ตอนที่ 4 ลุงเคผู้แสนดีของพอลี่ 2
พอลี่กำลังนั่งรอกับเซนร้องเรียกแม่กับพายุทันที พร้อมกับวิ่งเข้ามาหาทั้งสอง และเมื่อมาถึงหนูน้อยก็ร้องขอให้พายุนั้นอุ้มตน
“ลุงเค...เอาหน้ามาให้พอลี่หอมหน่อย พอลี่คิดเถิง!...” หนูน้อยสั่งชายหนุ่มด้วยความใสซื่อ
“จ้า ลุงเคก็คิดถึงคนสวยของลุงเหมือนกัน ลุงมีของฝากมาให้ด้วยนะ” ชายหนุ่มทำตามที่หนูน้อยสั่ง พร้อมกับเอ่ยให้อีกฝ่ายดีใจ
“ไปหาเซนกันดีกว่า สงสัยอ้อกับพี่ไบรอันยังไม่มารับแน่ๆ เลย” รัตนาเอ่ยชวนลุงหลานเดินไปหาเซน
“หวัดดีก๊าบ!...น้าเตร่า...ลุงเค...” ชายหนุ่มยกมือไหว้แบบไทยอย่างที่เคยทำ
“มัมกับแด๊ดยังไม่มารับเหรอจ๊ะ สุดหล่อของน้า” รัตนาเอ่ยถามหนุ่มน้อย
“ยาง...” เซนตอบ
“เดี๋ยวลุงกับน้าเตร่าและพอลี่นั่งรอเป็นเพื่อนนะ พอมัมกับแด๊ดเรามา เราจะได้ไปกินข้าวด้วยกันและเดินเล่นที่ห้างเพื่อซื้อของเล่นดีไหมค๊าบ!...”
พายุเอ่ยบ้าง พร้อมกับอุ้มหนูน้อยคนสวยไปนั่งข้างเซน และตามมาด้วยรัตนาที่มานั่งอีกข้างของเซน
พอลี่ไม่ยอมลงไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวเลย ยึดตักของพายุเป็นที่นั่งพร้อมกับนั่งกอด ออดอ้อนอยากได้ของเล่น และความสนิทสนมของพายุและพอลี่นี้เอง ที่ทำให้คนที่แอบมองอยู่เงียบๆ ถึงกับเดือดทนดูไม่ได้ เขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกันที่เห็นหนูน้อยสนิทสนมกับคนอื่น ทีกับเขาทำไมหนูน้อยถึงไม่ชอบและเกลียดเขานัก เขาจ้องมองอยู่นาน ในที่สุดก็ทนดูไม่ได้ จึงตัดสินใจกลับไปรอสำเร็จโทษหญิงสาวที่บ้านจะดีกว่า
เย็นวันนี้รักชาติตั้งใจมาทานข้าวเย็นกับลูกเขยและลูกสาวของตน และอีกอย่างคิดถึงหลานสาวตัวแสบด้วย แต่พอมาถึงบ้านกลับเงียบเลยนั่งคุยกับนมหอมในห้องนั่งเล่นรอ ใจจริงแล้วอยากมาดูลูกสาวกับลูกเขยมากกว่าว่าปรับความเข้าใจกันได้หรือยัง หรือว่าแย่กว่าเดิม
“คุณชาติคะ ดิฉันขอถามได้ไหมคะ” นมหอมไม่อยากปล่อยให้ความสงสัยค้างคาใจเช่นนี้จึงตัดสินใจถาม
“อะไรครับนมหอม” รักชาติเอ่ยอย่างสุภาพ เขากับนมหอมนั้นอายุไม่ต่างกันมาก
“ดิฉันคิดว่าดิฉันดูไม่ผิด หนูพอลี่เป็นลูกของคุณพอลกับหนูต่อใช่ไหมคะ”
รักชาตินิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบนมหอมอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีปิดบังอะไร
“ครับ พอลี่เป็นลูกของเขาทั้งสองคน แต่อย่าเพิ่งให้พอลรู้นะ เพราะผมอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง” รักชาติตอบตรงๆ
“คุณเล่าให้ดิฉันฟังได้ไหมคะ ว่าหนูต่อท้องตั้งแต่เมื่อไหร่”
ตอนนี้นมหอมยิ้มแก้มปริ นางว่าแล้วเชียว ทำไมถึงเหมือนกันเป๊ะขนาดนี้ เจ้าตัวก็บื้อเหลือเกินดูก็ไม่ออกว่าพอลี่นั้นหน้าตาเหมือนใคร นิสัยเหมือนใคร คิดแล้วก็อยากขำนัก
“รู้ตอนไปถึงฝรั่งเศส ลูกผมก็ไม่คิดว่าจะท้องเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร ตลอดเวลาเราปิดบังตลอด กันไม่ให้พอลรู้ เพราะช่วงแรกๆ นั้นพอลจ้างคนติดตามลูกผมตลอด แต่หลังๆ มาก็ไม่ให้คนติดตาม จนผมคิดว่าพอลนั้นหมดรักลูกผม แต่พอกลับมาเมืองไทยกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อเขาขอโอกาสแมนๆ อย่างลูกผู้ชาย ผมก็โอเคในเมื่อเขากล้าขอผมก็กล้าให้ จึงได้ให้ต่อมาอยู่ที่นี่ แต่เรื่องพอลี่เป็นลูกของพอลนั้น ผมจะรอให้ลูกผมบอกเจ้าตัวเขาเอง นมหอมช่วยปิดเรื่องนี้ด้วยนะครับ”
“ว่าแล้วเชียว ดิฉันคิดไว้ไม่มีผิด แค่เห็นหนูพอลี่ก็รู้แล้วว่าเป็นลูกใคร เล่นถอดแบบมาแบบนั้น แถมนิสัยเหมือนกันมาก ดิฉันจึงปักใจเชื่อแต่แรกว่าเป็นลูกของคุณพอล”
“ครับ พอลี่เป็นลูกของพอลกับต่อ”
รักชาติก็ไม่อยากปิดหรอก แต่ก็อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างจึงอยากขอร้องให้อีกฝ่ายนั้นปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน แต่ใครจะรู้เล่าว่าเวลานี้พญามารนั้นกลับมาแล้ว และกลับมาทันได้ยินทั้งสองพูดคุยกันเสียด้วย
พอลที่บังเอิญเดินเข้ามาในห้องรับแขกเงียบๆ เพราะก่อนเดินเข้ามานั้นคนรับใช้บอกว่าพ่อตามา ชายหนุ่มจึงตั้งใจจะมากราบไหว้เสียหน่อย แต่ไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องสำคัญแบบนี้ และไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองด้วยว่าเรื่องที่ได้ยินนั้นมันเป็นจริง ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขาจ้างนักสืบติดตามหญิงสาวตลอดเวลาตอนที่ไปฝรั่งเศสใหม่ๆ แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีคนมาจีบ เขาจึงเลิกให้คนติดตาม แต่ไม่คิดเลยว่าหญิงสาวนั้นจะท้องกับเขาจริงๆ
ตอนนี้พอลรู้ซึ้งแล้วว่าทำไมเวลาพอลี่ไม่ยอมให้เขาเป็นพ่อ ตนถึงรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ที่หัวใจ แถมยังไม่ชอบใจเวลาที่พอลี่ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าตน ทำไมเขาเลวอย่างนี้ หนูน้อยเป็นลูกของตนแท้ๆ แต่กลับคิดแต่จะหาวิธีจะแกล้ง จะกำจัด ทั้งๆ ที่เป็นลูกในไส้ของตน
“ลูกเหรอ...” พอลเอ่ยอย่างแผ่วเบา ไม่อยากจะเชื่อว่าตนจะเป็นพ่อของพอลี่จริงๆ
“ใช่!...ต้องถาม...ต้องถามให้รู้เรื่อง....”
เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็เดินเข้าไปหาพ่อตากับแม่นมของตนด้วยความสับสน
“คุณพอล...” นมหอมเอ่ยออกมาอย่างคนละเมอ เมื่อเห็นคุณของตนเดินเข้ามาในห้องรับแขก
เมื่อได้ยินคู่สนทนาพูดถึงชื่อชายหนุ่ม รักชาติก็หันไปดูทันที และมันก็เป็นลูกเขยเขาจริงๆ ด้วย สงสัยคงได้ยินเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้แล้วแน่ๆ ถึงได้มีสีหน้าสับสนกังวลเช่นนี้
พอลไม่สนใจคำเรียกของนมทั้งนั้น ชายหนุ่มเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็มาถึงโซฟาตัวที่ทั้งสองนั่งแล้ว พอมาถึงเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งพร้อมกับถามสิ่งที่อยากรู้ให้กระจ่างใจ
“เรื่องเมื่อกี้เป็นเรื่องจริงใช่ไหมครับคุณพ่อ พอลี่เป็นลูกผมใช่ไหมครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเย็น เวลานี้ในหัวสมองของเขาคิดถึงแต่เรื่องลูก ว่าจะทำเช่นไรลูกสาวตัวน้อยจะยอมรับตน เพราะเท่าที่ผ่านมาพอลี่นั้นไม่ชอบหน้าเขา เกลียดเขาอย่างกับอะไร พอเขาเข้าใกล้หน่อย หนูน้อยก็จะร้องไห้ หรือไม่ก็กล่าวว่าเขาใจร้ายอย่างงั้น อย่างงี้บ้าง แถมยังชอบยกคนอื่นว่าดีกว่าเขา ทั้งๆ ที่เขาเป็นพ่อแท้ๆ ของหนูน้อย หากรู้ว่าเขาเป็นพ่อ พอลี่จะยอมรับเขาไหม ชายหนุ่มเริ่มคิดหนักเสียแล้วเวลานี้
“เรื่องอะไรพอล” รู้ทั้งรู้ว่าลูกเขยหมายถึงอะไร
“ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ เรื่องนี้ดิฉันไม่เกี่ยวค่ะ” นมหอมรีบเอ่ยขอตัวทันที เพราะดูท่าแล้วคงจะยาวเอาการ
“ครับนม” พอลหันมาเอ่ยรับ และเมื่อนมหอมเดินลับไปแล้ว ชายหนุ่มก็หันมาถามพ่อตาอีกครั้ง “เรื่องที่คุณพ่อคุยกับนมไงครับ ผมได้ยินชัดเจนทุกอย่างว่าพอลี่เป็นลูกสาวของผมกับน้องต่อ คุณพ่อช่วยอธิบายได้ไหมครับว่ามันจริงหรือไม่จริง” ถามอย่างจริงจัง
“ได้ยินว่าไงก็หมายความว่างั้นแหละพ่อพอล พ่อก็ไม่อยากเล่าอะไรซ้ำซากนะ” ยังไม่วายตอบกวนโอ๊ยลูกเขยอีก
“ทำไม!...ทำไม!...ต้องปิดบังผม คุณพ่อรู้ไหมตั้งห้าปี ที่ผมเป็นคนโง่ไม่รู้เรื่องนี้ ทุกคนเห็นผมโง่มากใช่ไหมครับ ถึงได้หลอกกันได้ลงคอ ถึงที่ผ่านมาจะไม่ดี เลว ไม่มีคุณสมบัติจะเป็นพ่อคนได้ แต่ผมก็พูดได้เต็มปากว่าผมรักลูกกับเมียเท่าชีวิต รักมากกว่าตัวของผมเองเสียด้วยซ้ำ” พอลเอ่ยทั้งน้ำตาคลอเบ้า