
บทย่อ
แต่ละวินาทีของเขาทั้งสองช่างมีค่ามากในช่วงเวลานี้ ตะวันฉายปวดร้าวหัวใจ ใบหน้าเข้มเคร่งขรึมเงยขึ้นจากนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟา หัวใจจะแตกตายอยู่แล้วเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของน้อง ชายหนุ่มยกมือขึ้นทุบหน้าอกแล้วนั่งคุกหัวเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าเธอ“พี่ไปทำธุระของพี่เถอะ จันทร์อยู่คนเดียวได้ค่ะ” จันทร์ฉัตรหัวใจแหลกละเอียด บอกชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มให้เขารับรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร ดวงตากลมโตไหวระริกหลับลงหนีความทุกข์ที่สุมอยู่ในทรวง เธอไม่ต้องการให้พี่ฉายมารู้ว่าเธอกำลังเจ็บเจียนตาย จันทร์ฉัตรถอนหายใจสั่นเครือ ‘จันทร์ขอให้พี่เจอคนที่เหมาะสมและรักพี่ และพี่ก็รักเธอ’ เธอยกมือขึ้นสัมผัสดวงหน้าคมคายเป็นครั้งสุดท้าย จดจำโครงหน้าของเขาด้วยการโน้มหน้าลงไปจูบพวงแก้มสาก ซึ่งทำให้ตะวันฉายก็จูบน้องตอบอย่างดูดดื่ม เขาโหยหา ไม่อยากจากน้องไปแบบนี้“พี่จะให้กาวินมาอยู่เป็นเพื่อนนะ” ตะวันฉายจูบน้อง ซึมซับสูดดมกลิ่นหอมของหญิงสาวเข้าปอด เขากระซิบเสียงสั่นเทาชิดหน้าผากมน เมื่อหญิงสาวพยักหน้ารับคำ ตะวันฉายก็ลุกขึ้น“ไปเถอะค่ะ อย่าห่วงจันทร์เลย” จันทร์ฉัตรปากสั่นระริกยิ้มให้พี่ฉาย มือบางทั้งสองข้างถูกจูบแล้วจูบอีกจนเธอต้องบอกให้พี่ฉายรีบไป และเป็นเหตุให้ตะวันฉายต้องจำใจเดินถอยหลังไปถึงหน้าประตู“พี่อยากให้เธอรับรู้ไว้ว่าพี่รักเธอ ข้างในนี้ไม่มีใครนอกจากเธอนะจันทร์” ตะวันฉายกุมหัวใจที่เต้นแรงผิดปกติ ดวงตาสีเข้มไหวสะท้านหันหลังไปมองร่างบางที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม เขาจ้องมองจดจำร่างน้อยไว้ในห้วงลึกของหัวใจสักพักใหญ่ๆ ก็ตัดสินใจเปิดประตูแล้วก้าวเดินออกจากห้อง“ฮืออ พิ...พี่ฉาย” เมื่อเสียงประตูห้องปิดลง จันทร์ฉัตรก็ปลดปล่อยความเจ็บร้าวทุกข์ทรมานที่สุมอยู่ในห้วงลึกของหัวใจเป็นเสียงร้องไห้โฮออกมาดังแข่งกับเสียงเดินของพี่เขาที่ห่างออกไป แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วนั่นยิ่งทำจันทร์ฉัตรหายใจไม่ออก เธอกำลังจะตายอยู่แล้วในเวลานี้ มือบางยกขึ้นกำเป็นกำปั้นทุบๆ ที่หน้าอกด้านซ้ายเหมือนจะตอกย้ำตัวเองว่า เวลานี้ เขาและเธอไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ความเจ็บปวดร้าวรอนนี้ สักวันจะจางหายไปเองด้านตะวันฉายทรุดฮวบลงไปนั่นกองกับพื้น แผ่นหลังหนาพิงบานประตู เขาก็ร้องไห้สะอื้น หัวใจของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นไห้ของน้อง ชายหนุ่มอยากจะเปิดประตูเข้าไปหา แล้วโอบกอดปลอบขวัญเช็ดน้ำตาให้เธอด้วยริมฝีปาก แต่ก็ไม่อาจทำได้ เพราะเขาเลือกที่จะจากน้องไปแบบนี้‘ดีที่สุดแล้ว...’
