บทที่ 4 ไม่เข้าใจ
พลอยน้ำเพชรต้องรีบมาโรงเรียนเพราะตื่นสายอาทิตย์นี้เป็นการสอบปลายภาคใหญ่ซึ่งจะจบการศึกษาในภาคเรียนนี้แล้วอีกหนึ่งปีก็จะกลายเป็นสาวมหาลัยเต็มตัว
“ไม่ได้นอนหรือไงตาคล้ำมาเชียว” ฟ้าใสเดินเข้ามาทักเพื่อนทั้งสองวิ่งเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กจึงสนิทกันเป็นพิเศษ
“นิดหน่อย” พลอยน้ำเพชรตอบไปตามความจริงเพราะเมื่อก็อ่านหนังสือจนถึงดึกแถมยังต้องมาเจอกับพระลบอีกกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า
“สงสัยจะจัดหนักละสิ”
คำถามของฟ้าใสทำให้พลอยน้ำเพชรหน้าแดงขึ้นมาเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา ตอนนี้หญิงสาวทั้งรู้สึกเหนื่อยและเพลียไปหมด
“เรา...”
“เราหมายถึงอ่านหนังสือดึกทำไมหน้าแดงขนาดนี้คิดอะไรอยู่” ฟ้าใสเห็นเพื่อนหน้าแดงขึ้นมาก็กลัวว่าเพื่อนจะไม่สบาย
“เปล่า ก็นอนดึกนิดหนึ่ง” พลอยน้ำเพชรจึงไหลไปตามน้ำโดยไม่ให้ฟ้าใสจับผิดได้ วันนี้การสอบผ่านไปได้ด้วยดีหญิงสาวจึงเดินออกมาหน้าโรงเรียนแต่เห็นพระลบยืนอยู่พร้อมกับรถคู่ใจ
“พี่กราฟ!”
“พี่มารับกลับบ้าน” พระลบเดินเข้ามาหาหญิงสาวโดยมีสายตาหลายสิบคู่มองมาที่คู่ของเขาแต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจเพราะตอนนี้เขาสนใจแค่คนตรงหน้ามากกว่า
“ก็ไปสิ” เพราะสายตาหลายคู่มองมาที่หญิงสาวกับพระลบทำให้พลอยน้ำเพชรต้องรีบลากชายหนุ่มขึ้นรถกลับบ้าน แต่พระลบก็ขับรถออกนอกเส้นทาง
“เราจะไปไหนกันคะ?”
“ก็ไปเดินเล่นคลายเครียดไง” พระลบตอบออกไปทำให้หญิงสาวแปลกใจเพราะตั้งแต่คบกันมาหญิงสาวไม่เคยเห็นชายหนุ่มชวนไปไหน
“น้องพลอยไม่อยากไปค่ะ” เพราะยังคงขุ่นเคืองกับเหตุการณ์ในวันนั้นอยู่จึงไม่อยากออกไปไหนกับพระลบ
“ใครถาม พี่จะพาไปไง” พระลบขับรถเครื่องมาจอดที่ตลาดคลองถมที่จะตั้งขายเฉพาะในช่วงเวลาเย็นเท่านั้นโดยไม่สนใจสีหน้าบูดบึ้งของพลอยน้ำเพชร
“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยเดี๋ยวชาวบ้านก็บอกว่าแพ้ท้องหรอก” ชายหนุ่มหยอกล้อพลอยน้ำเพชรอย่างอารมณ์ดีเพราะเห็นหญิงสาวมองกลับมา
“กราฟ อัญคิดว่าจะไม่เจอซะแล้ว” อัญชลีมองเห็นชายหนุ่มอยู่ไกลๆและรีบก้าวเท้าเดินมาหาแต่ต้องหยุดชะงักเพราะเห็นเด็กในชุดมัธยมปลายยืนอยู่ข้างกาย
“พากันมาได้ยังไง” ทั้งวีรชาติและอัญชลีเดินเข้ามาพระลบ
“กูยังบ่ได้กลับเมืองเลยตั้งแต่มาส่งมึง” (กูยังไม่ได้กลับเมืองตั้งแต่มาส่งมึง) วีรชาติตอบเพื่อนไปคนที่นี้ส่วนมากจะพูดภาษาถิ่นกันรวมถึงเขาและพระลบด้วย
“กราฟจะไปไหนเหรออัญไปด้วยคนสิ” อัญชลีไม่สนใจหญิงสาวข้างกายพร้อมกับชวนชายหนุ่มคุย
“เราจะไปเดินซื้อของกัน”
“ไปสิ ป่ะ” อัญชลีลากชายหนุ่มเพื่อให้เดินตามเธอจนลืมพลอยน้ำเพชรไปเสียสนิมหญิงสาวยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าแต่ยังมีวีรชาติที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“น้องพลอยจะไปไหมครับ ไปพร้อมพี่ก็ได้” วีรชาติเห็นใจพลอยน้ำเพชรหากหญิงสาวรู้ความจริงไปคงจะเสียใจแย่ที่กำลังโดนพระลบหลอก
“พี่ชาติไปเลยค่ะ น้องพลอยอยากกลับบ้านแล้วเดี๋ยวกลับรถสองแถวเอาค่ะ” พลอยน้ำเพชรจึงเดินออกมาโดยไม่รอฟังคำพูดของวีรชาติ หญิงสาวเดินออกมารถที่หน้าตลาดและขึ้นรถกลับบ้านไป
พระลบมองหาพลอยน้ำเพชรแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหญิงสาว เห็นวีรชาติเดินมาคนเดียวจึงถามเพื่อน
“น้องพลอยไปไส” (น้องพลอยไปไหน) จากคนที่บอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรตอนนี้ในแววตามีแต่ความห่วงใยจนวีรชาติอยากจะสมน้ำหน้าคนปากเก่ง
“กลับไปแล้ว”
“กราฟจะไปไหน” อัญชลีเห็นชายหนุ่มกำลังจะเดินออกไปจึงคว้าแขนไว้แต่สายตาที่ไม่พอใจของพระลบส่งมาให้จึงทำหน้าเจื่อน
“เราไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วจะทำอะไรระวังด้วย” เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มดุหญิงสาวเพราะไม่ดีหากใครมากเห็นเข้าพลอยน้ำเพชรอาจตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านได้
“กูกลับก่อน” พระลบจึงรีบขับรถกลับบ้านเพราะเป็นห่วงพลอยน้ำเพชร
“ไอ้กราฟมันมีเมียอะไรที่ตัดได้ก็ตัด” วีรชาติเตือนสติอัญชลีอย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
“ไม่ต้องยุ่งกับชีวิตฉัน” หญิงสาวจึงทิ้งให้วีรชาติอยู่คนเดียวแค่นี้เธอไม่มีวันยอมแพ้หรอกเธออยู่เคียงข้างพระลบมาหลายปีต้องมีสักครั้งที่ชายหนุ่มมีใจให้
“เอ้า พลอยเป็นหยั๋งคือกลับมาคนเดียวแม่ฝากของไปไห่แม่นุชแน่” (พลอยทำไมกลับมาคนเดียวแม่ฝากของไปให้แม่นุชหน่อย)
“จ้ะแม่” หญิงสาวจึงเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินลงมาขับรถเครื่องเพื่อไปหาแม่ของพระลบที่อยู่ออกไปอีกหมูบ้านหนึ่งซึ่งไม่ไกลกันมาก
“คิดว่าใครหนูพลอยเข้ามาก่อนสิ” ตรีนุชยิ้มให้กับลูกสะใภ้โตขึ้นไปคงสวยน่าดูเพราะขนาดตอนนี้ยังสวยจนลูกชายก็ไปไหนไม่รอด
“สวัสดีค่ะ แม่ให้หนูเอากับข้าวมาฝากค่ะ”
“อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ พี่ชายของตากราฟเพิ่งกลับมาอาจจะไม่เคยรู้จักกัน” ตรีนุชจึงให้เด็กไปเรียกพระรามมาลูกชายคนกลางที่ตอนนี้ยังเรียนอยู่ต่างประเทศและเพิ่งกลับมาเยี่ยมที่บ้านในช่วงเปิดเทอม
“หนูพลอยนี่ตารามจ้ะ พี่ชายของกราฟ”
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้พี่ชายของพระลบซึ่งหน้าก็ค่อนข้างจะเหมือนกันแต่การแต่งตัวคนละสไตล์กันพระรามที่ดูผิวขาวกว่าพระลบ
“สวัสดีครับ” น้องชายของเขาก็ตาถึงเหมือนกันใหญ่ไปก็คงจะมีหนุ่มๆ ตามจีบไม่เว้นวันแต่ดูจากท่าทีของพระลบแล้วคงจะได้น้ำตาเช็ดหัวเข่าในสักวัน
“เข้าไปกินข้าวกันดีกว่าวันนี้พ่อกลับดึกแม่จะได้มีเพื่อนคุย”
ทั้งสามจึงนั่งพูดคุยกันสักพักจึงได้ยินเสียงรถของพระลบและเดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าที่ดูบูดบึ้งแต่ตรีนุชก็ไม่ได้สนใจเพราะรู้นิสัยของลูกตัวเองดี
“ทำไมกลับบ้านไม่บอกพี่เลย” พระลบเดินเข้ามาพร้อมกับดุพลอยน้ำเพชรพอเขาไปที่บ้านของหญิงสาวแม่ลำดวนก็บอกว่ามาที่บ้านของเขาจนชายหนุ่มต้องรีบตามมา
“น้องพลอยเห็นว่าพี่กับเพื่อนพี่กำลังจีบกัน เอ้ย กำลังสนุกกันอยู่เลยไม่กวนค่ะ”
“ลูกระวังเพื่อนสาวของลูกด้วยนะ มานั่งกินข้าวกันดีกว่า”
ตรีนุชเตือนสติลูกชายถึงแม้ปากบอกว่าจะไม่ได้คิดอะไรแต่ผู้หญิงด้วยกันก็ดูออกว่าหญิงสาวคิดไปไกลกว่าเพื่อน
“ครับ” พระลบจึงเดินไปนั่งข้างพลอยน้ำเพชรทั้งที่นั่งตรงนั้นจะเอื้อมอาหารไม่ถึงแต่ก็เลือกจะนั่งข้างหญิงสาว
“ตากราฟไม่มานั่งข้างพี่ราม”
“ผมไม่อยากนั่งใกล้พี่ราม” ตอนนี้อยากอยู่ใกล้พลอยน้ำเพชรมากกว่าคำนี้ชายหนุ่มพูดคนเดียวในใจ
“พี่เพิ่งกลับมาทำไมพูดใจร้ายจัง” พระรามยิ้มให้น้องชายรู้ว่าน้องชายตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่
“กินข้าวกันดีกว่า” ตรีนุชจึงสั่งให้ทุกคนกินข้าวส่วนพระลบก็ยังวอแวกับหญิงสาวไม่เลิกโดยให้พลอยน้ำเพชรตากอาหารให้อ้างว่ามือเอื้อมไม่ถึง จนหญิงสาวรู้สึกเขินอาย
“เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้าน”
“น้องพลอยเอารถมาค่ะ”
“ดึกแล้วพี่จะไปส่ง ไม่งั้นก็ไม่ต้องกลับ!”
พระลบยื่นคำขาดบ้านนอกยิ่งดึกยิ่งอันตรายตามข้างถนนแทบจะไม่มีไฟสิ่งสว่าง ในพื้นที่ก็มีเด็กวัยรุ่นเล่นยากันเยอะแยะใครจะกล้าปล่อยให้หญิงสาวกลับคนเดียว
“บ้าอำนาจ อุ้ยยย” พลอยน้ำเพชรร้องออกมาเมื่อชายหนุ่มแอบหอมแก้มหญิงสาว และส่งสายตายิ้มให้อย่างคนอารมณ์ดีจนหญิงสาวต้องรีบนั่งซ้อนท้ายรถ
“ถึงแล้วค่ะ”
“ก็ถึงแล้วมีอะไร” พระลบยังคงทำหน้าสงสัยเพราะหญิงสาวเหมือนแปลกใจที่เขาไม่ยอมกลับบ้านเสียที
“น้องพลอยจะเข้าบ้านแล้วค่ะ” หญิงสาวกำลังจะหันหลังเดินเข้าบ้านแต่ต้องหยุดชะงักเพราะคำพูดของพระลบ พลอยน้ำเพชรจึงหันมามองหน้าพระลบ
“พี่จะนอนที่นี่ดึกมากแล้วด้วยพี่ขี้เกียจกลับ” ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านอย่างหน้าตาเฉยเรื่องอะไรที่จะต้องนอนเหงาคนเดียวสู้มานอนกับพลอยน้ำเพชรดีกว่า
“ไม่เข้าบ้านผีหลอกพี่ไม่รู้ด้วยนะ”
“คนบ้าผีที่ไหนจะน่ากลัวเท่าพี่ละ” คนที่กลัวผีจึงรีบล็อกบ้านและเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเตรียมจะอาบน้ำแต่เห็นพระลบนอนจ้องมาทางหญิงสาว
“มองทำไม!”
“พี่แค่สงสัย?” พระลบทำหน้าอย่างคนสงสัยจะจ้องไปที่หน้าอกของพลอยน้ำเพชรพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอหน้าอกที่ใหญ่เกินวัยทำให้เขาอยากขย้ำทุกครั้ง
“สงสัยอะไรคะ มองอะไร!” หญิงสาวรีบใช้มือปิดหน้าอกเพราะเห็นสายตาที่หื่นกระหายของพระลบจ้องมองมา
“หน้าอกของน้องพลอยใหญ่มากเลยพี่เดาก็น่าจะ 34+ แต่พี่ชอบมากเลยนะมันทั้งขาวและอวบ” พระลบดีดตัวลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ
“คนหื่นห้ามมองนะ!”
“มากกว่ามองก็ทำมาแล้ว ทั้งดูดทั้งเลียเลย” พูดจบก็ลุกขึ้นและถอดเสื้อออกตามด้วยกางเกงจนตอนนี้ทั้งตัวเหลือแค่กางเกงชั้นในสีเข้ม
“พี่กราฟมาถอดเสื้อผ้าโชว์ทำไมน้องพลอยไม่อยากดู”
หญิงสาวใช้มือปิดตาไว้เพราะความเขินอายแต่พระลบก็เดินเข้าไปใกล้ๆ และใช้นิ้วดีดหน้าผากของพลอยน้ำเพชรไปหนึ่งครั้ง
“เจ็บนะดีดทำไม”
“พี่จะพาน้องพลอยไปอาบน้ำ”
“ไม่ไปค่ะ พี่กราฟอาบก่อนเลย” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็งเรื่องอะไรที่จะต้องเข้าไปอาบน้ำพร้อมกัน
“ตามใจโดนผีหลอกไม่ต้องมาเรียกพี่นะ” ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวเป็นคนกลัวผีมากจึงยกเอามาพูดเพื่อที่จะให้พลอยน้ำเพชรเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน
“อายอะไรพี่เห็นหมดแล้ว พูดแล้วก็ไปดีกว่าช่วงนี้ยิ่งน่ากลัวอยู่ด้วย” ชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันกายและเดินเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งของห้องนอน
“ไม่มีหรอก” หญิงสาวปลอบใจตัวเองเธออยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิดไม่เคยเห็นผีมาก่อน
ตุ๊กแก!
“ว้ายยย ใช้ใครให้แกมาร้องเวลานี้” พลอยน้ำเพชรจึงตัดสินใจถอดเสื้อผ้าและหยิบผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำตามพระลบไปอย่างไม่คิดชีวิต
“ไหนว่าไม่อาบพร้อมพี่!” พระลบหยักคิ้วด้วยความเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหญิงสาวถอดผ้าเช็ดตัวออกจากกายและเห็นสัดส่วนของร่างกายทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก
“พูดด้วยก็ไม่สนใจ” หญิงสาวรีบเปิดฝักบัวและรีบอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันโดยไม่หันไปมองชายหนุ่มที่ตอนนี้มัวแต่ยืนดูหน้าอกของหญิงสาวอย่างไม่วางตา