๖ หวานต้น (๒)
ไม่นานนักก็พากันเข้าสู่ฝั่งฝัน...พร้อมดวงตาที่พร่างพราวเต็มไปด้วยดวงดารานับพันหมื่นที่สว่างในความมืดมิด
“ไบรซ์ ไบรซ์” เสียงหวานเรียกชื่อคนที่อยู่บนร่าง เขาโน้มลงมาจุมพิตหล่อนเหมือนเป็นคำชมกับการร่วมรักครั้งแรกของเรา
ทั้งยังเป็นเซ็กซ์ครั้งแรกของเธอ...
“เก่งมาก คุณเก่งมากที่รัก” ชมไม่ขาดปากพร้อมถอนกายออก แต่มันยังไม่จบเพียงแค่โซฟาเท่านั้น เมื่อเขาอุ้มหล่อนเข้ามาในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย
แล้วสอนลูกศิษย์หัวไวอีกรอบว่าการร่วมรักเป็นอย่างไร เขาคิดจะใช้ห้องแห่งนี้ให้คุ้ม ครบทุกตารางเมตรไม่ให้น้อยหน้ากัน
การอยู่ร่วมกันของเราต้องเต็มไปด้วยเสียงครางหวานจากปากอวบอิ่มของพลอยดาว!
“ทำอะไรหือ”
กลิ่นอาหารเช้าโชยมาจากห้องครัว ปลุกร่างหนาที่นอนเปลือยกายโดยมีเพียงผ้าห่มคลุมร่างให้ตื่นจากนิทรา ค่อยลืมตาแล้วมองพื้นที่ว่างข้างกัน มุมปากยกยิ้มมีความสุข คิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่เขาทำกับพลอยดาวแทบไม่ได้พัก
ความอึดของตนคือร่วมรักจนเข้าสู่เช้าวันใหม่ จำไม่ได้ว่าทำไปทั้งหมดกี่ครั้ง แต่ลองไล่ดูแล้วก็ทำเอาคนตัวเล็กกว่าขาสั่นพั่บพร้อมสลบเหมือดหลังการร่วมรักครั้งสุดท้ายบนเตียงเสร็จสิ้น เธอคงจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าถูกเขาอุ้มไปอาบน้ำชำระกาย แล้วค่อยมานอนด้วยกันบนเตียง
ด้วยร่างกายเปลือยเปล่า...
เอวคอดถูกกอดจากทางด้านหลัง เกยคางที่ศีรษะมนแล้วจ้องไข่ดาวในกระทะที่เริ่มสุกจนเธอต้องตักใส่จาน
“ไข่ดาวกับขนมปังปิ้งค่ะ ฉันเพิ่มสลัดให้คุณด้วย” หันมามองสลัดที่ถูกใส่ชามวางไว้บนโต๊ะอาหารก็ยิ้มกริ่ม มือหนาค่อยเลื่อนขึ้นมาวางที่ทรวงอกนุ่ม โดยไม่คิดว่าเธอจะโนบราจนเผลอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ใส่แค่เสื้อของผมเหรอ” เพิ่งสังเกตว่าพลอยดาวอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ของเขาที่ยาวเลยเข่าขึ้นมานิดเดียว ไม่น่าเล่าตอนมองจากทางด้านหลังถึงรู้สึกเย้ายวนจนอยากเคล้าคลอเธอไม่ห่าง
“แค่มากินข้าวนี่คะ กินเสร็จฉันว่าจะไปนอน...คุณอาอนุญาตให้หยุดงานหนึ่งวัน” เมื่อคืนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหลับไปตอนไหน ตื่นมาอีกทีก็ถูกเขากอดและพบว่าตัวเองไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น
คิดจะนอนต่อแต่ท้องก็ร้องประท้วงจนต้องหยิบเสื้อของชายหนุ่มมาสวมแล้วทำอาหาร ค่อยกลับไปนอนต่อเพราะรู้สึกว่าตัวเองนอนไม่เพียงพอ
ไม่คิดว่าวันหนึ่งตนจะยอมทอดกายให้ชายที่ไม่ใช่สามีเชยชม หม่อมย่าพร่ำสอนถึงการรักนวลสงวนตัว แม้มันอาจจะโบราณไปสักหน่อยกับคำสอนนี้ แต่เธอก็ยึดถือตามที่ท่านบอกเสมอมา จนถึงวันที่หัวใจแตกสลาย...
