บทที่ 3 ดอกไม้ของมังกร 1.1
ทะ...ทำเหมย คุณจะทำอะไรเหม”
นํ้าเสียงหวาดกลัวถามกลับไป มังกรผู้เหี้ยมโหดกระตุกยิ้มกับท่าทางของดอกไม้ดอกงามที่เขากำลังจะขยี้ให้แหลกคามือ
“แล้วเธอคิดว่าฉันลงทุนลงแรงไปชิงตัวเธอมาเพื่อทำอะไรล่ะ”
เขาโน้มใบหน้าถามชิดเรียวปากสวยที่สั่นระริก “ก็พาเธอมาเป็นดอกไม้ประดับบนเตียงของฉันไง”
มือเล็กดันใบหน้าคมเข้มของเขาให้ออกห่างดวงหน้าของตนเองทันทีที่มังกรทำท่าจะจูบเธอ แต่มีหรือที่เขาจะหยี่หระกับมือเรียวสวยคู่นี้ ไม่มีอะไรหยุดยั้งเขาได้
ดวงตาสาวขยายกว้าง หัวใจเต้นระทึก ภายในใจหวาดหวั่นสะพรึงกลัว ร่างกายสั่นเทาเสมือนลูกแมวเปียกนํ้าฝนที่พร่างพรายลงมาจากฝากฟ้า หนาวเหน็บลึกลงไปถึงแก่นใจ มังกรที่เธอรู้จักในวันนี้ต่างกับทุกครั้งที่ผ่านมาเหลือเกิน ดอกเหมยยังจำครั้งแรกทีได้พบเขาในงานเลี้ยงเปิดตัวชุดเครื่องเพชรและชุดทองคำที่ทางห้างร้านของบิดาจัดการแสดงขึ้นเพื่อประมูลหารายได้เข้ามูลนิธิอื้อจือเหลียวที่บิดาเป็นประธานอุปถัมภ์ สมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิต่างๆ ที่อยู่ในโครงการ
วันนั้นมังกรสง่าผ่าเผยอยู่ในชุดสูทราคาแพง โดดเด่นมากคนหนึ่งในงานเนื่องจากมีลูกน้องห้อมล้อมนับสิบคน ไม่ต่างอะไรกับบุคคลอื่นๆ ที่มาร่วมงาน เพราะแต่ละคนพกลูกน้องราวกับว่ามาหํ้าหั่นกันมากกว่ามางานเลี้ยง มังกรเดินทางมาร่วมงานในฐานะลูกชายของถางเฟย พ่อค้าทองคำ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเป็นเจ้าของโรงแรมหลายแห่งในประเทศจีน ฮ่องกง ไทยและอีกหลายประเทศ ความรํ่ารวยของถางเฟยไม่เป็นรองเหลียงเลย แต่แตกต่างกันที่ว่า ถางเฟยชอบใช้ชีวิตอย่างสมถะ ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่อวดตัว ไม่บ้าอำนาจ ซึ่งข้อแตกต่างเหล่านี้ตรงกันข้ามกับเหลียงอย่างสิ้นเชิง
และมังกรก็สร้างความฮือฮาให้คนที่มาร่วมงานด้วยการประมูลสิ่งของเลอค่าทั้งสองชิ้นด้วยราคาสูงถึงสี่ร้อยล้านบาท คนที่มอบเครื่องเพชรและชุดทองคำให้กับมังกรนั้นไม่ใช่ใคร คือดอกเหมยคนที่ออกแบบเครื่องประดับทั้งสองชิ้นนั่นเอง การมอบเครื่องประดับให้มังกรในครั้งนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่มังกรคิดแผนนี้ขึ้นมา
ดอกเหมยจำวินาทีแรกที่สบตาเขาบนเวทีได้ดี ตอนนั้นเธอเหมือนถูกมนต์สะกดด้วยดวงตาคมกล้าสีนิลที่เปล่งประกายสะท้อนกับแสงไฟ ชวนมองและน่าค้นหา ทว่าเธอกลับร้อนรุ่มประหนึ่งเขาคือไฟยามชิดใกล้ หัวใจสาวกระตุกวูบเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของเขา ใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก ดอกเหมยได้มีโอกาสเจอเขาอีกสองสามครั้งตามงานเลี้ยงต่างๆ และไม่ได้เจอเขาอีกเลยหลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของนักธุรกิจคนหนึ่ง จากวันนั้นถึงวันนี้ก็สามเดือนพอดี ทว่าการพบเจอมังกรในครั้งนี้ เธอไม่มีความดีใจเอาเสียเลย ต้องการจะวิ่งหนีเขาไปให้ไกลแสนไกลมากกว่า ยอมรับว่ากลัว...กลัวในท่าทางคุกคามของเขามากเหลือเกิน
เพียงแค่ได้เห็นดอกเหมย ลูกสาวของเหลียงศัตรูที่เขาฝังใจเจ็บ ดวงตามังกรผู้เย่อหยิ่งลุกโชนไปด้วยความปรารถนา ความสวยที่ไม่เป็นรองใคร ความผุดผ่องของผิวพรรณเรียกความกระหายในเพลิงสวาทให้ลุกโชน และยิ่งเห็นรอยสักรูปดอกเหมยที่มีมังกรเลื้อยพันด้วยแล้ว เขายํ้าอยู่ในใจตั้งแต่นั้นมาว่า เธอต้องเป็นของเขา เป็นดอกไม้ของมังกรคนเดียวเท่านั้น แล้วเธอก็คือเหยื่อล่อศัตรูชั้นเลิศของเขาอีกด้วย
“ยะ...อย่าทำเหมย คุณมังกรอย่าทำเหมยเลยนะคะ คุณมังกรขัดผลประโยชน์เรื่องอะไรกับเตี่ยบอกเหมยนะคะ เหมยจะไปพูดกับเตี่ยให้ อย่าทำอะไรเหมยเลยนะคะ”
ดอกเหมยพยายามเว้าวอน และหาทางออกให้กับมังกร แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่บิดาฝากความเจ็บไว้ให้เขานั้น มันไม่มีทางออกไหนเลยที่จะทำให้ความแค้นนั้นย่อยสลายไปได้ นอกจากทำลายร้างอริให้ย่อยยับแหลกคามือ หัวใจสลายเมื่อเห็นบุคคลอันเป็นที่รักต้องบอบชํ้าทั้งกายและใจ ดอกเหมยดอกนี้จะทำให้การแก้แค้นของเขาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี พอแผนหนึ่งสำเร็จ แผนที่สองก็จะตามมา
“คงไมได้หรอก เพราะฉันตั้งใจอยู่แล้วว่าจะกินเธอให้หนำใจ และฉันก็เป็นคนตั้งมั่นในความคิดของตัวเองซะด้วย คิดแล้วต้องทำ”
พูดจบก็ผลักร่างสาวไปบนที่นอน ดอกเหมยใช้โอกาสเพียงน้อยนิดพยายามจะกระเถิบตัวหนี แต่เธอทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น เป็นเพราะมังกรเก็บกักอิสรภาพของสาวร่างเล็กด้วยร่างกายสูงใหญ่ของเขาที่คร่อมทับเธอเอาไว้
“ฉันคุยกับเตี่ยของเธอแน่ แต่ต้องหลังจากที่ฉันขยํ้าเธอให้สมใจอยากเสียก่อน เตี่ยของเธอคงจะอกแตกตายถ้าหากรู้ว่า ลูกสาวสุดที่รักถูกฉันขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี อยากเห็นหน้าเตี่ยของเธอตอนนั้นเหลือเกิน คงจะสะใจฉันดีน่าดู”
คำพูดน่ากลัวถูกขับออกมาจากปากหนา สาวใต้ร่างดิ้นรนเพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากเงื้อมมือของมังกร มือนุ่มทั้งทุบทั้งตีไปตามร่างกายแข็งแกร่ง แต่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ยิ้มหยันเมื่อเห็นการปกป้องตัวเองของเหยื่อสาว
“อย่าหวังเลยว่าไอ้มือเล็กๆ ของเธอมันจะหยุดยั้งฉันได้ เธอรู้ไหมว่าครั้งแรกที่เห็นเธอ ฉันแทบอยากจะลากเธอขึ้นเตียงเลยด้วยซํ้า ต้องอดทนมาจนถึงวันนี้ และตอนนี้ฉันก็จะไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆ นี้หลุดมือไปด้วย”
มังกรพูดจบก็โน้มใบหน้าเข้าไปหาดวงหน้าหวานที่ตกอยู่อาการตะลึงพรึงเพริด ประกบปากทาบทับกลีบปากนุ่มที่กำลังเผยอตอบโต้ ทำให้เขาสอดลิ้นร้อนชื้นเข้าไปในโพรงปากสาวได้อย่างสะดวก
และทันทีที่ลิ้นของทั้งสองสัมผัสกัน คล้ายกับว่ามีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ไหลผ่านเข้าไปยังร่างกายของทั้งคู่ อาการร้อนผ่าวจึงเกิดขึ้นตามมา
ดอกเหมยตกอยู่ในอาการมึนงงชั่วขณะ การจู่โจมของมังกรที่ไม่ทันได้ตั้งตัวส่งผลให้ร่างสาวนิ่งเป็นหุ่น หัวใจเต้นระสํ่าถี่แรงมากขึ้นกว่าเดิม ดอกเหมยรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองกำลังถูกกระชากวิญญาณให้ออกจากร่าง สรรพางค์กายอ่อนเปลี้ย ไร้แรงต่อต้าน ยามที่ลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวลิ้นของเธออย่างกระหาย รุกเร้าจนสาวเจ้าอ่อนประสบการณ์ถึงกับต้านทานไม่ไหว จุมพิตของมังกรร้อนแรงและเต็มไปด้วยมนต์สะกด ร่ายมนต์ปลุกเร้าความรัญจวนให้แล่นพล่านไปทั่วร่าง