น

โม่เสว่ชงมองคนที่นั่งยกมือกุมสะโพกร้องโอดโอยสลับกับมองไปยังทางที่จ้าวฉิงวิ่งจากไปด้วยความลังเล

"คุณชายโม่ไปง้อนางเถอะ ไม่ต้องห่วงข้า" เพ่ยเหวินจวินโบกมือไล่ โม่เสว่ชงจึงพยักหน้ารับและรีบวิ่งออกไปทันที

ข่าวลือเรื่องที่คุณชายสกุลโม่ติดพันสตรีอื่นแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงราวกับไฟลามทุ่ง วันนี้เกาเหรินหมิงเดินทางมาที่ร้านสุราโยวโฉ่ว ได้ยินคนพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง ทว่าไม่มีใครรู้ว่าสตรีที่โม่เสว่ชงไปติดพันนั้นเป็นผู้ใด สำหรับเกาเหรินหมิงแล้ว เขามีคนที่สงสัยอยู่คนหนึ่งนั่นก็คือสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่ได้พบเจอเมื่อหลายวันก่อนนั่นเอง

และเพราะเหตุนี้เขาถึงได้สั่งให้เถียนหยวนไปพาตัวนางมาพบเขา!

ร่างเล็กของเพ่ยเหวินจวินเดินเตะเท้าอยู่หลังตลาด อ้าปากร้องฮัมเพลงอย่างมีความสุข ในมือถือขนมอยู่เต็มทั้งสองมือ ยามนี้เพ่ยเหวินจวินรู้สึกมีความสุขกับชีวิตของตนเองมากนัก นางรู้สึกเป็นอิสระ ไม่ต้องคอยหาผักมาขายที่ตลาดเพื่อเลี้ยงดูมารดาเลี้ยงและสามีของนาง

และถ้าหากนางทำงานให้โม่เสว่ชงได้สำเร็จ อีกทั้งขายความลับเรื่องกบฏเมืองหลงซานให้เขาได้แล้ว นางก็จะหนีออกไปจากเมืองหลวง ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อยู่ที่เมืองอื่น

เพ่ยเหวินจวินคิดอย่างมีความสุขแต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้าลงเมื่อเห็นใครบางคนยืนขวางทางอยู่ตรงหน้า เพ่ยเหวินจวินจำบุรุษหน้าตาดุดันคนนี้ได้ดี หากแต่ไม่มีเวลาคิดสิ่งอื่นใด นางก็รีบหันหลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

ตุ้บ!

เพ่ยเหวินจวินวิ่งเลี้ยวเข้าไปในตรอกแคบแต่แล้วร่างบางของนางก็ชนเข้ากับใครบางคนเข้า แรงกระแทกทำให้นางล้มลงไปกองอยู่บนพื้น ในขณะที่เขายืนนิ่งไม่ไหวติง เพ่ยเหวินจวินกำลังจะร้องขอให้เขาช่วยเหลือ ดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นป้ายหยกรูปพยัคฆ์ข้างเอวของเขาเสียก่อน

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชายผู้นี้คือทหารของเกาเหรินหมิง

ซวยแล้ว จวินจวินจะทำอย่างไรดี!!

เพ่ยเหวินจวินพยายามคิดหาทางรอด ก่อนที่ดวงตาของนางจะเบิกกว้าง

"มนุษย์ต่างดาวหัวกลมตาโต!"

"..." ทหารสกุลเกายืนนิ่ง

"มีมนุษย์ต่างดาวยืนอยู่ข้างหลังพวกท่านจริงๆ นะเจ้าคะ"

"มนุษย์ต่างดาวคืออะไร พวกข้าไม่รู้จักหรอกนะแม่นาง" น้ำเสียงราบเรียบไม่ต่างจากใบหน้าเอ่ยขึ้น

'จริงสิ! นี่มันยุคโบราณ พวกเขาจะรู้จักมนุษย์ต่างดาวได้อย่างไรกัน แย่แล้วสิเพ่ยเหวินจวิน!'

"พวกท่านเป็นใครกันหรือเจ้าคะ มาวิ่งตามจับข้าไปทำไมกัน" สุดท้ายนางแกล้งตีหน้าซื่อ ส่งยิ้มหวานเข้าสู้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel