๕ เรื่องไม่เข้าใจระหว่างเรา (๒)
หล่อนดื่มแอลกอฮอล์บ้างตามงานสังคม ทว่าส่วนมากเลือกจิบไวน์พอเป็นพิธี แต่เมื่อคืนดื่มเป็นขวด ไม่เมาให้รู้ไปสิ
“ฉันจำไม่ได้” ตอบหน้าซื่อแล้วกะพริบตาปริบ เจ้าของห้องเห็นอยากนั้นก็นึกขำ จึงใช้โอกาสนี้ในการแกล้งเธอ
“เมื่อคืนคุณขอมีเซ็กซ์กับผม แล้วเราก็มีเซ็กซ์กันไปทั่วห้อง ไม่ว่าจะเป็นโซฟา โต๊ะอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำไปจบที่บนเตียง ผมจำทุกอย่างได้ชัดเจน...” นั่นคือความฝันของเขาที่วาดไว้ในจินตนาการ จึงพูดด้วยแววตาหวานเยิ้มจนเธอต้องแก้ไขให้ถูกต้อง
“เราไม่ได้จูบกันด้วยซ้ำ!”
“ไหนคุณบอกว่าจำไม่ได้” มองตาก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวจำได้ทุกอย่าง เพียงแค่เขาอยากไล่ต้อนเธอให้หลุดความจริงก็เท่านั้น แต่ดูเหมือนพลอยดาวยังคงไหลไปเรื่อยไม่ยอมจำนนสักที หล่อนอาจรับไม่ได้ที่พูดความลับทุกอย่างให้เขารู้
“แค่คลับคล้ายคลับคลา ไม่ได้จำได้หรอก...ฉันว่าฉันกลับดีกว่าเดี๋ยวคุณอาเป็นห่วง ขอบคุณที่เมื่อวานอยู่เป็นเพื่อนฉัน” รีบเดินไปสวมรองเท้าทันที เธอไม่อาจอยู่ที่นี่ต่อไปได้เพราะไม่กล้าสู้สายตาคมที่มองอย่างมีเลศนัย
ทว่าเมื่อสวมรองเท้าเรียบร้อย เจ้าของห้องกลับเข้ามาโอบกอดจากทางด้านหลัง เกยคางบนบ่าของเธอพร้อมเรียกชื่อตนเสียงอ่อน
“พลอย” เจ้าของชื่อถึงกับก้าวเท้าไม่ออก เธอเลือกยืนนิ่งเพื่อฟังว่าร่างสูงต้องการจะบอกอะไร นึกอบอุ่นในใจอย่างน่าประหลาด
“ถ้าคุณเสียใจเมื่อไร นึกถึงผมเป็นคนแรกได้หรือเปล่า ผมยินดีอยู่เป็นเพื่อนคุณ ผมยินดีเป็นที่ปรึกษาให้คุณ ผมพูดจริงนะ” ไม่ว่าจะภาษาหรือน้ำเสียงทุ้มที่ขยี้ใจคนฟัง ทำให้ใจที่แตกสลายเริ่มประกอบกลับมาเป็นดังเดิม
ด้วยฝีมือของชายที่เธอบอกตัวเองว่าเกลียดเขานักหนา...
“แล้วถ้าฉันมีความสุข...ก็ไม่ต้องคิดถึงคุณแล้วใช่ไหมคะ” ถามเสียงเบาแต่เขาก็ได้ยิน ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเลือกจะไปยืนตรงหน้าเธอ ใช้สายตาบอกความรู้สึกทั้งหมด โดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแววตากำลังสื่อถึงความรักที่ก่อตัว สายใยเริ่มถักทอทีละน้อย
“ไม่ต้องคิดถึงหรอก เพราะตอนที่คุณมีความสุขผมจะเป็นเหตุผลให้คุณยิ้ม”
ไบรซ์หมายความว่าเขาจะเป็นคนทำให้เธอมีความสุขหรือเปล่า ถึงใจไม่อยากเชื่อแต่หล่อนกลับโดนโน้มน้าวจนกลายเป็นความเชื่อหมดหัวใจ
“จะอยู่กับฉันทั้งทุกข์ทั้งสุขเลยเหรอ”
“ใช่...ถ้าคุณอนุญาต” ใบหน้าคมโน้มลงมาหาหล่อน พร้อมบอกเสียงเบาหมายจุมพิตที่ปากอวบอิ่ม แต่เป็นเธอเองที่เบี่ยงหลบทันท่วงที แล้วเลือกประทับริมฝีปากลงบนแก้มสาก ค่อยกระซิบที่ข้างหูของเขาพร้อมรอยยิ้มแต้มมุมปาก
“ไว้เจอกันใหม่”
เท่านี้ก็เพียงพอให้ไบรซ์ยิ้มออกแล้ว...
