บท
ตั้งค่า

๘ กลับสู่สภาวะปกติ (๑)

กลับสู่สภาวะปกติ

มือหนาหยิบแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มในอึกเดียว ดวงหน้าคมเคร่งขรึมไม่ชวนปฏิสัมพันธ์ แต่ทว่าเพื่อนสนิทก็ยังชวนคุยไม่หยุดโดยไม่สนใจว่าคู่สนทนาอยู่ในอารมณ์ใด

ไบรซ์ผ่านช่วงพักผ่อนแล้วเริ่มลุยงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ ช่วงว่างจากการถ่ายทำก็นัดเพื่อนมาดื่มแก้เครียด วิลลี่นึกว่าจะดื่มพอเป็นพิธีแล้วได้พูดคุยกันเหมือนทุกครั้งที่เจอหน้า แต่คราวนี้กลับต่างออกไปเมื่อดารารูปหล่อยกแก้วไม่วาง

คนมาด้วยทำได้แค่มองพลางเผยอปากค้าง พอจะทักก็กลัวทำให้บรรยากาศเสียมากกว่าเดิม รอจนกระทั่งเครื่องดื่มหมด จึงใช้โอกาสนี้ถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แต้มรอยยิ้มไว้บนใบหน้าเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด

ทั้งที่บอกมาสังสรรค์ แต่ไม่รู้ทำไมเขาจึงคิดตรงกันข้าม ราวกับโดนอีกฝ่ายลากมาเพื่อหารแค่ค่าเหล้า

“นายอยากเมาเหรอ” เพื่อนดื่มหมดเป็นขวดเขาเพิ่งได้ถามคำแรก แต่กลับไร้ซึ่งคำตอบนอกจากยกแก้วขึ้นดื่มบรั่นดีจนหมดในอึกเดียวเช่นเคย สร้างความสงสัยแก่วิลลี่เป็นอย่างมาก

“ไม่พูดจาสักคำ...แล้วตกลงเรื่องสาวเอเชียคนนั้นว่ายังไง” ยกแก้วของตัวเองดื่มบ้าง แต่เหมือนไปจี้ใจดำคนที่กำลังจมดิ่งกับความเศร้า ดวงตาเรียวยาวจึงเหลือบมองเพื่อนสนิทแล้ววางแก้วสีอำพันลงบนโต๊ะ ไล่สายตาไปรอบบาร์ส่วนตัว มีคนเข้าใช้บริการไม่เยอะเพราะต้องจ่ายแพง

“ฉันยกเพนต์เฮาส์ให้นาย เอาไปเลย” เมื่อแพ้ก็ต้องมีราคาที่จ่าย

การเล่นสนุกครั้งนี้ของตนย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ไม่รู้ว่าเธอรู้ความจริงได้อย่างไรจึงตลบหลังเขาอย่างเจ็บแสบ

“ทำไม นายจีบเธอไม่ติดเหรอ” ยกยิ้มมีความสุขเมื่อคิดว่าจะได้เพนต์เฮาส์สุดหรูใจกลางมหานคร ขยับเข้ามาใกล้คนที่นิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร เหมือนกำลังเย้ยหยันตัวเองกับความโง่เง่าที่หลงคิดไปว่าเธอรักตน

ความจริงไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด ร่างสูงเทเหล้าเข้ามาในคราวเดียวแล้ววางแก้วไว้บนโต๊ะ ซุกใบหน้าที่มือทั้งสองข้าง ส่ายศีรษะพร้อมตอบด้วยเสียงเข้มในลำคอ ไม่กล้าพูดอะไรมากกว่านั้นให้คนตรงหน้าหัวเราะเยาะ

“หึ”

“เฮ้ย มันยังไง บอกกันหน่อยสิ ฉันอุตส่าห์ลุ้นตั้งนานว่านายจะทำสำเร็จหรือเปล่า ผู้หญิงคนแรกที่ปฏิเสธนายใช่ไหม โอ้มายก็อด ไม่อยากจะเชื่อเลย” ยิ่งทำให้วิลลี่อยากรู้มากกว่าเดิม จึงเปลี่ยนที่นั่งมาทรุดกายลงข้างไบรซ์ซึ่งยกแก้วไม่ยอมวาง

จนกระทั่งแก้วสุดท้ายที่วางลงเสียงดังพร้อมหยิบเสื้อคลุมมาสวม แล้ววางเงินไว้บนโต๊ะก่อนหันมาทางเพื่อนสนิท

“ฉันจะกลับ”

“กลับไหน” วิลลี่ถึงกับทำหน้าเหลอหลา เพิ่งมาถึงไม่นานแต่อีกฝ่ายที่ดื่มลูกเดียวจนหมดไปหนึ่งขวดดันเอ่ยปากจะกลับ แล้วตนจะรู้ไหมว่านักแสดงคนดังจะกลับที่ไหน ตอนนี้ไบรซ์อยู่เป็นหลักแหล่งเสียเมื่อไร

“ไมอามี” ตอบเสียงเรียบไม่แยแส ต่างจากคนฟังที่เผยอปากค้าง

“ฮะ! เพิ่งมาเมื่อเช้าไม่ใช่เหรอ” มองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกจากร้าน เขานั่งเกาศีรษะด้วยความมึนงงไม่อาจตามความต้องการของไบรซ์ทัน ทำได้เพียงรีบจ่ายเงินแล้ววิ่งตามอีกฝ่ายเพื่อไปส่งยังสนามบิน และคอยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง

ถึงจะดื่มไปเยอะแต่แทบไม่ออกอาการเลยสักนิด ร่างหนายังคงเดินปร๋อด้วยดวงหน้าเรียบเฉย มาจนถึงไมอามีโดยตรงเข้าคอนโดมิเนียมของตัวเองทันที

ยามว่างจากงานก็มักมาขลุกอยู่ที่นี่ ถึงมันจะมีแต่ภาพความทรงจำแสนหวานที่ทำให้ใจเจ็บปวด เขายังได้ยินเสียงหวานเอ่ยข้างหู ภาพเธอเดินเล่นในห้อง ทำอาหารอยู่หน้าเตา นอนดูโทรทัศน์หรือร่วมรักกัน...

มันเด่นชัดเสียจนทำคนที่อยู่ในห้องเพียงลำพังน้ำตาซึม ร่างหนาเดินลากเท้าไปเปิดตู้เย็น หยิบอาหารไทยที่ถูกแช่แข็งไว้ในช่องฟรีซมาอุ่น เขาเรียนรู้วิธีการหุงข้าวในอินเตอร์เน็ต พยายามทำให้รสชาติใกล้เคียงกับที่เธอคอยทำให้กินตลอด

แต่มันไม่เหมือนเลย...

“ไม่อร่อย ไม่อร่อยสักนิด...” เขาเมินข้าวเปล่าที่ตนทำ แล้วนั่งซดแกงเขียวหวานจนหมด

อาหารยังเหลือในนั้นอีกสองถึงสามกล่อง เขาจึงไม่ค่อยกล้าเปิดกินเท่าไร กลัวว่าถ้ามันหมดตนอาจจะทนไม่ไหวจนต้องบินไปประเทศไทยเพื่อพาตัวหล่อนกลับมา

ซึ่งมันเสียศักดิ์ศรีมาก!

ผู้หญิงที่ทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี...

บ้านกุลนาถยังคงสวยงามดังวันวาน สมาชิกเพิ่มขึ้นทำให้ไม่เงียบเหงา แต่กระนั้นหม่อมภัทรวดีก็ปลีกตัวไปอยู่เรือนเล็ก โดยปรับปรุงให้ทันสมัยเข้ากับยุค มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมทุกอย่าง ดึงคนสนิทไปทำงานด้วยสองถึงสามคน

ทุกเช้าจันทราจึงต้องสั่งแม่บ้านทำอาหารแยกให้ท่านโดยเฉพาะ โดยคำนึงถึงโรคที่รุมเร้าไม่ว่าจะเบาหวานหรือความดัน ถึงจะไม่สามารถกินตามใจปากได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็เพื่อสุขภาพที่ดี อยากอยู่กับหลานอีกไปแสนนาน

ท่านยังต้องการเห็นหลานทั้งหมดแต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง และคนที่น่าจะทำตามความต้องการของท่านมากที่สุด

คงหนีไม่พ้นพลอยดาว...

“พลอยขอโทษที่กลับมาไม่ทันงานแต่งพี่ปุ๊นะคะ นี่ของฝากค่ะ พลอยยินดีด้วยนะ” เพิ่งกลับมาถึงบ้านเมื่อวานก็เก็บตัวเงียบในห้อง เช้าวันต่อมาถึงอาบน้ำแต่งตัวลงมาข้างล่าง พร้อมของฝากที่ให้แก่พี่ชายต่างสายเลือด

ทุกคนนั่งรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน เว้นแต่น้องสาวฝาแฝดกับน้องชายคนเล็กสุด เธอทรุดกายลงเก้าอี้ฝั่งซ้ายเยื้องกับบิดา ถัดไปคือน้องชายอย่างฟองสมุทรที่กลับมาไทยเมื่อปีก่อนหลังเลิกกับแฟนที่คบกันมานาน

“ขอบคุณครับ” รับกล่องของฝากมาวางไว้ข้างกาย พร้อมยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณ

งานแต่งของเขาจัดขึ้นเมื่อสามวันก่อน โดยไร้ซึ่งเงาของน้องสาวฝาแฝดทั้งสองคน พราวรุ้งติดแสดงคอนเสิร์ตจึงไม่สามารถมางานได้ ด้วยพลอยดาวเพิ่งลงเครื่องเมื่อวาน เขาดีใจด้วยซ้ำที่เธอไม่ได้มางานนี้

“ไปเที่ยวกลับมาหน้าตาสดใสขึ้นนะ พ่อบอกให้ไปพักผ่อนแต่แรกก็ไม่ยอม เราน่ะเอาแต่ทำงานไม่รู้จะขยันอะไรนักหนา” หม่อมราชวงศ์กษิดิศ กุลนาถ ประมุขผู้ดูแลคนทั้งบ้านกุลนาถเอ่ยทักบุตรสาวที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศ

เธอทำเพียงยิ้มมุมปากก่อนค้อมศีรษะให้แม่บ้านที่วางอาหารเช้าไว้ตรงหน้า หยิบผ้าผืนเล็กมากางไว้บนตัก เริ่มลงมือรับประทานอาหารเช้าที่ไม่ค่อยหิวสักเท่าไร ดวงหน้าหวานเฉยเมยติดเย็นชา แต่ก็พยายามทำให้ตัวเองไม่ดูเป็นคนอมทุกข์มากจนเกินไป

“พลอยอยากช่วยแบ่งเบาภาระคุณพ่อนี่คะ”

“พ่อทำไหว” ธุรกิจที่แตกหน่อของเขามากมายจนนับไม่ไหว ทว่าเขาไม่เคยบังคับให้ลูกมารับช่วงต่อ สนับสนุนทุกความชอบของลูกเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นพราวรุ้งที่ชอบงานวงการบันเทิง คลื่นนทีซึ่งถนัดงานศิลปะจนกลายเป็นศิลปินโด่งดังไปทั่วโลก ปลีกวิเวกไปอยู่บ้านสวนของคุณยายเพียงลำพัง นานครั้งถึงจะเข้าเมืองหลวงสักทีตามงานสำคัญของครอบครัว

“กลับมาคราวนี้พี่พลอยจะทำงานที่ไหน กลับไปทำงานที่โรงเรียนอีกเหรอ” ชายหนุ่มที่นั่งข้างกันหันมาถามพี่สาว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel