นายรักเขา แต่ฉันรักนาย
"นายคิดดีแล้วเหรอลม” ตะวันฉายเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขานั่งแข็งเป็นหินอยู่นาน
“ใช่ฉันคิดดีแล้ว” สายลมตอบพลางพยักหน้า
“อืม จะเอาแบบนั้นก็ได้ ถ้าใจคนมันไม่อยากอยู่ฉันก็ไม่อยากจะรั้งนายเอาไว้”
“เฮ้ย ตะวันฉาย ทำไมนายพูดแบบนั้นล่ะ กล่อมเขาสิแล้วจะหามือเบสที่ไหนล่ะ พรุ่งนี้ต้องโชว์นะ เราอาจตกงานกันทั้งวงก็ได้แล้วจะอธิบายให้กีตาร์กับปั๊บฟังยังไง”
“ก็บอกให้น้องๆ ช่วยกันหามือเบสใหม่ ประกาศผ่านโซเชียลให้เร็วที่สุด”
“นี่นายโกรธฉันเหรอตะวัน” สายลมแย้งขึ้น
“เปล่า” ตะวันตอบทั้งที่ขัดกับความรู้สึกที่มันกำลังจุกอยู่ในอก
“เดี๋ยวนะ นายแน่ใจเหรอ” สายลมถามอีกครั้ง
“แน่ใจสิ” ตะวันย้ำ “ทำไมล่ะหรือว่านายเปลี่ยนใจแล้ว”
“เฮ้ย ตะวันฉายใจเย็นๆ เพื่อน” คิงเรียกสติเขาเพราะรู้ดีว่าตะวันเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง และบางครั้งก็ชอบประชดประชันเพราะเก็บอาการนอยเอาไว้ไม่อยู่
สายลมเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เขาพยักหน้างึกๆ เพราะคิดว่าเพื่อนเองก็คงตั้งตัวไม่ทันที่อยู่ๆ ตนมาบอกว่าจะลาออกแบบนี้
“แต่...พวกนายไม่รังเกียจฉันแน่นะ ที่ฉันเป็นแบบนี้”
“ไม่เลยพวก ฉันเข้าใจดี เพื่อนฉันมีหลายประเภทมาก ทอม ดี้ สาวแปลงเพศ เก้ง กวาง บ่าง ชะนี ล้วนมีหมดนั่นแหละจะแปลกอะไรกับผู้ชายแมนๆ รักผู้ชายแมนๆ”
“แต่ว่านะ..สายลม ฉันอยากให้นายรักคนที่เขารักนายตอบมากกว่า ความรักของนายถึงจะมีค่า เพราะถ้าหากเป็นคุณกาลฉันว่านายไม่มีหวังหรอกเพื่อน ถึงเขาจะพยายามทำตัวติดดินแค่ไหน แต่ฉันดูออกว่าเขาสูงส่ง เราแค่ไม่รู้ปูมหลังของเขาเท่านั้นเอง” คิงบอก
“มันจะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้กันเชียว ที่ยอมแบ่งเงินเดือนตัวเองให้ลูกน้องได้ขนาดนั้น อีกอย่างตั้งแต่ทำงานที่นี่ฉันเคยเห็นผู้ชายพยายามมาเกาะแกะเขาก็บ่อยแต่เขาก็วางตัวดีตลอดจนคนเหล่านั้นเลิกยุ่งไปเอง”
“ใช่ สายลม... นายน่ะ จะรักคนที่รักนายไม่ได้เหรอ” เมื่อได้ยินตะวันฉายแทรกขึ้นสายลมก็หันมามองเข้าไปในดวงตาของเขา
“ฉัน....” สายลมกระอึกกระอักอยู่ในลำคอ ส่วนตะวันฉายที่กำลังจะพูดต่อเขาก็ต้องก้มหน้าลงเพราะรู้สึกไม่มั่นใจ
“เฮ้อ..งั้นฉันว่า ฉันกลับดีกว่า พรุ่งนี้ฉันจะทักบอกน้องให้ช่วยหามือเบส” คิงขัดจังหวะการพูดของสายลม
พอสายลมได้ยินคิงพูดดังนั้น หัวใจของเขาก็หล่นวูบ แต่เขาคิดว่าเขาได้ตัดสินใจแล้วเพราะหากเขาเห็นรติกาลมากับผู้หญิงคนนั้นอีกเขาคงทำใจไม่ได้และเสียสมาธิจนพาเพื่อนเสียกันหมดแน่ๆ เขารู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนเข้มแข็งขนาดนั้น
“ฉันไปนะ คิงพูดพลางลุกขึ้น”
“อืม ขับรถดีๆ ล่ะ” ตะวันบอก
“เออ ลม” “ฮึ ว่าไงคิง”
“ฉันแอบหวังว่านายจะเปลี่ยนใจ และเจอนายที่ผับในคืนพรุ่งนี้นะอ่อ..ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงรีบโทรบอกฉันด้วยนะตะวัน ฉันไปล่ะ”
พอคิงพูดจบเขาก็โบกมือลาแล้วเดินออกจากบ้านไม่นานนักเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถเก๋งสีขาวก็ดังขึ้นและขับออกไปจนแสงไฟท้ายรถถูกความมืดกลืนกินตะวันฉายหลับตาในขณะที่เอนตัวลงพิงโซฟา
“นายไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอสายลม” เขาถามเมื่อเหลืออยู่กันเพียงสองคน
“ฉันไม่รู้ว่ะ แต่จากเรื่องที่ผ่านมาในคืนนี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานเลย ฉันกลัวว่า ถ้าฉันเจอกับตาจังๆ คงจะแย่แน่”
