บทย่อ
เพียงแค่ได้เห็นลูกสาวของศัตรู ดวงตามังกรผู้เย่อหยิ่งลุกโชนไปด้วยความปรารถนา ความสวยที่ไม่เป็นรองใคร ความผุดผ่องของผิวพรรณเรียกความกระหายในเพลิงสวาทให้ลุกโชน และยิ่งเห็นรอยสักรูปดอกเลยที่มีมังกรเลื้อยพันด้วยแล้ว เขาย้ำอยู่ในใจตั้งแต่นั้นมาว่า เธอต้องเป็นของเขา เป็นดอกไม้ของมังกรคนเดียวเท่านั้น“อยู่บนเตียงกับฉันไม่ต้องทำอะไรมาก แค่นอนแบให้ฉันกระซวกอย่างเดียวก็พอถ้ารับไม่ไหวก็ออกไปจากห้องของฉันได้เลย แล้วก็เตรียมตัวจัดงานศพให้พ่อและญาติโกโหติกาของเธอได้เลย แม่ดอกไม้หยำฉ่า"เสียงของมังกรดังขึ้นในความสลัวของห้องที่มีเพียงแสงไฟสลัวจากหัวเตียงย้ำให้คนตัวเล็กเห็นว่า เธอไม่มีวันปฏิเสธเขาได้เลยสักครั้งเดียว“คะ...คุณอยากจะทำอะไรฉันก็เชิญ”น้ำเสียงแผ่วเบาค่อนข้างสั่นลอดออกมาจากปากอิ่ม แล้วพอสิ้นเสียงนั้น มุมปากของมังกรกระตุกขึ้นข้างหนึ่ง ถอดเสื้อคลุมออกจากร่าง ก้าวไปหยุดริมเตียง กระชากร่างสาวจนเธอปลิวมาปะทะอกแกร่งของเขา“พูดง่ายๆ อย่างนี้ค่อยชื่นใจหน่อย จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแรง แต่จะให้ดีกว่านี้ถ้าเธอแก้ผ้าคอยฉันบนเตียงโดยที่ฉันไม่ต้องเสียเวลาถอดมันเอง แควกๆๆ” เสื้อผ้าชุดสวยถูกกระชากออกจากร่างกายของดอกเหมยอย่างแรง จนกระทั่งร่างสาวไร้อาภรณ์สมใจมังกรผู้โหดเหี้ยม ก่อนจะโยนร่างเปลือยที่เขาปรารถนาลงบนเตียงตามด้วยร่างหนาทาบทับ...
บทที่ 1 บทนำ
กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
“เอี๊ยดดดดดดด” เสียงห้ามล้อดังลั่นกลางถนน หลี่หมิงจำเป็นต้องเหยียบเบรกรถกะทันหัน เนื่องจากรถยนต์ที่วิ่งตามหลังมาเหยียบคันเร่งเพื่อที่จะแซงหน้าและปาดรถขวางไว้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เฮ้ย...อะไรวะ?” ตามด้วยเสียงสบถอย่างไม่สบอารมณ์ และต้องเบิกตากกว้างเมื่อ...
ปัง ปัง ปังๆๆๆๆๆๆ ไม่พูดรํ่าทำเพลงรถยนต์ที่มาขวางหน้าเริ่มแสดงถึงความไม่เป็นมิตรและไม่ประสงค์ดีทันที ชายฉกรรจ์สวมชุดสูทสี่คนก้าวลงมาจากรถคันดังกล่าว ก่อนจะกระหนํ่ายิงรถซีลีมูนสามตอนสีดำมันขวับอย่างนับจำนวนกระสุนที่ปล่อยออกไปจากปลายกระบอกปืนไม่ได้
“เฮียปิงยิงสกัด ผมจะขับฝ่าไป”
หลี่หมิงเอ่ยบอกอาปิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง ก่อนจะพยายามหักพวงมาลัยเพื่อจะขับรถไปอีกทาง เลี่ยงกระสุนปืนที่กระทบกับตัวรถและกระจก ดีที่ว่ารถคันนี้กันกระสุนป้องกันชีวิตของคนที่นั่งอยู่ในรถคันนี้
“ได้ ฝ่าไปเลย” อาปิงลดกระจกลงยิงสกัดฝ่ายตรงข้ามที่ยังคงยิงเข้าใส่ยังไม่ลืมหูลืมตา พอรถเบี่ยงออกไปทางด้านซ้ายมือ อาปิงจึงกดให้กระจกปิดเหมือนเดิม พร้อมกับเปลี่ยนแม็กซ์กาซีนปืนใหม่
“เฮียปิง เกิดอะไรขึ้นคะ”
เสียงหวานค่อนข้างสั่นของคนที่นั่งอยู่ตอนหลังของรถซีลีมูนดังขึ้น หลังจากที่ประตูบานเล็กๆ ที่กั้นระหว่างตอนของรถเปิดออก สีหน้าของเธอตระหนกไม่น้อย เนื่องจากเสียงปืนยังคงดังไม่หยุด
“คุณเหมยไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะพาคุณหนูออกไปจากจุดนี้ให้ได้” เสียงหนักแน่นของอาปิงเอ่ยบอกเจ้านายสาว “อย่างปลอดภัย” เพียงสองวินาทีต่อมาหลังจากที่อาปิงพูดจบ เสียงดังสนั่นก็ดังขึ้นอีกหนึ่งครั้ง
“โครม!!...เอี๊ยดดดดดดด...กรี๊ดดดดดดดดดดดด”
เสียงแรกคือเสียงของรถยนต์สีดำอีกคันหนึ่งวิ่งมาชนกลางรถซีลีมูนอย่างแรง เสียงที่สองคือเสียงล้อรถคันหรูที่ลากกับพื้นถนนไปตามแรงชน เสียงที่สามคือเสียงของสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งอยู่ในรถที่ถูกชน
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ อาปิงที่ตั้งสติได้และใช้ไหวพริบที่มีอยู่มากมาย ใช้ด้ามปืนทุกกระจกที่เกิดรอยร้าวจนแตกละเอียด ก่อนจะสาดกระสุนใส่รถยนต์อีกคันที่ยังเหยียบคันเร่งนำพารถที่เขานั่งลากไปตามถนนจนหมดแม็ก หวังจะหยุดคนขับรถคันนั้น
“โครม...” เสียงโครมดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเสียงด้านข้างทางด้านคนขับของรถยนต์คันหรูชนกับด้านข้างของรถบรรทุกอีกคันหนึ่งจอดอยู่อย่างเหมาะเจาะราวกับจัดฉากไว้เต็มแรง ความแรงนั้นทำให้อาปิงและหลี่หมิงสลบเหมือดคาที่
บุคคลที่อยู่ในรถคันที่สองก้าวลงมาจากรถ เดินตรงมายังรถคันหรูทันที เปิดประตูตอนหลังของรถออกกว้างมองดูเป้าหมายในการชิงตัวในครั้งนี้ด้วยสายตาพอใจที่เห็นว่า ดอกไม้ของเจ้านายยังไม่บุบสลาย
“พะ...พวกคุณเป็นใคร?” ดอกเหมยถามอย่างงุนงง ฝ่ามือจับตรงศีรษะและสลัดเบาๆ ไล่อาการมึนงงจากแรงกระแทกเมื่อครู่
“ขอโทษนะครับ” ปองพลพูดก่อนจะใช้ผ้าขนหนูที่เทนํ้ายาสลบเอาไว้ ปิดทับกึ่งปากกึ่งจมูกของดอกเหมย เธอดิ้นรนเพียงชั่วครู่ก็แน่นิ่งไป
“ไปกันได้แล้ว” ปองพลสั่งลูกน้องขณะที่ตนเองอุ้มร่างงามของดอกเหมยออกมาจากรถ
“แล้วสองคนนี้ล่ะครับ?” ลูกน้องของปองพลหมายถึง อาปิงกับหลี่หมิง
“ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ เรามาที่นี่เพราะสิ่งนี้ต่างหาก แยกย้ายกันไปได้แล้ว เดี๋ยวตำรวจจะแห่กันมา”
ปองพลหลุบตาตํ่ามองดอกเหมย ก่อนจะเดินไปยังรถยนต์อีกคันหนึ่งที่ขับโฉบมาจอดรับเขาและดอกไม้ของเจ้านายโดยเฉพาะ เขาวางร่างดอกไม้แสนสวยลงบนเบาะด้านหลัง ปิดประตูนำพาร่างของตนเองไปนั่งด้านข้างคนขับ พอทุกอย่างเรียบร้อยจรัญที่ทำหน้าที่มารับปองพลและดอกไม้ของเจ้านายก็นำพารถสุดหรูออกจากจุดเกิดเหตุทันที
ปองพลล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง กดหมายเลขโทรด่วนเพื่อรายงานความสำเร็จให้อีกคนที่อยู่ประเทศไทย
ประเทศไทย
ภายในห้องนอนของยุพเรศดาราสาวสวยดีกรีนางเอกแถวหน้าของเมืองไทย ร้อนระอุไปด้วยเพลิงสวาทที่อบอวลไปทั่วทั้งห้อง ชายหนุ่มเจ้าของรอยสักรูปมังกรสีดำแดงเต็มแผ่นหลังกำลังเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเหนือร่างกายของเจ้าของสถานที่ที่ร้องครวญครํ่ากับพลังราคะของมังกรที่โหมซัดอย่างไม่ออมแรง ถึงอกถึงใจเธอดีเหลือเกิน
“มังกรขา...ดีจังคะ แรงอีก อือ...อา”
เสียงครางของยุพเรศดังไม่ขาดปาก ร่างกายบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน ยกสะโพกขึ้นสูงเด้งบั้นท้ายรับแรงกระแทกกระทั้นของฝ่ายชาย แต่เหมือนกับว่าสรรค์ล่มกลางคันเมื่อเสียงโทรศัพท์ของมังกรแผดเสียงแข่งกับเสียงครางกระเส่าของนางเอกสาว
“ยะ...อย่ารับ” ปากบางเผยอค้านเบาๆ เพราะตอนนี้มือใหญ่ของเจ้าของลายสักลายสวยเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของตนเองมากดรับ แต่ยังไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหวร่างกาย โยกเข้าโยกออกพร้อมกับสนทนาไปด้วย
“ว่าไง”
“คุณมังกรครับ ดอกไม้อยู่ในมือผมแล้วครับ” เสียงของปองพลไหลมาตามสายโทรศัพท์ บอกกล่าวให้เจ้านายหนุ่มได้รับรู้การทำงาน
“ดี” เสียงพึงพอใจของปลายสายเอ่ยตอบ “เอาไปไว้บนเตียงของฉัน แล้วฉันจะกลับไปจัดการ”
“ครับคุณมังกร” ปองพลตัดสายทิ้งทันที เพราะรู้ดีว่าเสียงครวญของสตรีอีกเสียงหนึ่งที่แทรกเข้ามานั้น บอกให้เขารู้ว่าตอนนี้มังกรเจ้านายที่เคารพรัก กำลังปฏิบัติการสวาทอยู่กับนางเอกสาวพราวเสน่ห์คู่ควงคนล่าสุด
“บอกว่า ยะ...อย่ารับไงคะ” เธอประท้วงเล็กน้อย
“เดี๋ยวฉันชดเชยให้เธอทั้งคืนเลยดีไหม”
เขาพูดพรางก้มลงจูบปากนิ่มของยุพเรศเบาๆ ขยับเอวให้แรงขึ้นและหนักหน่วงขึ้น จนสาวใต้ร่างอิ่มเอมกับบทเพลงสวาทที่เขาป้อนให้ ครวญครางไม่หยุดจนกว่าเกมหฤหรรษ์บนเตียงจะยุติลง
มังกรอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ ต้องการเห็นดอกไม้แสนสวยตัวประกันชั้นเยี่ยม ที่จะทำให้แผนการล้างแค้นของเขาสำเร็จลุล่วงอย่างสวยงาม มังกรรอคอยวันนี้มานานถึงยี่สิบห้าปีเต็ม รอคอยอย่างมีความหวังว่า สักวันหนึ่งเขาจะต้องจัดการกับคนทรยศอย่างเจ้าพ่อเหลียง อื้อจือเหลียว เจ้าพ่อชื่อดังแดนมังกร และเป็นเจ้าสัวชื่อดังของเมืองไทยที่รู้จักกันในนามว่า เจ้าสัวเหลียง พงศ์พัฒนา (อื้อจือเหลียว) ให้ความแค้นสลายไปจากใจให้จงได้ และแล้วการรอคอยของเขาก็สิ้นสุดลงเพราะวันนี้คือวันเริ่มต้นชำระแค้น
เริ่มต้นที่...ดอกเหมย เจ้าของรอยสักดอกไม้ลายมังกร