หม่อมหลวงพลอยดาวไม่สนใจอะไรอีกต่อไป เธอแค่อยากทำตามใจตัวเองให้สุด ถึงสุดท้ายจะเจ็บปวด แต่อย่างน้อยก็เคยมีความทรงจำที่ดีร่วมกัน
แม้มันอาจเป็นเพียงแค่การเล่นสนุก...ของไบรซ์ก็ตาม
“บอกอาของคุณได้เลยว่าขอลาออก เพราะเวลาที่เหลือผมจะไม่ปล่อยให้คุณออกจากห้องเด็ดขาด” พูดขณะที่เลื่อนมาไซ้ซอกคอขาวด้วยความหลงใหล เขาชอบผิวของเธอจนอยากลูบไล้อยู่แบบนี้ทั้งวัน อย่างไรเดือนนี้ก็ไม่ได้ทำงาน คงไม่ผิดที่จะตัวติดกับหล่อนตลอดเวลา
“บ้าหรือไง คุณจะให้ฉันทำอะไรในห้อง อื้อ” ครางเสียงแผ่วเมื่อมือหนาสะกิดยอดถันผ่านเสื้อยืด เขาประคองเต้าอวบเอาไว้แล้วปัดผ่านเสื้อจนเธอต้องเหลียวมองด้วยดวงตาดุ
“มีเซ็กซ์กับผม ทั้งวัน...ทั้งคืน” กระซิบข้างหูแล้วเม้มที่ติ่งหูนิ่มจนเธอรู้สึกมวนท้องแทบยืนไม่ไหว
ยอมรับว่าเซ็กซ์ครั้งแรกของตนมันดีมาก เขาทะนุถนอมในยามที่เธอหวาดกลัว และเร่งเครื่องเร็วเมื่อเห็นว่าหล่อนเริ่มปรับตัวได้ จากนั้นก็ไม่หยุดที่จะสอนชั่วโมงบินให้หญิงสาวตลอดทั้งคืน กระทั่งตอนเช้าที่เธอกำลังทำอาหาร
“กินอาหารเช้ากันเถอะ” บอกปัดแล้วกระทุ้งศอกใส่กล้ามท้องแน่น เป็นการบอกให้ชายหนุ่มปล่อยเพื่อจะได้ยกไข่ดาวไปวางบนโต๊ะ ซึ่งไบรซ์ก็จำต้องยอมแต่โดยดี ในใจก็คิดถึงแผนการรวบหัวรวบหางเธอก่อนกินข้าว
ทว่าเห็นพลอยดาวกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยก็ไม่กล้าทำอะไร เขาเลยนั่งรับประทานอาหารเช้าไปพร้อมหล่อน โดยที่จ้องดวงหน้าหวานไม่คลาดสายตา ตอนแรกคิดว่าเธอน่าสนใจและอยากลองจีบสาวเอเชียบ้าง คงไม่ได้จริงจังด้วย
แต่แปลกที่ยิ่งได้รู้จักก็ยิ่งหลงเสน่ห์หล่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาไม่ชอบใจยามเห็นเธอบอกรักคนอื่นต่อหน้าตน โมโหผู้ชายคนนั้นที่ได้ความรักของพลอยดาวไปครองแต่กลับไม่เห็นค่า
โดยลืมไปเสียสนิทว่าตนก็กำลังเล่นกับความรู้สึกของเธอ...
