บท
ตั้งค่า

๘ กลับสู่สภาวะปกติ (๒)

หม่อมหลวงฟองสมุทร กุลนาถ ลูกชายที่เดินตามรอยของบิดาเข้าช่วยเหลือกิจการใหญ่ของครอบครัว ถึงจะอายุน้อยแต่เขานั่งตำแหน่งรองประธานบริษัท โดยที่ไม่มีผู้ถือหุ้นคนใดคัดค้าน เพราะเห็นถึงความสามารถด้านการบริหาร

“ไม่ล่ะ...คุณพ่อพอจะมีตำแหน่งว่างสักบริษัทให้พลอยไหมคะ ตอนนี้พลอยอยากทำงาน มีแรงทำงานมากกว่าเดิมอีกค่ะ บุกน้ำลุยไฟพลอยไปได้ทั้งหมดเลยนะ” รีบออกตัวของาน เธอรู้ว่าตัวเองโชคดีที่ได้เกิดมาในครอบครัวเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเอ่ยปากขออะไรก็ได้ทั้งนั้น

แต่ก็ต้องแลกมากับสละความสุขส่วนตัวในบางเรื่อง...

“พ่ออยากให้พลอยช่วยไปคุมพวกอาคารที่ปล่อยเช่า ทุกวันนี้มีละครมาถ่ายทำทุกวัน คนเราก็ไม่พอ คุณวัฒนาประสานมาหลายครั้งพ่อก็ไม่ได้ลงไปดู พลอยช่วยพ่อได้หรือเปล่า” อีกกิจการของครอบครัวคือสร้างตึกหลากหลายแบบเพื่อเปิดเช่าถ่ายละครหรือทำสื่อด้านงานบันเทิง ผลตอบรับเป็นไปด้วยดีสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ

ทว่ายังไม่มีผู้บริหารลงไปดูอย่างจริงจัง บางเรื่องก็ไม่ได้รับการจัดการที่ดี คราวนี้เมื่อบุตรสาวไม่ได้ทำงานที่โรงเรียน จึงคิดให้พลอยดาวช่วยดูแล

“สบายมากค่ะ พลอยจัดการให้เอง”

เธอตอบรับพลางฉีกยิ้มกว้าง โล่งใจไปเปราะหนึ่งเรื่องหน้าที่การงานของตัวเอง

ส่วนข่าวกับนักเรียนที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้ระเห็จออกจากประเทศบ้านเกิด หม่อมราชวงศ์กษิดิศได้จัดการให้หมดแล้ว ไม่ว่าจะแก้ข่าวหรือเปิดเผยความจริง ถ้าลูกสาวอยากกลับไปทำงานที่โรงเรียนก็ไม่ว่าอะไร แต่หม่อมหลวงพลอยดาวตัดสินใจเริ่มเส้นทางชีวิตใหม่

“พลอย...กินข้าวเสร็จแล้วไปหาหม่อมย่าที่เรือนเล็กหน่อยนะ ท่านบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับลูก” คุณจันทราเข้ามาในห้องอาหารหลังจากไปดูแลแม่สามีตอนเช้า พอท่านทราบว่าหลานสาวคนโตกลับมาก็เรียกหาทันที

“ค่ะคุณแม่” หญิงสาวหยิบน้ำมาดื่มรู้สึกอิ่มพอดี เธอจึงขอตัวไปเรือนเล็ก เหลือเพียงคนที่เหลือรับประทานอาหาร โดยปุริมมองตามน้องสาวไปจนลับสายตา ค่อยกลับมารับประทานอาหารที่เหลือด้วยใบหน้าเรียบเฉย

เขาถูกชุบเลี้ยงจากคนของบ้านกุลนาถ บุญคุณท่วมหัวให้ต้องตอบแทน ถึงจะสนใจด้านงานบริหาร ก็ต้องเลือกสายการแพทย์ เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาว่าตนต้องการหุบสมบัติทั้งที่ไม่มีสิทธิ์และไม่คู่ควร

“หม่อมแม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับพลอยเหรอ” หันมาถามภรรยา ยิ่งได้ยินว่าเรื่องสำคัญก็เกิดความกังวล เขาไม่ค่อยได้ไปหาหม่อมภัทรวดีเท่าไร ส่วนมากเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ไปหาแม่เลี้ยงของสามี คอยปรนนิบัติท่านเท่าที่จะทำได้

เพราะจันทราก็ต้องดูแลร้านอาหารเช่นเดียวกัน เธอขยายสาขาอีกสองแห่งในเมืองกรุง แน่นอนว่าคนมาอุดหนุนเต็มทุกสาขา สร้างรายได้อีกช่องทางเพื่อมาเลี้ยงคนทั้งครอบครัว

“จันทร์ก็ไม่ทราบค่ะ แต่คิดว่าน่าจะสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกไปหาแต่เช้าหรอก” เธอก็ไม่ได้ถามว่าต้องการพบหลานสาวเรื่องอะไร แต่คาดว่าคงสำคัญน่าดู ไม่อย่างนั้นไม่เรียกให้ไปหาแต่เช้าตรู่เช่นนี้หรอก

หวังเพียงไม่ให้เป็นอย่างที่กังวล...

“เหมยล่ะ” คุณจันทรานั่งลงประจำที่ แล้วมองหาลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งครรภ์แต่กลับไม่พบ จึงต้องหันมาถามปุริมที่ถือช้อนค้างพร้อมตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง พอโดนสะกิดก็ได้สติแล้ววางช้อนลง พร้อมหยิบน้ำขึ้นดื่ม

“นอนอยู่บนห้องครับ บอกว่าเวียนหัวผมเลยให้พักที่บ้าน ออกไปข้างนอกกลัวจะเป็นลมถ้าเจอแดดแรง” ช่วงนี้เธอแพ้ท้องหนักมากจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ ได้กลิ่นอาหารก็เวียนหัวอาเจียนตลอดจนกินได้เพียงแค่ไข่เจียวกับข้าวต้ม

“ดีแล้ว...เดี๋ยวอาให้คนเข้าไปดูแล”

“ขอบคุณครับ” ปุริมรับประทานอาหารเรียบร้อยก็ขอตัวขึ้นไปดูภรรยา แต่กระนั้นก็ยังเหลือบไปทางเรือนเล็ก อยากทราบถึงเรื่องที่ทำให้หม่อมย่าต้องเรียกพบพลอยดาว

หวังว่าคงแค่ทักทายเรื่องทั่วไป ไม่ใช่การหาคู่ครองให้หลานสาวสุดที่รัก...

หม่อมหลวงพลอยดาวเดินมายังเรือนเล็กที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก เมื่อก่อนมารดาเล่าให้ฟังว่าบ้านหลังนี้เคยเป็นเรือนหอของพวกท่าน แต่พอคลอดลูกก็ต้องย้ายขึ้นไปตึกใหญ่ ปล่อยร้างเรือนหลังเล็กเอาไว้จนหม่อมภัทรวดีต้องการความเป็นส่วนตัว จึงปัดฝุ่นแล้วออกแบบใหม่เป็นที่พักอาศัยยามแก่ของตน

ยังมีจันทรามาหาทุกวันเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย ทั้งยังแม่บ้านที่คอยรับใช้ข้างกายไม่ห่าง เธอเองก็มาหาหม่อมย่าทุกวัน จนท่านไม่รู้สึกเหงาสักนิด

เพื่อนหลายคนจากไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรือความชรา เหลือเพียงไม่กี่คนที่ไปมาหาสู่ ท่านจึงอยู่ติดบ้านต่างจากอดีตที่ชอบออกไปสังสรรค์ข้างนอก

“หม่อมย่าคะ” ย่อกายเข้ามาในห้องรับรองแขก แล้วนั่งลงข้างหญิงชราที่ยังคงสง่างามแม้จะอยู่ในวัยแปดสิบ

“คุณพลอยของย่ามาแล้ว” รีบโอบกอดหลานสาวอย่างรวดเร็ว ค่อยผละออกมองดวงหน้าหวาน เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนสำหรับฝาแฝดพลอยดาวพราวรุ้ง เสียแต่ว่าอีกคนทำงานจนไม่มีเวลากลับบ้าน มาแต่ละครั้งก็อยู่ได้ไม่นาน

