ตะวันฉายพฤกษา

81.0K · จบแล้ว
ฟางฉี/น่าน นคราช์/วิญญาณไพร
51
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“เราจะคบกันได้ไหม พี่ครับ เราจะคบกันได้หรือเปล่า” ชายหนุ่มลืมตาขึ้นเพียงเล็กน้อย เงี่ยหูฟังให้แน่ใจว่าน้องพูดอะไร แต่ว่าพฤกษาก็เงียบไปอีกครั้ง ตะวันฉายได้แต่คิดว่าน้องคงแค่ละเมอแล้วเขาก็เกิดคำถามขึ้นภายในใจ คิดไปว่าที่ตนกอดน้องอยู่นั้น คงเพราะตัวเขารู้สึกไปเองฝ่ายเดียวหรือเปล่า น้องจะรับได้ไหมหากเขาตื่นขึ้นมา.. แต่แล้วเสียงพฤกษาก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ผมรอฟังอยู่นะ” ตะวันฉายลังเลอยู่ชั่วครู่ และคิดว่าหากเขาตอบออกไปแล้ว ถ้าพฤกษากำลังละเมออยู่จริงๆ พอตื่นมาในวันพรุ่งนี้น้องก็คงลืมไปเอง “ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

นิยายปัจจุบันนิยายรักผู้ชายอบอุ่น18+โรแมนติกดราม่านิยายรักโรแมนติกฟินๆ

คนที่ใส่ใจเป็นพิเศษ

“ตะวัน นายกินอะไรมาหรือยัง” ใบหน้าคมคาย ดวงตาคู่นั้น และน้ำเสียงที่คุ้นเคย กับคำถามที่ดูห่วงใยฉายเข้ามาในห้วงสำนึก

“จะได้เจอหน้าเขาแล้วสินะ ดีจริงใกล้ถึงเวลาไปทำงานแล้ว ไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า” ชายหนุ่มนึกได้ดังนั้นแล้ว ก็หันไปหยิบเอาผ้าขนหนูด้วยอารมณ์ที่แจ่มใส เมื่อนึกถึงคนที่เขาจะได้เจอเมื่อไปถึงที่ทำงาน

บรื้น เสียงเร่งเครื่องรถยนต์กระบะสีดำของตะวันฉายขับเคลื่อนออกจากบริเวณบ้านหักเลี้ยวขึ้นถนนใหญ่มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองก่อนถึงยามราตรี เพื่อไปทำงานที่เขารัก และเป็นงานที่ช่วยให้เขาอิ่มท้องได้ทุกวันในขณะนี้ แม้อีกงานที่ทำในช่วงกลางวันจะยังไม่เกิดรายได้เท่าไหร่

เขาผู้ไม่ชอบออกไปใช้ชีวิตในเวลาตอนกลางวัน ถึงชายหนุ่มจะชื่อตะวันฉายเขาก็ไม่ค่อยชอบแสงแดดเท่าไหร่ เลยเลือกที่ทำงานเล่นดนตรีตามผับบาร์ แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน

ส่วนตอนกลางวันชายหนุ่มก็อยู่บ้าน ทำงานที่สองหลังตื่นนอนซึ่งก็เป็นงานที่เขารักเหมือนกัน และเขาหวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้ามันจะดี และสร้างรายได้ให้เขามากพอสมควร ตะวันฉายเองก็รู้ตัวดีว่าการทำอาชีพเป็นนักดนตรีมันไม่จีรัง เมื่ออายุมากขึ้นความนิยมอาจลดลงภาระหน้าที่ของเพื่อนร่วมวงอาจเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่เรื่องสุขภาพก็อาจเป็นอุปสรรค ชายหนุ่มเป็นคนติดบ้านมาก เขาอาศัยอยู่บ้านน้อยปลายนาซึ่งเป็นมรดกจากพ่อแม่ของเขาที่ทิ้งเอาไว้ให้และเขาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง

ด้วยความที่เขาเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี สูงโปร่ง กำยำ ใบหน้าคมเข้ม รูปลักษณ์ภายนอก และบุคลิกท่าทางของชายหนุ่มช่างดูสุขุมทะมัดทะแมง ต่างจากบุคลิกภาพภายในที่มีน้อยคนนักจะได้สัมผัส

นั่นทำให้เขาดูเป็นคนมีเสน่ห์น่าค้นหา และดึงดูดความสนใจจากทั้งสาวน้อย สวยใหญ่ สาวแก่ แม่ม่าย ที่ได้พบเจอ เมื่อมาท่องเที่ยวยามราตรีล้วนมีความปรารถนาในตัวเขาทั้งอยากจะลองกินดูสักครั้ง ทำให้เขาได้รับจดหมายน้อยอยู่บ่อยๆ แต่เขาก็ไม่เคยสนใจติดต่อกลับไปเลย

“ครับ ผมชื่อ ตะวันฉายครับ” นี่คือชื่อจริงของเขา หากมีคนถามกับนักร้องนำว่าเขาชื่ออะไร แล้วถูกยื่นไมค์โครโฟนไปจ่อปาก แต่ชายหนุ่มกลับไม่เคยสานสัมพันธ์ใดๆ กับใครเลย ถึงแม้ว่าพวกเธอจะสวยและหุ่นดีแค่ไหนก็ตาม

คนเพียงกลุ่มเดียวที่เขาพูดคุยด้วยและสนิทสนมเป็นพิเศษก็คือนักดนตรีในวงกับนายจ้างแล้วก็เพื่อนร่วมสถานที่ทำงานของเขาเท่านั้น

บรื้น… ชายหนุ่มจอดรถกระบะสีดำขลับ เมื่อถึงหน้าผับชื่อดังในย่านแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องราตรีที่มีทั้งไทยและต่างชาติในตัวเมือง

ตะวันฉายบิดลูกกุญแจดับเครื่องยนต์ ก้าวเท้าลงรถปิดประตู

ล็อกรถด้วยรีโมตแล้วเก็บลงกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็เดินเลี่ยงหลบสายตาผู้คนตรงเข้าไปยังประตูหน้าผับ

นอกจากช่วงเวลาการเล่นดนตรีอยู่บนเวทีแล้ว นอกเหนือจากเวลานั้นแล้วแทบไม่มีใครได้เจอหน้าตาเขาเลย

“มาแล้วเหรอ”

เสียงที่คุ้นเคยนั้นมาจากคนที่ชายหนุ่มอยากเห็นหน้าทุกๆ วันถามขึ้นเมื่อเห็นเขาก้าวผ่านช่องประตู ชายคนนั้นคือ สายลม หนึ่งในเพื่อนร่วมวงที่เขาสนิทด้วยและยังเอาใจใส่เป็นพิเศษ จนบางครั้งเกือบทะเลาะกับสมาชิกคนอื่น

“อืม มาแล้ว” ตะวันฉายหันไปตอบหลังจากปิดประตูห้องพักสำหรับนักดนตรี

“นายกินอะไรมารึยังล่ะตะวัน”

“กินแล้ว แล้วนายล่ะกินรึยัง”

“กินแล้วนะ” สายลมตอบพลางพลิกนาฬิกาข้อมือดู “หกโมงเย็นแล้วนะทุกคน พร้อมขึ้นซ้อมกันรึยัง”

“เอาสิ” “อืมใช่ ซ้อมกันเถอะ” หนึ่งทุ่มจะได้พัก เพื่อนในวงฯ คนอื่น ออกความเห็น

วงดนตรีของพวกเขาจะเน้นร้องเพลงแนวฟังสบายๆ ทั้งแต่งเองและของศิลปินคนอื่นเพื่อขับกล่อมท่วงทำนองให้แขกของผับที่เข้ามาสังสรรค์ดื่มกินอาหารได้ผ่อนคลายอารมณ์

วงของเขาประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน มือกลอง คือตัวเขาเองและยังทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวง มือเบส คือ สายลม มือกีตาร์โปร่งไฟฟ้า ชื่อ กีตาร์ ผู้ควบคุมเครื่องดนตรีเสริมเพื่อสร้างสีสันให้เพลงมีความละมุนและหลากหลาย คือ ปั๊บ ส่วนนักร้องนำ คือ คิง ซึ่งทำหน้าที่เป็นรองหัวหน้าของวงช่วยเขาดูแลเรื่องต่างๆ อีกด้วย

ทั้งหมดตกลงกันว่าจะรับงานแค่สองช่วง ของผับแห่งนี้ที่เดียว คือตอนสองทุ่ม กับสี่ทุ่ม เพราะทุกคนต่างทำงานที่นี่เป็นงานเสริม แต่ค่าตอบแทนก็ถือว่าดี เฉลี่ยกันต่อคืน หลังหักค่าใช้จ่าย ก็เกือบแปดร้อย ซึ่งมันยังไม่รวมกับทิปที่มากน้อยแต่ละวันไม่เท่ากัน มันขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะใจดีให้แค่ไหน

ทิปของทุกคนแม้จะถูกยัดใส่กระเป๋ากางเกงก็จะต้องเอาออกไปรวมกันเพื่อหารกับ บริกร พ่อครัว พนักงานล้างจาน และการ์ดหน้าผับ มีเพียงดีเจเท่านั้นที่ไม่ขอรับส่วนแบ่ง เพราะเขาเป็นหุ้นส่วนของที่นี่เขาจึงเสียสละเงินจำนวนนั้นให้คนอื่นๆ

ดีเจคนนั้นก็คือรติกาลหนุ่มหล่อประจำผับ ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของผับที่ตะวันฉายทำงานอยู่ เขาเป็นคนที่ใจดีกับพนักงานทุกคน ไม่ถือตัว และไม่เลือกชนชั้น ที่สำคัญเขามักจะให้ฝ่ายบัญชีหักเงินของเขาไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มทิปให้พนักงานทุกคนตอนปลายเดือนเสมอ ทุกคนจึงรักเขามาก โดยเฉพาะสายลม ที่จะปลื้มเจ้านายคนนี้เป็นพิเศษ

สายลมมักหาโอกาสไปพูดคุยทักทายกับรติกาลอยู่เสมอ เรื่องนี้ตะวันฉายนั้นก็รู้ดีว่าสายลมคิดอะไร และรู้สึกยังไงต่อรติกาล เจ้านายของพวกเขา แต่จะทำยังไงได้ล่ะ เรื่องของหัวใจไม่มีใครห้ามใครได้หรอก แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถหักห้ามหัวใจตัวเองได้เลย ยิ่งได้เจอหน้ามากเท่าไหร่ความรู้สึกมันยิ่งชัดเจนไปทุกวัน จนมีหลายครั้งหลายคราที่เขาเกือบหลุดสารภาพมันออกไป

แต่ทว่า..ตะวันเองก็ยังไม่มั่นใจ และกลัวทุกอย่างมันจะพัง หากวงแตกตอนนี้เขาคงลำบากแน่ เพื่อนๆ ก็จะพลอยแย่ไปด้วย อีกอย่างงานที่สองของเขาเองก็ยังไม่เติบโต รายได้จากมันเวลานี้ ซื้อไข่ไก่กับมาม่ากินได้ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ชายหนุ่มจึงได้แต่อดทนเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้

ทั้งวง ลงจากเวทีหลังซ้อมเสร็จ เพื่อนั่งพักเหนื่อยรอเวลาเปิดวงช่วงสองทุ่มในห้องพักนักดนตรี ในขณะที่สายลมขอตัวไปเข้าห้องน้ำ และคนอื่นๆ ก็ตามไป ตะวันฉายจึงเดินออกไปคุยกับกุ๊กประจำผับในห้องครัว ลูกค้าเองก็เริ่มทยอยเข้ามาสั่งอาหารกินกันหลายโต๊ะแล้ว

แกร๊ก ตะวันหันกลับไปตามเสียงเปิดประตู “พี่กาลสวัสดีครับ” ชายหนุ่มยกมือไหว้เจ้านายที่พึ่งเปิดประตูเข้ามาในห้องครัว

“สวัสดีครับตะวัน” รติกาลรับไหว้

“อ้าวคุณกาลสวัสดียามเย็นครับ จะสั่งอาหารเหรอครับ”

“เปล่าครับพี่ วันนี้ด้านนอกแขกเริ่มเยอะแล้ว ผมไม่อยากรบกวน เจ้าตี๋อยู่ไหมครับ” รติกาลถามพลางมองหาบริกรหนุ่ม

“เมื่อกี้เพิ่งยกอาหารไปเสิร์ฟครับ นั่นไงครับมาพอดี” รติกาลหันกลับไปมองตามกุ๊กอ้วนที่ทำท่าทีพยักพเยิดชี้ด้วยปาก

“อ่าว.. ตี๋”

“ครับพี่กาล มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” ตี๋ถามพลางยกมือขึ้นไหว้

“ตี๋ช่วยไปซื้อข้าวผัดเกลือชุดกลาง ร้านป้าน้อยมาให้พี่หน่อย แล้วยกไปให้พี่บนชั้นลอยนะ เอาจานและช้อนส้อมกับน้ำดื่มขึ้นไป 2 ชุด เอานี่เงินค่าข้าว” รติกาลเอาแบงก์แดงให้ตี๋ 3 แบงก์ เสร็จเมื่อไหร่บอกพี่ด้วยนะพี่รออยู่ห้องพัก

“อ๋อได้ครับ” เมื่อตี๋รับคำแล้วรติกาลก็เดินออกไปโดยมีตะวันฉายมองตามเขาอย่างไม่วางตา

“คนอะไร...หล่ออย่างกับเทพบุตรก็ไม่ปาน ไม่แปลกหรอกที่ทั้งหญิงและชายต่างก็ลุ่มหลงในตัวเขากันทั้งนั้น” ตะวันฉายนึกแล้วก็ต้องส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป “พี่อ้วนผมไปรอเพื่อนๆ ในห้องก่อนนะครับ”

“ครับๆ เชิญครับ"