บทย่อ
“ไสหัวออกไปจากบ้านพี่เดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่พี่จะหมดความอดทน” “ไม่นะคะซอยังอยากเลี้ยงน้องวินก่อน” “พี่ไม่ให้เลี้ยง ลูกพี่พี่เลี้ยงเองได้” “วัน ๆ เอาแต่กินเหล้า หน้าลูกยังไม่เคยมอง คนอย่างพี่นี่นะจะเลี้ยงลูกเอง” “พี่เลี้ยงได้ก็แล้วกัน” “วันก่อนลูกร้องพี่ยังไม่สนใจเลย เกิดวันไหนน้องวินป่วยขึ้นมาพี่น่านจะรู้เรื่องไหม นอกจากจมอยู่กับความเสียใจ” “อย่ามาสะเออะเรื่องของพี่” “แต่นี่หลานซอ ซอสงสารหลานที่มีพ่อไร้สติแบบพี่” “ซอ !” นักรบเงื้อฝ่ามือขึ้นสูง “อื้อ !” เจนเนตรหลับตาแน่นพร้อมกับยกมือขึ้นบังหน้าตัวเองไว้ ทว่าฝ่ามือของเขาก็ไม่ได้ตบลงมาบนหน้าเธอ หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเห็นสายตาของเขาเหมือนคนกำลังจะขยี้เธอให้แหลกลงคามือ เสียงกัดฟันของเขาดังกรอด ๆ “จะไม่ออกไปจากชีวิตพี่กับลูกพี่ใช่ไหมซอ” เขาเข่นเขี้ยวถามออกมา “ตอนนี้ไม่ค่ะ” “ถ้าอยากเลี้ยงลูกพี่นักก็มาเป็นเมียพี่สิ” นักรบเยาะหยันน้องเมียตัวเองออกมา “ค่ะเป็นก็ได้”
ตอนที่ : 1 สูญเสีย
1
สูญเสีย
ทารกน้อยในวัยสองสัปดาห์กำลังร้องไห้เสียงดังจ้าลั่นบ้าน ขณะที่คนเป็นพ่อกำลังนั่งยกขวดเหล้ากระดกเข้าปาก ดวงตาเหม่อลอยเหมือนคนไม่สนใจเสียงร้องไห้ของลูกชายตนเอง ทว่าเสียงร้องของเจ้าตัวน้อยก็ดังต่อเนื่องไม่ยอมหยุด
“ซอหลานร้องไห้ได้ยินไหม !”
“ซอ !”
“ค่ามาแล้วค่าพี่น่าน” เจนเนตรวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกล หญิงสาวตากผ้าผืนสุดท้ายอยู่หลังบ้านเพิ่งเสร็จพอดี
“โอ๋ ๆ น้ามาแล้วลูก หิวนมเหรอครับน้าชงไว้ให้แล้วนะ ไม่ต้องร้อง ๆ คนเก่งของน้า” เจนเนตรอุ้มทารกน้อยที่ร้องจนตัวแดงไปหมดขึ้นมาแนบอก กอดปลอบโยกไปมาเบา ๆ ด้วยความสงสารหญิงสาวปรายตามองพ่อของหลานชาย ก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่าย
เจนเนตรนำขวดนมที่ชงไว้ก่อนหน้ามาป้อนให้น้องวิน ซึ่งทารกตัวน้อยก็ดูดนมจากขวดเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย
“หิวล่ะสิเรา น้าขอโทษนะครับ น้าไปซักผ้าให้น้องวินอยู่ไงครับ จะได้มีเสื้อผ้าหอม ๆ ใส่ไง” หญิงสาวอุ้มลูกชายเดินออกจากห้องรับแขกของบ้านไปข้างนอก ซึ่งบรรยากาศดีกว่าภายในบ้านเป็นไหน ๆ
มีวิวภูเขาตัดกับแมกไม้สีเขียวเต็มไปหมด คงมีแค่สถานที่แห่งนี้ที่ยังสวยงามอยู่ เจนเนตรนั่งลงบนเก้าอี้ไม้สีขาวใต้ร่มไม้ใหญ่ข้างบ้าน อุ้มหลานชายตัวน้อยเอาไว้แนบอก จู่ ๆ น้ำตาก็พลันไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เธอจะมีชีวิตอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน ถ้าไม่ติดว่าสงสารเจ้าหลานชายตัวน้อย ที่ต้องมาสูญเสียแม่ไปหลังลืมตามาดูโลกได้แค่ไม่กี่วินาที เธอคงจากไปพร้อมกับบิดามารดาแล้ว
หญิงสาวในวัยยี่สิบเจ็ดปีกำลังนั่งป้อนนมหลานชายตัวเอง สายตามองเหม่อไปตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย บ้านหลังนี้เคยมีชีวิตชีวา เคยมีเสียงหัวเราะอันสดใสทุกครั้งที่เธอมาเยี่ยมพี่สาว แต่บัดนี้ทุกอย่างกลายเป็นอดีต เหลือเพียงแค่เถ้าถ่านจากการสูญเสีย เจนนภัทรพี่สาวผู้น่าสงสารของเธอ ตกเลือดตายหลังคลอดลูกเมื่อสองสัปดาห์ก่อน นักรบพี่เขยในวัยสามสิบแปดปีของเธอเหมือนคนตายทั้งเป็น งานศพไม่ไปลูกชายไม่แตะ เขามาวันเผาศพเลยทีเดียว ในสภาพของคนหัวใจแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี
“แม่คะซออยู่ดูน้องวินต่อนะคะ เห็นสภาพพี่น่านแล้วซอสงสารหลานค่ะ”
“เอางั้นเหรอยัยซอ แต่แม่ว่าอยู่กับพี่น่านสองต่อสองมันก็ไม่เหมาะสมนะลูก”
“แค่ไม่กี่วันเองค่ะแม่ ห้องนอนก็มีหลายห้อง อีกอย่างซอนอนห้องหลานด้วย พี่ซูคงไม่อยากให้เราทิ้งน้องวินไปแบบนี้แน่ ๆ ซอว่า”
“ยัยซอมันจะดีเหรอลูก”
“แม่ไม่สงสารหลานเหรอคะ”
“ก็สงสารอยู่แต่แม่อยู่ด้วยไม่ได้นะซอ พ่อเราก็ด้วยเข้าใจใช่ไหมลูก”
“เข้าใจค่ะ” เพราะพ่อกับแม่ของเธอไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับลูกเขยคนนี้ ที่ทำให้เจนนภัทรต้องหนีงานหมั้นไปแบบไม่บอกกล่าว ทำให้ทุกคนเสียหน้าอย่างหนัก จากสาวเมืองกรุงมาอยู่ในป่าในเขาห่างไกลผู้คน ความสัมพันธ์พ่อตาแม่ยายกับลูกเขยจึงเข้าขั้นวิกฤตมาโดยตลอด กระทั่งเหตุการณ์ร้ายนี้ได้เกิดขึ้น ทุกอย่างเลยเลวร้ายหนักกว่าเดิมอีก
“ถ้ายัยซูเชื่อพ่อกับแม่ชีวิตคงไม่ลงเอยแบบนี้หรอก ถ้าได้อยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ไปคลอดในโรงพยาบาลดี ๆ ก็คงไม่ต้องมาตายแบบนี้ด้วย” นายกฤษณ์เดินออกมาจากห้องครัว หลังเข้าไปหากาแฟตอนเช้ากิน
“พ่อคะ นี่ก็คลอดโรงพยาบาลดีที่สุดของที่นี่แล้วนะคะ”
“มันไม่เหมือนกันยัยซอ แล้วดูพี่เขยเราสิหายหัวไปเลยลูกเต้าก็ไม่เอา ไม่รู้มันเสียใจที่ไม่มีคนเลี้ยงลูกหรือยังไงกัน ไปคุณกลับบ้านเราดีกว่า ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว” คนเป็นพ่อไม่ฟังเสียงและไม่รับรู้เรื่องใดอีก ไม่แม้แต่จะสนใจหลานชายด้วยซ้ำ
“พ่อคะ”
“ไม่เป็นไรซอแม่คุยกับพ่อเอง รีบกลับบ้านนะอย่าอยู่นาน”
“ค่ะแม่”
บิดามารดาของเจนเนตรกลับทันทีหลังวันเผาศพพี่สาวของเธอ เหมือนพวกท่านไม่อยากอยู่รับรู้ความเสียใจ และไม่อยากเห็นหน้าลูกเขยที่เอาแต่ทำตัวซังกะตายไปวัน ๆ บิดาของเธอก็หยิ่งทะนงไม่อุ้มหลาน พี่เขยก็ช้ำใจหน้าลูกยังไม่กล้ามอง มารดาเธอก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้เพราะต้องกลับพร้อมบิดา เหลือแค่เธอที่ยังคงเป็นที่พึ่งให้หลานชายตัวน้อยของตนเองได้
เจนเนตรปาดคราบน้ำตาออกจากหน้า ถึงไม่มีใครต้องการเด็กคนนี้ แต่เธอจะไม่มีวันทอดทิ้งเขาเด็ดขาด ยังไงก็คือสายเลือดของเธอเหมือนกัน เป็นหลานแท้ ๆ ของเธอเอง
“ซอไม่ทิ้งหลานหรอกค่ะพี่ซูไม่ต้องห่วงนะคะ” หญิงสาวพูดกับสายลมผ่านต้นไม้ใบหญ้าไป เผื่อว่าคนบนฟ้าจะรับรู้ถึงความในใจนี้
หลังน้องวินอิ่มนมแล้วเจนเนตรก็ยกอุ้มพาดบ่า ลูบหลังเจ้าตัวน้อยขึ้นเบา ๆ จนได้ยินเสียงเรอออกมา ไม่ทันไรเจ้าตัวน้อยก็หลับปุ๋ยไปในทันที น้องวินเลี้ยงง่ายกินอิ่มก็นอนหลับ ตื่นมาตอนหิวเท่าหรือถ่ายหนักเท่านั้นเอง หญิงสาวพาหลานชายไปวางในเตียงนอนเด็ก เพื่อที่จะได้ไปทำงานบ้านต่อ เพราะนักรบไม่ให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดอีกเลยนับตั้งแต่พี่สาวของเธอจากไป หลายวันที่ผ่านมานี้เจนเนตรเลยต้องรับหน้าที่เรื่องงานบ้านทั้งหมด รวมถึงทำกับข้าวให้พี่เขยกินด้วย
เจนเนตรอยู่ที่นี่ครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว นักรบไม่คิดจะช่วยเธอเลี้ยงลูกด้วยซ้ำ หญิงสาวเริ่มมองเห็นปัญหาที่ตามมา หลังจากพี่สาวของเธอจากไปอย่างแท้จริงแล้ว พี่เขยของเธอไม่สนใจน้องวินเลยแม้แต่น้อย เหมือนเขายังทำใจเรื่องลูกที่เกิดมาแล้วทำให้แม่ตายไม่ได้ จึงเลือกที่จะจมอยู่กับขวดเหล้า เพื่อเมาแล้วให้ลืม ๆ เรื่องร้าย ๆ ทั้งหมด ทว่าการอยู่ที่นี่ต่อแบบไม่ได้บอกที่บ้าน ทำให้มารดาของหญิงสาวโทรศัพท์มาถาม
“ซอลูกจะกลับเมื่อไหร่ลูก ไม่โทรมาบอกแม่เลย แม่ก็เป็นห่วงนะ”
“เอ่อ ซอยังไม่รู้เลยค่ะแม่”
“หมายความว่ายังไงลูกที่ว่าไม่รู้ แล้วเรื่องงานของเราล่ะไม่คิดจะกลับมาทำเหรอยัยซอ”
“แม่คะ ซอขอโทษที่โกหกแม่เรื่องงานค่ะ”
“โกหกอะไรซอ” น้ำเสียงของคนเป็นแม่ดูประหลาดใจหลังได้ยิน
“ซอมีปัญหากับหัวหน้างานค่ะแม่ ซอลาออกมาเกือบเดือนแล้วค่ะแม่” เจนเนตรสารภาพตามตรง เธอย้ายไปอยู่คอนโดมิเนียมใกล้ที่ทำงาน ที่บ้านเลยไม่รู้เรื่องที่เธอไม่ได้ออกไปทำงานในช่วงที่ผ่านมา