ตอนที่ 2 ชายแดนอันเวิ้งว้าง

หลานหลิงอวี๋
"ท่านพี่สะใภ้ท่านพี่ใหญ่กลับมาแล้ว!"
ข้ากลับมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่ข้ากระทำในวันนี้ข้ากลับมา ในรอบหลายปีที่ไปอยู่ชายแดน ข้ากลับมาพร้อมกับสตรีที่ข้ารักและจะอยู่ด้วยตลอดชีวิต
ในช่วงที่ข้าอยู่ที่ชายแดน ข้าได้รับอันตรายและบาดเจ็บจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดต่อก็ได้สตรีผู้นี้ที่เป็นภรรยาของข้าคอยช่วยเหลือจนมีชีวิตรอดจนถึงทุกวันนี้ข้าตัดสินใจแต่งงานกับนาง ตอนที่อยู่ชายแดน เรามีลูกชายด้วยกัน 1 คน เลยกลับมาที่นี่เพื่อที่จะมาสะสางเรื่องราวทุกอย่างให้มันจบสิ้น
ร่างสูงโปร่งในชุดสีแดงปล่อยผมยาวถึงกลางหลัง ผมยาวงดงามดุจดั่งน้ำหมึกที่สวรรค์สรรสร้างผิวขาวราวกับดอกโบตั๋นดูสูงค่าแต่ว่า นั่นคือความคิดในอดีต ที่ข้าเคยคิดบัดนี้สตรีที่สูงค่าที่สุดในใจของข้าก็คือภรรยาผู้นี้ของข้า
"ท่านกลับมาแล้ว....นางคือใคร"
"นางคือภรรยาของข้าและนี่ก็คือบุตรชายเพียงคนเดียวของข้า"
"ภรรยากับบุตรชาย..."
เสียงของน้องชายและท่านแม่เลยขึ้นมา พร้อมกันโดยที่หันไปมองหยางหลีหยุน บุรุษที่สวมชุดสีแดง งดงามผู้นั้นอย่างช้าๆพร้อมเพียงกัน
"แล้วพี่สะใภ้ล่ะเหตุใดท่านถึงแต่งภรรยาใหม่ โดยที่ไม่ได้ปรึกษาท่านแม่เลยท่านพี่จากบ้าน ไปหลายปีท่านพี่สะใภ้คอยดูแลข้าและท่านแม่มาดูตลอดเหตุใดท่านถึงดูแคลนน้ำใจของพี่สะใภ้ถึงเพียงนี้"
"น้ำใจของเขาถ้าหาได้ดูแคลน แต่ความคิดและความรู้สึกของข้าไม่ได้มีเพียงเขาแล้ว และไม่ได้มีเขานานแล้ว ข้าขอโทษที่ต้องพูดความจริงและพูดอย่างตรงไปตรงมา ข้ากับเจ้าเราหย่ากันเถอะ"
"เจ้าจะหย่ากับข้าอย่างนั้นหรือ"
"นับตั้งแต่ที่ข้าก้าวย่างไปยังชายแดนที่ห่างไกลข้าก็ได้พบกับนางและนางก็ช่วยเหลือข้ามาโดยตลอดเกือบตายที่สนามรบก็มีเพียงนางที่คอยช่วยเหลือแล้วนี่ข้าจะไม่ตอบบุญคุณน้ำใจนางได้อย่างไร"
"บุญคุณของเจ้ากับผู้อื่นเช่นยิ่งใหญ่แต่บุญคุณกับข้านั้นไม่เหลือหรอน่าสมเพชยิ่งนักที่เจ้าทำเช่นนี้กับข้าข้าอุตส่าห์ เฝ้าดูแลผู้อันเป็นที่รักของเจ้ามาหลายปียอมทิ้งศักดิ์ศรีของบุรุษแต่งให้กับเจ้ายอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักดาบอันสูงสุดเพราะเจ้าสิ่งที่เจ้ามอบให้แก่ข้า"
"มันสาแก่ใจข้ายิ่งนักกับความโง่เง่าที่มีความรักโดยไม่ลืมหูลืมตาเช่นนี้เจ้าทำลายศักดิ์ศรีของความเป็นบุรุษเพศเช่นค่าที่ยอมลดตัวลงมาแต่งให้กับบุรุษเช่นเจ้าในเมื่อเจ้าอยากเลิกกับข้าก็ตัดแขนทั้งสองข้างจะออกมาและนับจากนี้ไปข้าจะหย่าขาดกับเจ้า!"
"ไม่ได้นะเจ้าจะมาทำให้บุตรชายของข้าเสียกันทั้ง 2 ข้างแบบนี้ไม่ได้"
"แล้วอย่างไร คำขอโทษมันไม่เพียงพอสำหรับข้าจริงๆ แขนข้างหนึ่งเป็นค่าตอบแทนที่คาดเลี้ยงดูท่านที่เป็นมารดาของเขาส่วนแขนอีกข้าง เป็นค่าตอบแทน ที่ข้าดูแลน้องชายของเขา มันไม่ขาดไม่เกินเลยแม้แต่นิด ถ้าพวกท่าน ยังคิดที่จะอยากขาดจากข้าอีกค่ะก็ขอแขนทั้งสองข้างไปก็พอ"
"เจ้าเป็นคนที่สาระเลวทรามต่ำช้าชั่วช้าไม่รู้จักบุญคุณคน!"
"ท่านแม่ท่านกล่าวเกินไปแล้วเป็นท่านพี่ต่างหากที่ทำเช่นนี้กับพี่สะใภ้ ข้ารู้ว่าท่านรักท่านพี่มากแต่ถ้าไม่ควรที่จะให้ท้ายท่านพี่เช่นนี้"
"ในเมื่อเจ้าอยากได้แขนทั้งสองข้างของข้าก็ตัดเอาไปเถิดข้ายอมเพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากเจ้า"
"แม้แต่แขนตนเองก็ไม่อยากเก็บเอาไว้สาระเลวยิ่งนักด่าทอข้าสารพัด ไม่นึกย้อนกลับไปมองบุตรชายของตนว่าสาระเลวขนาดใด ความเจ็บแค้นและแสนอัปยศในครั้งนี้ข้าจะเก็บของไว้ล้างบัญชีกับพวกเจ้าหากข้า ได้พบเจอกับพวกเจ้าไม่คนใดก็คนหนึ่งข้าจะสังหารพวกเจ้าไม่มีข้อยกเว้นแค่นี้ถ้าเก็บใส่บัญชีไว้แล้วรอเวลาที่จะชำระแค้น!!!!!"
"พี่สะใภ้!"
"เด็กน้อยข้าไม่ใช่พี่สะใภ้ของเจ้าอีกต่อไป จงอย่าลืมคำพูดของข้าพวกเจ้าทำร้ายจิตใจของข้า แสนสาหัสยิ่งนัก ข้าไม่มีวันให้อภัยพวกเจ้าอีกต่อไปแล้ว!"
ข้าได้แต่มองตามอดีตภรรยา ที่เดินเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะนำสัมภาระของตนออกมาและจดหมายฉบับหนึ่ง ที่ลงนามการจากขาดของเราทั้งสองคน ในตอนนั้นเป็นข้าที่รีบร้อนที่แต่ง เขาเข้ามาในชีวิตโดยไม่คิดเลยว่าตัวของข้า จะได้พบคนที่ดีกว่า เช่นภรรยาคนปัจจุบันนี้ข้าขอโทษนะขอบใจ ที่ยอมปล่อยข้าออกมาหากวันใดที่ข้าเจอกับเขาคงต้องสู้กันสักตั้ง
หยางหลีหยุน
วาสนาได้เจอแต่ไม่อาจได้อยู่ด้วยกัน ความเพ้อฝันในวันวานก็เป็นแค่ฝันตื่นหนึ่ง ข้าคงได้ แต่ฝันและไม่อาจที่จะแตะต้องสิ่งเหล่านี้ได้อีกต่อไปคงต้องตื่นขึ้นมาพบเจอกับโลกความเป็นจริงได้แล้วมันไม่มีอีกแล้ว
การเดินทางอันยาวนานกว่าที่จะกลับมายัง ตระกูลของตนเองพร้อมจิตใจอันบอบช้ำ ที่ข้าได้เคยลิ้มลองเอาไว้ เป็นน้ำผึ้งที่อาบยาพิษขั้นรุนแรงที่ข้าพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ
"ท่านแม่กลับมาแล้วหรือ"
เมื่อหลายปีก่อนในตอนนั้นข้าตั้งท้องบุตรชาย เพียงคนเดียวของเขาก่อนที่เขาจะไปชายแดน ข้าจึงอุ้มท้องกลับมาคลอดที่บ้านให้ท่านพ่อและท่านแม่คอยดูแล เมื่อเขากลับมาข้าจะนำเขาที่เป็นบุตรชายไปพบเขาที่เป็นบิดาแต่ว่ามันคงไม่มีอีกแล้ว
"ท่านแม่ท่านร้องไห้..."
"จงจำเอาไว้อย่าทำตนเหมือนบิดาของเจ้า บิดาของเจ้าอย่าขาดกับข้าแล้ว และเขาก็แต่งภรรยาและมีบุตรชายเป็นของตนเองแล้ว"
"ท่านแม่ท่านอย่าโศกเศร้าไปเลยเข้าบ้านกันเถิด ท่านตากับท่านยายรอท่านอยู่"
"ข้าเองช่างน่าระอายิ่งนักที่ทำให้บิดากับมารดา ต้องเสียใจไปดูแลบิดามารดาของผู้อื่นโดยไม่ได้ใส่ใจดูแลบิดามารดาของตนเอง ข้าผิดต่อพวกท่านทั้งสองแล้ว"
แค่นึกถึงเหตุการณ์ ที่ผ่านมาทำเอาข้าอยากจะบีบคอพวกมันให้ตายคามือ พวกคนสาระเลว ต่ำช้าเห็นที่ใดฆ่าที่นั่น!!!!!!!!!
"หลีหยุนลูก!!!"
"ท่านแม่!!"
อ้อมกอดของท่านแม่ช่างอบอุ่นยิ่งนัก ไม่เคยมีคำใดที่จะบรรยายถึงความรู้สึกที่ข้าคิดถึงท่านแม่ได้มากขนาดนี้เลยสุขที่ใดไม่สุขใจเท่าที่บ้านคงจะเป็นความจริง