ตอนที่ 5 พันธมิตร

หลานหลิงอวี๋
ต่างแคว้นต่างทำศึกกันอย่างหนักเพื่อแย่งชิงอาณาเขตกันแคว้นข้ากับแคว้นฉินเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมาช้านาน แม้แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน และแคว้นอื่นๆก็ไม่กล้าย่างกายเข้ามาใกล้ หรือกล้าที่จะมาทำศึกกับแคว้นของข้า เพราะเกรงกลัวว่าเมื่อแคว้นฉิน ตะขอแขวนของข้าร่วมมือกันจะถล่ม แคว้นอื่นให้ย่อยยับ ให้ราบเป็นหน้ากลองอย่างแน่นอนแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกันความเพิ่มกลืมของต่างแคว้นและของชนเผ่า ต่างๆอยากได้แคว้นของข้าไปครอบครอง เป็นอย่างมากจึงจับมือร่วมทำศึกกันหวังตีเอาเมืองของข้าเป็นเมืองขึ้น
และตัวข้าก็ได้มีพระราชบัญญัติจากฝ่าบาท ให้ทำศึก และไปขอความร่วมมือจากพันธมิตร ยางแคว้นฉิน เพื่อต่อสู้กับต่างแคว้นและพวกชนเผ่าที่มารุกรานข้าจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้พบกับคนคนนั้นอีกครั้ง คนที่ข้าไม่กล้าที่จะมองหน้าอีกต่อไปไม่มีหน้าที่จะไปมองเขาอีก
"ข้าจำเรื่องเมื่อ 15 ปีก่อนได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องมันผ่านไปแล้วข้าจะออกราชองการ ให้เจ้าเป็นราชทูตไปแคว้นฉินเพื่อขอตัวทหารและแม่ทัพผู้เก่งกาจมาที่นี่"
"พะยะค่ะกระหม่อมทราบแล้ว"
"ไม่ต้องกลัว สิ่งใดที่เคยทำผิดพลาดไปก็เป็นกรรมตามสนองเพียงเท่านั้น"
ข้ารู้ตัวดีว่าสิ่งที่พระองค์กล่าวออกมานั้นเป็นเพราะสาเหตุใด ในตอนนั้นข้าและฝ่าบาทที่ตอนนั้นฝ่าบาทเป็นเพียงองค์รัชทายาท ได้พบกับ ชายผู้นั้นและต่างคนต่างตกหลุมรักชายผู้นั้นอย่างสุดหัวใจ แต่ที่สุดแล้วแม้ว่าจะเป็นตำแหน่งองค์รัชทายาทแต่ชายหนุ่มผู้สวมชุดสีแดงผู้นั้นก็เลือกแต่งให้กับแม่ทัพจนๆคนนี้แต่ข้าเองที่ต่อมา ได้ตัดสินใจแยกทางกับชายผู้นั้น
แคว้นฉิน
การมาเป็นราชทูตเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นและขอร้องให้แคว้นฉินร่วมมือออกศึกในครั้งนี้ข้าได้เข้ามาภายในวังหลวง ที่งดงามน้อยครั้งที่จะได้เข้าวังมาแบบนี้ยิ่งเป็นแคว้นอื่นข้าไม่ค่อยมีโอกาสที่จะมาเท่าไหร่นัก
"แม่ทัพหลานเชิญทางนี้"
"ขอบคุณ เป้ยกงกง"
"มิได้ๆตามมาเถิด"
"ฝ่าบาทให้ข้าเข้าเฝ้าได้ยามใดหรือ"
"ฝ่าบาททรงราชกิจอยู่ท่านแม่ทัพไม่ต้องห่วงหลังจากยามเที่ยงไปแล้วฝ่าบาทจะเรียกท่านเข้าเฝ้าเมื่อถึงตอนนี้ตระกูลหยางคงมาถึงพอดี"
"ตระกูลหยาง"
"ขุนพลที่มีความสามารถมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ จนตอนนี้ลูกหลานสืบสกุลต่างมีความเก่งกาจกันทั้งนั้นย่อมไม่แปลกถ้าจะมาร่วมออกศึกในครั้งนี้ฝ่าบาทเองก็ได้เรียกตัวคนตระกูลหยางมาเช่นกัน"
"เช่นนี้เองหรือ"
"ท่านแม่ทัพไม่ต้องห่วงว่าคนตระกูลหยางจะไม่ชอบท่านหรอกนะฝ่าบาทจะช่วยพูดให้ท่านเอง อ้อ นี้ถึงเรือนรับรองของท่านและราชทูตทุกคน"
"ขอบคุณเป้ยกงกง"
"ไม่เป็นไรทุกคนเชิญพักผ่อนเถอะข้าไม่กวนทุกท่านแล้วขอตัวก่อน"
"เชิญเป้ยกงกง"
ในช่วงเย็นของวันนั้นฝ่าบาทได้ให้คนจัดงานเลี้ยงต้อนรับราชทูตในงานเลี้ยงมีเหล่าขุนนางมากมายร่วมถึงเหล่าลูกหลานขุนนางทั้งหลายที่มางานนี้ด้วยเหล่าเชื้อพระวงศ์ก็เช่นกัน
ในที่สุดข้าก็ได้พบเขาอีกครั้ง
หยางหลีหยุน
อดีตภรรยาข้า

ข้ากับเขามองสบตากันอย่างไม่ทันตั้งตัวเผลอจ้องมองกันอยู่นานความรู้สึกมากมายหลั่งใหลออกมาอย่างคาดไม่ถึงเป็นเวลา 15 ปีที่เราไม่เจอกันหลังจากหย่าขาดจากกันในวันนั้น
เป็นข้าเองที่ผิดต่อเขาแต่ในเมื่อไม่รักกันแล้วข้าก็ไม่อาจฝืนทนต่อไปได้อีก
"นายท่านหยางกับครอบครัวมาถึงแล้วพะยะค่ะ"
เสียงขันทีในวังเอ่ยเรียกขานนามนายท่านหยางเสียงดังแม้ว่าจะเรียกขานว่านายผู้เฒ่าแต่ว่านายท่านหยางเฟิงผู้นั้นยังหนุ่มแน่นอยู่เลยแม้ว่าอายุจะเพิ่มมากขึ้นใครถ้าไม่บอกอายุและดูเพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกต้องบอกเลยว่าเหมือนคุณชายน้อยวัย 20 อยู่เลยดีไม่ดีข้าเองใบหน้าหรือรูปลักษณ์คงแก่กว่านายท่านหยางอยู่หลายส่วน
"เชิญนายท่านหยาง"
"ขอบคุณเป้ยกงกง"
"ราชทูตแคว้นซูเดินทางคงลำบากมากสินะ"
"ขอบคุณนายท่านหยางที่เป็นห่วง"
"นึกว่าระหว่างทางมาท่านแม่ทัพโดนโจรสังหารไปแล้วเสียอีก"
อดีตพ่อตาจ้องมองมาที่ข้าอย่างจริงจังซึ่งข้าเองก็ไม่กล้าที่จะตอบโต้อันใดใครจะกล้าดูภรรยาแต่ละคนของอดีตพ่อตาสิแค่ข้าคิดจะสู้ก็หมดหนทางหนีแล้ว
แต่คนของข้าคงไม่รู้ว่าไม่ควรตอบโต้อดีตพ่อตาของข้าเช่นนี้
"ท่านว่าเกินไปแล้วพวกเราเป็นราชทูตแคว้นซูเป็นตัวแทนของฝ่าบาทท่านพูดจาเช่นนี้ได้อย่างไรดูอย่างไรก็ไม่ใช่นายท่าน ดูเหมือนคนไร้ประโยชน์เสียมากกว่า"
"ฝูหลิน!"
"ท่านแม่ทัพโดนดูถูกเช่นนี้เหตุใดไม่ทำอันใดเลยเล่า"
"แหมหลานหลิงอวี๋จะกล้าหรือไม่เจ้าจะทำไมควรรู้ว่าเจ้าไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว"
"ท่านเก่งกาจมาจากที่ใดวาจาดูหมิ่นผู้คนมากมายเช่นนี้!!"
"รองแม่ทัพหง..."
"ฝ่าบาทเสด็จ!!!!!!"
"ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาพะยะค่ะ"
"ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ"
"ลุกขึ้นเถอะ"
"พะยะค่ะ!!!"
"เพคะ!!"
"ท่านแม่ทัพเหตุใดคนสกุลหยางถึงไม่ทำความเคารพฝ่าบาทล่ะท่านแม่ทัพ"
"ว่ากันตามตรงแคว้นนี้ราชวงศ์นี้เกือบสูญสิ้นไปแล้วแต่ด้วยความช่วยเหลือของคนตระกูลหยาง หยางเฟิงและภรรยาทั้งสิบที่ออกรบและกอบกู้ราชวงศ์ตามจริงพวกเขาก่อตั้งเป็นแคว้นของตนได้แต่เขากลับไม่ทำเพราะว่าไม่ต้องการปกครองใครฝ่าบาทจึงออกราชโองการคนสกุลหยางทุกรุ่นทุกคนไม่ต้องทำความเคารพนอกจากจะทำเองได้"
"เช่นนั้น"
"เช่นนั้นเจ้าก็ทำให้นายท่านหยางไม่พอใจอย่างมากแม้จะยิ้มออกมาแต่นั้นคือโกรธแค้นไม่พอใจอีกอย่างฮองเฮาองค์ปัจจุบันเป็นบุตรตรีคนที่ 11 ของนายท่านหยาง"
"ข้าจะโดนเขาทำอันใดหรือไม่"
"เจ้าคงไม่โดนแต่เป็นแคว้..."
"ฝ่าบาท!"
"ว่าอย่างไรนายท่านหยาง"
"ฝ่าบาทคนตระกูลข้ารู้สึกป่วยไข้ไม่สบายคงไปออกรบไม่ได้ต่อให้เต็มใจไปก็คงจะสู้รบไม่เต็มที่แน่นอนตระกูลหยางขอถอนตัวหวังว่าฝ่าบาทจะทรงให้อภัย"
"นายท่านหยาง...เหตุใดป่วยไข้เร็วถึงเพียงนี้ให้หมอหลวงตรวจดูก่อนดีหรือไม่"
"ฝ่าบาทจะไม่ยอม"
"แคว้นซูคือแคว้นพัธมิตรของเราอย่านิ่งดูดายไปเลยได้หรือไม่..."
"ฝ่าบาทคงยังไม่ลืมว่าหลานหลิงอี๋นั้นเคยเป็นเขยหกของกระหม่อมแต่เพราะออกรบแล้วได้ภรรยาใหม่พร้อมบุตรทำให้บุตรของกระหม่อมช้ำใจจนหนีกลับบ้านมาคนเป็นพ่อแม่ย่อมไม่พอใจอย่างยิ่ง"
สิ้นคำนั้นทุกคนหันมาจ้องมองมาที่ข้าอย่างสงสัย