บทที่ 2 ดอกไม้ของมังกร 1
ประเทศไทย เวลา 19.00 น.
หญิงสาวร่างสวยที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ค่อยๆ ขยับตัวทีละนิด แพขนตาดกดำขยับเปิดขึ้นหลังจากที่ฤทธิ์ของยาสลบหมดลง เธอสะบัดศีรษะเล็กน้อยเพื่อขับไล่อาการมึนงงที่ยังหลงเหลือ กระจกสะท้อนเงาที่ติดตั้งอยู่บนเพดานห้อง ทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้นอนอยู่บนเตียงของตนเอง ไม่ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านของตนด้วย ร่างสาวดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันทีสำรวจตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วยังรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเมื่อพบว่าชุดเดิมที่เธอสวมใส่มายังไม่ได้ถูกเปลี่ยนหรือถอดออกไป ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคยอย่างหวาดระแวง
ห้องนอนห้องนี้แปลกตากว่าทุกห้องนอนที่ดอกเหมยเคยเห็นมา เป็นห้องขนาดใหญ่ฝาผนังทั้งสี่ด้านของห้องทำด้วยกระจกสะท้อนเงา รวมทั้งเพดานก็เป็นกระจกเช่นกัน ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็จะเห็นตนเองในทุกๆ ด้านที่มองไป ส่วนพื้นนั้นยกเว้นเพราะมันปูด้วยพรมสีแดงเลือดหมูทุกตารางนิ้วของห้อง
เฟอร์นิเจอร์เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ดอกเหมยรู้ว่า เจ้าของสถานที่นั้นเป็นผู้มีอันจะกิน มันเลิศหรูและบางชิ้นก็มีราคาแพง
ดอกเหมยเริ่มลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเองก่อนที่จะหมดสติ หลังจากที่ดึงสติกลับมาจากอาการตะลึงเพลิดของสถานที่ที่ไม่คุ้นตา เธอจำได้ว่ารถยนต์ที่นั่งไปนั้นถูกโจมตีจากบุคคลที่ไม่ทราบได้ว่าเป็นใคร เนื่องจากบิดาของดอกเหมยนั้นมีศัตรูเยอะ ศัตรูคนใดคนหนึ่งอาจจะดักซุ้มทำร้ายก็เป็นได้ และยังจำได้อีกว่า คนที่เปิดประตูหลังจากที่รถคันหรูของตนเองอัดกับด้านข้างของรถบรรทุกนั้นเป็นคนที่เธอเคยเห็นมาหน้ามาก่อน คุ้นหน้าคุ้นตาเธอมากๆ เพราะเห็นหลายครั้งหลายหน ทว่ากลับนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
แต่แล้วคำตอบที่ตนเองอยากรู้ก็ดูเหมือนจะเกิดขึ้นในสมองอย่างเฉียบพลัน เมื่อเห็นบุรุษคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องนํ้าในสภาพที่ทำให้จิตใจของเธอสั่นไหว ความหวาดกลัวประทับแน่นในความรู้สึก หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ สาวสวยจำบุรุษคนนี้ได้ดี จำได้ไม่มีวันลืม เพราะเขาคือคนที่ทำให้เธอหัวใจกระตุกวูบในวินาทีแรกที่ได้สบตากัน
“คุณมังกร” เธออุทานเรียกชื่อเขาแผ่วเบา “คะ...คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”
มังกรที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกายเพียงผืนเดียวยกยิ้มขึ้นข้างหนึ่ง ก้าวเท้ามาหาดอกไม้งามแสนสวยอย่างเชื่องช้า
“ดอกเหมย...เธอน่าจะถามว่า เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงน่าจะเหมาะกว่านะ เพราะที่นี่คือบ้านของฉัน และเตียงที่เธอนั่งอยู่ก็คือเตียงของฉันด้วย”
สาวน้อยแสนสวยที่จิตใจสับสน เห็นหน้าเขาครั้งใดใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทำให้เธอถามคำถามผิดๆ ถูกๆ อัญญาณี
“แล้วคุณจับตัวเหมยมาทำไมคะ”
คำถามนี้ตรงประเด็นที่สุด การที่เธอมาอยู่ในห้องนอนของเขาเกี่ยวโยงกับเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศจีนแน่นอน ต้องเป็นเขาแน่ๆ ที่กล้าทำเรื่องอุกอาจเช่นนั้น
“นั่นแหละ เธอต้องถามคำถามนี้ถึงจะถูก” เขาพูดอย่างพอใจกับคำถามที่ได้ยิน “อยากรู้เหรอว่าทำไมฉันต้องไปดักชิงตัวเธอมาที่นี่?” เขาย้อนถาม หญิงสาวที่ใจเต้นรัวกับสภาพร่างกายกึ่งเปลือยของเขา พยักหน้าแทนคำตอบ
“จับเธอมาให้เตี่ยของเธอเกิดความทรมานยังไงล่ะ”
เขาตอบ ทว่าคำตอบของมังกรไม่ได้ทำให้ดอกเหมยเข้าใจอะไรได้มากขึ้นเลย
“จับตัวเหมยมาให้เตี่ยเกิดความทรมาน หมายความว่ายังไงคะ?” ลูกครึ่งไทย-จีนเอ่ยถามเสียงสั่น
“อย่ารู้เลย มารู้อีกข้อที่ฉันจับตัวเธอมาที่นี่ดีกว่านะ”
เขาพูดพร้อมกับก้าวขึ้นไปบนเตียง คนตัวเล็กที่นั่งตัวสั่นเขยิบหนีร่างหน้าที่ทำท่าทางคุกคามอย่างหวาดกลัว แต่มีหรือที่ดอกไม้งามจะหนีรอดเงื้อมือของมังกรพ้น มือใหญ่คว้าหมับตรงลำแขนเรียวสวย กระชากอย่างแรงเพียงครั้งเดียว ร่างสาวก็ปลิวลมเข้ามาแนบชิดอกกว้างเปล่าเปลือยของเขา
“คะ...คุณมังกรจะทำอะไรเหมยคะ อย่าทำนะคะเหมยกลัวแล้ว”
เธอพูดเสียงเครือสั่น หวาดวิตกอย่างรุนแรง กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอมากกว่านี้
“เธอไม่รู้หรอกว่าเตี่ยของเธอทำอะไรไว้กับใครบ้าง แต่อย่ารู้เลยถ้ารู้เธอคงจะสติแตกหรือไม่แน่ก็อาจจะเฉยๆ เพราะเธอสมรู้ร่วมคิดกับพ่อช่วยกันทำความเลว และแน่นอนเมื่อพ่อทำชั่วลูกก็ต้องได้รับกรรมเป็นของธรรมดา”
คำพูดของมังกรเพิ่มความหวาดกลัวให้ดอกเหมยยิ่งนัก ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าบิดาทำอะไรไว้กับใครบ้าง เพียงแต่ว่าเลือกที่จะเงียบเนื่องจากทุกสิ่งอย่างที่บิดาทำนั้น ทำเพื่อเธอและตระกูลทั้งสิ้น ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเวลาสักนิดเดียว และการที่ผู้ให้กำเนิดมีศัตรูมากมาย ดอกเหมยจึงมีบอดี้การ์ดส่วนตัวสองคนที่มักจะไปไหนมาไหนกับเธอเสมอ ยังไม่รวมถึงรถคุ้มกันที่จะตามรถยนต์ที่ดอกไม้แสนสวยนั่งอีกสองคัน คอยคุ้มครองทายาทคนเดียวของตระกูลพงศ์พัฒนา (อื้อจือเหลียว) ให้รอดพ้นกับเหล่าอริศัตรู
แต่สุดท้ายก็พลาดจนได้ ถูกมือดีของมังกรชิงตัวมาได้ในที่สุด อาจเป็นเพราะเหตุการณ์ชิงตัวเมื่อวานนี้ รถคุ้มกันของเธอไม่ได้ติดตามมาด้วย เนื่องจากไปคุ้มกันบิดาที่เดินทางไปร่วมประชุมเครือข่ายในเมืองเซี่ยงไฮ้ จำเป็นต้องใช้คนคุ้มครองมากเป็นพิเศษ เพราะเมืองนี้มีผู้อิทธิพลหลายคนคุมอยู่
“เตี่ยไม่ใช่คนชั่ว อย่ามาว่าเตี่ยของเหมยนะ”
สาวร่างเล็กโต้คืนชายร่างโตกลับไป เมื่อได้ยินมังกรเอ่ยปากต่อว่าบุพการีที่เธอรักมากกว่าตัวเอง ใครทำอะไรดอกเหมยดอกนี้เธอทนได้ แต่ใครอย่ามาแตะต้องบิดา เธอไม่มีวันยอมเด็ดขาด
“แหม...มีเถียงแทนพ่อของตัวเองซะด้วย ได้...ฉันไม่ทำอะไรเตี่ยของเธอก็ได้” ดอกเหมยยิ้มออกมาได้หลังจากได้ยินประโยคนี้ของเขา ทว่ารอยยิ้มนั้นหุบลงในฉับพลัน เมื่อได้ยินประโยคต่อถัดมา “ฉันจะทำเธอแทน”