ตอนที่ : 10 ตัดขาดพ่อลูก 4
“ใจเย็น ๆ ซอ พ่อเขาแค่โกรธสักพักคงคิดได้ ซอไม่ต้องร้องนะลูกไม่ต้องร้อง” ยิ่งมารดาปลอบโยนคนเป็นลูกสาวก็ยิ่งร้องไห้หนักหน่วงออกมา เหมือนเจนเนตรต้องการระบายความอัดอั้นในใจให้ใครสักคนฟัง เพื่อบรรเทาความทุกข์ใจที่มีอยู่ในตอนนี้ให้บางเบาลง
“ซอรู้ว่าซอผิดค่ะแม่ ฮือ ๆ ๆ ซอไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ฮือ ๆ”
“ไม่ร้อง ๆ ซอ แล้วหลานอยู่ตรงนั้นไหมได้ยินเสียงร้องของซอจะไม่ดีเอานะลูก” นางเจนจิราพยายามหาเรื่องอื่นมาชวนคุย
“น้องวินหลับอยู่ในห้องนอนด้านล่างค่ะแม่ ซอออกมานั่งคุยตรงห้องรับแขก ไม่เป็นไรค่ะซอไม่ร้องแล้ว ฮะฮรึก” เจนเนตรใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกจากหน้า พยายามฝืนไม่ให้ร้องออกมาให้มารดาได้ยินอีก ปลายทางจึงได้ยินแค่เสียงสะอื้นฮัก ๆ แทน
“ดีแล้วซอร้องไห้มามากพอแล้วทีนี้ก็ตั้งสติให้ดี ฟังแม่นะซอเรื่องของพ่อต้องปล่อยให้เวลาเยียวยาจิตใจไปก่อน แม่เชื่อเดี๋ยวสักพักพ่อเขาก็ยอมรับได้ ส่วนซอก็ทำหน้าที่ของซอไปนะลูก ดูแลหลานให้ดี ๆ ให้สมกับที่ซอยอมสละทุกอย่างไปเพื่อเขา”
“ค่ะแม่ แม่เองก็ดูแลพ่อดี ๆ นะคะ ฝากขอโทษพ่ออีกครั้งด้วยค่ะ ฝากบอกว่าไม่ว่าพ่อจะคิดยังไงกับซอ แต่ซอก็ยังคิดว่าพ่อคือพ่อของซอเหมือนเดิมนะคะ”
“ได้ลูกเดี๋ยวแม่บอกพ่อให้ เลิกร้องไห้แล้วกลับไปทำงานของเราได้แล้ว งานบ้านทั้งหลังน่ะทำทั้งปีทั้งชาติก็ไม่หมดหรอก” ท้ายประโยคออกแนวประชดประชันอยู่เล็กน้อย ซึ่งส่งผลให้คนได้ยินหัวเราะออกมาเบา ๆ
“จริงของแม่ค่ะ งานบ้านทำทั้งชาติก็ไม่หมดจริง ๆ ขอบคุณนะคะแม่” เจนเนตรยิ้มแล้วแหงนหน้ามองเพดาน พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะพ่นออกมาแรง ๆ
“ซอดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก แม่ต้องวางสายแล้ว”
“บายค่ะแม่”
เจนเนตรวางสายจากมารดาไป ยกมือปาดคราบน้ำตาหยดสุดท้ายออกจากหน้าให้หมด คุยกับมารดาแล้วเธอมีกำลังใจสู้ชีวิตมากขึ้น ถูกของท่านทุกคนต่างมีชีวิตของตัวเอง และเธอก็ได้เลือกแล้วว่าจะดูแลหลานชายคนนี้ ฉะนั้นเธอจะต้องทำมันให้ดีที่สุดเหมือนกัน
คนที่ยืนแอบฟังอยู่เงียบ ๆ พอจะจับใจความได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น นักรบเหยียดยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย ใจหนึ่งนึกสะใจที่ทำให้พ่อตากระอักเลือดได้แบบนี้ แต่อีกใจก็รู้สึกหน่วง ๆ อยู่ข้างใน เป็นเพราะหยาดน้ำตากับเสียงสะอื้นไห้ของเจนเนตร
หลายวันต่อมานักรบพาเจนเนตรออกไปจดทะเบียนสมรสที่อำเภอ ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบง่ายใช้เวลาค่อนข้างน้อยและรวดเร็ว ทั้งคู่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอมาขึ้นรถ ด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
“ซอเก็บไว้เองทั้งสองแผ่นเลยนะพี่ไม่อยากเก็บ” นักรบยื่นใบทะเบียนสมรสให้หญิงสาวทั้งสองแผ่น เขาพูดเหมือนมันไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขา ซึ่งก็คงจริงเพราะเจ้าสิ่งนี้ก็เป็นแค่ใบอนุญาต ให้สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างถูกต้องเท่านั้นเอง
เจนเนตรรับทะเบียนสมรสมาแล้วโยนไปที่เบาะหลังในทันที เมื่อเขาไม่ใส่ใจทำไมเธอต้องสนใจด้วย กลายเป็นแผ่นกระดาษไร้ค่าสองใบบนเบาะหลัง
“ไปห้างเลยค่ะ ยังมีของต้องซื้ออีกเยอะ” หญิงสาวบอกเขาแล้วดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดตัว คนขับรถว่ากำลังถูกแดกดันอยู่ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ หมุนพวงมาลัยออกจากลานจอดรถไป
“ได้ข่าวว่าคุณพ่อตัดขาดพ่อลูกกันเหรอ” ระหว่างทางที่นั่งรถไปยังห้างสรรพสินค้านักรบก็ถามขึ้นลอย ๆ เจนเนตรถึงกับหันมามองหน้าเขาเล็กน้อย
“พี่น่านแอบฟังซอคุยกับแม่เหรอคะ” เป็นคำถามที่มาพร้อมกับคำตำหนิ หญิงสาวปรายตามองเขาเหมือนต่อว่าไปอีกที
“ร้องไห้กระซิก ๆ ลั่นบ้านแบบนั้น พี่คงไม่ต้องไปแอบหลังโซฟาให้ได้ยินหรอกนะ” น้ำเสียงของนักรบเหมือนเยาะเย้ยมากกว่าถามไถ่ทั่วไป
“พี่น่านได้ยินแบบไหนก็แบบนั้นแหละค่ะ” เจนเนตรบอกแล้วก็หันหน้าหนีไปมองทิวทัศน์ด้านข้างแทน
“อย่ามายอกย้อนพี่นะซอ พี่แค่อยากรู้ว่าคุณพ่อตัดขาดพ่อลูกกับซอจริงหรือเปล่าจะกล้าทำจริงเร้อ” เพราะเหลือลูกสาวแค่คนเดียวแล้ว นักรบไม่คิดว่าคนอย่างนายกฤษณ์จะกล้าตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับเจนเนตรได้
“คุณพ่อก็แค่โกรธอีกหน่อยก็คงจะหาย” เจนเนตรพยายามปลอบใจตัวเอง ทั้งที่ลึก ๆ แล้วไม่มีอะไรมามั่นใจได้เลยว่าท่านจะให้อภัยในเร็ววันนี้
“ให้มันจริงเถอะ พี่ว่าคุณพ่อคงจะรับไม่ได้ที่ลูกสาวสองคนมีผัวคนเดียวกัน” พอมาคิดดูอีกทีนักรบก็เห็นว่าพ่อตาของตน คงจะยอมรับในเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ
“อย่าพูดแบบนี้ได้ไหมคะพี่น่าน”
“ทำไมพี่พูดความจริงแท้ ๆ ทำไมซอทำเหมือนยอมรับไม่ได้ล่ะ ซอเป็นคนพูดเองนะว่าเป็นเมียพี่ก็ได้จำได้ไหม”
“เลิกพูดเถอะค่ะ” หญิงสาวขึ้นเสียงดังใส่เขาอย่างหงุดหงิด
“ทำไม ทำไมต้องห้ามพี่พูดด้วย !” อีกฝ่ายก็ตะคอกกลับคืนมาเหมือนกัน
“พี่น่านอย่าหาเรื่องกันได้ไหมคะ !” เพราะเสียงดัง ๆ ของทั้งคู่ทำให้ทารกน้อยบนเบาะนั่งเด็กร้องไห้จ้าขึ้นมา
“โอ๋ ๆ คนเก่งของน้า ไม่ร้อง ๆ” เจนเนตรหันไปหาเจ้าตัวน้อยที่เบาะหลังแทน
“เพราะซอพูดเสียงดังเห็นไหมลูกตกใจจนร้องไห้เลย”
“ค่ะซอผิดเองผิดคนเดียว พี่น่านไม่ได้เสียงดังเลย สักนิดก็ไม่เคย” คำพูดถากถางของหญิงสาวทำให้คนขับรถต้องนั่งเงียบไป มือประคองพวงมาลัยไปบนท้องถนนอย่างเงียบ ๆ เสียงร้องไห้ลูกชายเขายังดังไม่ยอมหยุด นักรบเหลือบตามองคนด้านข้างว่าจะทำอย่างไรกับเจ้าตัวน้อยตรงเบาะหลัง