๓ เล่ห์ร้อยเล่มเกวียน (๑)
๓
เล่ห์ร้อยเล่มเกวียน
รถจักรยานคันเล็กจอดอยู่ด้านหลังร้าน หญิงสาวผิวขาวนวลเรือนร่างแบบบางสวมเสื้อยืดสีชมพูกับกางเกงยีนสีซีดและรองเท้าผ้าใบเดินเข้ามาทางหลังร้าน ดวงหน้าหวานประดับด้วยรอยยิ้มแจ่มใสอยู่เป็นนิจ
หม่อมหลวงพลอยดาวกลับมาช่วยคุณอาทำร้านอาหารไทย ‘รสไทย’ คือชื่อร้านที่คนในละแวกนี้รู้จักเป็นอย่างดี ช่วงเช้าจะทำอาหารแบบบุฟเฟต์สำหรับตักทานบริการตัวเอง เปิดร้านเวลาแปดนาฬิกาแล้วค่อยปิดเวลาสิบนาฬิกา ส่วนช่วงเที่ยงจะทำอาหารตามสั่ง เน้นรสชาติไทยแท้ซึ่งตอนแรกต่างชาติไม่ค่อยชอบ
แต่ก็กลับมากินทุกครั้งจนได้ลูกค้าประจำหลายสิบคน ทุกวันนี้ร้านจึงสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องโปรโมทมากนัก อาศัยบอกกันปากต่อปากและนักท่องเที่ยวที่ดูตามรีวิวแล้วเข้ามาอุดหนุน
อีกทั้งยังเปิดให้เรียนทำอาหารไทยระยะสั้นหนึ่งวัน แต่ต้องจองล่วงหน้าเพราะจะได้จัดสรรตารางของครู
ช่วงแรกที่ทำอาหารคุณชายทวีของร้องพี่สะใภ้อย่างจันทราให้เดินทางมาช่วยเหลือ เธอจึงจัดการบอกสูตรอาหารและยังช่วยหาแม่ครัวจนได้แม่ครัวประจำถึงสามคน กิจการของหม่อมราชวงศ์ทวีติยากรเป็นไปด้วยดี จนสามารถขายสาขาอีกสองแห่งในรัฐฟลอริดา อยู่ในแจ็กสันวิลล์เมืองใหญ่และแทมปา
งานหนักเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว มีความสุขกับชีวิตตอนนี้เป็นอย่างมาก
“อรุณสวัสดิ์ค่ะป้าเพ็ญ” เข้ามาในร้านพร้อมทักทายแม่ครัวด้วยใบหน้าแจ่มใสแต้มรอยยิ้ม พอมาอยู่ที่นี่เธอสามารถเป็นตัวเองโดยไม่ต้องระวังกริยา พูดคุยทักทายคนอื่นได้อย่างไม่เก้อเขิน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพลอย วันนี้สวยกว่าเมื่อวานอีกนะคะ” หลุดหัวเราะยามที่แม่เพ็ญเอ่ยชม เพราะรู้ดีว่าท่านต้องการให้เธอชมกลับ
“ป้าเพ็ญก็สวยกว่าเมื่อวานค่ะ” หญิงสาวหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมหวังจะช่วยงานครัว เธอชอบอยู่ในนี้เพื่อเรียนรู้งานมากกว่าออกไปเสิร์ฟหรือเป็นแคชเชียร์ข้างนอก ตนไม่ชอบสายตาสงสัยใคร่รู้ หลายคนชอบคิดว่าตนคือพราวรุ้ง
อยากแขวนป้ายชื่อห้อยที่คอให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ต้องทักผิดอีก
พลอยดาวพยายามจะชินกับสายตาหลายคู่ ทว่ายังไม่ชินสักที ตนชอบความสงบแต่น้องสาวที่หน้าเหมือนกันก็ไม่ให้ความสงบแก่พี่เลยสักนิด โดนทักผิดประจำจนบางครั้งจะออกไปข้างนอกต้องพรางตัวให้มิดชิด เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่รู้ว่าตนคือใคร
ทั้งที่ไม่ใช่นักร้องหรือนักแสดง เป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น
เธอจึงหวังว่าคู่ชีวิตของตนจะต้องเป็นคนธรรมดา ที่ไม่ต้องโด่งดัง ชอบใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนกัน...ซึ่งเท่าที่ดูไว้ก็มีแค่คนเดียว
ปุริม...
แต่น่าเสียดายที่พี่ชายคนนั้นคิดกับหล่อนเพียงแค่น้องสาว ที่สำคัญคือเขาแต่งงานกับเพื่อนของเธอไปแล้ว
“เดี๋ยวพลอยช่วยกวาดนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะป้าทำเอง คุณพลอยออกไปหาคุณชายข้างนอกดีกว่า ให้เรื่องหลังครัวพวกป้าจัดการนะคะ” อาหารถูกนำไปตั้งด้านนอกหมดแล้วเพื่อรอเวลาเปิดร้าน ตอนนี้จึงต้องรีบเก็บกวาดครัวให้สะอาด หญิงสาวเห็นอย่างนั้นจึงหมายเข้ามาช่วย แต่โดนกดดันให้ไปทำงานที่หน้าร้าน
“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวจำยอมถอดผ้ากันเปื้อนแล้วไปทำงานหน้าร้าน เธอยิ้มทักทายคุณอาของตนพร้อมเอ่ยถามน้ำเสียงสดใส
“คุณอาคะ มีอะไรให้พลอยช่วยหรือเปล่า”
“มีคนอยากให้พลอยช่วยสอนทำอาหารไทย”
“ใครคะ” ค่อนข้างตื่นเต้นพอสมควรเพราะตั้งแต่มาถึงไมอามีได้ทำแค่งานหลังครัว ยังไม่เคยเป็นครูสอนทำอาหารสักหน
ถึงเธอจะทำอาหารไม่เก่งเหมือนมารดา แต่ก็มีฝีมือมากพอที่จะเป็นครูสอนทำอาหารไทยเบื้องตนสำหรับคนต่างชาติ จึงค่อนข้างตื่นเต้นพอสมควรที่จะได้ลูกศิษย์คนแรก รีบมองแผ่นหลังกว้างด้วยความตื่นเต้น แต่กลับต้องเบิกตาค้างยามที่เขาลุกแล้วหันมาเผชิญหน้ากับหล่อน พร้อมแต้มยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก
“ผมเอง”
“ไบรซ์!” ตะโกนชื่อร่างสูงเสียงดังอย่างลืมตัว หัวใจเต้นรัวไม่คิดว่าจะเจอเขาอีกครั้ง หล่อนนึกว่าหลังออกมาจากเกาะจะลาขาดกับอีกฝ่าย พบกันเพียงแค่ชายหนุ่มอยู่ในจอภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ แต่ฟ้าก็ยังส่งเขามาตามติดเธอ
ชายหนุ่มรู้ได้อย่างไรว่าตนอยู่ที่นี่...
ไม่หรอก เขาคงไม่ได้มาเพื่อต้องการพบหล่อน เพียงแค่อยากทำอาหารไทยเท่านั้นเอง
“ผมอยากรู้จักอาหารไทยให้มากกว่านี้ แล้วพอดีเห็นว่าที่นี่รับสอนอาหารไทยแบบเป็นคอร์ส” คำพูดเหล่านั้นเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน เธอหรี่ตามองเขาด้วยความกังขา ขณะที่คุณชายทวียิ้มกว้างยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง
“คุณอาสอนเขาเองสิคะ” หม่อมหลวงพลอยดาวรีบหันมาบอกคนเป็นอาอย่างรวดเร็ว แต่หล่อนเลือกใช้ภาษาไทยที่เขาฟังไม่ออก แต่พอจะสังเกตจากสีหน้าและแววตาได้ว่าหล่อนคงกำลังปฏิเสธการสอนนักเรียนคนนี้
“ภาษาอังกฤษ” คุณชายทวีย้ำหลานสาว ต้องการให้ทุกคำพูดบุคคลที่สามารถฟังรู้เรื่อง กลัวจะถูกมองว่ากำลังนินทาโดยใช้ภาษาที่เข้าใจกันเพียงสองคน
“ฉันไม่ว่างค่ะ ชั่วโมงสอนเต็มแล้ว” เธอหันไปมองนักเรียนตัวโต แล้วแสดงจุดยืนชัดเจน ทว่ากลับถูกคุณอาขัดพร้อมเปิดทางให้ดาราดังอีกต่างหาก
“ว่าง วันนี้มีนักเรียนมายกเลิกคลาส พลอยช่วยสอนไบรซ์หน่อยนะ อาต้องทำบัญชีไม่มีเวลาสอน”
“คุณอา!” ถึงกับตะโกนเสียงดังใส่คุณชายทวีที่มีศักดิ์เป็นอา ท่านแอบอมยิ้มเมื่อเห็นว่าหลานสาวทำตัวแปลกไปจากทุกครั้ง ปกติพลอยดาวเชื่อฟังคำสั่งของคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหม่อมย่าที่ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ หล่อนทำตามทุกอย่าง
ผิดกับน้องชายคนเล็กอย่างคลื่นนทีซึ่งมีเส้นทางของตัวเอง ไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติของหม่อมภัทรวดี กระทั่งเลือกเล่นละครชายรักชายเพราะต้องการประกาศสงครามกับย่าของตนก็ทำมาแล้ว
“เป็นคนพูดยากตั้งแต่เมื่อไร ปกติพลอยพูดง่ายจะตาย” เจอไม้ตายแบบนี้หล่อนก็ไม่กล้าค้านอะไรอีก ทำเพียงเหลือบมองร่างสูงที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง พร้อมยกยิ้มให้ตนอย่างอ่อนหวานก็นึกหงุดหงิดในใจ กลั้นใจตอบตกลงตามที่คุณอาต้องการ
“ก็ได้ค่ะ”
คราวนี้ไบรซ์ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงตัวครบ เขารีบเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ ส่งประกายตาหวานไม่หยุดจนนึกหมั่นไส้
หม่อมหลวงพลอยดาวหันไปมองคุณชายทวีที่แสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ ถึงจะพอมองออกว่านักแสดงหนุ่มไม่ได้ต้องการเรียนอาหารไทยจริงจัง แต่อยากมาหาหลานสาวของตัวเองมากกว่า อยากทราบเป็นอย่างมากว่าสองคนนี้รู้จักกันได้อย่างไร
คงต้องรอให้เรียนจบแล้วค่อยถามอีกครั้ง
ส่วนตนรู้จักกับไบรซ์เป็นการส่วนตัว ชายหนุ่มมักแวะมารับประทานอาหารไทยแทบทุกครั้งที่มาไมอามี บางครั้งก็มาช่วงเช้าคนไม่ค่อยเยอะ หรือมาตอนเย็นที่ร้านใกล้จะปิด เขามักทำอาหารแถมให้ด้วยเพื่อโปรโมทอาหารไทย
“ตามมาค่ะ” พาเขาเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองซึ่งเป็นสถานที่เรียนทำอาหาร เธอยังคงมีสีหน้าบึ้งตึง แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบที่ต้องมาสอนอีกฝ่ายทำอาหาร
ไม่รู้มันเป็นความบังเอิญหรือเปล่าที่เราได้เจอกัน เพราะเธอไม่อยากเชื่อความบังเอิญสักเท่าไร
เปิดประตูห้องแล้วเดินเข้าไปหยิบผ้ากันเปื้อน ของตนสวมสีเข้มแล้วเลือกสีชมพูหวานให้หนุ่มร่างสูง เขาผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นผ้าที่ต้องสวม
“ผ้ากันเปื้อน” หญิงสาวเดินไปเปิดไฟและหน้าต่างทำให้ทั้งห้องสว่างไสว เธอมองร่างหนาที่ไม่ยอมสวมผ้ากันเปื้อนสักที เอาแต่มองเหมือนสงสัยใคร่รู้จนต้องเดินไปหยุดยืนตรงหน้าอีกฝ่าย
“ผมใส่ไม่เป็น คุณใส่ให้หน่อยสิ” เริ่มอ้อนทันที
เธอไม่อยากเชื่อน้ำคำของเขาเท่าไร แต่พูดไปก็ทำให้เรื่องยืดยาว จึงจำต้องสวมผ้ากันเปื้อนให้ดาราหนุ่ม ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเขาก็มีผ้าสีชมพูอยู่บนร่างกาย คนมองหลุดยิ้มขำไม่คิดว่าผู้ชายตัวโตจะสวมผ้าตัวเล็กสีหวานแหวว
แต่เมื่อเห็นเขากำลังจ้องหน้าตนก็ต้องตีหน้าขรึม เดินไปหยุดหน้าเคาน์เตอร์ครัวพลางหยิบวัตถุดิบทั้งหมดออกมาจากตู้เย็น
“วันนี้ฉันเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำผัดไทย คุณน่าจะพอทราบบ้างใช่ไหมว่าคืออะไร” เธอเตรียมของทั้งหมดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน คุณชายทวีบอกว่าจะให้ตนสอนทำอาหารจึงค่อนข้างตื่นเต้น ความจริงนักเรียนของหล่อนจะเป็นผู้หญิง แต่กลับยกเลิกและได้ลูกศิษย์ผู้ชายมาแทน
ทั้งยังเป็นคนที่ตนไม่ค่อยถูกชะตาเสียด้วย...
“ก๋วยเตี๋ยว”
“คล้ายกันแต่เป็นแบบแห้ง คุณแม่ของฉันเป็นคนสอน ประวัติของอาหารฉันจะขอพูดแบบรวบ ๆ เมนูนี้ถูกคิดค้นในช่วงข้าวยากหมากแพง ผู้นำประเทศอยากให้ประชาชนหันมากินอาหารประเภทแป้งที่ไม่ใช่ข้าว คนในประเทศเลยช่วยกันคิดเมนูผัดไทยขึ้นมา วัตถุดิบส่วนมากเลยเป็นของที่มีติดบ้านในสังคมไทยเพื่อสะดวกในการทำ”
ขณะที่หยิบวัตถุดิบออกมาวางบนเคาน์เตอร์ก็พูดถึงประวัติอาหารไทยชนิดนี้ให้เขาฟัง โดยที่ดวงตาเรียวเอาแต่จ้องปากอวบอิ่มไม่วางตา คิดว่าหากโน้มลงปิดปากหล่อนตอนนี้จะเป็นอย่างไร หญิงสาวคงทำตาโตแก้มป่อง