“แต่มันก็กะทันหันเกินไปนะ แล้วอีกอย่างนายก็น่าจะให้เวลาพวกเราหน่อย”
“ฉันขอโทษ ฉันหวังว่านายจะไม่โกรธฉันนะ”
ตะวันฉายไม่ตอบเอาแต่นั่งเงียบ สักพักชายหนุ่มก็รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ มาจ่ออยู่ที่ใบหน้า เมื่อเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก็เห็นสายลมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ตะวันฉายสบตากับสายลมอยู่สักพัก เขาก็ไม่อาจต้านทานแรงปรารถนาที่ก่อตัวอยู่ในใจของเขามาเนิ่นนานไว้ได้อีกแล้ว
ชายหนุ่มยกมือซ้ายขึ้นประคองใบหน้าของอีกฝ่ายเอาไว้ ความเงียบปกคลุมทุกสิ่งอย่าง แม้แต่เสียงหัวใจของตัวเองก็ได้ยิน ชายหนุ่มยันกายตนเองออกจากโซฟาพุ่งเข้าจูบอีกฝ่ายอย่างร้อนแรง แล้วผละออก
“นายไม่รังเกียจฉันเหรอ” สายลมถาม
“ไม่เคยเลยสักครั้ง รู้ไหมฉันชอบนายมานานแล้ว แต่จำเป็นต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ เพราะฉันกลัวเสียนายไป และกลัวว่าวงดนตรีของพวกเราจะมีปัญหา ฉันคิดว่าถ้าฉันบอกความรู้สึกของฉันออกไปนายอาจจะพยายามหลบหน้าฉันก็ได้”
“งั้นเราจะลองคบกันดูไหมล่ะ”
“ก็ดีสิ แต่ไม่คบเฉยๆ นะ ขอเอาด้วย” ตะวันพูดอย่างเดียวไม่พอยังล้วงมือเข้าใต้เสื้อลูบไล้ร่างายที่อบอุ่นของสายลม
“อะ เดี๋ยวสินายมีถุงยางรึเปล่า”
“วันนี้ไม่มีหรอกไม่ได้เตรียม เอาไว้ใส่วันหน้าก็แล้วกัน วันนี้ฉันขอสดก่อนนะ ถุงค่อยใส่รอบอื่นก็ได้” ตะวันฉายบอก สายลมพยักหน้ายิ้มให้เขาแล้วก็อนุญาตให้ชายหนุ่มรุกล้ำเข้ามาในตัว ต่างฝ่ายต่างอนุญาตให้รุกล้ำซึ่งกันและกัน
“อา เอาอีก เอาฉันอีกตะวัน ทำไมนายใหญ่จัง อื้อ ฮะ อ๊าๆ ซี๊ด” สายลมร้องขอให้เขาจัดหนักอีกครั้ง ตะวันฉายไม่ขัดใจจัดให้ตามต้องการ
“ตะวัน เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน ฉันว่า ฉันจะอยู่ช่วยพวกนายสักพัก จนกว่าพวกนายจะหาคนใหม่ได้ แต่ฉันก็ไม่อยากรับประกันหรอกนะว่าฉันจะไม่ทำพลาดหากเจอคุณกาลอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอีก”
“นี่นายเอากับฉันอยู่นายยังจะพูดถึงเขาอีกเหรอ นายมีฉันแล้วนายยังจะไปอีกเหรอ”
“ตะวันฉาย ตะวัน ตะวัน เฮ้”
“ห๊ะ วะ ว่าไงเหรอสายลม” ตะวันลืมตาและออกจากจินตนาการที่เขาสร้างขึ้นเมื่อสายลมเรียกเขาเสียงดังทั้งยังเขย่าตัวแรง
“นี่นายฟังฉันอยู่หรือเปล่า นายหลับเหรอ”
“ปะ เปล่าๆ ฉันแค่... คิดอะไรเพลินๆ น่ะ แล้วนายว่าไงนะ”
“อ้าว สรุปนายไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ”
“ก็แว่วๆ น่ะ ไม่ค่อยเข้าหูเท่าไหร่ โทษที”
แล้วสายลมก็อธิบายให้ตะวันฟังอีกครั้ง จากนั้นก็ขอตัวกลับบ้านตะวันฉายเดินไปส่งเพื่อนที่หน้าประตูบ้าน
“สายลม” ตะวันฉายเรียกตามในขณะที่สายลมเดินออกจากประตูไปได้สามก้าว
“ฮึ ว่าไงเหรอ” เขาหยุดแล้วหันกลับมาถาม
“คือ ฉันมีเรื่องอยากจะบอกนาย”
“เรื่องอะไรเหรอ” สายลมถามแต่ตะวันก็อ้ำอึ้งอยู่ “พูดมาสิฉันรอฟังอยู่เพื่อน”
“ขับรถดีๆ นะไว้พรุ่งนี้เจอกัน” ตะวันบอก
“แค่นี้เหรอ”
“อื้อ”
“ขอบใจนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปล่ะ”
“อือฮึ..”
“ฉันจะกล้าพูดได้ยังไงล่ะ ว่าฉันรักนาย ถ้านายรักเขา” ตะวันพึมพำอยู่คนเดียว ได้แต่มองตามสายลมขับรถออกไปจนลับสายตาชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก้มหน้ายอมรับความจริง ปิดประตู แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา
“ฮัลโหลคิง นายนอนรึยัง เขาไม่เปลี่ยนใจนะนายหาคนใหม่เข้ามาได้เลย เขาจะอยู่จนกว่าเราจะหาคนได้"