ต่างจากพลอยดาวที่อยู่บ้านตลอด ปรนนิบัติหม่อมย่าของตนเป็นอย่างดี เชื่อฟังท่านทุกอย่างกลายเป็นหลานรักเบอร์หนึ่ง

ห่างไกลจากคลื่นนทีที่แทบไม่ถูกพูดถึง เพราะอีกฝ่ายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหม่อมย่า อะไรที่ท่านไม่ชอบจะต้องทำทุกอย่าง เหมือนประกาศศึกกลาย ๆ

“คุณแม่บอกว่าหม่อมย่าเรียกหาพลอย มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ย่าอยากให้พลอยช่วยร้อยมาลัยให้หน่อย จะนำไปถวายบนหิ้งพระเย็นนี้ ช่วยย่าหน่อยนะลูก คนอื่นร้อยก็ไม่ถูกใจย่าสักที” เรื่องสำคัญที่พูดถึงคือการร้อยมาลัยอย่างเดียวจริงหรือ หล่อนไม่อยากเชื่อสักเท่าไร

หม่อมหลวงพลอยดาวเลือกเงียบไม่ถามอะไรต่อ ยกยิ้มมุมปากกลายเป็นคนพูดน้อยทันทีเมื่อกลับไทย ทั้งที่ตอนอยู่ต่างประเทศสามารถทำทุกอย่างตามใจตน

กระทั่งย้ายไปอยู่กับผู้ชายสองต่อสองก็ทำมาแล้ว...

“ค่ะ”

อย่างไรวันนี้หล่อนก็ไม่มีธุระต้องออกไปข้างนอก การร้อยมาลัยก็ถือเป็นงานอดิเรกที่พลอยดาวชอบอย่างหนึ่ง เธอมักช่วยมารดาร้อยมาลัยจนชำนาญ ดนตรีก็ถนัดเพราะชอบศาสตร์ด้านนี้ ไม่ว่าจะดนตรีไทยหรือดนตรีสากล แต่เธอไม่ได้เรียนจริงจัง ทำเฉพาะเวลาว่าง

“สวัสดีครับหม่อมย่า” เสียงทักทายพร้อมบุคคลที่สามเดินเข้ามาภายในเรือนหลังเล็ก ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมจนพลอยดาวที่กำลังร้อยมาลัยต้องเงยหน้ามอง เธอได้สบตากับเขาจึงยิ้มเป็นการทักทาย ค่อยขยับห่างจากหม่อมภัทรวดีหวังจะออกจากห้อง แต่ท่านกลับคว้าแขนหลานสาวเอาไว้ พร้อมเชื้อเชิญแขกเข้ามานั่งภายในบ้าน

“พ่อพฤกษ์! มา ๆ เข้ามานั่งข้างใน แม่เราโทรมาบอกย่าแต่เช้าว่าจะให้ลูกชายเอาของฝากจากอังกฤษมาให้ ย่าก็คิดว่าจะมาช่วงสายซะอีก” เมื่อหม่อมย่าไม่อนุญาตให้ออกจากห้อง เธอจึงจำต้องนั่งตรงนั้นแล้วก้มหน้าร้อยมาลัย ไม่สนใจสายตาคมที่เหลือบมามองบ่อยครั้ง

“ผมมีธุระผ่านมาแถวนี้เลยรีบเอามาให้หม่อมย่าครับ” ยื่นของฝากให้ท่านตามคำสั่งของมารดา

พฤกษ์ วาดจันทร์ฉาย ลูกชายคนโตของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จบบริหารจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศ รับช่วงต่อกิจการของครอบครัวจากฝั่งมารดา ดูแลธุรกิจขนส่งที่เป็นเอกชนรายใหญ่ของประเทศ

นอกจากทรัพย์สมบัติมหาศาล ยังมีรูปสมบัติที่สาวหลายคนต่างมองเหลียวหลัง หน้าตาหล่อเหลากับรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ทว่ากลับไม่ดึงดูดใจของหม่อมหลวงพลอยดาวสักนิด เธอสนใจพวงมาลัยตรงหน้าของตนมากกว่า

“ขอบใจมากนะลูก ยังอุตส่าห์คิดถึงคนแก่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel