ตอน "สุขได้ก็ทุกข์ได้" 4
เสียงฟ้าร้องคำรามดังกึกก้องฝนก็ยังตกปรอยๆลงกระทบหลังคาสังกระสีไม่ยอมหยุดสักทีจนทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่บนบันไดขั้นบนสุดท้ายด้านบนสะดุ้งสั่นกลัวไปกับเสียงฟ้าคำราม ลำคอระหงก็ชะเง้อยาวทอดสายตามองหาสามีที่ออกไปดูมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ปากทาง
เหมี่ยวว..เหมี่ยวว..
“เจ้าแมวน้อยตากฝนมาเหรอ มาฉันเช็ดตัวให้นะ” นุสบาลุกขึ้นเดินลงบันไดเดินเข้าไปใต้ถุนบ้านแล้วอุ้มเจ้าลูกแมวน้อยตัวแดงมาแนบอกแล้วใช้เสื้อของตัวเองเช็ดขนปุยสีขาวลายดำให้แห้ง
“นังหนู..นังหนูเอ๊ยอยู่ไหนลูก?” ยายหอมเมียตาบัวเจ้าของกระท่อมเดินออกมาจากในห้องมือเหี่ยวๆก็ยังมีเสื้อผ้าเก่าๆหลายชุด
“นุชอยู่ใต้ถุนจ๊ะยาย” นุสบาเดินยิ้มอุ้มเจ้าแมวน้อยขึ้นบ้าน เธอหมอบคลานเข้าไปนั่งใกล้ชิดนางหอม
“ไปเอาแมวน้อยมาจากไหนละนังหนู?..”
“นุชเห็นมันร้องอยู่ใต้ถุนนะคะ” เงยหน้าจากเจ้าเหมียวมองหน้าหญิงชราอายุคงจะรุ่นเดียวกับยายของเธอผู้ที่จากไป
“สงสัยมันคงจะหลงแม่มันแน่เลย..”
“หลงแม่เหรอคะ แม่ของมันอยู่ไหนเสียละ” นุสบาก้มถามเจ้าลูกแมวตัวแดง
“ปล่อยมันไปเถอะนังหนู..”
“แม่มันจะหาเจอหรือปล่านะ” ดวงหน้าเป็นกังวลก้มมองแมวน้อยเรียวมือสวยก็เกาคางและลูบขนของมันเล่น
“เดี๋ยวแม่มันก็ออกมาตามหาเองแหละ..”
“น่าสงสารจังตัวยังแดงอยู่เลย ขืนปล่อยไว้มันคงอดตายแน่เลย ยายน่าจะเลี้ยงมันไว้นะคะ” ใบหน้านวลสลดลงมองหน้าหญิงชราแล้วก้มมองเจ้าแมวน้อยที่นอนอยู่ในมือของเธอ
“ยายไม่มีเวลาดูมันหรอก นังหนูอยากเลี้ยงก็เอามันไปเลี้ยงก็ได้นะ” นางหอมส่งรอยยิ้มแห่งความเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้า
“นุชเอาไปเลี้ยงได้จริงเหรอคะ” ใบหน้านวลแสดงความดีใจหันมองหน้ายายหอม
“ก็จริงสิ..นุชจะเอามันไปเลี้ยงที่บ้านพี่ก็ไม่ว่านะครับ” อัครเดชเสียงดังมาก่อนตัว เขาก้าวเดินขึ้นบันไดร่างโตเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน
“พี่เดช..ทำไมไปนานจังค่ะรู้ไหมนุชเป็นห่วงมากแค่ไหน” เสียงของสามีดังอยู่ด้านหลังทำให้เจ้าหล่อนหันข้างมองคนตัวโตเดินขึ้นบันได
“พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้เมียพี่เป็นห่วง” คนตัวโตเปียกไปทั้งตัวยิ้มแห้งๆให้เมีย แล้วคลานเข่าเข้าไปนั่งข้างๆหญิงสาว
“ดูสิ..เสื้อผ้าเปียกไปหมดทั้งชุดแบบนี้จะเอาที่ไหนเปลี่ยนล่ะคะ” วางเจ้าเหมียวตัวน้อยลงนอนบนผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้าใกล้ตัว สาวเจ้าขยับเข้าไปหาสามีช่วยเขาถอดเสื้อตัวนอกออกให้เหลือเพียงแค่เสื้อยืดสีขาวตัวเดียว ร่างบางคลานเข่าเอาเสื้อของสามีไปตากตรงราวหน้ากระท่อมแล้วคลานกลับมานั่งข้างๆสามี..นุสบามองคนตัวโตที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝน ‘คงจะหนาวละสิขนนี้ลุกซู่เชียว’
“เปียกโชกมาเลยนะพ่อหนุ่ม” ยายหอมมองสองหนุ่มสาวด้วยความเอ็นดูแล้วยิ้มให้พร้อมทั้งยื่นผ้าขาวม้าและเสื้อเก่าๆ ของสามีให้ชายหนุ่มรุ่นหลาน
“ขอบคุณครับ” ร่างหนานั่งทับส้นเท้ามือใหญ่ยื่นรับเอาผ้ามาจากมือของยายหอมมาถือไว้..อัครเดชเอียงหน้ามองเมียสำรวจตัวของเมียที่อยู่ในชุดชาวบ้านผ้าถุงลายดอกไม้และเสื้อม่อฮ่อม ดวงหน้าหล่อเหลามองด้วยความหลงไหล เมียของเขาสวยหวานไปอีกแบบในชุดแสนจะธรรมดา
“นุชเช็ดผมให้นะคะ” มือบางรับผ้าขาวม้าซับผ้าลงบนผิวแขนแกร่งไล่ซับขึ้นไปบนต้นคอและบนศีรษะของสามีซับเช็ดเส้นผมหนานุ่มทุกเส้นอย่างอ่อนโยนนุ่มนวล
“ครับ” ดวงหน้าคมคายไม่อายสายตาของยายหอมเขาเอียงหน้าเข้าชิดดวงหน้าหวานของเมียเสียงเข้มเอ่ยปนมากลับกลิ่นลมหายใจอ่อนๆ
“พี่เดชแอบไปดูดบุหรี่มาเหรอคะ?” ใบหน้านวลบึ้งตึงเรียวปากบางกระซิบกระซาบถามคนเจ้าเล่ห์ ‘ใจอยากจะจิกเนื้อสีเข้มเสียเหลือเกิน ทำเป็นหน้าตาย’
“ครึ่งมวนเองครับ” คนหน้ามึนชำเลืองสายตามองยายหอมแล้วหันหน้าเข้าหาเมียแกล้งเป่าลมออกปากลดบนใบหน้าหวานพิสูจน์ อยากให้เมียดมกลิ่นหายใจของตัวเอง
“พี่เดชบ้า..อย่ามาทำทะลึ่งแบบนี้นะยายมองอยู่ไม่เห็นเหรอ” ว่าจะไม่ทำร้ายร่างกายเขาอยู่แล้วนะแต่เจ้าหล่อนทนมองความทะเล้นของสามีไม่ไหวต่อหน้าหญิงชราก็ไม่เว้น..นุสบาเลยใช้เรียวเล็บแหลมคมจิกลงไปบนผิวต้นแขนของเขาสองสามที
“โอ๊ยย!!..นุช!..พี่เจ็บนะครับ” เสียงเข้มอุทานแผ่วเบาแกล้งร้องไปแบบนั้นทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกเลยว่าเจ็บ
“สมน้ำหน้า..ครั้งหน้าจะหยิกให้เนื้อขาดเลย..”
“นังหนู” นางหอมแกล้งทำเป็นไม่สนใจมองสองหนุ่มสาวที่กำลังหยอกล้อกัน หญิงชรายิ้มให้กับคำหมากที่เจ้าตัวกำลังห่อแล้วแกล้งกระแอมเสียงดัง
“คะ” นุสบาใบหน้าผ่าวร้อนขานรับเสียงหวาน ไม่กล้าหันไปมองหญิงชราเพราะเขินอายได้แต่ก้มหน้าก้มตาเช็ดเนื้อตัวให้สามีเป็นห่วงเขาเพราะกลัวชายหนุ่มจะหนาว
“ยายว่า..พาผัวเอ็งไปเปลี่ยนชุดในห้องของยายก่อนไปนี่ก็ใกล้ค่ำแล้วเดี๋ยวยายจะเข้าครัวทำกับข้าวกินกัน ตาบัวได้หน่อไม้มา ยายจะแกงและต้มจิ้มน้ำพริกกะปิให้กิน พวกเอ็งทานเผ็ดกันได้นะ” นางหอมไม่จำเป็นต้องมองสองหนุ่มสาวแค่การกระทำที่หญิงสาวแสดงเอาอกเอาใจใส่สามีนางก็ดูออกว่านุสบารักอัครเดชมากแค่ไหน นี่คือความรักที่เมียมีให้ผัวช่างเหมือนนางกับสามีแก่ๆ อย่างตาบัวเสียเหลือเกิน
“ขอบคุณค่ะยาย/ขอบคุณครับ” สองผัวเมียขานรับพร้อมกันแล้วหันหน้ามองกันส่งรอยยิ้มแห่งความรักให้กัน
“ไปๆ ผัวเอ็งหนาวสั่นไปทั้งตัวแล้ว” ยายหอมยกมือขึ้นโบกปัดไปมาบอกเป็นนัยน์ๆ ให้นุสบาพาอัครเดชไปเปลี่ยนชุด ส่วนนางก็พยุงตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปยังห้องครัวที่อยู่นอกชานกระท่อม
“งั้นเดี๋ยวนุชพาพี่เดชไปเปลี่ยนชุดแล้วจะออกไปช่วยยายทำอาหารนะคะ” นุสบานั่งทับส้นเท้าอยู่ข้างสามี ดวงตากลมโตมองยายหอมด้วยเปี่ยมรักความผูกพันที่เกิดขึ้นโดยเวลาเพียงไม่กี่นาที หล่อนไม่อาจรู้ได้บอกได้เพียงแค่ว่ามีความรู้สึกอยากให้หญิงชราที่เดินหายเข้าไปในครัวนั้นเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอเหลือเกิน……