บทที่1 ตอน "เวลาชีวิต" 1
๑
เวลาชีวิต
“จดทะเบียนเป็นภรรยาพี่แล้วนะ สาวน้อย...”
เสียงเข้มฟังดูอบอุ่นกระซิบชิดกระหม่อมของเธอ ทำให้จันทร์ฉัตรกระชับแขนโอบกอดเอวสอบให้แน่นขึ้น
“จันทร์รักพี่ค่ะ”
“เดือนหน้าจันทร์ก็จะจบแล้วใช่ไหม...”
“ค่ะ” ปลายคางมนเรียวถูกมือใหญ่เชยให้เงยขึ้น ดวงหน้าหล่อของเขาโน้มลงมา ปากหยักประกบจูบเรียวปากนุ่ม เขาจูบเธอตอดเล็กตอดน้อย
“เราแต่งงานกันนะ...พี่จะประกาศให้ทุกคนบนโลกนี้รู้ว่าจันทร์เป็นภรรยาพี่...พี่จะพาจันทร์และน้าเพ็ญไปอเมริกา ไปรู้จักพ่อแม่ของพี่...”
“ค่ะ”
จันทร์ฉัตรไม่ต้องการอะไร เงินทองที่ชายหนุ่มมีล้นฟ้าไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวต้องการ เธอต้องการเพียงความรักและขอให้ชายหนุ่มยืนเคียงข้างและรักเธอ
“พี่อยากสร้างครอบครัวกับจันทร์ อยากมีลูกกับจันทร์ อยากให้จันทร์เป็นแม่ของลูกพี่ ทุกสิ่งทุกอย่างพี่จะยกให้ลูก...”
คำว่า ‘เวลาพี่ตาย จันทร์กับลูกจะได้ไม่ลำบาก’ ถูกเรียวปากจิ้มลิ้มจูบประกบปิดเสียงเข้ม
“ไม่พูดค่ะ”
จันทร์ฉัตรเขย่งปลายเท้าทำตัวให้สูงเท่าชายหนุ่ม แขนทั้งสองข้างเกาะคอหนาฉุดให้ใบหน้าหล่อก้มลงมาหา
“ชู่ววว...เป็นภรรยาพี่ต้องไม่ร้องไห้นะ รู้ไหม”
ด้านตะวันฉายอำนวยความสะดวก อุ้มร่างน้อยจนเท้าของเธอลอยเหนือพื้น ทำให้ดวงหน้าของพวกเขาอยู่ระดับเดียวกัน
“ไม่อยากให้จันทร์ร้องไห้ พี่ก็อย่าพูดเรื่องแบบนี้สิคะ”
จันทร์ฉัตรซบหน้าแนบแผ่นอกแกร่ง ฟังเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงเหมือนหัวใจของเธอ
“พี่จะอยู่เป็นตะวันคอยส่องจันทร์ ดูแลจันทร์เองนะ มอบชีวิตของจันทร์ให้พี่ปกป้องนะ...”
เสียงทุ้มของชายหนุ่มเอ่ยคำมั่นสัญญาทำให้สาวน้อยหลงเชื่อน้ำคำ เขาบอกเธอทุกเวลาว่าจะซื่อสัตย์มั่นคงและรักเธอ จะมีเพียงเธอคนเดียว ดังกึกก้องแข่งกับเสียงฟ้าร้องคำรามพิโรธ ‘ครืนน’ ช่างขัดกับการกระทำของตะวันฉาย ชายหนุ่มใช้เท้าเหยียบย่ำทำร้ายหัวใจของเธอจนแตกสลาย โดยการพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาทำลายชีวิตคู่ พวกเขาทั้งสองมีอะไรกันบนที่นอนของเขาและเธอ
“จันทร์หยุดเดี๋ยวนี้! อย่าวิ่ง!”
