บทที่ 11 วีรบุรุษช่วยสาวงาม
ขณะที่พวกหลิวหย่งไฉวางแผนชั่ว เย่เทียนหลงกำลังคุยเล่นกับหลินเฉินเสวี่ย
ไม่รู้ทำไม พอเห็นไอ้คนหน้าไม่อายตรงหน้า แม้หลินเฉินเสวี่ยจะโมโหเขามาก แถมอยากถีบเขาไปไกลๆ
แต่ในใจเธอไม่รู้สึกรังเกียจเลยสักนิด อาจเป็นเพราะเจอคนเสแสร้งมาเยอะล่ะมั้ง ความจริงใจของเย่เทียนหลงทำให้เธอรู้สึกสบายใจ อีกทั้งความเครียดที่สะสมมาหลายวัน ก็เริ่มหายไปเพราะความตลกของเย่เทียนหลง
“คุณหลิน รถของพวกคุณโดนทุบ”
ขณะที่เย่เทียนหลงผสมค็อกเทลให้หลินเฉินเสวี่ยอีกแก้ว พนักงานหน้าตาหล่อเหลารีบเดินเข้ามา เขาตะโกนด้วยสีหน้าเป็นกังวล “มีแขกเมาจนเอาขวดเหล้าทุบรถของพวกคุณ หน้าต่างรถแตกไปหนึ่งบาน รปภ.เรียกพวกคุณออกไปดู”
หลินเฉินเสวี่ยขมวดคิ้ว “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”
ขณะที่เธอจะลุกไปดู จู่ๆ เธอเห็นเย่เทียนหลงกำลังกวาดตามองสาวสวยรอบๆ “ผู้ช่วยเย่ นายออกไปดูหน่อย”
เย่เทียนหลงจำใจต้องละสายตาออกมา “จิ๊ ผู้จัดการหลิน เรื่องเล็กแค่นี้ต้องให้ฉันจัดการด้วยเหรอ โทรเรียกบริษัทประกันสิ”
หลินเฉินเสวี่ยหน้าบึ้งทันที “ไปเร็วๆ”
เย่เทียนหลงส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ จากนั้นหยิบกุญแจรถแล้วออกไป ก่อนไปเขาหยิบถั่วลิสงแล้วเดินชิวออกไปข้างนอก
รถพอร์ชโดนทุบจริงๆ กระจกรถแตกไปหนึ่งบาน เย่เทียนหลงแอบด่าว่าไอ้สารเลว ลงมือรุนแรงจริงๆ รถใหม่โดนทุบจนกลายเป็นแบบนี้ เห็นแล้วปวดใจจริงๆ
รปภ.คนหนึ่งยืนดูอยู่ข้างรถ พอเห็นเย่เทียนหลงมาถึง เขาตะโกนว่า “คนย้อมผมสีทองเป็นคนทุบ”
เย่เทียนหลงมองรอบๆ “แล้วคนล่ะ”
รปภ.ชี้ไปข้างหน้า “หนีไปแล้ว พวกเขามีหกคน เมาเละเทะ ห้ามไว้ไม่ได้เลย”
เย่เทียนหลงมองป้ายที่หน้าอกรปภ. จูเที่ยตั้น จากนั้นเอาโทรศัพท์มาโทรแจ้งตำรวจกับประกัน จัดการจนเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว
พอวางสาย รปภ.ที่ชื่อจูเที่ยตั้นเอาซองบุหรี่ออกมา จากนั้นยื่นบุหรี่ให้เย่เทียนหลงหนึ่งมวนแล้วพูดขอโทษ
“ขอโทษจริงๆ น้องชายสูบบุหรี่ก่อน”
“ถ้าเป็นไปได้ฉันจะเลี้ยงเบียร์นาย เพื่อชดใช้ความผิดของฉัน”
“แม้ไม่ใช่เรื่องของฉัน แต่ฉันเป็นคนดูแลรถบริเวณนี้ ขอโทษจริงๆ”
ท่าทีไม่เลว แต่เย่เทียนหลงเห็นบุหรี่แล้วชะงักไป ยี่ห้อ “เหอเทียนเซี่ย” ราคากล่องละหมื่นห้า
รปภ.คนนี้มีเงินซื้อมาสูบด้วยเหรอ
“บุหรี่นี่ไม่เลวนะ เอามาจากไหนเหรอ”
เย่เทียนหลงเอามาดม เป็นของแท้แน่นอน รปภ.ชะงักไป เขารีบเก็บบุหรี่แล้วแค่นยิ้ม
“ฉันซื้อมาน่ะ”
แววตาวูบไหว
แย่แล้ว!
พอรู้สึกว่าจูเที่ยตั้นแปลกๆ จากนั้นเย่เทียนหลงได้กลิ่นประหลาดที่บุหรี่
ล่อเสือออกจากถ้ำ!
เขาจับพิรุธบางอย่างได้ เขาถีบรปภ.แล้วรีบวิ่งเข้าไปในผับ
เย่เทียนหลงวิ่งมาที่บาร์อย่างรวดเร็ว แต่ไม่เห็นหลินเฉินเสวี่ยแล้ว หลงเหลือเพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ บนตัวเธอ แล้วก็ความร้อนที่ยังหลงเหลืออยู่บนเก้าอี้
จากนั้นสายตาเขามองไปที่แก้วเหล้า เขาเอานิ้วแตะเศษที่ติดอยู่ตรงแก้วแล้วขยี้เบาๆ จากนั้นเอามาดม เขาแอบสบถว่า
ให้ตายเถอะ!
เขารู้ว่าเศษนี่คือยาปลุกเซ็กส์ของสเปน หลินเฉินเสวี่ยกับตัวเองโดนคนเล่นงานแล้วล่ะ
เขาดมกลิ่นบนบุหรี่ด้วย เหมือนกันไม่มีผิด
เขามองไปรอบๆ มีคนเต็มไปหมด ดนตรีดังสนั่น ไม่เห็นเงาของหลินเฉินเสวี่ยเลย พอถามบาร์เทนเดอร์ อีกฝ่ายก็ไม่ได้สังเกตเหมือนกัน
พอเห็นว่าหลินเฉินเสวี่ยหายตัวไป ใบหน้าเย่เทียนหลงฉายแววหนักใจ แต่ไม่ตื่นตระหนกเลยสักนิด เขาเอามือถือตัวเองออกมาเปิดระบบ
“ติ๊ง!”
มีจุดสีแดงเคลื่อนไหวบนจอ
หลินเฉินเสวี่ยถอดนาฬิกาตอนดื่มเหล้า เย่เทียนหลงติด GPS ไว้ที่นาฬิกาของเธอ
เขาดูตำแหน่งแล้ววิ่งออกไปทันที เห็นรปภ.นอนกุมท้องอยู่บนถนน เขาเตะรปภ.จนกระเด็นอีกรอบ
เรื่องคืนนี้ต้องเกี่ยวกับจูเที่ยตั้นแน่ๆ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาจัดการเขา ค่อยล้างแค้นวันหลัง
“บรื้นนน!”
เย่เทียนหลงเข้าไปในรถพอร์ช จากนั้นเหยียบคันเร่งออกไปทันที
ตอนนี้ผับกำลังคึกคัก มีรถขับไปมาเยอะมาก ถนนก็มีแค่สองเลน แขกที่เข้า-ออกขับช้ามาก
แต่เย่เทียนหลงไม่ลดความเร็วเลยสักนิด เขาควบคุมรถได้คล่องแคล่วมาก หมุนพวงมาลัยซ้ายขวา เหยียบคันเร่งจนเสียงดัง
รถพอร์ชออกมาจากถนนแคบๆ ไม่มีรอยเสียดสีหรือรอยชนเลยสักนิด ผู้หญิงสองสามคนตกใจจนร้องว้าว แล้วก็ทำให้ชายหนุ่มส่งเสียงเชียร์ด้วย
สกิลการขับรถสุดยอดไปเลย
เย่เทียนหลงไม่สนใจคำชมหรือก่นด่าของคนรอบๆ เขาหมุนพวงมาลัยออกจากผับทันที
หลังผ่านไปหนึ่งนาที เย่เทียนหลงล็อกตำแหน่งของรถเป้าหมาย เป็นรถเบนซ์สีดำ เขาเห็นป้ายเครื่องหมายจราจรจากไกลๆ ด้วย ด้านหน้าเป็นโค้งหักศอก
เย่เทียนหลงไม่สนใจ เขาควบคุมรถไปด้านหน้า รถพุ่งไปที่โค้งเหมือนเปลวไฟลุกโชน
ภาพนี้ทำให้เจ้าของรถหลายคันที่อยู่ด้านข้างตกใจมาก “อ๊าก”
รถมาเซราติลดกระจกลง เผยให้เห็นใบหน้าสาวสวย “ให้ตายเถอะ! อยากตายเหรอ”
เย่เทียนหลงไม่รู้ว่าการกระทำของตัวเอง ทำให้คนที่เห็นตกใจมาก เขาเป็นห่วงแต่ความปลอดภัยของหลินเฉินเสวี่ย
“บรื้นนน”
ตอนเลี้ยวสองมือของเขาหมุนพวงมาลัยเหมือนเล่นมายากล เขาหมุนพวงมาลัยจนสุด จากนั้นหมุนกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็หมุนพวงมาลัยจนสุดอีกครั้ง
รถมาเซราติที่ตามมาด้านหลังมองรถพอร์ชด้วยความตกตะลึง
ท้ายรถสะบัด
ยางกันกระสุนเสียดสีกับพื้นถนนจนเกิดเสียงดัง “เอี๊ยด” ดังเข้ามาในหู ฝุ่นบนถนนลอยตลบอบอวล
ขณะที่กำลังหวาดเสียว หัวรถหันกลับมา ความเร็วไม่ลดลงเลย รถพอร์ชที่เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว มีเงาสีแดงออกมาด้วย
เจ้าของรถมาเซราติยื่นหน้าสวยออกมามองเย่เทียนหลงที่หายไปแล้ว จากนั้นพูดด้วยความตื่นเต้น “ให้ตายเถอะ! หล่อมากเลย เจ๋งที่สุด”
“ฉันต้องให้เขามาเป็นอาจารย์ให้ได้ จะได้แซงพวกซูเปอร์คาร์สวะให้หมด”
เธออยากจำทะเบียนรถพอร์ชไว้ แต่เย่เทียนหลงขับเร็วมาก เธอจึงจำได้แค่ JJ18
“บรื้น!”
ตอนนี้คนขับรถเบนซ์สีดำที่อยู่ข้างหน้ารู้แล้วว่ามีคนขับตามมา เขาเหยียบคันเร่งแล้วเร่งความเร็วไปข้างหน้า
รถสองคันที่มีประสิทธิภาพสูสีกัน ขับตามกันไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
แต่สกิลการขับรถของเย่เทียนหลงเหนือกว่าคนขับรถเบนซ์ ไม่ถึงหนึ่งนาที รถพอร์ชแซงรถเบนซ์สีดำไปแล้ว
“สวบ!”
เย่เทียนหลงลดความเร็ว ตอนรถสองคันอยู่ห่างกันประมาณหนึ่งช่วงตัว เขาเหยียบเบรกแล้วเอารถขวางไว้
เจ้าของรถเบนซ์สีดำหมุนพวงมาลัยไปทางขวา รถพุ่งออกไปที่ทางเท้าด้านข้าง
“โครม!”
รถเบนซ์ชนเสากั้นจนล้ม จากนั้นพุ่งเข้าไปในพุ่มดอกไม้ข้างทาง รถจึงหยุดลง
รถด้านหลังเห็นแล้วเบรกทันที จนเป็นรอยล้อรถลากยาว
เย่เทียนหลงเปลี่ยนเกียร์แล้วลงจากรถ จากนั้นเดินไปที่รถเบนซ์สีดำทันที
เขาเต็มไปด้วยความอาฆาต
ตอนนี้ประตูรถเบนซ์เป็นรู เย่เทียนหลงเห็นหลินเฉินเสวี่ยตรงเบาะหลัง เขารีบเดินเข้าไปอุ้มหญิงสาวที่ตัวร้อนผ่าว “ผู้จัดการหลิน ไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ไอ้เลว!”
ตอนเย่เทียนหลงอุ้มหลินเฉินเสวี่ยออกมา ชายหนุ่มหน้าตามอมแมมออกมาจากที่นั่งคนขับ
เขาอายุยี่สิบกว่าปี ใส่ต่างหู ทรงผมเหมือนจรวด แต่งตัวไม่เลว แต่ท่าทางดูลามก
ตรงหน้าผากเขามีคราบเลือด เขาเอามือกุมส่วนที่เจ็บแล้วตวาดเย่เทียนหลง
“ไอ้เวร นายอยากตายเหรอ”
“ชนรถฉัน แย่งผู้หญิงของฉัน นายรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร”
ในเวลาเดียวกัน รถหรูที่อยู่ด้านหลังขับมาจอดแถวรถเบนซ์
ประตูรถเปิดออก ชายหนุ่มแต่งตัวดี 4-5 คนออกมาพร้อมกับแฟนสาว เป็นพวกเดียวกันแน่นอน พวกเขาเข้าไปหาชายหนุ่มที่ใส่ต่างหู
หนึ่งในนั้นตะโกนว่า “คุณชายเหลียง เกิดอะไรขึ้น”
ชายหนุ่มใส่ต่างหูตะโกนว่า “ไอ้หมอนี่ชนรถฉัน แล้วก็แย่งผู้หญิงที่ฉันจีบ”
พวกชายหนุ่มแต่งตัวดีโมโหมาก พากันถกแขนเสื้อแล้วเดินเข้าไปหาเย่เทียนหลงที่อุ้มหลินเฉินเสวี่ยเข้าไปในรถ
“ไอ้หนุ่ม นายกล้าแย่งผู้หญิงของคุณชายเหลียงเหรอ”
“นายไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม ไม่รู้เหรอว่าคุณชายเหลียงเป็นใคร”
“รีบคุกเข่าอ้อนวอน ไม่งั้นวันนี้ฉันจะหักขานายทั้งสองข้าง”
เย่เทียนหลงปิดประตูรถ ไม่มีท่าทีไม่สนโลกอีกแล้ว เขาบิดคอไปมาแล้วพูดว่า “จะจีบก็จีบสิ แต่การวางยาเป็นอะไรที่ต่ำมาก”
“ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้สั่งสอนพวกนาย ต่อไปคนดีๆ คงโดนทำร้ายอีกหลายคน”
ชายหนุ่มที่ชื่อคุณชายเหลียงเอาท่อนเหล็กออกมาจากรถ เขาพุ่งเข้ามาหาเย่เทียนหลงก่อนเพื่อน “จะเป็นศัตรูกับฉันเหรอ พวกเรา จัดการเขาเลย”
คนพวกนั้นตะโกนแล้วพุ่งเข้าไป
“สวะ”
เย่เทียนหลงแสยะยิ้ม จากนั้นพุ่งเขาไปถีบคุณชายเหลียงจนกระเด็นออกไปพร้อมกับท่อนเหล็ก
จากนั้นยกขาเตะสามคนที่พุ่งเข้ามา เสียงดังปักๆ ทั้งสามคนไม่ได้แตะตัวเย่เทียนหลงด้วยซ้ำ พวกเขาร้องโหยหวนแล้วล้มลงบนพื้น ลุกขึ้นไม่ไหวแล้ว
คล่องแคล่วรวดเร็ว!
“ไม่ว่านายเป็นใคร”
เย่เทียนหลงเดินเข้ามาเหยียบคุณชายเหลียง นัยน์ตาเย็นยะเยือกน่ากลัว “ถ้านายกล้าวางยาอีก ฉันทำให้นายพิการแน่”
คุณชายเหลียงเจ็บมาก เขาซี๊ดปากแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้วางยา ฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นยั่ว ฉันก็เลยพาเธอออกมา ไม่ได้วางยาจริงๆ”
นัยน์ตาเย่เทียนหลงฉายแววสงสัย ขณะที่กำลังจะถามเพิ่ม เขาเห็นหลินเฉินเสวี่ยลุกขึ้นนั่ง จากนั้นถอดเสื้อแล้วยื่นออกมานอกหน้าต่างรถ สายตาเธอหยาดเยิ้ม
“พลั่ก!”
เย่เทียนหลงถีบคุณชายเหลียงจนกระเด็น จากนั้นกลับมาที่รถแล้วกดหลินเฉินเสวี่ยนอนลงไป จากนั้นเอาเข็มขัดรัดไว้ เขาเข้ามาในรถแล้วเหยียบคันเร่งออกไปทันที
เขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ: กำจัดพิษ
ตอนนี้คุณชายเหลียงลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เขาตวาดใส่รถว่า “ไอ้หนุ่ม นายรอก่อนเถอะ แก๊งเฟยหลงไม่ปล่อยนายไว้แน่”
เขาหยิบมือถือออกมากดโทรออกแล้วตวาดว่า
“หลินเฉาหยาง ไอ้เหี้ยเอ๊ย ผู้หญิงชั้นดี พี่สาวคนสวยอะไรของนาย นี่มันกุหลาบพิษชัดๆ”