ซ่อนรักซ่อนรอยแค้น

191.0K · จบแล้ว
อังศุมาลินทร์ กังสดาล
80
บท
10.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“เชื่อฟังฉันไว้” ดวงตาดุจหินผาอ่อนยวบเมื่อได้เห็นน้ำตาสีเลือดไหลอาบใบหน้าไม่ยอมหยุด มือหนาสั่นเทายื่นเข้าไปเช็ดคราบเลือดบนหน้าผากก็ต้องหยุดชะงักหักห้ามใจจะไม่ยอมอ่อนนุ่มกับผู้หญิงแพศยา เขาใช้นิ้วชี้ที่จะเช็ดเลือดบนผิวบอบบางแต่กับเปลี่ยนเป็นจิ้มหน้าผากนวลจนทำให้ศีรษะของเธอชนเข้าอย่างจังกับขอบเตียง..นุสบายกมือสั่นระริกขึ้นกุมกระหม่อมมันร้าวไปทั้งสมอง ร่างบอบบางนั่งไม่มีแรงโอนเอนไปมาแล้วค่อยๆทรุดกายนอนหมอบงอตัวเข้าหากันต่อหน้าต่อตาชายหนุ่มแต่นั่นใช่ทำให้พญามัจจุราชใจอ่อนกับผู้หญิงสารเลวคนนี้ เขาจะไม่ยอมให้อภัยในสิ่งที่เธอทำกับเขาเด็ดขาดเรียวปากหยักกระตุกยิ้มเหี้ยมเกรียมใบหน้าคมคายเปลี่ยนไปแม้หัวใจของเขากำลังสับสนเจ็บปวดที่ทำร้ายเมียอัครเดชลุกขึ้นยืนตาแดงโรจน์ดังเชื้อเพลิงที่มันลุกพร้อมที่จะแผดเผาร่างของเมียเมื่อเขาก้มลงมองร่างบอบบางที่นอนไม่ไหวติงเนื้อตัวบวมช้ำปลายกระโปรงผ้าชีฟองสีขาวที่หล่อนใส่เมื่อวานขาดเป็นทางยาวจนถึงต้นขานวลทำให้เห็นรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำๆตามเรียวขาเสลาทั้งสองข้าง เขาเมินใบหน้าหนีทำเป็นไม่สนใจเท้าใหญ่เดินเฉียดและข้ามร่างบางก้าวขึ้นเตียงแล้วล้มตัวลงนอนหงายพยายามข่มตาที่เพ่งมองเพดานหูก็ฟังเสียงสะอึกสะอื้นไห้โหยหวน น้ำตาของเธอเปรียบเสมือนเทียนที่ถูกลนกลายเป็นหยดน้ำตาเทียนร้อนระอุลดลงกลางใจของเขาให้เป็นแผลเหวอะหวะ ปวดแสบปวดร้อนเสียเหลือเกิน“นี่มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นนุสบา เธอยังต้องเจออะไรมากกว่านี้” เค้นเสียงเยือกเย็นฝ่าความมืดมิดให้ได้ยินเพียงคนเดียวแล้วพยายามหลับตาหันนอนตะแคงข้างเข้าหาฝาผนังห้องแล้วใช้หมอนอีกใบปิดหูไม่อยากได้ยินเสียงร้องครวญครางของเจ้าหล่อน แต่เขาไม่สามารถที่จะปิดกั้นหัวใจของตัวเองได้ที่มันเต้นไปตามแรงสะอึกสะอื้นของหญิงสาวได้

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันนอกใจดราม่าแก้แค้นโรแมนติก

บทที่1 ตอน "วันชื่อคืนสุข" 1

เสียงฝนตกกระทบสังกระสีหลังคาบ้านเช่าหลังเก่าดังเปาะแปะๆ ข้างในบ้านชั้นบนยังมีสองผัวเมียข้าวใหม่ปลามันพึ่งจะพากันไปจดทะเบียนสมรสเมื่อสองอาทิตย์ก่อนโน้น..เสียงฟ้าร้องครวญครางดังน่ากลัวอยู่ภายนอกผสมลมฝนพัดเอาละอองมากระทบบานประตูหน้าต่างเสียงดังกึกกัก..กึกกัก นั่นไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มร่างใหญ่โตกับหญิงสาวร่างแน่งน้อยเป็นกังวลแต่อย่างใดพวกเขาทั้งสองนอนกกกอดเคลียคลอต่างแลกความสุขล้นใจให้กันอยู่บนที่นอนหนานุ่มปูติดพื้นไม้บ้านเช่าชานเมืองแถวจังหวัดนครปฐมหลังนี้อาจจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนักแต่นั่นไม่ใช่จุดสำคัญสำหรับพวกเขาเลย ความรักที่พวกเขามีให้กัน ถึงแม้อายุจะห่างกันมากถึงสิบสามปีแต่นั่นใช่จุดสำคัญที่เขาทั้งสองจะแคร์สองหนุ่มสาวต่างวัยพร้อมที่จะก้าวเดินไปด้วยกันและจะช่วยกันสร้างรากฐานของชีวิต สร้างครอบครัวเพื่อหนีความจนให้กลายเป็นครอบครัวออกหน้าออกตาทางสังคมกลุ่มเล็กๆ

“พิ..พี่..เดะ..เดชขา” เสียงใสสั่นไหวร่างบางไร้อาภรณ์แดงเถือกพยายามซุกตัวนอนคว่ำหน้าหนีคนตัวใหญ่ที่ไม่ยอมหยุดเล่นงานเธอ..นุสบายื่นมือดึงเอาผ้าห่มผืนหนามาปกปิดร่างกายที่มีสามีคอยแต่จะใช้เรียวปากเชยชม

“ค..ครับ” คนหน้ามึนไม่ยอมหยุดที่จะกินเมียส่งเสียงคำรามครางอยู่ในลำคอ เขาคืบคลานมุดเข้าผ้าห่มตั้งแต่ปลายเท้าเลื้อยเป็นตัวงูโถมทับร่างน้อย ใช้เรียวปากไต่สัมผัสเป็นตัวปูตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าชิมผิวหอมตามสะโพกงอนงามขึ้นไปตามร่องแผ่นหลังบาง

“พอได้แล้ว..นุชช้ำไปหมดทั้งตัวแล้วนะคะ” ซุกใบหน้าร้อนผ่าวลงบนหมอนหลบหลีกใบหน้าคมสันที่เอาแต่ไซ้เม้มตามลำคอระหงด้านหลัง

“นุชจ๋า..จะห้ามพี่ทำไมล่ะครับเป็นเมียพี่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งพฤตินัยและนิตินัยแล้วนะครับต้องทำตามใจผัวสิครับ” กระซิบเสียงแหบห้าวพร้อมทั้งเม้มกัดติ่งหูน้อยด้านหลังแล้วรั้งให้นุสบานอนหงาย ก่อนจะขึ้นเกยทับร่างน้อย

“จะไม่ยอมให้นุชได้พักเลยเหรอคะนี่ก็เช้าแล้ว” เรียวมือสวยทั้งสองข้างยกขึ้นดันใบหน้าของสามีออกจากช่วงลำคอ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อหันไปมองบานประตูหน้าต่างที่กระทบกันเสียงดังกึกกึก

“เช้าที่ไหนครับดูสิยังมืดอยู่เลย..มามะ..มานอนซบอกพี่เสียดีๆ” อัครเดชอมยิ้มกวนๆ เขาจับมือทั้งสองข้างของเมียที่เอาแต่ผลักดันออกจากใบหน้าเรียวมือใหญ่จับข้อมือน้อยด้วยมือข้างเดียวแล้วยกขึ้นกดไว้เหนือศีรษะ

“ไม่นอนแล้วค่ะ..นุชจะลงไปทำกับข้าวเตรียมไว้ใส่บาตรทำบุญให้ยายคะ” ดวงหน้าหวานสลดลงเล็กน้อยยามนึกถึงยายผู้ล่วงลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน..นุสบาไม่เหลือใครอีกแล้วในชีวิตนอกจากอัครเดชชายคนรักที่ไม่เคยทอดทิ้งเธอให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าสามีได้ทำตามคำขอของยายที่ฝากฝังเธอไว้กับเขาเป็นอย่างดี หญิงสาวไม่อยากจะให้สามีเห็นน้ำตาจึงกะพริบเปลือกตาหลายครั้งแล้วเอียงหน้าหนีดวงตากลมโตมองสิ่งแวดล้อมภายนอกผ่านช่องบานประตูหน้าต่าง

“จะทำให้เสียเวลาทำไมครับเดี๋ยวพี่ขับมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อแกงถุงปากซอยให้ก็ได้” คนตัวหนากำลังหลงใหลในกลิ่นกายสาบสาว เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าเมียกำลังร้องไห้ใบหน้าคมสันยังยังวนเวียนใช้ริมฝีปากหนากระซิบชิดผิวหอมและยังตอดเล็กตอดน้อยไปตามเรียวคางมนไล่เล็มลงต่ำไซ้ซอกคอระหงเลื้อยลงร่องอกอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงเพราะสะท้านสัมผัสของสามีที่มีชันเชิงรู้ว่าตรงไหนเจ้าหล่อนชอบไม่ชอบ

“ไม่เอาค่ะ..นุชอยากทำอาหารไม่อยากให้ยายได้กินแกงถุง พี่เดชก็ต้องเตรียมตัวไปทำงานได้แล้วนะ นี่เราสองคนหยุดงานมาหลายวันแล้ว” ร่างน้อยดิ้นรนออกจากร่างโต เธอผลักคนตัวโตให้นอนหงายแล้วรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มไม่อยากให้สามีเป็นกังวล ร่างน้อยรีบลุกนั่งหยิบเสื้อเชิ้ตของสามีที่อยู่ปลายที่นอนมาสวมใส่ปกปิดร่างกายที่คนเจ้าเล่ห์เอาแต่จ้องมอง

“นุชลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านให้พี่ได้ไหมครับ” คนชีเปลือยนอนตะแคงข้างเข้าหาหญิงสาว ข้อศอกหนายันที่นอนยกมือค้ำศีรษะไว้ส่วนอีกข้างก็ยื่นเข้าไปสะกิดเขี่ยแผ่นหลังเนียนนุ่มนิ้วชี้ใหญ่เกี่ยวพันเส้นผมดำขำยาวเหยียดถึงเอวคอดเล่น

“พี่เดชขา..อย่าให้นุชลาออกเลยนะคะ นุชอยากทำงานช่วยพี่เดช” ผิวบางร้อนวูบวาวเพราะรู้สึกถึงความเร่าร้อนของปลายนิ้วใหญ่ที่คอยแต่จะกรีดสัมผัสรวมทั้งแววตาทอประกายแสงร้อนแรงมองร่างเธออยู่..นุสบาไม่กล้าที่จะหันหลังไปมองคนหน้ามึน เธอเอาแต่ก้มหน้ามองมือของตัวเองที่สั่นระริกรีบเร่งติดกระดุมเสื้อ

“นุชไม่จำเป็นต้องมาช่วยพี่หาเงิน พี่อยากให้นุชสบาย พี่จะทำงานเก็บเงินสร้างฐานะของเราซื้อบ้านหลังใหญ่สักหลัง มีกิจการรับเหมาก่อสร้างเป็นของตัวเอง พี่จะทำให้นุชมีความสุขรวมทั้งลูกของเราด้วย” พยุงตัวลุกนั่งพร้อมทั้งขยับตัวเข้าไปนั่งซ้อนอยู่ด้านหลังของเมียแล้วยกหัวเข่าขึ้นข้างหนึ่ง มือเรียวใหญ่สอดเข้าช่วงเอวคอดยื่นไปด้านหน้าใช้ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้สัมผัสผิวหน้าท้องแบนราบ กดเรียวปากลงบนกระหม่อมบางกระซิบเสียงแหบห้าวว่าอยากมีลูก

“ถ้าอยากมีลูกก็ต้องช่วยกันสร้างฐาน พี่เดชให้นุชช่วยพี่ทำงานเก็บเงินนะคะลูกเราเกิดมาจะไม่ต้องลำบากเหมือนเราไงค่ะ” ใบหน้างามก้มมองมือหนาที่ยังลูบคลำที่ผิวหน้าท้อง แผ่นหลังบางแนนชิดอกแกร่งแล้วแหงนใบหน้าแดงระเรื่อมองปลายคางของสามี

“แต่พี่ไม่อยากให้เมียพี่ต้องลำบากนี่ครับ พี่อยากให้นุชอยู่บ้านเฉยๆ รู้ไหมครับพี่อยากเห็นหน้านุชเป็นคนแรกเวลาพี่กลับมาจากทำงานเห็นนุชยืนรอพี่ที่หน้าบ้าน” คนหน้าหล่อโน้มหน้าเข้าหาแล้วแตะริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่มนิ่มแดงระเรื่อบวมเจ่อเป็นเพราะน้ำมือของเขาเอง

“งานที่นุชทำก็ไม่ได้หนักอะไรนี่คะแค่ช่วยหมอ ช่วยนางพยาบาลจัดยาทำโน่นทำนี่ไม่ได้หนักอะไรเสียหน่อย” ดวงหน้ารูปไข่เอียงอายจนแดงอมชมพู เธอยกมือขึ้นดันคางหนาออกแล้วรีบก้มหน้าหนีจากการสัมผัสอันเร่าร้อนแต่แฝงความนุ่มนวล

