บทที่ 5
“มาหานายหัวอันดามันรึ”
“ค่ะ”
คำตอบของเธอทำให้ป้าแก่ๆ ที่เธอเห็นเป็นคนแรกตั้งแต่ขึ้นฝั่งมา มองเธอแบบหัวจรดเท้า แล้วทำหน้าแปลกๆ แต่หอมรักก็ไม่ได้ใส่ใจ
“อยู่ที่บ้านมั้งตอนนี้ โน่นน่ะ บ้านหลังใหญ่ๆ โน่น”
“ขอบคุณมากค่ะป้า”
เธอยกมือไหว้นาง ก่อนจะเดินก้าวยาวๆ เท่าที่ขาของเธอจะอำนวย เดินแกมวิ่งไปยังทิศทางที่แกชี้บอก
ตลอดทางมีแต่คนเหลียวมองเธอยามที่เธอเดินสวน อาจจะเพราะเธอเป็นคนแปลกหน้า สีผิวก็แปลกชาวบ้านเขา ที่ผิวคล้ำเข้มกว่าเธอนัก ถ้าเป็นปรกติแล้วตกเป็นเป้าสายตาขนาดนี้ หอมรักจะต้องขัดเขิน เดินไม่เป็น แต่นี่เพราะแรงขับเคลื่อนในใจล้วนๆ ทำให้เธอก้าวฉับๆ ตามองจ้องแต่เป้าหมายอย่างเดียว
“อุ๊ย!”
มัวแต่มองเป้าหมาย จนไม่ได้มองหนมองทาง หอมรักก็เลยสะดุดเข้ากับก้อนหินก้อนโต กลิ้งโค่โร่อยู่ตรงพื้นอย่างหมดท่า
“อูย...”
หญิงสาวก้มลงมองข้อเท้า มันเป็นแผลถลอกจนเลือดซิบ คนกลัวเลือดอย่างเธอหน้าซีดลงเล็กน้อย เจ็บก็เจ็บ เห็นเลือดแล้วก็ใจสั่นหวิวๆ แต่ทว่า มันไม่สำคัญหรอกตอนนี้ เธอจะต้องไปบ้านของนายหัวอันดามันให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ชำระสะสางความรับผิดชอบ!
หอมรักเดินกระเผลก กัดฟันกรอด พยายามข่มความเจ็บปวด ตามองจ้องเป๋งไปยังเป้าหมาย เจ็บเข้าก็เริ่มโมโห ที่เดินไม่ถึงสักทีเพราะไกล
“โอ๊ย! ไอ้นายหัวบ้า ไอ้คนไม่รับผิดชอบ คนเลว ไอ้อันดามันบ้า! อยู่ทำไมไกลหนักหนา เจ็บจังเล้ยยยย!”
เจ็บเข้าเหนื่อยเข้า แม่เจ้าประคุณเลยตะโกนออกมาเพื่อระบายความอัดอั้น เสียงตะโกนของเธอทำให้คนที่กำลังนอนอ่านหนังสือตรงที่ประจำของตนเพลินๆ สะดุ้ง พร้อมกับมองหาต้นเสียง จะไม่ให้มองหาได้อย่างไรกัน ก็นั่นมันชื่อเขานี่นา
“ใครวะ”
นายหัวหนุ่มสบถกับตัวเอง เมื่อเห็นหลังไวๆ ว่าเป็นคนตัวเล็กบาง ดูท่าจะเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้หญิงได้ยังไงล่ะผมยาวขนาดนั้น อ้อนแอ้นขนาดนั้น เดินลากขา พร้อมกับแบกเป้ที่หลัง กำลังเดินไปยังทางบ้านของเขา
อันดามันก้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอ ซึ่งขนาดเขาไปเดินขนาบข้าง เจ้าหล่อนก็แค่ปรายตามองนิด แล้วก็หันเมินหนี มองจ้องบ้านเขาอย่างไม่น่าจะประสงค์ดีเท่าไหร่หรอก ก็ตาขวางยังกะคนบ้า
แต่แม่คนบ้าที่กำลังเดินอย่างเอาเป็นเอาตายนี่..
หน้าตาน่ารักดีแหะ
“อะแฮ่ม!”
“...”
“คุณจะไปไหนครับ ไม่ใช่คนแถวนี้แน่ๆ เมื่อกี้ผมได้ยินเรียกนายหัวอันดามันด้วย”
เจ้าของชื่ออันดามัน กลับแกล้งทำไก๋ ไม่รู้จักตัวเองเสียอย่างนั้น แล้วถามเธอหน้าตาย
“ฉันกำลังจะไปหานายหัวอันดามัน”
เมื่อมีคนมาชวนสนทนาด้วย หอมรักก็ตอบอย่างเสียไม่ได้ ชายหนุ่มที่ดู...ดู...หญิงสาวกวาดสายตามองเขาอีกหน หนนี้มองพินิจ แล้วกะพริบตาปริบๆ เอ่อเห้อ...แถวนี้มีถ่ายทำละครเกาหลีหรือเปล่านะ ผู้ชายรูปหล่อหน้าตี๋คนนี้ถึงมายืนตะหง่านโชว์กล้ามอยู่ที่นี่ หอมรักพยายามไม่มองต่ำลงไปกว่าอกเขา เขาสวมเพียงกางเกงเลเก่าๆ ตัวเดียว รองเท้าแตะคีบดูเป็นชาวบ้านมากๆ แต่ที่ดูผิดแผกจากคนแถวนี้คงจะเป็นหน้าตา และสำเนียง คนอะไรหุ่นล่ำมาก ดูแน่นไปเสียทุกส่วน ชวนอนาจารให้คิดลึก แว๊ก...
นี่กำลังหน้าสิ่วหน้าขวานนะยัยหอม...
เอ๊อ...
“อ้อ...” อันดามันกอดอก มองเธอแบบหัวจรดเท้า แน่นอนว่าเขาไม่รู้จักเธอ และเธอไม่รู้จักเขาแน่นอน
“มาหานายหัวเหรอครับ อืม มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
“ธุระส่วนตัว ส่วนตัวมากๆ”
หอมรักตอบห้วนๆ พลางทำท่าจะเดินต่อ แต่เสียงกระแอมกระไอจากคนข้างๆ ทำให้เธอหันขวับไปมองเขาอีกหน หนนี้ตาเขียวด้วย เพราะตานี่ชักจะทำให้เธอเสียเวลาในการไปชำระความกับนายหัวอันดามัน
“เอ่อ...ส่วนตัวขนาดไหนครับ ทางพ่อแม่ของนายหัวให้คุณมาบอกธุระอะไรหรือเปล่า หรือว่านายหัวสิมิลันส่งคุณมา”
“ไม่เกี่ยวกับคนอื่นค่ะ เป็นธุระส่วนตัวของฉันกับนายหัว”
เธอมองเขาแบบหัวจรดเท้า ด้วยสายตาชนิดหนึ่งที่ทำให้อันดามันรู้สึกไม่ค่อยจะพอใจนัก
“ซึ่งคุณไม่น่าจะเกี่ยวอะไรด้วย”
ไม่เกี่ยวได้ยังไงกันวะ ก็...แต่น่ะ...ลองดูอะไรตลกๆ ท่าจะขำดี
ว่าแล้วนายหัวจอมอำ มือวางอันดับหนึ่งแห่งอ่าวน้ำเมาก็พยักหน้า ท่าทางของเขาดูเปลี่ยนไปจากที่ขึงขังคาดคั้น กลายเป็นพินอบพิเทาในทันที
“อ้อ...ถ้าอย่างนั้นเป็นแขกของนายหัวใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมจะพาไปเองก็แล้วกัน มาผมช่วยถือกระเป๋าครับ แล้วคุณเดินกระเผลกๆ แบบนั้น เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
เขามองไปที่ข้อเท้าเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับเลือดที่ไหลซึม โดนเท้าความถึงความเจ็บปวดเข้า หอมรักก็เผลอก้มลงมองแผลตัวเอง หน้าของเธอซีดเผือดลงทันที เมื่อเห็นปริมาณเลือดเข้า
เธอกับเลือด! มันไม่ถูกกันอย่างแรง
วิ้ง...
เหมือนสติจะหลุด จนต้องพยายามสูดลมหายใจลึกๆ อันดามันเห็นท่าทางของเธอเข้าก็ตรงเข้าไปประคอง ร่างเล็กนั่นพอดิบพอดีกับอ้อมกอดเขา เธอตัวเล็กจริงๆ น่าจะสูงไม่ถึงร้อยหกสิบ เพราะตัวเธอสูงแค่บ่าเขาเท่านั้นเอง
หน้าตาก็เหมือนเด็ก ตัวก็เล็กยังกับเด็ก ไม่เคยเจอแน่ๆ หน้าตาแบบนี้ มีธุระอะไรกับเรานักหนานั่น ถึงได้ทำหน้าทำตายังกับจะฆ่าเราอย่างนั้นแหละ...
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ฉันจะเป็นลม ฉันไม่ชอบเลือด”
ยิ่งพูดหน้าเธอก็ยิ่งซีด นายหัวหนุ่มตัดสินใจช้อนเธอขึ้นอุ้ม หอมรักไม่มีเรี่ยวแรงจะห้ามอะไรแล้ว เพราะว่าตอนนี้หูเธออื้อไปหมด ตาลาย สมองเบลอ สติทำท่าจะดับ จนต้องหลับตาแล้วพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
กว่าจะถึงบ้านพักของเขา เธอก็แทบจะตาปิด เสียงตะโกนโหวกเหวกเรียกแม่บ้านมาพยาบาลเธอ หอมรักได้ยินเพียงแว่วๆ มารู้ตัวอีกที แผลของเธอก็ได้รับการดูแลเรียบร้อย ส่วนเธอกำลังนั่งเบลออยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ที่ถูกปรับเป็นที่นอนชั่วคราว
“ดีขึ้นหรือยังครับ”
เสียงทุ้มๆ ถาม เขาโบกพัดไปมาอยู่ข้างเธอ ตรงหน้ามีหญิงวัยกลางคนร่างท้วม มองเธออย่างเป็นห่วง ลุงอีกคนหนึ่งถือกล่องปฐมพยาบาลกำลังยืนมองจ้องเธออยู่เช่นกัน และ...สายตาเธอก็กวาดไปเจอกับชายร่างสูง ผิวสองสี ที่สวมเสื้อเชิ้ตรีดเรียบสีครีม กางเกงยีนสีเข้ม ดูเหมือนเขาจะดูภูมิฐานที่สุดแล้วในบ้านหลังโอ่อ่า ดูทันสมัยหลังนี้ หน้าตาเขาดูดีพอสมควรเลยทีเดียว
แต่หล่อน้อยกว่าตาเกาหลีหุ่นล่ำ ที่พาเธอมา...
แนะ...
หอมรักพยายามตั้งสมาธิจากความมึนที่เพิ่งหายเป็นลมมาหมาดๆ และตั้งสมาธิจากผู้ชายประหลาดที่ทำให้เธอจิตใจวอกแวก เธอจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนกอดอกมองเธออยู่ แล้วเอ่ยเสียงเรียบถามเขาว่า
“คุณคือนายหัวอันดามันหรือเปล่า”
“หืม?...”
คนที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนายหัวทำหน้างง ก่อนจะมองไปยังนายหัวตัวจริง ที่นั่งข้างแขกผู้แปลกหน้า กำลังจะอ้าปากค้าน นายของบ้านก็ขัดขึ้นเสียก่อน
“นายหัว นี่แขกของนายหัวยังไงล่ะครับ นายหัวรู้จักหรือเปล่า”
“เอ่อ...”
นายหัวตัวปลอมอึกอัก มองนายหัวตัวจริงตาปริบๆ อันดามันขยิบตาให้อีกฝ่ายเป็นเชิงไม่ให้พูดอะไร หอมรักมองจ้องคนที่เธอคิดว่าเป็นนายหัวตัวปลอมเขม็ง สติมา พร้อมกับพลังความโมโห ที่อีกฝ่ายทำร้ายคนในครอบครัว ทำร้ายหัวใจของเธอ ทำให้หอมรักโพล่งออกไปเสียงดัง
“ไม่เคยรู้จักหรอก จะรู้จักได้ยังไงกัน ฉันเป็นพี่สาวของสัญญามั่น คนที่นายหัวทำให้ท้องแล้วไม่รับผิดชอบยังไงกันเล่า!”
คนทั้งบ้านมองจ้องแขกผู้มาเยือน ราวกับถูกผีหลอกเมื่อได้ยินดังนั้น!