หนึ่งสัปดาห์ที่ดาราหนุ่มแวะมาที่ร้านทุกวัน เขามักพาเธอไปเล่นกับคุณย่าที่บ้านเพราะท่านปลื้มพลอยดาวเป็นอย่างมาก หญิงสาวช่วยสอนท่านถักไหมพรม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อหรือของใช้อย่างอื่น ท่านกำลังสนุกในการถักนิตติ้งจนไม่ยอมให้หลานชายได้อยู่กับเธอตามลำพัง
สุดท้ายหนุ่มหล่อก็ต้องมานั่งเรียนด้วย แต่เขาไม่มีความสามารถด้านงานฝีมือ สิ่งที่ทำคือมองเธอแทบไม่ละสายตา เป็นความธรรมดาที่เขาคิดว่ามันพิเศษเหลือเกิน
“พลอยจะไปไหน” เมื่อทำงานในส่วนของตัวเองเสร็จ เธอก็แอบตักอาหารที่พิถีพิถันในการทำใส่กล่องและหยิบลงถุงผ้า เดินไปหลังร้านแล้วเตรียมจะปั่นจักรยานไปยังบ้านที่ตนคุ้นเคยเป็นอย่างดี อาจจะไกลจากร้านแต่ระหว่างทางไม่อันตราย เธอจึงสามารถใช้รถจักรยานได้
“เอ่อ พลอยลองทำอาหารไทยว่าจะเอาไปให้คุณย่าของไบรซ์ทานค่ะ ท่านชอบกินอาหารไทยมาก” คุณชายทวีออกมาเจอจึงรีบถามหลานสาว เธออ้ำอึ้งแล้วเอาคุณย่าของเขามาอ้าง ทั้งที่ความจริงอยากไปหาไบรซ์มากกว่า
ไม่น่าเชื่อว่าความคิดของเธอที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน กระทั่งตนเองก็แปลกใจ เหมือนว่าหล่อนกำลังตกหลุมพรางของหนุ่มรูปหล่อผู้โด่งดังไปทั่วโลกเสียแล้ว
ความเกลียดแปรเปลี่ยนเป็นความรัก...
เพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น เขาสามารถทำให้หล่อนตัดใจจากรักแรกที่ปักใจหลายสิบปี ปันให้ชายที่เพิ่งเจอไม่ถึงเดือน
ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว
“ไปหาย่าของเขาเหรอ” แววตาของคุณอากำลังล้อเลียนหลานอย่างเห็นได้ชัด
“ค่ะ...คุณอาอนุญาตไหมคะ”
“มาถามอาทำไม เราอายุปูนนี้แล้วยังต้องขออนุญาตอีกเหรอ อยากไปก็ไปเลย...อาสนับสนุนเต็มที่” พอเจอการสนับสนุนจากคนในครอบครัว เธอก็ต้องรีบปฏิเสธไม่อยากให้ท่านกล่าวหาตน ขนาดเธอเองยังไม่อยากยอมรับความจริง
ตนเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ แต่ดันพลาดท่าให้ไบรซ์เข้าจนได้
“พลอยไม่ได้ชอบเขานะคะ” ยังคงปากแข็งแต่คุณอากลับหัวเราะแล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม
“หึหึ รู้ อารู้”
“คุณอา...” เรียกท่านด้วยความเขินอาย สองแก้มนวลแดงปลั่งจนคุณชายทวีต้องรีบไล่หลานสาวให้ไปยังจุดหมาย ไม่อยากรั้งอีกฝ่ายเอาไว้กับตัวเอง
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวไบรซ์ เอ๊ย ย่าของไบรซ์จะรอนาน”
“พลอย พลอยจะรีบกลับมาช่วยค่ะ”
บอกเพียงแค่นั้นแล้วปั่นจักรยานออกจากร้านทันทีเพื่อตรงไปบ้านของร่างสูง เขาบอกว่าวันนี้ต้องช่วยบิดาตัดต้นไม้และทำความสะอาดหน้าบ้าน เธอจึงอยากไปเซอร์ไพรส์อีกฝ่ายโดยไม่ยอมบอกล่วงหน้า
ดวงหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้ม เมื่อวานเขาอยากลองเมนูขึ้นชื่อของไทย จึงจัดอาหารชาววังที่มารดาชอบทำให้รับประทาน เลือกเมนูแกงมัสมั่นไก่ที่หาง่ายและไม่ค่อยมีสมุนไพร รสชาติน่าจะถูกปากชาวต่างชาติ
ปั่นมาจนถึงหน้าบ้าน พบรถยนต์สัญชาติยุโรปจอดอยู่ด้านหน้าเธอจึงจอดจักรยานคันเล็กของตนแอบไว้ แล้วค่อยเดินเข้าไปในบ้านที่ประตูรั้วเปิดกว้าง ค่อยเดินเสียงเบาแต่ไม่คิดว่าจะได้ยินบทสนทนาของเพื่อนสนิทที่กำลังคุยกันอย่างออกรส
คนอื่นไปไหนหมด...
“ไม่คิดว่านายจะมาหาฉันถึงไมอามี ว่างนักหรือไง งานการไม่มีทำแล้วเหรอ”
“แค่อยากมาถามข่าวคราวของนาย แล้วก็อยากรู้ความคืบหน้าว่าความรักของนายกับสาวเอเชียคนนั้นเป็นยังไงบ้าง ฉันเตรียมยกพูลวิลลากับแลมโบกินีให้นายแล้วนะ” วิลลี่เข้าเรื่องทันทีด้วยความอยากรู้ เขานึกสนุกกับพนันที่ตนวางเอาไว้
“ยังไม่ค่อยคืบหน้า” ตอบแบบขอไปทีแล้วคว้าแก้วน้ำมาดื่ม
ทั้งสองคุยกันด้วยโทนเสียงปกติไม่รู้เลยว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ยังมีหญิงสาวอีกคนยืนนิ่งฟังบทสนทนา เพราะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพูดถึงเธอ
สาวเอเชียคนนั้น...คือหล่อนหรือเปล่า
“อย่าบอกนะว่าเธอไม่ยอมใจอ่อนให้นาย อย่างนี้ฉันคงต้องรอรับเพนต์เฮาส์ในนิวยอร์ก เฮ้อ ได้ของฟรีมีความสุขจริง ๆ เลย”
“นายยังไม่ได้สักหน่อย กำหนดระยะเวลาของเราคือหนึ่งเดือน นี่ยังไม่ถึงสามสัปดาห์ด้วยซ้ำ ฉันจะต้องทำให้พลอยดาวรักฉันให้ได้ นายเชื่อฝีมือฉันได้เลย”
“ช่วงนี้ว่างเลยอยากหางานท้าทายทำแก้เบื่อใช่ไหม”
“สนุกดีนี่นา เธอแปลกใหม่สำหรับฉัน” มือบางกำถุงผ้าที่ถือทันทีเมื่อฟังคนทั้งสองพูดจบ ยกมือขึ้นปิดปากกลัวเผลอผรุสวาทออกมาให้เขารู้ตัวว่าหล่อนทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว
ความจริงใจที่มีต่อเขา แต่ชายหนุ่มกลับตอบแทนด้วยการโกหกมาโดยตลอด
เขาเคยบอกว่าจะเป็นความสุขของเธอ ตอนนี้เพิ่งรู้ว่ามันเป็นเพียงคำลวงให้ตกหลุมพราง หล่อนแค่เป็นของแปลกที่ไขว้คว้ายาก เขาจึงเล่นสนุกด้วย ไม่ใช่เพราะความรักอย่างที่ตนเข้าใจ
หากเป็นเช่นนั้นทำไมไม่บอกกันก่อน...
เธอจะได้ไม่ต้องตกหลุมรักเขา
“แปลก...ใหม่ แค่ของแปลกสินะ หึหึ เธอฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปเองพลอยว่าเขาจะรักเธอ” พูดกับตัวเองแล้วยิ้มมุมปากด้วยความสมเพช
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเรา เป็นหล่อนที่คิดไปเองเพียงผู้เดียว คนเจ้าชู้ก็ยังเป็นคนเจ้าชู้วันยังค่ำ เขาแค่เห็นความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเรื่องสนุก เข้ามาล้อเล่นจนสมใจแล้วก็ทิ้งไม่ไยดี
แบบนั้นสินะ...