บทย่อ
“พี่พอลไม่มาส่งลูกหน่อยเหรอคะ” รัตนาพูดให้ได้ยินกันเพียงสองคน เพราะถ้าพอลี่ได้ยินคงร้องโวยวายปฏิเสธอีกเป็นแน่ “ไม่ใช่ลูกพี่ นั่นเป็นลูกของเคต่างหาก” ด้วยความน้อยใจ จึงทำให้พูดแบบนี้ออกมา “ก็ดี งั้นอย่ามายุ่งกับต่อและลูกอีกแล้วกัน” ในเมื่อเขางอนได้ เธอก็งอนได้เหมือนกัน มีอย่างที่ไหน ลูกของตนยังยกให้เป็นลูกคนอื่น พอลได้ยินดังนั้นก็รีบลงรถมาส่งลูกสาวทันที แต่ก็ยังคงความหน้าบึ้งไว้เช่นเคย “ส่งก็ส่งสิ” ปล.นิยายหมดสัญญาจาก สนพ.เคยวางขายมาแล้วชื่อเดิม “เมียพญามาร”
บทนำ
ดวงตาสีฟ้าจ้องมองควันไฟที่กำลังลอยออกจากเมรุมุ่งตรงสู่ท้องฟ้าด้วยความเศร้าใจในวัดแห่งหนึ่ง ก่อนจะมองไปรอบๆ เมรุ แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างบางร่างหนึ่งที่กำลังเดินมาหาตนด้วยความเคียดแค้นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด หากไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ เรื่องทุกอย่างก็จะไม่เป็นแบบนี้ เขาก็คงไม่ต้องเหลือตัวคนเดียวในโลกใบนี้
“พี่พอลคะ เรากลับกันเถอะค่ะ”
เสียงใสเอ่ยชวนชายหนุ่มกลับบ้าน
ดวงตาสีฟ้าตวัดมองเจ้าของเสียงด้วยความแค้นใจ
“ไม่!...”
รัตนาตกใจกับน้ำเสียงแข็งที่ตวาดตนด้วยความกลัว “กลับกันเถอะค่ะพี่พอล คุณลุงกับคุณป้าท่านไปสบายแล้ว” เธอยังไม่ละความพยายามที่จะชวนชายหนุ่มกลับบ้านพร้อมกัน พร้อมเอื้อมมือบางไปจับกุมมือหนาไว้ แต่แล้วก็ถูกมือหนาสะบัดออกอย่างแรง
“ก็บอกว่าไม่ก็คือไม่ไง!...จะไปไหนก็ไป อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าเธออีก ไป!...” เมื่อสะบัดมือออกจากการจับกุมของสาวเจ้า เขาก็ผลักเธอล้มลงพื้นอีกครั้ง ก่อนจะพูดต่อ “เพราะเธอ หากไม่มาดูตัวเธอ พ่อกับแม่ฉันก็ไม่ต้องมาตายที่นี่ ไม่ต้องมาประสบอุบัติเหตุแบบนี้ เพราะเธอมันตัวซวย!...” พูดพร้อมกับเอานิ้วมือหนาจิ้มที่หน้าผากมนของรัตนาและผลักไปด้านหลังอีกครั้งแล้วเดินหนีไป ก่อนที่เขาจะทำมากเกินกว่านี้
รัตนาได้แต่ร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าสายตาที่เคยเอ็นดูที่ชายหนุ่มมอบให้จะกลับกลายมาเป็นความเกลียดชัง ไม่มีอีกแล้ว สายตาเอื้อเอ็นดูคู่นั้น หญิงสาวได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นและร้องเรียกตามชายหนุ่ม
“พี่พอล...ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ต่อขอโทษ...อึก!...”
ถึงแม้จะได้ยินเสียงร้องเรียกชื่อตน ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะหยุดและหันกลับมามองคนที่นั่งอยู่กับพื้น
“พี่พอลอย่าไป...รอต่อด้วยค่ะ...ต่อไม่ผิด ต่อไม่ได้ทำ...อึก!...”
รัตนาพยายามยันกายลุกขึ้น แต่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้ เท้าเล็กของเธอดันพลิกตอนที่ถูกชายหนุ่มผลัก
“ต่อเป็นอะไรลูก”
รักชาติเดินมาเห็นลูกสาวตัวเองกำลังพยายามจะลุกขึ้นเลยรีบเดินเข้ามาช่วยพยุง
“ต่อไม่เป็นอะไรค่ะคุณพ่อ เพียงแต่พี่พอล...เขาเกลียดต่อแล้วค่ะ...อึก!...”
“อย่าร้องนะลูก ตอนนี้พี่เขาอาจจะยังทำใจไม่ได้ ปล่อยพี่เขาไปสักพักเถอะ เดี๋ยวพี่เขาจะคิดได้เองว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะลูก แต่เป็นเพราะโชคชะตา”
รักชาติโอบกอดลูกสาวจ้องมองไปยังทิศทางที่พอลเดินจากไปด้วยความรู้สึกสงสารชายหนุ่มที่ต้องมาเสียบิดามารดาพร้อมๆ กันแบบนี้
จากวันนั้นเป็นต้นมา รัตนาก็ต้องตกอยู่ในฐานะจำเลยของชายหนุ่มที่เธอคิดว่าเขาเป็นเทพบุตร เมื่อเขาคิดว่าเธอเป็นต้นเหตุให้บุพการีของเขาต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทุกครั้งที่ได้เจอหน้า ทุกครั้งที่ได้สบตา ชายหนุ่มผู้เคยอ่อนโยนก็มีเพียงแค่ความเฉยชาและแววตาเคียดแค้นชิงชังมอบให้กับเธอ แม้กระทั่งในวันวิวาห์ของเขาและเธอ
น้ำผึ้งพระจันทร์ที่ดื่มด่ำหลังค่ำคืนวิวาห์หวานกลับกลายเป็นน้ำผึ้งขมผสมยาพิษที่เขาหยิบยื่นให้ เมื่อเทพบุตรอย่างพอลแปรเปลี่ยนเป็นอสูรร้ายยัดเยียดความทุกข์ทรมานให้เธอเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ตลอดเวลาสองเดือนกว่าที่ใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยา เธอก็ไม่ต่างจากที่รองรับอารมณ์ของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้แตะต้องเธอเพราะความรังเกียจ แต่วาจาและแววตาที่เขาใช้เชือดเฉือนเธอก็ไม่ต่างจากคมดาบที่กรีดลึกลงในหัวใจจนกลายเป็นบาดแผลเรื้อรังที่ไม่อาจเยียวยาได้
เพราะความเกลียดเคียดแค้นในตัวหญิงสาว ที่คิดว่าเธอเป็นต้นเหตุให้บุพการีของตนเสียชีวิต พอลจึงยอมแต่งงานกับเธอตามความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งที่ไม่ได้เต็มใจสักนิด ชายหนุ่มฉวยโอกาสนั้นทรมานเธอ กระทำทุกอย่างให้เธอเจ็บปวดอย่างที่เขาเจ็บ แม้กระทั่งการยัดเยียดค่ำคืนอันแสนร้ายกาจให้กับเธอวันแล้ววันเล่า กว่าชายหนุ่มจะรู้สึกตัวว่าความรักได้ถักทอขึ้นในใจ มันก็ช้าไปเสียแล้ว เมื่อทุกอย่างมันเดินมาถึงจุดจบ
“ต่อต้องการหย่ากับคุณค่ะ ถ้าคุณไม่หย่า ต่อก็จำเป็นต้องพึ่งศาล” ถ้อยคำของเธอยังดังก้องอยู่ในหัว วนเวียนซ้ำไปมาราวกับหนังม้วนเก่าที่ฉายแล้วฉายอีก แต่คนอย่างพอลไม่มีวันยอมหย่าเด็ดขาด ในเมื่อทบทวนหัวใจดีแล้วว่าได้มอบใจรักให้กับรัตนา เพราะความรักที่มีต่อหญิงสาวถึงทำให้ผู้ชายใจทรามอย่างเขามาอยู่ตรงนี้อีกครั้ง เพื่อตามทวงหัวใจของตนคืน
“คุณพ่อให้โอกาสผมแก้ตัวสักครั้งเถอะนะครับ ขอให้ผมได้อยู่กับต่อ ได้ทำเพื่อต่ออีกสักครั้ง ผมสัญญาว่าจะดูแลต่ออย่างดีและจะไม่ทำให้ต่อเสียใจอีก ผมรักต่อมากนะครับ”
รัตนาได้แต่ร้องไห้กับสิ่งที่ได้ยิน ขณะนี้สมองของหญิงสาวมันว่างเปล่าไปหมดเลย ไม่อยากจะรับรู้อะไรในสิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมาแม้แต่น้อย ‘ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้เจ็บอย่างที่เขาได้ทำกับเธอเอาไว้ มาสำนึกได้ตอนนี้ก็สายไปแล้ว ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เธอรอเขา เฝ้ารอเขามาตลอด แต่เขากลับด่าว่าเธอสารพัด ไหนจะควงผู้หญิงอื่นต่อหน้าต่อตาเธอ ทั้งๆ ที่แต่งงานกับเธอ เป็นสามีเธอ แต่เขาก็ไม่เคยจะแนะนำให้ใครรู้ว่ารัตนาคนนี้คือภรรยาเลย มีแต่บอกว่าผู้หญิงบ้าคนหนึ่งเท่านั้น มันสมควรแล้วที่เรื่องทุกอย่างจะจบแบบนี้’
“คงไม่ได้หรอก ลูกสาวฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เจอนายอีก พอล...นายกลับไปเถอะ”
รักชาติรู้ว่าลูกสาวแอบฟังอยู่หลังประตู ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลูกสาวนั้นรักชายหนุ่มตรงหน้านี้แค่ไหน
