บทที่ 2 ศรศิลป์ไม่กินกัน 1.1
จังหวะนั้นด้วยความตกใจ เธอปล่อยมือจากกิ่งไม้ ส่งผลให้ร่างสาวร่วงลงมาด้านล่าง
เสียงกรีดร้องดังใช่ย่อย ทำให้คนกำลังเดินผ่านต้นมะม่วงหันมองต้นเสียง ระยะห่างจากจุดที่เขายืนเพียงแค่ไม่กี่ก้าว วินาทีนั้นชมัศชัยเห็นร่างสาวกำลังตกลงมาก้นกระแทกพื้น เขาใช้ความไวทั้งหมดที่มี วิ่งไปรับร่างสาวคนนั้น ราวกับพระเอกวิ่งเข้ามารับตัวนางเอกเพื่อไม่ให้เจ็บตัวอย่างไรอย่างนั้น
“ว้าย!” พรรณพิไลอุทานตกใจ เมื่อรู้สึกว่าร่างตนมีบางอย่างรองรับไว้ ไม่ให้ร่างกระแทกกับพื้นดิน เธอเงยหน้ามองเจ้าของลำแขนที่อุ้มร่างตน
ตามองตา...
สายตาสองคู่มองสบกันนิ่ง ราวกับว่าโลกใบนี้มีเพียงเราสองคน พรรณพิไลหัวใจเต้นแรงมากเมื่อเห็นความหล่ออันร้ายกาจของชายหนุ่มที่ช่วยตนไว้ เธอพบเจอผู้ชายมานักต่อนัก แต่ไม่มีใครทำให้เธอเกิดความเอียงอายและขวยเขินมาก่อนเลย
ชมัศชัยไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนสวยไปกว่าน้ำฟ้า แต่เธอที่เขาช่วยไว้ฉีกกฎความคิดนั้น เธอสวยมาก สวยหวานและมีเสน่ห์ ส่งผลให้หัวใจคนมองเต้นไม่เป็นจังหวะ มองเธอนิ่งนาน นึกสงสัยว่า สาวสวยคนนี้คือใคร คิดว่าเป็นคนงานในไร่คงไม่ใช่ เพราะเขารู้จักคนงานในไร่ทุกคน
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะที่ช่วยนุดา” เสียงสาวเรียกสติชมัศชัย เขาสะดุ้ง ยิ้มบาง วางปลายเท้าเธอลงยืนบนพื้น
ช่วงเวลานั้นเอง เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น อยู่ๆ ชมัศชัยรู้สึกว่า มีบางอย่างกระแทกกับข้างสะโพกตน ส่งผลให้เขาเสียหลัก ร่างเซไปสามสี่ก้าว
“นายทำอะไรน้องสาวฉัน” สิ้นเสียงพรรณพิลาศ เธอใช้เท้าข้างเดิมยันไปตรงช่วงต้นขาชมัศชัยอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เขาหลบทัน ดึงแขนสาวก๋ากั่นเข้ามาหาตัว
“เธอทำบ้าอะไรของเธอ มาถีบฉันทำไม” ชมัศชัยมองเจ้าของรองเท้าผ้าใบที่ปรี่เข้ามาทำร้ายตนด้วยสายตาไม่พอใจ
“ก็นายลวนลามน้องสาวฉัน ฉันก็ต้องจัดการนายสิ”
ดูเหมือนว่าพรรณพิลาศจะเข้าใจผิดใหญ่โต พอเห็นภาพน้องสาวถูกอุ้มก็คิดว่าถูกแต๊ะอั๋ง จึงเข้ามาจัดการคนนิสัยไม่ดีที่หล่อจับใจ หล่อจนเธอใจสั่นสะท้าน
“ฉันเนี่ยนะลวนลามน้องสาวเธอ” ชมัศชัยเสียงสูงใส่
“ก็เห็นอยู่เต็มตา แล้วตอนนี้นายก็แต๊ะอั๋งฉันอยู่ด้วย นี่แน่ะ รู้จักนิชาน้อยไปซะแล้ว”
เธอทำในเรื่องที่ชมัศชัยไม่ทันตั้งตัว พรรณพิลาศกระแทกเท้าลงไปบนเท้าของชมัศชัยแบบเต็มรัก คนถูกทำร้ายร้องเจ็บ โกรธสาวตรงหน้ามาก
“พี่นิชา มันไม่ใช่อย่างนั้นนะพี่ คุณคนนี้ช่วยนุดาไว้ นุดากำลังตกต้นไม้ คุณก็เลยช่วยนุดาไว้” น้องสาวรีบบอกพี่สาวที่ยืนอึ้ง มองหน้าคนที่ตนเข้าใจผิดสลับกับมองหน้าน้องสาว รู้สึกเขินขึ้นมาหน่อยๆ กับความโป๊ะของตน
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ คนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ” พรรณพิลาศลอยหน้าลอยตาพูด “หน้าหล่อๆ ใจทรามมีถมไป”
“นุดาขอโทษแทนพี่นิชาด้วยนะคะ ขอโทษจากใจค่ะ”
พรรณพิไลกิริยามารยาทงดงาม เธอยกมือไหว้ชายแปลกหน้าพร้อมกล่าวคำขอโทษ
“คนที่ควรขอโทษฉันคือพี่สาวเธอ ไม่ใช่เธอ”
ชมัศชัยเสียงเข้ม มองหน้าพรรณพิลาศอย่างคาดโทษ คนถูกมองที่ไม่ค่อยกลัวใครสักเท่าไหร่ ก็ไม่ค่อยกลัวสายตาดุๆ ของชายหน้าหล่อ แค่เกรงๆ หน่อยๆ เท่านั้น
“นุดาไปกันเถอะ แม่เรียก” นอกจากพรรณพิลาศจะไม่ขอโทษ เธอยังฉุดมือน้องสาว ก่อนก้าววิ่งไปยังเรือนพักคนงาน คนเป็นน้องที่ไม่ทันตั้งตัว ก้าวตามพี่สาวไปโดยปริยาย
ชมัศชัยมองตามร่างสองสาวที่วิ่งไปทางบ้านพักคนงานด้วยสายตาแข็งกร้าว ไม่เคยมีใครกล้าทำเช่นนี้กับเขามาก่อน แม้แต่ถูกผลักยังไม่เคย แต่สาวหน้าตาสวยสู้คนน้องไม่ได้กลับกล้าทำ ทำถึงสองครั้งด้วย ที่สำคัญเธอไม่ขอโทษเขาสักคำทั้งที่ตัวเองผิด
ความสงสัยที่ว่าสองสาวนี้เป็นใครถูกพับเก็บ การที่คนเป็นพี่พาน้องสาววิ่งไปยังบ้านพักคนงาน ชมัศชัยเดาว่าคงเป็นครอบครัวคนงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามา
“เธอได้เจอดีแน่ แม่สาวแสบ”
ชมัศชัยคาดโทษคนเป็นพี่ แต่พอนึกถึงหน้าตาคนเป็นน้อง เขากลับยิ้มพอใจ อยากทำความรู้จักเพิ่มเติมขึ้นมาทันใด
ทว่าคนเป็นพี่นี่สิ ความสวยมีไม่มาก แต่ความร้ายกาจน่าจะมีเยอะ ผู้หญิงแบบนี้ไม่ใช่ทางเขา คงต้องไกลห่างให้มากที่สุด