ตอนที่ 3 พบรัก

หลานหลิงอวี๋
10 ปีต่อมา
ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะผ่านมาถึง 10 ปีแล้วการระวังตัวในการใช้ชีวิตของข้ากับครอบครัวก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อนมารดาผู้ป่วยหนักของข้าก็เสียชีวิตไปแล้วจะโศกเศร้าเสียใจแต่ก็ดียินดีที่ท่านได้ปลงจากโลกใบนี้แล้ว บุตรชายของข้าจะบุตรสาวก็เติบโต เป็นบุรุษที่แข็งแกร่งเป็นสตรีที่งดงามในใต้หล้านี้ความงดงามของบุตรสาวข้าก็หาผู้ใดเปรียบเทียบไม่ได้
น้องชายของข้าสอบเข้าเป็นมหาบัณฑิต เป็นขุนนางรับใช้ ราชวงศ์มีความเที่ยงตรงและยิ่งใหญ่ข้าเอง ก็ออกรบและช่วงนี้ก็สึกสงบไม่ได้มีเรื่องราวอันใดเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเป็นเหตุให้ข้าได้ว่างงาน แมวทุกวันจะมีการตรวจตาทหารภายในเมืองหลวงแต่ว่าก็ไม่ได้ออกรบอย่างเช่นการก่อน
"ท่านพ่อ"
"ว่าอย่างไรเอ้อร์หลาง"
*หลานเอ้อร์หลาง เป็นบุตรชายคนโตของตระกูลหลาน เป็นบุรุษที่มีความคิดที่จะเลือกฉลาด และมีความแข็งแกร่งเฉกเช่นเทพแห่งสงคราม
*หลานอิ๋งหรง เป็นบุตรสาวคนเล็กของตระกูลหลานเป็นคนงามที่อยู่เหนือหมู่มวลผกาทั้งหมด เป็นสตรีที่บุรุษต่างหมายปองอยากครอบครอง
"หลายปีมานี้ลูกเฝ้าอยู่แต่ที่นี่ลูกอยากออกท่องเที่ยวตามหาความฝันที่ลูกอยากจะทำ"
"พ่อกลัวแต่ว่าพวกเราจะไม่เห็นหน้าเจ้าอีกเพราะกลัวว่าเจ้าจะได้พบกับคนผู้นั้น วิชากระบี่ของเขามีความแข็งแกร่ง แล้วโหดเหี้ยมพ่อไม่อยากให้เจ้าต้องได้รับอันตราย"
"เรื่องมันผ่านมาหลายปีลูกไม่ได้กลัวเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้วแต่สิ่งที่ลูกกลัวก็คือการไม่ได้ออกไปตามหาความฝันของตนเองแม้ว่าลูกจะมีพร้อมทุกอย่างแต่ว่าลูกก็อยากหาสิ่งที่ตนเองชอบมากที่สุดเช่นเดียวกัน"
"ถ้านั่นเป็นความประสงค์ของเจ้าก็ไปเถิดพ่อจะไม่ขัดเศร้าเลยแม้แต่นิด"
"ขอบคุณท่านพ่อที่ไม่ขัดขวางลูก"
"เฝ้าระวังตนให้ดีอย่าได้พบเธอกับคนผู้นั้นอีก"
"ลูกทราบแล้วจะระวังตนให้ดี"
ไม่คาดคิดว่าสักวันข้าจะต้องปล่อยให้ บุตรชายของข้าได้กลางปีกบินออกไปสู่โลกภายนอก ไม่คาดคิดเลยจริงๆ แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อนิสัยนี้ได้สืบทอดประกาศสายเลือดของข้า
"ท่านพี่ท่านจะให้ลูกของเราออกไปจริงๆหรือท่านไม่กลัวว่าลูกของเราจะพบเจอกับคนพูดนั้นหรอกหรือ"
"จะให้ทำอย่างไรความดื้อรั้นของเขาข้าก็ไม่อาจที่จะดึงชุดรั้งตัวของเขาเอาไว้"
"ข้าอยากให้เขามีชีวิตที่มีความสุขอย่าได้เจอคนนั้นอีกเลย"
"ท่านจะกลัวไปทำไมพวกท่านทั้งสองทำผิดบาปต่อพี่สะใภ้ของข้ายังจะกลัวผู้ใดมาทำร้ายพวกท่านได้อีกคนเลือดเย็นเช่นพวกท่านจะกลัวไปทำไม"
"หลานหลิงหง เจ้าปากหนักเกินไปแล้วจะต่อว่าข้าก็ได้แต่เหตุใดต้องต่อว่าพี่สะใภ้แล้วเรียกบุคคลอื่นว่าเป็นพี่สะใภ้เช่นนี้ได้อย่างไร"
"พี่สะใภ้ข้าไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นนางต่างหากที่เป็นคนอื่นถ้าไม่รักเธอนางเป็นพี่สะใภ้หรอกนะถ้าท่านอยากรักนางก็อยู่กับนางไปอย่าบังคับให้ข้าเรียกสตรีนางนี้ว่าพี่สะใภ้อีกเลย"
"เจ้าน้องคนนี้!!"
"พอเถิดท่านพี่ข้าผิดเองท่านจะได้โกรธกับน้องชายเลย"
"เป็นข้าที่ผิดเองแม่อาจกระทำผิดได้อีกไม่ด่วนตัดสินใจในตอนนั้นแต่เขาเข้ามาคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้"
ใช่ หากตัวของข้าไม่ด่วนตัดสินใจที่จะแต่งเขาเข้ามาก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อย่างแน่นอนแล้วแต่เวรแต่กรรมชาตินี้ข้าไม่อาจจะชดเชยให้เจ้าได้ชาติหน้าข้าขอชดเชยให้เจ้าก็แล้วกัน
หลานเอ้อร์หลาง
ข้าเตรียมของที่จะออกท่องเที่ยว เตรียมของเอาไว้อยู่นานก็ไม่คาดคิดว่าน้องสาวของข้าจะเตรียมของด้วยเช่นเดียวกันหลานอิ๋งหรง เป็นน้องสาวที่ข้ารักมากเรามีกันสองพี่น้องท่านพ่อท่านแม่รักพวกเรามากแม้ว่าตั้งแต่เด็กพวกเราจะต้องอยู่ในกรอบเพราะว่าท่านพ่อกลัวว่าคนผู้นั้นจะมาทำร้ายพวกเราสองคนรวมถึงขั้นแม่ด้วยคนผู้นั้นในความทรงจำของข้าสวมชุดสีแดงงดงามปักลายดอกเหมยสีทอง ผมยาวงดงามนั่นยังตราตรึงในใจของข้าแม้ว่าจะผ่านมาหลายปีข้าก็ยังสามารถที่จะวาดภาพของบุรุษผู้นั้นได้เป็นอย่างดี
"หลานอิ๋งหรง เจ้าเองก็จะไปพร้อมกับพี่อย่างนั้นหรือ"
"ตัวของข้าเองก็อยากออกท่องเที่ยวเราก็อายุ 14-15 กันแล้วสมควรที่จะมีโอกาสได้ออกไปท่องเที่ยวข้าเองก็อยากไปฉันพี่ให้ข้าด้วยนะ"
"หากเจ้าไม่กลัวลำบากก็ตามใจแต่เจ้าเถิด"
"เจ้าค่ะ ข้าดีใจเหลือเกินที่ท่านยอมให้ข้าไป"
ข้าออกเดินทางพร้อมกับน้องสาวก่อนจะไปก็ร่ำลาท่านพ่อและท่านแม่แม้กระทั่งท่านอา ผู้ที่ไม่ได้ใยดีอะไรพวกเราเลยแม้แต่น้อยแต่ข้าก็ยังมีความสุขที่ยังมีท่านอาที่เก่งกาจ แม้ว่าท่านอาของข้าจะไม่ชื่นชอบพวกเราทั้งสองคนก็ตามและท่านอาก็ชอบทะเลาะกันกับท่านพ่อแถมยังด่าทอท่านแม่อยู่บ่อยครั้งแต่ท่านแม่ก็บอกเพียงว่าเป็นแม่ที่ผิดเองอยู่เสมอถ้าไม่รู้หรอกนะว่าในอดีตพวกเขามีปัญหาอะไรกัน แต่ข้าก็อยากให้ทุกอย่างมันจบลงและเข้าใจกันดีทั้งสองฝ่าย
การเดินทางไปยังเมืองต่างๆก็ดำเนินต่อไปข้ามาถึงชายแดนแห่งแคว้นหนึ่ง ผู้คนมากมายต่างสัญจรไปมา การค้าขายก็มีมากมายเช่นเดียวกันส่วนมากจะเป็นผู้สูงศักดิ์ขนาดที่นี่เป็นที่ที่ติดชายแดน แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายมาทำการค้าขายเช่นนี้
"พวกเราแวะพักกันที่นี่กันเถิด"
"เจ้าค่ะ"