“โอเคครับ พี่ให้นุชทำแค่ปีเดียว ครบกำหนดเตรียมเขียนใบลาออกเลยนะครับ” ใบหน้าคมคายก้มลงกดเรียวปากลงบนหัวไหล่บางด้านหลังอย่างแผ่วเบานุ่มนวล..อัครเดชเหลือบสายตาอันเก็บกดมองสิ่งของในห้องพักด้วยความจนที่เขาเผชิญมาตั้งแต่เล็กอาศัยศาลาวัดเป็นที่ซุกหัวนอนและข้าวก้นบาตรหลวงตาชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด เจ็บร้าวหัวใจไปทั้งดวงเมื่อก้มมองหน้าเมียที่ต้องพาเธอมาลำบากไปกับเขาด้วย

อัรเดชชายหนุ่มวัยสามสิบเก้าปีน้ำตาคลอตั้งจิตอยู่ในใจ ความใฝ่ฝันว่าด้วยแรงกำลังที่มีอยู่และสติปัญญาที่เรียนจบแค่มอสาม เขาจะทำให้หญิงคนรักมีความสุขและอยู่ได้ไม่ต้องทำอะไรสีหน้าเข้มเคร่งขรึมสำรวจห้องนอนที่เป็นห้องหอที่มีเพียงแค่ตู้เสื้อผ้าหลังเดียว โต๊ะเครื่องแป้งตัวเตี้ยของเมีย และโทรทัศน์เครื่องเก่าด้วยหัวใจร้าวรานอยากมีเงินเยอะๆและอยากพาเมียตัวหอมไปอยู่ในที่ดีกว่านี้ ชายหนุ่มเลือกเช่าบ้านหลังนี้เพราะเขาไม่อยากให้เมียรักต้องเดินทางไกลเวลาไปทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ในตัวเมืองห่างจากบ้านหลังนี้เพียงแค่นั่งรถไปไม่ถึงชั่วโมง ส่วนตัวเขานั้นเป็นโฟร์แมนคุมงานก่อสร้างต้องเดินทางไปทุกที่ที่มีการว่าจ้างให้ชายหนุ่มไปคุมและออกแบบงานให้

“นุชไม่อยากคุยกับพี่เดชละ พี่เดชไปอาบน้ำนะคะเดี๋ยวนุชจะลงไปทำอาหารเช้าไว้รอ” ร่างน้อยขยับตัวลุกยืนคุกเข่าคลานลงจากที่นอนแล้วยืนขึ้น แต่ร่างบางก็ทรุดลง

“นุช!..ระวังครับ!!” ร่างโตเปลือยเปล่ารีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่าเข้าไปรับร่างน้อยทัน เขาใช้วงแขนแกร่งรับร่างของเมียที่เซทรุดฮวบลงมากองอยู่ในอ้อมแขนอันทรงพลัง ถ้าเขาไม่รับร่างน้อยไว้มีหวังหญิงสาวได้นอนร่วงกองอยู่บนพื้นไม้แน่

“โอ๊ยย!!..ปะ..ปวดหัวจังพี่เดช” ดวงตากลมโตกะพริบติดกันหลายครั้งพยายามเพ่งมองหน้าสามีแต่ทำไมมันพร่ามัวมองใบหน้าของชายหนุ่มเห็นเลือนลางแบบนี้..นุสบาอยู่ในอ้อมอกของคนตัวโตเรียวมืองามยกมือขึ้นกุมศีรษะอันปวดร้าวไปทั้งกระหม่อม

“เป็นอะไรครับ ทำไมเมียพี่หน้าซีดจังเลยเจ็บตรงไหนครับบอกพี่สิ?” สามีรีบอุ้มเมียแนบอกใบหน้ามีริ้วรอยความกังวลมองหน้าอันซีดเซียวของเมีย เขาวางร่างน้อยอย่างถนุถนอมบนที่นอน

“นุชคงจะหน้ามืดนะคะ” นุสบานอนน้ำตาคลอเอ่อเต็มดวงตากลมโต เรียวปากบางขาวซีดสั่นระริกฝืนยิ้มให้คนตัวโตทั้งที่ศีรษะของเธอมันเจ็บปวดจนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เธอเป็นอะไรทำไมอาการแบบนี้ถึงต้องเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันทุกครั้งไป

“หน้ามืดเหรอ?” อัครเดชขมวดหัวคิ้วสีดำเป็นปื้นมีรอยหยักแผลเป็นตรงหัวคิ้วด้านขวา เขามองหน้าเมียอย่างสงสัย

“ค่ะ..พิ..พี่เดชอย่าห่วงนุชเลยค่ะ” หลับเปลือกตาทั้งที่ดวงตาเปียกแฉะชุ่มไปด้วยน้ำตา เพราะเธอมองเห็นหน้าของสามีไม่ชัดเจน

“นุช!..ท้องหรือเปล่าครับ?” อัครเดชนั่งเบี่ยงข้างอยู่บนขอบที่นอนหัวเข่าข่างขวาปลุกขึ้น ร่างกายหนาใหญ่โน้มตัวเข้าหาหญิงสาวร่างเล็กแล้วใช้แขนบึกบึนค้ำยันฟูกหนากักขังร่างน้อยส่วนอีกข้างยื่นเข้าไปเกลื่อเช็ดน้ำตาบนพวงแก้มออกให้อย่างนุ่มนวล

“พิ..พี่เดช” เปรยเสียงสั่นหวิว หญิงสาวอดทนทรมานจากความปวดร้าวในกระหม่อม เธอไม่อยากให้สามีรู้ว่าเจ็บจนสมองจะแตกอยู่แล้วได้แต่พยักหน้าไปแบบนั้น นึกสงสัยเธอจะท้องได้ยังไงทั้งที่ประจำเดือนก็มาตามปรกติทุกเดือน

“จริงนะนุช!..นุชท้องใช่ไหมบอกพี่สิครับ” คนตัวโตอยากมีลูกอยู่แล้วพอได้เห็นเมียพยักหน้าให้เขาถึงกลับไปไม่เป็น..อัครเดชก้มหน้าส่งแววตาแห่งความภูมิใจมองหน้าเมียที่ยังหลับแพรขนตายาวงอนไหว่ระริกยามเจ้าหล่อนแกล้งหลับตา ชายหน้าหล่อทนมองไม่ไหวโน้มหน้าเข้าหาเมียใช้เรียวปากหยักโฉบเฉี่ยวจูบตอดเล็กตอดน้อยบนเรียวปากบางอันซีดเซียว

“พิ..พี่เดชขาพอได้แล้วค่ะไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” เสียงสั่นเครือไม่อยากโกหกสามีและให้ความหวังชายหนุ่ม แต่เธอก็ต้องทำเพราะไม่อยากให้เขาคิดมากกับอาการที่เจ้าหล่อนเป็นมาหลายเดือนแล้ว

“พี่ไม่อยากไปทำงานเลย” กระซิบเสียงเข้มชิดเรียวปากจิ้มลิ้มของเมีย ได้แต่จูบซับดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากพวงแก้มอันไม่มีสีสัน

“ได้ไงค่ะ เราหยุดมาหลายวันแล้วนะ” ดวงหน้าหวานพยายามฝืนส่งรอยยิ้มผสมความเจ็บปวดนึกในใจเธอเป็นอะไรกันแน่ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยบอกสามีได้ไม่อยากให้เขาเป็นห่วงและคิดมากในเรื่องแบบนี้

“งั้นนุชไม่ต้องไปทำงานนะวันนี้ เดี๋ยวพี่จะโทรลางานให้อีกสักสามวันนะครับ” ผลักใบหน้าออกจากดวงหน้าของเมีย ดวงตาสีนิลจับจ้องอยู่บนร่างน้อยที่นอนตัวสั่นระริก

“อย่านะคะ..”

“ทำไมล่ะครับ ดูสินุชหน้าซีดมากเลยรู้ตัวไหม..”

“นุชไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แค่หน้ามืดนอนพักสักหน่อยคงดีขึ้น พี่เดชไปอาบน้ำนะคะเดี๋ยวนุชนอนสักพักแล้วจะลงไปทำอาหารเช้าไว้รอ..นะคะ..”

“อาหารเช้าไม่ต้องทำแล้วเดี๋ยวพี่จะออกไปซื้อปาท่องโก้กับโอเลี้ยงร้อนๆมาให้กินนะครับ..”

“ค่ะ” นอนหลับตาเพื่อปกปิดความปวดร้าวไม่ต้องการให้คนตัวโตรับรู้ ใบหน้าขาวซีดพยักหน้าให้สามีทั้งๆที่เธอไม่รับรู้อะไรเลยนอกจากความเจ็บปวดสมองเต้นตุบๆ เหมือนจะระเบิด…