เสียงเรียกของผู้ชายไม่มีหัวใจดังอยู่ข้างหลัง ตอกย้ำทำให้จันทร์ฉัตรต้องวิ่งหนี ในเวลานี้ เธอเหมือนคนตายที่หายใจได้ จิตใจของหญิงสาวเลื่อนลอย ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาเหมือนสายน้ำฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก เธอคิดอย่างเดียวว่าต้องหนีไปให้ไกลสุดขอบฟ้า จึงวิ่งข้ามถนนโดยที่ไม่ได้สนใจเสียงแตรและแสงไฟรถกะพริบ
ปรี๊นนน!!
“กรี๊ดด!!” โครมมม!!!
“จันทร์!!! ระวังง!!”
ช้าไปเสียแล้วกับการที่จะฉุดเอาตัวของน้องมากอด เมื่อรถบรรทุกหินวิ่งฝ่าสายฝนมาด้วยความเร็ว ชนจนร่างของสาวน้อยล้มกลิ้งไปตามถนน
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยภรรยาผมด้วย...ช่วยภรรยาผมที...ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ผมทีครับ...ฮืออ...จันทร์ พี่ขอโทษ ฟื้นขึ้นมาคุยกับพี่สิ มาบอกพี่ว่าจันทร์ท้อง...ฮืออ...พี่ขอโทษ”
ตะวันฉายร้องไห้โฮ หัวใจเจ็บร้าวฉีกขาดเหมือนเขาจะตาย เมื่อเห็นร่างของน้องเต็มไปด้วยบาดแผล น้ำฝนเจิ่งนองเต็มถนนกลายเป็นสีเลือดแดงสด ชายหนุ่มล้มทั้งยืน ร่างโตทรุดนั่งกองกับพื้น คลานเข้าไปนั่งข้างร่างน้อย สองแขนกำยำประคองกอดอุ้มคนตัวน้อยเข้ามากอด
ตะวันฉายจูบเช็ดเลือดที่ไหลซึมปลายดวงตาทั้งสองข้างของน้องออกอย่างแผ่วเบา ในเวลานี้ เขาสติแตก พูดพร่ำเพ้อเหมือนคนบ้า ตะวันฉายอุ้มร่างไร้สติเลือดท่วมตัววิ่งไปหาคนนั้นที คนนี้ทีเพื่อจะให้พวกไทยมุงช่วยเหลือ
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง...
ห้าสิบนาทีที่ยืนอยู่หน้าห้องไอซียู ตะวันฉายไม่มีแรงแม้แต่จะหายใจ ซึ่งชายหนุ่มแน่นหน้าอกจึงต้องใช้ปากช่วยหายใจเข้าออก มือเรียวใหญ่เกาะผนังห้องเดินไปยืนตรงประตูห้อง แล้วเดินกลับมานั่งเก้าอี้ ทำอยู่แบบนี้เป็นสิบครั้ง และนี่ก็เป็นอีกรอบที่เขาเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าห้อง ดวงตาสีเข้มคลอน้ำตามองผ้าม่านสีฟ้าที่นางพยาบาลเลื่อนปิดกั้นไม่เห็นแม้แต่ปลายเส้นผมของน้องผ่านทางกระจกช่องสี่เหลี่ยม
“ฉาย?”
หญิงชราวัย 70 ปี นางใจจะขาดตายอยู่แล้วเมื่อรับรู้ว่า ลูกสาวคนเดียวเกิดอุบัติเหตุ นางเจ็บและแน่นหัวใจจึงยกมือขึ้นทุบตรงหน้าอกด้านซ้าย เมื่อได้เห็นสภาพของลูกเขย นางไม่รู้ว่าเลือดที่เปื้อนเสื้อของตะวันฉายนั้นเป็นเลือดใคร ของลูกสาวหรือของลูกเขย นางภาวนาขออย่าให้เป็นของพวกเขาทั้งสองเลย
“น้าเพ็ญ”
