๖ หวานต้น (๓)
ช่วงเย็นเธอเพิ่งได้อาบน้ำและสวมเสื้อผ้าครบชุดเป็นครั้งแรก มาอยู่คอนโดมิเนียมแห่งนี้ไม่นานแต่กลับถูกเขาลากขึ้นบนเตียงหลายต่อหลายครั้ง ความอึดของเขาทำให้เธอถึงกับเข่าอ่อน เดินแต่ละทีขาสั่นจนต้องมานั่งยังโซฟาหน้าโทรทัศน์ โดยในมือถือป็อปคอร์นเอาไว้
เธอคิดจะดูภาพยนตร์ที่เขาเล่นตั้งแต่เรื่องแรก เพราะตนดูแค่สองเรื่องตามคำชวนของน้องชายคนเล็กที่ชอบไบรซ์เสียเหลือเกิน น่าจะเป็นนักแสดงไม่กี่คนที่เอาชนะใจหม่อมหลวงคลื่นนที กุลนาถได้
“คุณไปนั่งไกล ๆ หน่อยสิ ฉันอยากนั่งคนเดียว” ที่นั่งว่างข้างหล่อนถูกเขาครอบครอง แต่ชายหนุ่มนั่งใกล้จนแทบจะเกยบนตัก เธอจึงต้องบอกเขาขยับออกต่าง
“ไม่เอา ผมอยากนั่งกับคุณ” ซึ่งเขาก็ขยับเข้ามาชิดดังเดิมพร้อมหยิบป็อปคอร์นในมือของหล่อนวางไว้บนโต๊ะเล็ก ก่อนจับเอวเล็กแล้วอุ้มหล่อนให้มานั่งบนตัก ทำเอาหญิงสาวต้องหันมามองเขาตาเขียวแล้วเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง
“ไบรซ์”
“พลอย” เจอชายหนุ่มเรียกกลับด้วยแววตาใสซื่อ เหมือนไม่รู้ว่าโดนดุเพราะอะไรจนเธอต้องพรูลมหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
ผู้ชายคนนี้รับมือยากจริง ๆ
“เฮ้อ ดื้อ คุณมันดื้อที่สุดเลย”
“จุ๊บ ดูหนังกันดีกว่า” เขาเลือกจุมพิตที่ท้ายทอยขาวแล้วเปิดภาพยนตร์เรื่องแรกของตนให้เธอได้ดู การทะเลาะจึงต้องจบลงเดี๋ยวนั้น ยอมนั่งบนตักหนาแต่โดยดี
แขนแกร่งโอบรอบเอวคอดกิ่ว เธอเอื้อมไปหยิบป็อปคอร์นมากิน ทั้งยังยื่นไปป้อนเขาอีกต่างหาก นั่งดูหนังด้วยกันโดยที่คนตัวเล็กไม่รู้เลยว่าทำตัวธรรมชาติกับเขามากแค่ไหน
เธอเป็นตัวของตัวเอง กล้าต่อปากต่อคำ ชายหนุ่มอาจเป็นคนเดียวที่ได้เห็นด้านนี้ของเธอ เพราะขนาดคนในบ้านยังไม่เคยเห็นหม่อมหลวงพลอยดาวโกรธเลยสักครั้ง เธอไม่ใช่คนแสนงอน ทว่าพออยู่ใกล้ดาราหนุ่มทุกอย่างกลับตาลปัตร
เหมือนเห็นพลอยดาวคนใหม่ ที่กล้าแสดงอารมณ์มากกว่าเดิม
“ตอนเล่นเรื่องนี้คุณอายุเท่าไร ทำไมดูเด็กจังเลย” ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแรกเขาจะเล่นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ เนื้อเรื่องคือผู้ชายคนวัยยี่สิบต้นแอบหลงรักพี่สาวข้างบ้านวัยทำงาน ต้องทำทุกทางเพื่อเอาชนะใจเธอ เนื้อเรื่องไม่ได้หนักอย่างเรื่องหลัง ๆ ที่เขาเล่น
“ประมาณยี่สิบสี่ ดูสิผมยังเล่นแข็งอ่อนหัดเป็นเด็กใหม่อยู่เลย เรื่องนี้ผมไม่ค่อยอยากดูเท่าไรเพราะผมโดนด่ายับ” ถึงกับส่ายหัวตอนดูตัวเองเล่น เขาเพิ่งเล่นเรื่องแรกไปเรียนการแสดงไม่กี่ครั้งก็ต้องออกกล้อง ปรับตัวหลายวัยกว่าจะเริ่มชินและเล่นไหลลื่น
พอจบจากเรื่องนี้เขาเรียนการแสดงอย่างจริงจัง จึงดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ค่อยมีคนสบประมาท ก่อนเขาจะโด่งดังจากภาพยนตร์ดราม่าครอบครัว ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากหลายเวที
“แต่ฉันว่าคุณเล่นดีนะ เป็นหนุ่มน้อยหน้าละอ่อนที่หลงรักสาววัยทำงาน” หยอกล้อเขาแล้วเอนกายพิงอกกว้าง เริ่มผ่อนคลายยามอยู่ด้วยกัน
ไหน ๆ ก็เห็นหมดไส้หมดพุงแล้ว คงไม่มีอะไรต้องอายอีก
“จูบเยอะเหมือนกันนะ” ดูไปเรื่อย ๆ ก็ผ่อนลมหายใจพลางเอ่ยเย้า ไม่คิดว่าเขาจะจูบกับพี่สาวข้างบ้านเยอะขนาดนี้ ทั้งยังจูบนานเสียด้วยจนเริ่มหงุดหงิด ความอยากดูลดน้อยลงแทบอยากเปลี่ยนเรื่อง ดูแอ็กชันน่าจะดีกว่า
“ก็หนังโรแมนติกนี่นา”
“เรื่องอื่นจูบเยอะแบบนี้ไหม”
“มีอีกสองสามเรื่อง หลังจากนั้นผมก็รับแอ็กชันกับดราม่า ไม่ค่อยเล่นคอมเมดี้เท่าไร”
“งั้นเราข้ามไปแอ็กชันเลยแล้วกัน”
“หึงเหรอ” เขารีบชะโงกหน้าเอาคางเกยไหล่มน ยิ้มแป้นพลางเอ่ยถามด้วยความสุข แต่หล่อนเลือกผินหน้าไปทางอื่น ไม่ยอมให้เขาเห็นสายตาของตัวเอง
ยอมรับว่าหึงทั้งที่รู้ว่ามันเป็นแค่ภาพยนตร์ไม่ใช่ชีวิตจริง
“เปล่าสักหน่อย ฉันรู้ว่ามันเป็นแค่งาน”
“ใช่...ส่วนคุณคือเรื่องจริง” คำพูดแสนหวานที่เขาเอ่ยกับเธอยิ่งสร้างความสับสน หล่อนวางป็อปคอร์นไว้ที่โต๊ะ แล้วเลือกลุกยืนค่อยเปลี่ยนเป็นนั่งคร่อมโดยหันหน้าเข้าหาร่างหนา เพื่อจะได้สบตาอีกฝ่ายยามฟังคำตอบ
“ไบรซ์...คุณจริงใจกับฉันหรือเปล่า”
“ผมจริงใจกับคุณ ไม่ต้องสงสัยในความรู้สึกของผมเลยนะ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันผมมีแค่คุณคนเดียว แค่พลอยของผม” ยกมือขึ้นลูบศีรษะมน คำพูดของเขาหนักแน่นน่าเชื่อถือจนเธอเกือบหลงเชื่อแล้ว ถ้าไม่รู้ความจริงว่าเขาทำทุกอย่างเพราะพนันกับเพื่อน
หล่อนมีค่าน้อยกว่าพูลวิลลาและแลมโบกินีที่เขาจะได้จากวิลลี่ซะอีก
“ขอบคุณนะคะที่ทำให้ฉันมีความสุข” แต่อย่างน้อยเขาก็ทำให้เธอสามารถลืมรักแรกได้
ความรักที่มีต่อปุริมมานานหลายสิบปี ถูกคนที่เพิ่งเจอไม่ถึงเดือนทำลายไปจนสิ้น เธอเกือบลืมไปแล้วว่ารักพี่ชายคนนั้น เพราะเอาแต่คิดถึงดวงหน้าหล่อคมของชายต่างชาติ ตอนนี้ที่เธอมองเขายังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ
อยากจ้องไบรซ์แบบนี้ไปเรื่อย ๆ...
ทำไมเขาต้องล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอด้วย เรื่องระหว่างเราเป็นความจริงไม่ได้เหรอ หญิงสาวอยากเอ่ยขอร้องอ้อนวอนแต่ก็ดูไร้ศักดิ์ศรีเกินไป สิ่งที่ทำจึงมีเพียงแค่ยิ้มรับอย่างหน้าชื่นอกตรม
“ต่อจากนี้ไป...คุณคือโลกทั้งใบของผม”
คำพูดนั้นเป็นความจริงได้หรือเปล่า ให้เธอเป็นโลกทั้งใบของเขาได้ไหม