ตอน "จุดที่ต้องจาก" 2
โรงพยาบาลพักเที่ยง..
ความร่มรื่นของสวนหย่อมนั่งเล่นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียวขจีและดอกไม้สดสวยหลายชนิดที่ทางโรงพยาบาลสร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเดินออกกำลังกายสำหรับคนไข้หรือญาติผู้ป่วยที่มาพักรักษาตัวอยู่ในบริเวณโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ เสียงจอแจพูดคุยของผู้คนมากมายที่พากันมานั่งเล่นสวนแห่งนี้ไม่ได้สร้างความสนใจให้กับหญิงสาวนางหนึ่งที่ยังนั่งหลบตัวอยู่ในซอกเล็กๆข้างตึกด้านหลัง
นุสบากำลังตกอยู่ในห้วงเคร่งเครียด หูอื้อตาลายดวงหน้าหวานขาวยิ่งซีดเซียวไร้สีสันไม่มีแม้เลือดลมสูบฉีด ก้มมองเอกสารที่เมื่อเช้าแอบดึงเอากระดาษแผ่นนี้ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ของสามี
“พิ..พี่เดชช!!..ทำไมเงินเยอะขนาดนี้” ตากลมโตเต็มไปด้วยน้ำตาคลอเกลือกกลิ้งอยู่บนดวงตาเบิกกว้าง นิ้วชี้เรียวเล็กสั่นระริกจิ้มนับจำนวนตัวเลขนับแล้วเป็นสิบๆ รอบให้แน่ใจว่ามันหลักล้านหรือแค่หลักพัน
“ฮืออ..พี่เดชเงินเป็นล้านแบบนี้เราจะไปหาที่ไหนมาใช้หนี้เขาล่ะคะ” กระซิบเสียงใจจะขาดถามคนตัวโตผ่านสายลม เธอก้มหน้างอตัวเข้าหากันมือก็ยกขึ้นปิดเรียวปากที่สั่นไหวกลัวคนอื่นจะได้ยินเสียงสะอื้น น้ำตาร่วงหล่นแหมะลงบนแผ่นหมายศาล
“นุช!!” เสียงของพัชราภานางพยาบาลรุ่นพี่ทำงานด้วยกันดังอยู่ด้านหลังเธอออกมาตามเพราะข้างในโรงพยาบาลประกาศตามหาหญิงสาว
“ค..คะ” เงยหน้าขึ้นพร้อมทั้งเอียงใบหน้าหันข้างมองไปทางด้านหลัง
“เป็นอะไรคะ?” พัชราภาเปรยเสียงถาม
“พี่ภา!!” นุสบาสะดุ้งขยับร่างนั่งตัวตรงพับเอกสารที่อ่านเก็บเข้าซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อรีบยกมือเช็ดน้ำตาบนพวงแก้มแล้วขยับตัวนั่งเบี่ยงหันมองเพื่อนรุ่นพี่ที่ยังยืนทำท่าทางงุนงง
“พี่เรียกนุชตั้งนาน” นางพยาบาลสาวแสนหวานรุ่นเดียวกันกับนุสบาก้าวเดินเข้าไปหาและถือโอกาสนั่งลงบนม้าหินอ่อน
“นุชขอโทษค่ะ” นุสบาขยับตัวให้พัชราภานั่งด้วยกัน
“ทำไมมานั่งหลบมุมอยู่ที่นี่คะ” พัชราภาเอียงใบหน้าแสนหวานมองเสี้ยวหน้าซีดๆ ของเพื่อนที่ชอบเรียกขานเธอว่าพี่ภา
“นุชมานั่งเล่นนะคะ พี่ภามีธุระอะไรกับนุชหรือเปล่าคะ?” เอียงหน้ามองเพื่อน เธอนับถือหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายจึงพร้อมที่จะยกย่องให้เป็นพี่สาว
“พี่จะมาบอกนุชว่าพี่จะออกกะแล้วนะ งานที่พี่ทำค้างไว้อยู่บนโต๊ะนะ..”
“ค่ะ เดี๋ยวตอนเย็นๆ คนไข้ไม่เยอะนุชจะทำต่อให้เสร็จค่ะ..”
“เอ่อนี่นุชจ๊ะ คุณหมออินทัชเขาตามหานุชอยู่นะ” พัชราภามองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัยทำไมช่วงนี่นุสบาดูแปลกๆ ชอบลางานบ่อยและบางวันก็มาทำงานสาย
“คุณหมอตามหานุชเหรอคะ?” ดวงหน้าไร้สีเลือดซีดเซียวเอียงหน้ามองเพื่อนที่จ้องมองเธออยู่แล้ว นุสบาต้องรีบหันหนีไปมองทางอื่น
“ใช่ นุชเป็นอะไรหรือเปล่า นี่ก็ให้ประชาสัมพันธ์ประกาศตามหานุชด้วยนะ นุชไม่ได้ยินเหรอจ๊ะ..”