“เดี๋ยวผมล้างเอง” เมื่อรับประทานอาหารจนหมดก็ขันอาสา รอจังหวะที่เธอเดินเข้ามาใกล้ด้วยใจที่จดจ่อ เขาลุกยืนเต็มความสูงแล้วพยายามทำตัวปกติไม่ให้หญิงสาวสงสัย แล้วรีบคว้ามือบางพลางดึงให้มาใกล้ก่อนเชยคางมนแล้วจุมพิตรับอรุณ
พลอยดาวค่อนข้างตกใจเพราะยังไม่ชิน แต่เธอก็ยินยอมเปิดปากให้ร่างหนาได้ควานทั่วโพรงปากอุ่นอย่างที่ตั้งใจ จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้โดยให้เธอยืนเหมือนเดิม เลิกเสื้อยืดขึ้นไปกองไว้ที่เนินอก
“ไบรซ์ อื้อ” ปากหยักสัมผัสทรวงอกนุ่ม ใช้ลิ้นตวัดรอบปทุมถันทั้งสองข้างสลับกันจนมันแข็งชูชัน ไม่ใช่เพียงเธอที่สวมแค่เสื้อยืด เขาเองก็ใส่เพียงแค่กางเกงผ้านิ่มปกปิดร่างกายท่อนล่างเท่านั้น จึงสะดวกในการทำตามความต้องการ
“นั่งตักผม ผมต้องการคุณ” ผละออกแล้วรีบถอดกางเกงของตนไปกองไว้ที่ข้อเท้า จากนั้นจึงจับสะโพกมนแล้วบังคับให้หญิงสาวนั่งลงบนตัก
หม่อมหลวงคนสวยสองจิตสองใจ เป็นครั้งแรกที่ได้มองความเป็นชายของเขาถนัดตา ขนาดของมันใหญ่จนเธอไม่แปลกใจว่าทำไมตนถึงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บยามถูกรุกล้ำ
“พลอยดาว” เธอคงแพ้เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกชื่อจริงของตน ยินยอมนั่งคร่อมบนตักหนาโดยที่แท่นอุ่นสอดเข้ามาในกายสาวอย่างง่ายดาย ภาพเมื่อคืนกลับมารีรันในหัวอีกรอบ ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะกลายเป็นคนชอบเซ็กส์ไปแล้ว
เธอครองตัวบริสุทธิ์มากว่ายี่สิบแปดปี กลับยินยอมเป็นของเล่นให้ดาราดังที่มองว่าตนคือของแปลกที่น่าเล่นสนุกด้วย หัวใจดวงนี้ที่มีบาดแผล แตกสลายไม่มีชิ้นดี แต่หล่อนก็ยังคงแสดงละครว่าไม่เป็นอะไรได้แนบเนียน
“อ่า อ่ะ ไบรซ์ ขยับ ขยับหน่อย” อ้อนวอนเมื่อเขายังคงนั่งนิ่งทั้งที่สอดกายเข้ามาจนสุด แขนเรียวโอบรอบลำคอหนาแล้วจ้องหน้าเขาในระยะใกล้ เห็นถึงรูขุมขนและกระบนใบหน้าคม แต่ที่น่าหลงใหลสำหรับตนคงเป็นดวงตาสีอัลมอนต์
“คุณนั่งข้างบนนะ คุณต้องเป็นฝ่ายคุมเกม ค่อยขยับแบบนี้..” สอนคนไม่ประสาด้วยการประคองสะโพกมน บอกให้เธอร่อนสะโพกจนคนที่เพิ่งเคยทำครั้งแรกถึงกับเผลอยิ้มด้วยอารมณ์สุขสม เขาทำถูกจุดที่สร้างความสุขให้แก่เจ้าของร่าง
เธอกอดลำคอหนาแน่นขึ้นแล้วขย่มขึ้นลงตามใจตัวเอง เผยยิ้มกว้างแล้วโน้มลงมาจุมพิตที่ปากหยักสร้างความตื่นเต้นให้แก่ไบรซ์เป็นอย่างมาก หล่อนไม่เคยเป็นฝ่ายจูบเขาก่อนเลยสักครั้ง เมื่ออีกฝ่ายเสนอมาอย่างนี้มีหรือตนจะไม่สนอง
เขาจูบกลับพร้อมประคองบั้นท้ายงามเอาไว้แล้วลุกจากเก้าอี้ สะโพกยังเด้งรับหล่อนระหว่างที่ริมฝีปากก็ยังคงไม่ห่างกัน มันดูทุลักทุเลแต่กลับยิ่งรู้สึกเร้าใจ
ก่อนที่เขาจะวางเธอลงบนโซฟา แล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักยามเช้ากันอีกรอบ ไม่มีใครสนใจจานเปล่าที่วางบนโต๊ะ พวกเราหยอกล้อกันและกันอย่างมีความสุข ก่อนจบลงที่เตียงกว้างพร้อมเข้าสู่ห้วงนิทราในช่วงสายของวัน