โรงเตี๊ยมไห่ถัง ถ้าได้ข่าวมาว่าโรงเตี๊ยมนี้พนักงานแต่ละคนมีแต่ผู้คนที่งดงามเป็นโรงเตี๊ยมที่ยิ่งใหญ่แต่ราคาย่อมเยาสะอาดสะอ้านและงดงาม ได้ข่าวว่าคนตระกูลหยางเป็นผู้ก่อตั้งที่นี่เป็นจุดพักแรมพักทานอาหารให้แก่ผู้สัญจรไปมาตระกูลที่โด่งดังและมีชื่อเสียงขนาดฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจไม่น่าเชื่อว่าข้าจะมีโอกาสเหยียบย่างเข้ามาในที่แห่งนี้
"ว่าอย่างไรคนงามจ้าวสนใจมานั่งร่วมทานอาหารมื้อค่ำกับข้าดีหรือไม่"
"ขอบคุณท่านที่ชวนตัวของข้าไปร่วมทานอาหารแต่ว่าข้ามากับพี่ชายคงไม่สะดวกที่จะเข้าไปทานด้วยขอบคุณที่ชวนเจ้าค่ะ"
"ไม่ต้องเกรงใจเหตุใดต้องเกรงใจกันด้วยมาเถิดน้องสาวคนสวย"
"น้องสาวของข้าก็เอ่ยปากบอกพวกเศร้าแล้วว่าไม่สะดวกที่จะไปนั่งด้วยเหตุใดต้องมาบังคับจิตใจสตรีผู้หนึ่งด้วย"
"ค่ะส่วนน้องสาวของเก่าไม่ได้ชวนเจ้าเสียหน่อยปากไปหรือเจ้าอยากมีเรื่อง!"
"ข้าเองก็อยากมีเรื่องเหมือนกันลองดูกันไหมล่ะ!!"
ข้าชักกระบี่ออกมามาจะเข้าไปต่อสู้กับอีกฝ่ายที่มีจำนวนคนมากแต่การกระทำทุกอย่างต้องหยุดลงเมื่อเสียงของคนพูดหนึ่งดังขึ้น
"โรงเตี๊ยมไห่ถัง เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าหรือออกมาได้แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำร้ายทำลายข้าวของกันที่นี่ หากพวกเจ้ายังอยากอยู่ที่นี่และพักแรมก็จงอยู่ไป ถ้าหากอยู่ไม่ได้ก็ไสหัวไปซะ!!"
"ขออภัยที่พวกเราเสียมารยาท ต่อหน้า นายท่าน7 เช่นนี้"
"เข้าใจแล้วมันก็ดีที่นี่เป็นโรงเตี๊ยมของน้องชาย12 ของข้า หากทำสิ่งใดไม่เหมาะสมอีกถ้าคงปล่อยเอาไว้ไม่ได้จงจำเอาไว้อยากอยู่ที่นี่ต้องอยู่อย่างสงบอย่าหาเรื่องเด็ดขาด"
"ทราบแล้วขอรับนายท่าน 7"
สตรีผู้นี้ หน้าตาคล้ายๆบางคนแต่ข้าจำไม่ได้แล้วว่าเป็นผู้ใดหรือว่าข้าจะคิดมากไปเองดวงหน้างดงามที่มีท่าทีหยิ่งยโสคนผู้นี้ช่างน่ากลัวเหลือเกินแรงกดดันที่อีกฝ่ายมอบให้กับทุกคนทำเอาร่างกายแข็งค้างไม่กล้าออกขยับเขยื้อนออกไปไหนก่อนที่สายตาของข้าจะปะทะเข้ากับสายตากลมโตของอีกคนที่เดินตามหลังมา
"ท่านน้า7รอข้าด้วย"
"หยางหลีอวิ๋นถ้าหากเจ้าชักช้าน้าคงจะไปก่อนแล้ว"
"ท่านน้าต้องรอข้าด้วยนะขอรับแฮะๆ"
เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ข้ารู้สึกตราตรึงในรอยยิ้มของคนผู้นั้นผู้นี้อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับข้าหรือว่านี่จะเป็นพรหมลิขิตสวรรค์ประทานให้แก่ข้าข้าจะจงจำเอาไว้ว่าชื่อของเขามีชื่อว่าอะไร
หยางหลีอวิ๋น
เจ้าช่างงดงามเหลือเกิน