“หากว่าโอกาสผมหมดไปแล้ว ผมก็จะไม่ขอ แต่ขอเจอหน้าน้องต่อสักครั้งเถอะครับ ขอให้ผู้ชายเลวๆ คนนี้ได้ขอโทษและได้บอกรักเธอก่อนที่ผมจะจากไปแล้วจะไม่กลับมาอีกครับ”
พอลยังอ้อนวอนบิดาของหญิงสาว อย่างน้อยได้เจอหน้าครั้งสุดท้ายก็ยังดี
“ต่อเขาจะไปเมืองนอก เขาไม่ว่างมาพบพอลหรอก”
รักชาติเคารพการตัดสินใจของลูกสาวทุกอย่าง เพราะไม่ใช่ว่าเขาหลับหูหลับตาไม่รู้อะไรเลย ที่ผ่านมาตลอดเวลาที่ลูกสาวแต่งงานกับชายหนุ่มนั้นทรมานแค่ไหน จนวันนี้สุดจะทนแล้วถึงได้ต้องการหย่ากับชายตรงหน้า
“คุณพ่อหมายความว่ายังไงนะครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ ว่าสิ่งที่ได้ยินมานั้นเป็นจริงรึเปล่า
“น้องต่อจะไปเมืองนอก จะไปเรียนต่อ และต้องการหย่าขาดกับพอลด้วย พรุ่งนี้เจอกันที่สำนักงานเขตก็แล้วกัน เพราะต่อจะไปเมืองนอกสัปดาห์หน้า ฉันอยากให้เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด” คุณรักชาติยืนยันเจตนาเดิม
“ผมไม่หย่าครับ และจะไม่มีวันหย่าด้วย ผมยอมให้น้องไปเรียนต่อก็ได้ แต่ระหว่างที่น้องไปเรียน ผมจะทำงานรอที่เมืองไทย และจะปรับตัวเป็นผู้ชายที่ดีและเพียบพร้อมสำหรับน้อง แต่ขออย่างเดียว อย่าบังคับผมหย่ากับหัวใจของผมเลย หากไม่มีน้องต่อ ผมก็ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะเป็นเช่นไร”
พอลเองก็ยืนยันความต้องการ เขาเพิ่งจะรู้ใจตัวเองเมื่อเดือนที่แล้วเองว่ารักรัตนามากเพียงใด
รัตนาที่แอบฟังอยู่ถึงกับไม่อยากเชื่อว่าพอลบอกรักตัวเอง บอกว่าตัวเองคือหัวใจของเขา แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร ทำไมชายหนุ่มถึงทำกับเธอเหมือนกับว่าไม่มีตัวตนในสายตา ทำเหมือนเธอเป็นเพียงแค่อากาศธาตุในคฤหาสน์หลังใหญ่ของเขาเท่านั้น พอจะไปก็มารั้ง ไม่มีวัน เธอเจ็บแล้วจำ ในเมื่อตัดสินใจจะไปแล้วก็คือไป จะไม่หวนกลับมาอีกแล้ว หากไม่หย่าให้ก็ไม่เป็นไร หวังว่าเรียนจบกลับมา เขาจะยอมหย่าให้
“วันเวลาจะทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หากวันใดพอลรู้ใจตัวเอง และน้องให้อภัยพอลหรือไม่ให้อภัย อนาคตข้างหน้า พ่ออยากให้พอลยิ้มรับกับสิ่งที่ตัวเองเป็นคนก่อขึ้น ส่วนเรื่องหย่ากันนั้น หากไม่หย่าตอนนี้ก็รอตอนลูกของพ่อเรียนจบกลับมาค่อยคุยกันอีกที และพ่อคงให้พอลเจอกับน้องไม่ได้หรอก พ่อไม่อยากเห็นน้ำตาของลูกพ่ออีก กลับไปเสียเถอะพอล อย่าได้ตามหาน้องและตามตื๊อน้องอีกเลย ขอให้จบกันเพียงเท่านี้เถอะนะ”
‘เขาต้องยอมรับแล้วสินะ ยอมรับว่าวันนี้คือวันที่หัวใจจะโบยบินไปไกลแสนไกล ไม่รู้เมื่อไหร่จะโบยบินกลับรัง ถึงจะนานเพียงไรเขาก็จะรอ จะทำตัวให้ดี เพื่อขอโอกาสจากน้องต่อของเขาอีกครั้ง’ ชายหนุ่มเอ่ยพึมพำในใจ ก่อนจะเอ่ยกับพ่อตาด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ขอบคุณครับคุณพ่อ ขอบคุณที่ให้โอกาสผม ผมจะพยายามทำให้น้องต่อกลับมาอยู่กับผมให้ได้ จะรอจนกว่าน้องจะเรียนจบกลับมาหาผม”
ชายหนุ่มเอ่ยทั้งน้ำตา นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มร้องไห้ เสียน้ำตาให้กับผู้หญิงที่รัก
ในที่สุดวันที่รัตนาเดินทางไปต่างประเทศก็มาถึง ชายหนุ่มอย่างพอลที่แปรสภาพจากสามีมาเป็นแค่อดีตก็ทำได้เพียงเฝ้ามองหญิงสาวที่ตนรักสุดหัวใจเดินจากไปต่อหน้าต่อตา ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเอ่ยคำล่ำลา สุดท้ายก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับความจริงกับผลของการกระทำที่ได้ก่อขึ้นกับเธอด้วยความเจ็บปวดในใจ