“ไม่ได้ยินค่ะ นุชขอโทษพี่ภาด้วยนะคะที่ต้องทำให้ลำบากมาตาม..”
“พี่ว่านุชรีบไปเถอะ คุณหมออินทัชเรียกตัวนุชให้ไปพบด่วนเลยนะ ไปเดี๋ยวพี่จะพาไป..”
“พบหมอด่วนเหรอคะ” ดวงหน้าหวานแหงนขึ้นดวงตากลมโตมองท้องฟ้าวันนี่บนฟ้าช่างสดใสไม่หม่นหมองเหมือนดวงใจของเธอเลยสักนิดเปรยเสียงเหนื่อยแผ่วเบาให้ได้ยินเพียงแค่ตัวเอง คุณหมออินทัชตามตัวเธอจะมีอะไรละก็เธอเล่นไม่ยอมไปตรวจร่างกายและรับยาตามที่หมอสั่งนะสิ เรียวปากบางซีดเผือดสั่นระริกยิ้มสมเพชตัวเองลำพังเงินซื้อยาก็ไม่มีพอแล้วนี่จะให้เธอหาเงินที่ไหนมารักษาผ่าตัดตัวเอง ‘เธอไม่อยากตาย’…
หลังจากคุณหมออินทัชตามตัวคนป่วยที่ไม่เคยใส่ใจอาการป่วยของตัวเอง คุณหมอก็พานุสบาเข้าห้องตรวจเอ็กซเรย์และตรวจสุขภาพเพิ่มเติม สิ่งที่นุสบาคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นกับร่างกายของเธอจนได้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้
“ทำไมลูกแม่ต้องมาเกิดตอนนี้ด้วยคะ” นั่งตัวตรงใบหน้านวลไร้สีสันก้มลงดวงตากลมโตดำขำนั้นเอ่อล้นเต็มไปด้วยน้ำตามองมือเรียวสวยลูบผิวท้องแบนราบแผ่วเบา
“เดี๋ยวผมจะจัดยาตัวใหม่ให้สำหรับคนท้องนะครับ” หมออินทัชเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอ็กซเรย์ ใบหน้าเคร่งเครียดมองคนป่วยที่ดื้อรั้นไม่ยอมรับการรักษาสม่ำเสมอตามที่หมอแนะนำ
“คุ..คุณหมอตรวจแน่ใจแล้วเหรอคะ..ฉันท้องแน่นะคะ” เสียงใสสั่นเครือได้แต่ก้มหน้ามองหน้าท้องของตัวเอง ดวงใจของเธออยากจะมีลูกแทบขาดใจแต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่เธอกำลังป่วยใกล้ตายแบบนี้
“คุณนุชท้องได้สามสัปดาห์แล้วนะครับ” คุณหมอหน้าหล่อได้แต่มองจ้องหน้าหญิงสาว ไม่อยากจะบอกอาการป่วยไม่อยากให้เธอต้องห่วงกังวลจนเกิดอาการแทรกซ้อนเพราะอาจมีอันตรายถึงเด็กในท้องเป็นแน่
“ละ..แล้วโรคที่ฉันเป็นอยู่จะกระทบถึงลูกในท้องของฉันไหมคะ” เรียวมือน้อยยกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มแล้วเงยใบหน้ามองคุณหมอ
“ช่วงหลังมานี่คุณนุชไม่ยอมเข้ามาตรวจและเอายาที่หมอแนะนำไปทาน ผลของการตรวจครั้งนี้จะเห็นก้อนเนื้อใหญ่เพิ่มขึ้นหลายเซ็นชัดขึ้น” หมออินทัชสีหน้าครึมเหลือบสายตามองแฟ้มเอ็กซเรย์แล้วถอนหายใจแผ่วเบา
หมอเงยหน้ามองหญิงสาวชายหนุ่มหนักใจในอาการป่วยของเธอกลัวเหลือเกินว่าจะไปกระทบกระเทือนถึงเด็กในท้อง
“ฉะ..ฉัน” ดวงหน้าหวานซีดลงดวงตากลมโตพร่ามัวจ้องมองหน้าหมอไม่ชัดเจนเพราะน้ำตาคลอ นุสบารีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหล
“ผมจะไม่แนะนำให้คุณนุชเข้าการผ่าตัดแล้วนะครับ ถ้าเรารักษาโดยการผ่าตัดสมองอาจจะเสี่ยงถึงชีวิตแม่และเด็กในท้องได้ครับ” คุณหมอเอ่ยเสียงเข้มเป็นกังวล ได้แต่มองสาวเจ้าตรงหน้า หัวใจดวงนี้อยากจะลุกขึ้นไปหาแล้วรั้งร่างบางเข้ามากอดปลอบขวัญให้กำลังใจเหลือเกิน
“คุณหมอคะ ลูกกับฉันจะตายไหมเราสองคนแม่ลูกจะตายไหม..อึกก” ก้มหน้าหลบสายตาของหมอแล้วยกกำปั้นทุบลงไปบนทรวงอกเพื่อคลายความหน่วงเมื่อเปรยคำถามคำว่าตายทีไรหัวใจดวงนี้มันช่างปวดและร้าวรานเจ็บเหมือนมีสิ่งของแหลมมาทิ่มแทง
“เรามีทางรักษานะครับ ถ้าคุณนุชยอมทำตามและอยู่ในความดูแลของหมอ คุณนุชและลูกในท้องก็ปลอดภัยครับ..”
“คุณหมอจะให้ฉันทำอย่างไร ลูกของฉันถึงจะได้เกิดมาลืมตาดูโลกคะ คุณหมอช่วยลูกของฉันด้วยนะคะ" เรียวปากบางสั่นระริกพูดคุยกับคุณหมอหนุ่มไม่รู้เรื่องวกไปวนมา คำถามเดิมๆสับสนไปหมด
“ต่อไปคุณนุชต้องหมั่นดูแลสุขภาพของตัวเอง เข้าพบหมอและมารับยาที่หมอจัดให้ทุกครั้งห้ามไปซื้อยาแก้ปวดทานเองเดี๋ยวจะไปกระทบกระเทือนถึงเด็กในท้องได้นะครับ..”
“ค่ะ” เธอพยักใบหน้ารับฟังหมอพูดพูดไปแบบนั้น แต่ในใจว้าวุ่นสับสนคิดอะไรไม่ออกกลัวอาการป่วยของตัวเองเป็นที่สุด
“เดี๋ยวผมจะจัดยาตัวใหม่ให้ เป็นยาสำหรับคนท้องที่เป็นโรคแบบนี้นะครับ” หมอหนุ่มพูดไปเขียนใบสั่งยาไป เขาเหลือบสายตามองหน้าหญิงสาว
“ยาตัวใหม่เหรอคะ” แค่ยาตัวเก่าเธอก็ไม่มีปัญญาที่จะซื้อทานนี่มียาตัวใหม่อีกแล้วหรือ คนร่างบางได้แต่นั่งใจลอยฟังหมอแบบรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง
“ใช่ครับ เป็นยาสั่งตรงมาจากต่างประเทศ..”
“แพงมากไหมคะ?..”
“ยาตัวนี้อาจจะแพงสักหน่อยแต่ปลอดภัยสำหรับเด็กในท้องครับ” หมอหนุ่มหยุดเขียนใบเสร็จแล้ววางปากกาลง ดวงตาตี่มองหน้าหญิงสาวสงสัยในเรื่องการรักษา ‘ทำไมเจ้าหล่อนชอบถามราคา’
“ทำไมยาแพงแบบนี้ละคะ” นุสบาก้มมองตัวเลขในใบเสร็จรับยา ‘ชุดละสามแสน’
“คุณหมอมียาตัวอื่นที่ทานแล้วไม่ทำร้ายลูกในท้องและไม่แพงแบบนี้มีไหมคะ” ดวงตาเรียวสวยคลอเต็มล้นไปด้วยน้ำตาเงยขึ้นมองหน้าหมอเรียวมือบางขาวซีดสั่นไหวนจับใบเสร็จขึ้นมาดูแล้วรีบยื่นคืนให้คุณหมอ ‘บอกเป็นนัยๆ ว่าเธอคงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อยาตัวนี่กินแน่นอน’
“คุณนุชมีปัญหาเรื่องการเงินเหรอครับ บอกผมได้นะ ผมพร้อมที่จะช่วยคุณ” ใบหน้าเคร่งขรึมของคุณหมออินทัชสลดลงทันทียามได้เห็นน้ำตาของเจ้าหล่อน อยากยื่นมือเข้าไปเช็ดซับน้ำตาออกจากพวงแก้วขาวซีดให้เหลือเกิน
“ปะ..เปล่าค่ะ..ขอบคุณ คุณหมอมากนะคะ” เรียวปากสั่นระริกมองสบตาคุณหมอจะให้เธอพูดได้ไงเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ปัญหาของเขาที่จะต้องมารับรู้และต้องมาช่วยเหลือเธอเลย
“ถ้าไม่มีปัญหา คุณนุชเริ่มทานยาตัวนี้ตั้งแต่วันนี้เลยนะครับ..”
“ค่ะ” ใบหน้าเศร้าสร้อยพยักรับไปแบบนั้น ไม่อยากให้คุณหมออินทัชเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้
“ดูแลตัวเองทานอาหารมีประโยชน์และอย่าลืมทำตามหมอนัดและมารับยาทุกครั้งนะครับ” คุณหมอมีความเป็นกังวลมองหน้าคนป่วยแล้วยื่นใบสั่งยาให้
“ค..ค่ะ” ยกมือไหว้หมอแล้วพยุงตัวลุกยืนแทบไม่ไหว ดวงใจทั้งดวงร้าวและหน่วงไปทั้งขั้วมือเรียวสวยที่กำใบสั่งยาแน่นยกมือขึ้นไหว้หมอ ร่างบางพยายามฝืนเดินออกจากห้องของนายแพทย์อย่างทรมานม…
