บท
ตั้งค่า

บทที่ 13 แจ้งตำรวจเพื่อมอบตัว

เวลาหกโมงเช้า แสงอาทิตย์ลอดผ่านม่านหน้าต่างส่องลงมาบนเตียงขนาดหกฟุต

“อืมมม!”

แสงอาทิตย์ส่องตา ทำให้เปลือกตาของหลินเฉินเสวี่ยขยับเบาๆ และตื่นขึ้นมา

เธอหลบแสงอาทิตย์ รู้สึกว่าปวดหัวมาก เหมือนเป็นผลจากการดื่มหนัก ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าจะกลับมาเป็นปกติ

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เธอรู้สึกแปลกๆ ทันที

นี่คือห้องของตัวเอง แต่เสื้อที่แขวนอยู่ที่ระเบียงห้องนอนไม่ใช่ของตัวเอง เสื้อสีแดง กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ กุญแจรถเป็นกอง......

หลินเฉินเสวี่ยขมวดคิ้วทันที เธอค่อยๆ ใช้ความคิด ใบหน้าสวยฉายแววประหลาด เธอพบว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้า

อีกทั้งยังมีผู้ชายนอนอยู่ข้างเธอด้วย หลินเฉินเสวี่ยรู้ตัวทันที

“กรี๊ดดด”

เสียงกรี๊ดเกินเก้าสิบเดซิเบล ดังสนั่นไปทั่วห้องนอน

เย่เทียนหลงสะดุ้งตื่น เห็นหลินเฉินเสวี่ยมองตัวเองอย่างเคียดแค้น เขาตะโกนออกมาเช่นกัน “เฮ้ย!”

“อ๊าก!”

“กรี๊ด!!!!”

ทั้งสองคนกรีดร้องอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองหน้ากันแล้วก็กรีดร้องออกมาอีก

หลินเฉินเสวี่ยยกขาเตะ เย่เทียนหลงพลิกตัวหลบ

“ไอ้สารเลว!”

หลินเฉินเสวี่ยตะโกนออกมา จากนั้นหยิบของปาใส่เขา “เดรัจฉาน!”

เย่เทียนหลงหลบอัตโนมัติ หลบของที่ปาเข้ามาอย่างว่องไว พอจะยกมือขึ้นมาตอบโต้ เขาเห็นสีหน้าโกรธเคืองของหลินเฉินเสวี่ย

เขาสะดุ้งทันที ฉุกคิดได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในป่าหรือสนามรบ แต่อยู่ในบ้านของหลินเฉินเสวี่ย

ความหวาดระแวงและโกรธเคืองของเย่เทียนหลงหายไปทันที เขารับหมอนที่ปาเข้ามา แล้วตะโกนพูดกับหลินเฉินเสวี่ยที่กำลังโมโหอยู่

“ผู้จัดการหลิน เกิดอะไรขึ้น”

“ไอ้สารเลว! ไอ้หื่น! ไอ้เดรัจฉาน!”

พอเห็นเย่เทียนหลงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หลินเฉินเสวี่ยที่ห่อผ้าห่มอยู่ลุกขึ้นมา หยิบแก้วตรงหัวเตียงแล้วปาใส่ทันที

เหมือนจะฆ่าเขาจริงๆ อย่างไรอย่างนั้น

เย่เทียนหลงรีบยื่นมือมารับแก้วแล้วตะโกนว่า “ผู้จัดการหลิน มีอะไรพูดกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วย”

“ฉันบาดเจ็บไม่เป็นไรหรอก แต่ฉันกลัวของอย่างอื่นจะเสียหาย พวกมันไม่ได้ผิดอะไร อีกอย่างแก้วไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย......”

“ไอ้สารเลว! เดรัจฉาน! ข่มขืนคนอื่น!”

หลินเฉินเสวี่ยโมโหมาก “มอมเหล้าฉัน! ข่มขืนฉัน”

“จิ๊!”

เย่เทียนหลงหลบการอาละวาดของเธอ “ผู้จัดการหลินใจแคบ เธอมีจิตสำนึกหน่อยสิ เมื่อคืนเธอขืนใจฉันต่างหาก”

เขาโชว์แผ่นหลังกับต้นขาของตัวเองให้ดู “เธอดูสิ เมื่อคืนเธอข่วนฉันตั้งหลายแผล”

“ถ้าฉันตั้งตัวไม่ทัน ป่านนี้หน้าหล่อๆ ของฉันคงเป็นรอยหมดแล้ว”

เย่เทียนหลงที่ใส่แต่กางเกงใน มีรอยเล็บที่หลังกับต้นขาสิบกว่ารอย บางรอยมีเลือดซึมออกมาด้วย ดูก็รู้ว่าเป็นแผลจากการข่วน

หลินเฉินเสวี่ยอึ้งไปในตอนแรก จากนั้นโมโหกว่าเดิม “ไอ้เลว!”

เธอจะเอาเก้าอี้ฟาดใส่เย่เทียนหลง “เย่เทียนหลง ฉันจะหั่นนายเป็นหมื่นชิ้น”

เธอพุ่งเข้ามาหาเย่เทียนหลง แต่เธอดันเหยียบผ้าห่มที่ห่อตัวอยู่ ตัวเธอเซแล้วล้มไปด้านหน้า

เย่เทียนหลงที่หลบอยู่รีบพุ่งเข้ามารับหลินเฉินเสวี่ยแล้วตะโกนว่า “ผู้จัดการหลิน ระวัง”

เก้าอี้ร่วงลงบนพื้น

“ฉันเกลียดนาย!”

หลินเฉินเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่เห็นเย่เทียนหลงโอบเอวเธออยู่ เธอเดือดยิ่งกว่าเดิม “ฉันจะฆ่านาย”

“ผู้จัดการหลิน!”

ขณะที่หลินเฉินเสวี่ยเหวี่ยงหมัดใส่เย่เทียนหลง เย่เทียนหลงรวบมือเธอไว้ “ฟังฉันอธิบายก่อนๆ”

“เมื่อคืนรถเธอโดนทุบ ตอนฉันออกไปดู มีคนวางยาในแก้วเหล้าเธอ แล้วก็พาเธอออกไปทางประตูหลัง”

“โชคดีที่ฉันเห็นความผิดปกติทันเวลา ขับรถตามไปแล้วช่วยเธอไว้”

“กล้องวงจรปิดที่ผับ รปภ.ที่เข้าออก กล้องติดรถยนต์ เป็นพยานให้ฉันได้ ถ้ายังไม่เชื่อ ไปขอกล้องวงจรปิดตามถนนจากตำรวจจราจรก็ได้”

“เธอไม่ซาบซึ้งใจก็ไม่เป็นไร แต่ดันมาเกลียดฉันอีก ต่อไปคงไม่มีใครอยากช่วยเหลือคนอื่นแล้ว”

ได้ยินเย่เทียนหลงอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง หลินเฉินเสวี่ยชะงักไป เธอขบริมฝีปากครุ่นคิด จำได้รางๆ ว่าหลังจากเย่เทียนหลงเดินออกไป ตัวเองดื่มเหล้าแล้วรู้สึกมึนหัว

หลังจากนั้นชายหนุ่มใส่ต่างหูประคองเธอออกไป แม้ตอนนั้นตัวเองขัดขืนแล้ว แต่ก็โดนอีกฝ่ายลากออกไปอยู่ดี

ตอนนี้เธอยังจำรอยยิ้มลามกได้อยู่เลย หรือเธอเข้าใจผิดเย่เทียนหลงจริงๆ

“นึกออกหรือยัง”

เย่เทียนหลงยิ้มสดใส “จำภาพที่ฉันเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามได้ไหม”

เขาไม่ได้อธิบายจนหมดเปลือก หรือพูดแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการเลี่ยง แต่ไม่อยากให้กลายเป็นปมในใจหลินเฉินเสวี่ย

ยิ่งไปกว่านั้นถึงเขาอยากรับผิดชอบ หลินเฉินเสวี่ยก็ไม่ให้เขารับผิดชอบหรอก

“เดรัจฉาน!”

ใบหน้าหลินเฉินเสวี่ยยังโมโหเหมือนเดิม “นายช่วยฉัน แล้วก็นอนกับฉันงั้นเหรอ”

“ผู้จัดการหลินใส่ร้ายฉันอีกแล้ว”

เย่เทียนหลงใบหน้าใสซื่อ “เธอโดนวางยา ฤทธิ์ยารุนแรงมาก ไม่สามารถขับออกมาได้ ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร จึงทำได้แค่สละความบริสุทธิ์ของฉัน”

หลินเฉินเสวี่ยแสยะยิ้ม “นายยังบริสุทธิ์อีกเหรอ”

“ใช่ ฉันหมายถึงเดือนนี้นะ”

เย่เทียนหลงตอบอย่างภูมิใจมาก พอเห็นว่าหลินเฉินเสวี่ยจะอาละวาด เขาปล่อยหญิงสาวแล้ววิ่งไปที่ห้องโถง

จากนั้นเขาหยิบโน้ตบุ๊กมาเปิดวิดีโอให้หลินเฉินเสวี่ยดู “ห้องของเธอไม่มีอะไรสักอย่าง แต่กล้องวงจรปิดเยอะมาก”

“ด้านนอกและด้านในเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด ขนาดถอดกางเกงฉันยังไม่กล้าถอดมั่วซั่วเลย”

“แต่โชคดีที่มีกล้องวงจรปิด สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของฉันได้”

เขายื่นโน้ตบุ๊กให้หลินเฉินเสวี่ยแล้วหัวเราะ “เธอดูเอาเองเถอะว่าใครข่มขืนใครกันแน่”

หลินเฉินเสวี่ยหนังตากระตุก ขบริมฝีปากแล้วดูแวบหนึ่ง ในวิดีโอเป็นภาพที่ตัวเองกอดเย่เทียนหลง

ตัวเองที่อยู่ในวิดีโอเป็นหมาป่าชัดๆ กำลังรังแกเย่เทียนหลงที่เหมือนลูกแกะน้อย

......

เธอทั้งอายทั้งโมโห จากนั้นเตะไปทางเย่เทียนหลง “ยาออกฤทธิ์ นายไม่รู้จักหนีหรือไง!”

เธอยังคิดว่าเย่เทียนหลงผิด

“จิ๊ ฉันเป็นคนดี จะปล่อยให้เธอทรมานได้ยังไง”

จู่ๆ เย่เทียนหลงจริงจังขึ้นมา “เราโตๆ กันแล้ว เธอน่าจะรู้ว่าผู้ชายควบคุมตัวเองยาก”

“ฉันเกลียดนาย! เกลียดนายๆ!”

หลินเฉินเสวี่ยด่าอีกแล้ว แม้รู้ดีแก่ใจว่าตัวเองโทษเย่เทียนหลงไม่ได้ อีกทั้งยังต้องขอบคุณที่เขาช่วยตัวเองมาจากชายหนุ่มใส่ต่างหูด้วย

ไม่งั้นเมื่อคืนตัวเองคงไม่ได้โดนแค่ผู้ชายคนเดียวแน่ๆ อาจเป็นกลุ่มด้วยซ้ำ ไม่แน่พวกเขาอาจถ่ายรูปแบล็กเมล์ตัวเองด้วย

ไอ้สารเลวพวกนั้นทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ถึงเธอรู้ว่าเย่เทียนหลงไม่ผิด แต่พอคิดว่าร่างกายอันมีค่าของตัวเองโดนแย่งไปแล้ว เธอก็อดโมโหไม่ได้

เธอวาดฝันมาตลอดว่าเธอจะมอบครั้งแรกให้กับเจ้าชายที่จะแต่งงานด้วย แต่ไอ้สารเลวกลับได้ร่างกายของเธอไป

จะไม่ให้หลินเฉินเสวี่ยโมโหได้ยังไง “ฉันจะบีบคอนายให้ตายไปเลย!”

เธอบีบคอเย่เทียนหลงทันที เธอน้ำตาคลอเบ้า รู้สึกทรมานอย่างบอกไม่ถูก

เย่เทียนหลงปล่อยให้เธอบีบคอโดยไม่ขัดขืน สีหน้าเขาลังเลเล็กน้อย มีความจริงจังซึ่งเห็นได้น้อยมาก “ยานั่นชื่อกรรมดอกท้อ เป็นยาปลุกเซ็กส์ชนิดรุนแรงของแดนกระทิงดุ”

“เมื่อโดนยาชนิดนี้ ถ้าไม่ขับออกด้วยการมีอะไรกับผู้ชาย ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว อีกทั้งบนตัวเธอจะมีผื่นแดงเยอะขึ้น อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจะเลือดออกเจ็ดทวาร”

หลินเฉินเสวี่ยแววตาวูบไหว แรงที่บีบคอเขาก็ลดลงเช่นกัน

เย่เทียนหลงพูดต่อ

“ถ้าไม่เชื่อ เธอไปถามคนดูก็ได้ ดูว่าฉันหลอกเธอหรือเปล่า”

สุดท้ายเขาพูดอย่างอ่อนโยนว่า

“ถ้าเมื่อคืนมีวิธีอื่น ฉันไม่แตะต้องเธอแน่นอน”

หลินเฉินเสวี่ยยังโมโหเหมือนเดิม “นายมันคนหลอกลวง คนหลอกลวงไร้ยางอาย”

เย่เทียนหลงพูดอย่างจริงจัง “ถึงยังไงฉันก็ไม่ใช่คนฉวยโอกาสก็แล้วกัน”

“โอเค” เย่เทียนหลงถอนหายใจ หยิบมือถือบนโต๊ะแล้วเปิดลำโพง กดตัวเลขสามตัวแล้วโทรออก

หลินเฉินเสวี่ยถามทันที “นายทำอะไร”

“แจ้งตำรวจไง เธอบอกว่าฉันข่มขืนเธอ ฉันจะไปมอบตัวและรับโทษ”

ใบหน้าเย่เทียนหลงฉายแววเสียใจ “ฉันโทรให้เจ้าหน้าที่มาจับฉัน แบบนี้เธอจะได้สบายใจขึ้น”

ขณะนั้นเสียงขรึมดังออกมาจากมือถือ “สวัสดี ศูนย์บัญชาการตำรวจ......”

“พลั่ก!”

หลินเฉินเสวี่ยพุ่งเข้ามากดวางสายแล้วพูดว่า “แจ้งตำรวจเหรอ เย่เทียนหลง นายเพี้ยนหรือเปล่า”

เธอไม่รู้จะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้จริงๆ

“แล้วจะให้ทำยังไง” เย่เทียนหลงจ้องหลินเฉินเสวี่ย “ถ้าไม่แจ้งตำรวจมาจับฉัน จะระบายความแค้นในใจเธอได้ยังไง”

“หรือเธอจะข่มขืนฉัน” สายตาเขานิ่งมาก

เรื่องแบบนี้ตำรวจเข้ามายุ่งไม่ได้ ถ้าจะจับต้องมีหลักฐาน ถ้าพวกเขาเห็นวิดีโอเมื่อคืน......ถ้าเห็นปฏิกิริยารวมถึงพฤติกรรมของเธอ ตัดสินยากมากว่าใครข่มขืนใครกันแน่

หลินเฉินเสวี่ยตะโกนในใจ จากนั้นเห็นสีหน้าของเย่เทียนหลง พอเธอก้มดู เธอกรี๊ดออกมาทันที

เมื่อกี้เธอรีบลุกขึ้นจากโซฟามาตัดสายโทรศัพท์ ไม่รู้ตัวเลยว่าผ้าห่มหล่นไปแล้ว เย่เทียนหลงเห็นร่างอันเปลือยเปล่าของเธออีกแล้ว

“เย่เทียนหลง ไอ้คนสารเลว”

“ทำเหมือนไม่เคยเห็นไปได้ มีอะไรต้องอาย”

เย่เทียนหลงวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ แล้วก็ถือโอกาสอาบน้ำด้วย เขาบ่นว่า “ไม่เห็นเป็นไรเลย ฉันให้เธอดูกลับก็ได้”

“ไสหัวไป!”

หลินเฉินเสวี่ยตวาดว่า “รีบกลับไปเลย”

เย่เทียนหลงพูดเสียงเบา “แล้วเรื่องเมื่อคืน......”

หลินเฉินเสวี่ยพูดอย่างโมโห “ออกไป!”

เย่เทียนหลงใส่เสื้อผ้าแล้ววิ่งออกจากห้อง พอได้ยินเสียงปิดประตู หลินเฉินเสวี่ยรู้สึกโล่งใจทันที

แต่ไม่นานประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง เย่เทียนหลงโผล่หัวออกมา สีหน้าเขาดูลังเล

“เอ่อ......ผู้จัดการหลิน......ร่างกายฉันสะอาดบริสุทธิ์......ไม่เคยมีเจตนาร้าย ปกติจะเตรียมถุงยางไว้ตลอด ดังนั้นเมื่อคืน......”

หลินเฉินเสวี่ยขนลุกไปทั้งตัว เธอตะโกนด้วยความโมโหว่า “เย่ เทียน หลง!”

เย่เทียนหลงปิดประตูดังปังแล้วออกไป พอหลินเฉินเสวี่ยที่โป๊อยู่มาถึงห้องโถง เขาก็พุ่งออกไปจากประตูแล้ว

บนจอกล้องวงจรปิด เขารีบวิ่งออกไปเหมือนโดนปีศาจไล่ตาม

“น่าโมโหชะมัดๆ!”

หลินเฉินเสวี่ยเตะโซฟาด้วยความโมโห จากนั้นกลับมานั่งข้างเตียงในห้องนอน ยื่นนิ้วขาวมาแตะสีแดงอ่อนๆ บนผ้าปูที่นอน

น้ำตาไหลลงมาจากใบหน้าสวย มีทั้งความเสียใจ คับข้องใจ และความคะนึงหา แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีความเคียดแค้นเลย

เขาเป็นไอ้สารเลว แต่เป็นคนสารเลวที่ทำให้คนเกลียดไม่ลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel