บทที่ 10 การข่มขู่ใหม่
ได้ยินเสียงหัวเราะได้ใจของเย่เทียนหลง หลินเฉินเสวี่ยหันหน้าไปทางอื่น เธอไม่สนใจและส่งเสียงหึออกมา
ตัวเธอเองยังไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ เธอเพิ่งรู้จักเย่เทียนหลงวันนี้ ตอนแรกจะไล่เย่เทียนหลงด้วยซ้ำ แต่พอเห็นสาวสวยรายล้อมเขา ใกล้แบบเนื้อแนบเนื้อ หลินเฉินเสวี่ยรู้สึกอึดอัดใจ เหมือนโดนแย่งของเล่นอย่างไรอย่างนั้น แต่คนเย่อหยิ่งแบบเธอไม่ไล่ผู้หญิงพวกนั้นหรอก
เย่เทียนหลงเห็นหลินเฉินเสวี่ยหันไปทางอื่น อีกทั้งยังสั่งเหล้ามากินอีก ท่าทางเธอดูกลุ้มใจ เขายกยิ้มมุมปากเบาๆ
เขาคุยกับสาวๆ ไม่กี่ประโยค อีกทั้งยังสั่งค็อกเทลให้พวกเธอคนละแก้ว จากนั้นยักไหล่ให้สาวๆ ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
“ที่รัก ฉันอยากเต้น อยากดื่มเหล้ากับพวกเธอมาก ไม่เมาไม่เลิก แต่วันนี้ไม่ได้จริงๆ พอดีเจ้ใหญ่มาด้วยน่ะ”
เขาชี้หลินเฉินเสวี่ยที่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “คืนนี้ไม่สะดวกจริงๆ”
“พรืด!”
สาวๆ หัวเราะแทบจะพร้อมกัน “นายร้ายกาจมาก ไอ้อันธพาล”
ระหว่างที่หัวเราะอยู่ พวกเธอแอบมองหลินเฉินเสวี่ยที่ใบหน้าเย็นยะเยือก จากนั้นก็ไปหาเสี่ยคนอื่นอย่างรู้งาน
แต่ก่อนไปยังยัดกระดาษโน้ตใส่มือเย่เทียนหลงด้วย ในนั้นมีเบอร์โทรของพวกเธอ ถ้าว่างค่อยติดต่อมา
หลังจากพวกเธอถือแก้วเหล้าออกไปแล้ว เย่เทียนหลงจับกระดาษโน้ตแล้วแกว่งไปมา จากนั้นหัวเราะคิกคักใส่หลินเฉินเสวี่ย
“เป็นไงล่ะผู้จัดการหลิน มีสาวสวยมาจีบไหม การจีบสาวสมัยนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหล่อ แค่ฉลาดก็พอแล้ว”
“อ้อ ทำไมเธอดูกลุ้มอกกลุ้มใจจัง หึงที่ฉันคุยกับพวกเธอเหรอ”
“ล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย อยู่ด้วยกันตอนบ่าย ทำให้ผู้จัดการหลินตกหลุมรักฉันแล้วเหรอ ฉันมีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอ”
หลินเฉินเสวี่ยไม่สนใจความได้ใจของเขา แต่พอเห็นเขาไล่ผู้หญิงพวกนั้นไปทันเวลา ในใจเธอรู้สึกพึงพอใจ รู้สึกว่าเย่เทียนหลงให้ความสำคัญกับเธอ
แต่พอได้ยินเขาพูดอย่างหลงตัวเองและได้ใจ คิ้วสวยขมวดเข้าหากันทันที
“ใครหึง ใครตกหลุมรักนาย นอกจากปากแล้วนายมีอะไรดีบ้าง นายคือคนมักมากบ้าตัณหาที่หลงตัวเอง”
หลังจากนั้นเธอมองกุญแจรถบนโต๊ะแล้วพูดว่า “ดูไม่ออกเลยว่านายรวยมาก คนรวยหน้าตาดีมาเป็นผู้ช่วย อยากหาอะไรทำเหรอ”
เย่เทียนหลงหัวเราะร่า ขยับเข้าไปใกล้หลินเฉินเสวี่ยแล้วพูดเบาๆ ว่า “กุญแจรถหกดอกเป็นของก๊อบเกรดเอ อันละแปดสิบ ผลิตจากเมืองอี้อู”
“แม้สิ่งนี้ไม่มีราคา แต่เป็นอาวุธจีบสาว ฉันใช้กุญแจหกดอกนี้ ตกร่างกายสาวสวยมาแล้วหกสิบคน ไม่ใช่ร่างกายๆ แต่เป็นใจต่างหาก”
กุญแจรถ? ของก๊อบเกรดเอ?
หลินเฉินเสวี่ยได้ยินแล้วชะงักไป จากนั้นโมโหสุดๆ “คนหลอกลวง! ไอ้คนหลอกลวง! นายต้องโดนฟ้าผ่าตายไม่ช้าก็เร็ว”
เธออยากเอามีดมาสับไอ้เลวนี่จริงๆ
เย่เทียนหลงเบิกตาโต “ใส่ร้าย! ใส่ร้ายกันชัดๆ! ฉันไม่เคยบอกว่ามีรถเลยนะ ฉันเอาของประดับตกแต่งมาเล่นไม่ได้เหรอ”
เถียงข้างๆ คูๆ!
หลินเฉินเสวี่ยสาปแช่งเย่เทียนหลงในใจนับครั้งไม่ถ้วน อยากลากเขาไปรับโทษต่อหน้าทุกคน จากนั้นตัดหัวให้ทุกคนเห็น
ขณะที่เธอกำลังแค้นเคือง บาร์เทนเดอร์ดันแก้วเหล้าสองแก้วที่ผสมเสร็จแล้วมาให้
“คุณหลิน Faded Beauty สองแก้ว”
หลินเฉินเสวี่ยยังไม่ทันได้พูด เย่เทียนหลงหยิบแก้วขึ้นมาดื่มจนหมด จากนั้นเม้มปากสองที เขาเบะปากเหมือนยังไม่สะใจ เขายื่นมือไปหยิบแก้วของหลินเฉินเสวี่ยมาดื่มจนหมด จากนั้นเม้มปากแล้วพูดว่า
“ใช้ได้”
บาร์เทนเดอร์อ้าปากหวอ นี่เป็นของดีของร้านเลยนะ แก้วละ 380
“เหล้านี่ต้องค่อยๆ ดื่ม ใครบอกให้นายดื่มแบบนี้”
เห็นเย่เทียนหลงทำให้เสียของ แถมยังดื่มแก้วของตัวเองด้วย หลินเฉินเสวี่ยเกือบอาละวาด “สอนยากสอนเย็นจริงๆ”
เย่เทียนหลงบ่นว่า “เหล้าดีต่างหากที่ต้องค่อยๆ ดื่ม”
“เหล้าดีต้องค่อยๆ ดื่มเหรอ นายจะบอกว่าเหล้านี่งั้นๆ เหรอ”
หลินเฉินเสวี่ยโมโหมาก “ถ้าเก่งนายก็ไปผสมเหล้าให้ฉันดื่มสิ ถ้าเหนือกว่า Faded Beauty คืนนี้ฉันจะเต้นเซ็กซี่ให้นายดูเลย”
ไอ้สารเลวนี่ทำให้เธอโมโหแทบบ้าแล้ว
“เฮ้ย มีเต้นเซ็กซี่ให้ดูด้วย ดีจังเลย!”
เย่เทียนหลงสนใจขึ้นมาทันที เขามองหลินเฉินเสวี่ยแล้วถามว่า “คำพูดของผู้จัดการหลินเชื่อถือได้ใช่ไหม”
หลินเฉินเสวี่ยส่งเสียงหึ “แน่นอน”
เธอมีความเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว “ถ้าเหล้าที่นายผสมไม่ถึงมาตรฐานของแก้วเมื่อกี้ นายต้องไปรายงานตัวที่ฝ่ายการตลาด”
เย่เทียนหลงหัวเราะร่า “ที่รัก เธอแพ้แล้วล่ะ”
เขาทักทายบาร์เทนเดอร์แล้วเข้าไปข้างใน เขากวาดตามองชั้นวางเหล้าแวบหนึ่ง จากนั้นเอาเหล้านอกกับแก้วเหล้าออกมา
หลินเฉินเสวี่ยขมวดคิ้ว “ไหวไหมเนี่ย ถ้าทำไม่ได้ก็รีบออกมา อย่าพังบาร์ของคนอื่น”
เย่เทียนหลงไม่สนใจคำพูดยียวนของเธอ สมาธิจดจ่ออยู่กับแก้วเหล้าในมือ นิ้วเรียวยาวจับช้อนสีเงินอย่างชำนาญ จากนั้นคนน้ำแข็งในแก้วอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีเสียงดังออกมาเลยสักนิด จากนั้นเขาหยิบเหล้านอกที่เตรียมไว้แล้วอย่างคล่องแคล่ว ค่อยๆ เทมันลงไปในแก้วเหล้า พอเทได้ประมาณ 2/3 เขายกช้อนคนเครื่องดื่มขึ้นมาวางบนปากแก้ว
ครีมเนียนและเข้มข้นไหลผ่านหลังช้อนลงไปในแก้ว เนื้อครีมลอยอยู่บนเหล้าเหมือนขนนก
จากนั้นเขาเอาไม้จิ้มค็อกเทลมาเสียบเชอร์รี่สีแดงเข้ม แล้ววางไว้บนแก้ว สีแดงของเชอร์รี่ สีชาของเหล้า สีขาวขุ่นของครีม แล้วก็กลิ่นหอมของเหล้า ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ต่อการมองเห็นและความรู้สึกในการลิ้มรส ทำให้คนรู้สึกอยากกินด้วย
บาร์เทนเดอร์เห็นแล้วอ้าปากหวอ เย่เทียนหลงดันแก้วมาตรงหน้าหลินเฉินเสวี่ย จากนั้นยิ้มสดใสแล้วพูดว่า
“ชิมสิ ดูว่ารสชาติดีกว่า Faded Beauty หรือเปล่า”
“แต่ก่อนดื่มต้องถอดนาฬิกาข้อมือของเธอก่อน ชิมค็อกเทลโดยไม่สวมเครื่องประดับ ถึงจะได้รสชาติที่แท้จริงของมัน”
เขาชี้นาฬิกา Patek ราคาหลายแสนบนข้อมือหลินเฉินเสวี่ย
หลินเฉินเสวี่ยส่งเสียงหึ “ทำตัวประหลาด”
เธอไม่อยากทำตามที่เย่เทียนหลงบอก แต่ค็อกเทลยั่วน้ำลายมาก แล้วก็อยากดื่มเพื่อติเย่เทียนหลงด้วย จะได้ใช้โอกาสนี้ย้ายเขาไปอยู่ฝ่ายการตลาด
หลินเฉินเสวี่ยจึงถอดนาฬิกาให้เย่เทียนหลงถือ จากนั้นเอาสองมือยกแก้วค็อกเทลขึ้นมาชิม
“อึก!”
ครีมละลายในปากทันที จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย จิตใจที่หงุดหงิดและกลัดกลุ้มในตอนแรกสงบลงทันที รู้สึกสงบลงไม่น้อย
เหล้านี่อาจไม่ใช่เหล้าที่อร่อยที่สุด แต่ถูกปากหลินเฉินเสวี่ยที่สุด
เธอถามเสียงเบาว่า “เหล้านี้ชื่ออะไร”
เย่เทียนหลงตอบเสียงเบา “ที่รัก ฉันรักนาย”
หลินเฉินเสวี่ยพูดซ้ำโดยไม่รู้ตัว “ที่รัก ฉันรักนาย”
เย่เทียนหลงตอบว่า “ที่รัก ฉันก็รักเธอเหมือนกัน”
หลินเฉินเสวี่ยสะดุ้ง จากนั้นหยิบกล่องทิชชูปาใส่ด้วยความหงุดหงิด “ไอ้สารเลว! นายจริงจังหน่อยจะตายไหม”
เย่เทียนหลงรับกล่องทิชชูแล้วกลับมานั่งที่ตัวเอง “เห็นหน้าตาเธอกลัดกลุ้ม เลยพูดหยอกนิดหน่อย อย่าอ่อนไหวขนาดนั้นสิ”
“ชื่อจริงๆ ของมันคือสงบใจ”
หลินเฉินเสวี่ยชะงักไป “สงบใจเหรอ”
จู่ๆ สายตาเธออ่อนโยนทันที ใบหน้าเย็นชาก็มีความอ่อนโยนเหมือนกัน หลังจากนั้นเธอดมแก้วเหล้าแล้วถอนหายใจเบาๆ
“ถ้าเธออารมณ์ดี ฉันก็มีความสุข! ฉันชอบชื่อนี้มาก ฉันชอบเหล้านี้มากเหมือนกัน เย่เทียนหลง นายก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เหลือเชื่อจริงๆ......”
เย่เทียนหลงลูบหัว “นี่เธอกำลังชมหรือด่าฉัน”
เขาคืนนาฬิกาให้หลินเฉินเสวี่ย “ผู้จัดการหลิน หน้าตาเธอดูกังวลตลอดเวลา มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ เล่าให้ฉันฟังได้นะ”
พอพูดประโยคนี้ออกมา เขารู้สึกเสียใจ ฉันควรพูดว่าเต้นเซ็กซี่สิ
“พลั่ก!”
หลินเฉินเสวี่ยใส่นาฬิกาแล้วเหวี่ยงหมัดต่อยไหล่เย่เทียนหลง “ไอ้คนสารเลว”
เธอยกนาฬิกา Patek ขึ้นมา “ใส่หรือไม่ใส่นาฬิกาก็เหมือนกันนิ นายชอบหลอกคนอื่น”
เย่เทียนหลงเอ่ยเสียงเรียบ “ต่างกันมาก”
หลินเฉินเสวี่ยพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “เหล้าของนายไม่เลว แต่มาตรฐานยังสู้ Faded Beauty ไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่มีการเต้นเซ็กซี่”
เย่เทียนหลงอ้าปากหวอ “ผู้จัดการหลินผิดสัญญา ไร้ยางอายเกินไปแล้ว”
“ใครผิดสัญญา”
“หา อย่าบอกนะว่าเธอไม่เคยผิดสัญญา”
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกัน สายตาสองสามคู่ที่อยู่ด้านบนเป็นประกาย กระจกบานใหญ่ที่มองเห็นด้านเดียวในห้องชั้นสอง หันมาทางบาร์ที่หลินเฉินเสวี่ยกับเย่เทียนหลงนั่งอยู่พอดี หลิวหย่งไฉกับลูกน้องที่มาจีบสาว เห็นคนคุ้นเคยทั้งสองคนพอดี นัยน์ตาพวกเขาฉายแววโมโห
ความอับอายตอนบ่ายยังติดตา โดนเจ้าหญิงแห่งแอฟริกาเตะ เย่เทียนหลงด่าว่าเป็นคนนอก โดนหลินเฉินเสวี่ยตำหนิ......
ชายหนุ่มหัวเกรียนพูดเบาๆ “ผู้จัดการหลิว ผู้จัดการหลินดื่มเหล้ากับไอ้เวรนั่น ดูเหมือนจะมีความสุขมาก”
หนุ่มแว่นอีกคนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ ต้องฉลองเรื่องออเดอร์ตอนบ่ายแน่ๆ”
หลิวหย่งไฉปลดกระดุมที่คอเสื้อ เขาถลึงตาใส่ลูกน้องสองคน “หลินเฉาหยาง หวังต้าเหว่ย พวกนายเพี้ยนไปแล้วเหรอ”
“หลินเฉินเสวี่ยจะออกมาฉลองเรื่องออเดอร์เมื่อตอนบ่ายเหรอ”
“เธอเคยเจอออเดอร์มาหลากหลายรูปแบบ เงินห้าล้านจะทำให้คนเย่อหยิ่งอย่างเธอ พาไอ้บ้านนอกมาดื่มฉลองที่นี่เหรอ”
เขาส่งเสียงฟึดฟัดออกมา “หลินเฉินเสวี่ยต้องเห็นว่าเราเสียเปรียบเมื่อตอนบ่าย เลยอารมณ์ดีมาก จึงพาคนที่มีความดีความชอบออกมาดื่ม อีกทั้งเธอไม่รับคนมีความสามารถ แต่รับคนที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ทำเป็นแค่ปากเก่งกับทะเลาะวิวาท ต้องการเล่นงานเราชัดๆ เธอจะฉวยโอกาสในยามวิกฤติ ดูเหมือนหลินเฉินเสวี่ยสร้างความแข็งแกร่งให้ฝ่ายตัวเองเหมือนกัน”
พวกลูกน้องพยักหน้าพร้อมกัน “ใช่ เธอจงใจหาไอ้เด็กนั่นมา”
หลิวหย่งไฉจ้องหลินเฉินเสวี่ยที่บาร์ นัยน์ตาฉายแววโมโห “ฉันทำงานอย่างหนักจนมาถึงทุกวันนี้ คิดว่าปีนี้จะได้เป็นผู้จัดการสาขาหมิงเจียง แต่จู่ๆ ประธานหรงส่งหลินเฉินเสวี่ยมาที่นี่ ทำให้ฉันพลาดตำแหน่งผู้จัดการ แล้วก็ตัดเส้นทางทำเงินของฉันด้วย”
“โชคดีที่ฉันเป็นเจ้าถิ่น มีกำลังคนและทุนทรัพย์เยอะ ทำให้ไม่โดนเธอกดขี่ข่มเหง”
“คิดไม่ถึงว่าพอฉันไม่อยากเลื่อนตำแหน่งแล้ว คนที่ยืนได้อย่างมั่นคงอย่างเธอกลับไม่ชอบฉัน อีกไม่นานเธอคงจะเล่นงานเรา”
เขาวิเคราะห์แบบขัดต่อความรู้สึกของตัวเอง “เย่เทียนหลงคือสัญญาณที่เธอจะสร้างความวุ่นวาย”
พอได้ยิน ชายหนุ่มหัวเกรียนมุมปากกระตุก เขาพูดด้วยสีหน้าหนักใจว่า “หลินเฉินเสวี่ยเป็นผู้จัดการ มีอำนาจตัดสินชีวิตเรา อีกทั้งยังมีประธานหรงคอยสนับสนุนอีก เธอพูดแค่ประโยคเดียว ได้ผลกว่าคำพูดเป็นร้อยของพวกเรา ถ้าเธอตัดสินใจเล่นงานเราจริงๆ เราแย่แน่ อย่างน้อยก็ไม่สามารถเหิมเกริมเหมือนเมื่อก่อน”
ใบหน้าเขามีความกังวล “ผู้จัดการหลิว เราจะทำยังไงดี เรานั่งรอความตายไม่ได้นะ ฉันทิ้งเงินเดือนเป็นล้านต่อปีไม่ได้หรอก”
คนอื่นพูดเหมือนกัน “ใช่ ผู้จัดการหลิวปล่อยให้คนอื่นเล่นงานไม่ได้นะ ผู้จัดการต้องรายงานสถานการณ์ของเราให้ประธานหรงทราบ”
หลายปีนี้พวกเขาได้ผลประโยชน์จากบริษัทไม่น้อย กลัวว่าถ้าหลินเฉินเสวี่ยเอาจริงขึ้นมา พวกเขาจะต้องแบกรับผลที่ตามมา
ใบหน้าหลิวหย่งไฉฉายแววหงุดหงิด “ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันเคยเสนอประธานหรงหลายครั้งแล้ว อีกทั้งยังให้คนที่เป็นคณะกรรมการบริหารช่วยพูด บอกว่าพนักงานสาขาหมิงเจียงไม่ชอบที่หลินเฉินเสวี่ยเป็นผู้จัดการ เธออยู่ที่นี่ก็มีแต่จะทำให้บริษัทวุ่นวาย แต่เขาเอาแต่พูดว่าหลินเฉินเสวี่ยมีความสามารถ ทำงานดี ผลงานและการพัฒนาก็ไม่เลว”
“แม้จะยึดความคิดตัวเองไปหน่อย ทำให้มนุษยสัมพันธ์แย่ แต่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของสาขาหมิงเจียงในตอนนี้”
ชายหนุ่มหัวเกรียนขมวดคิ้วเบาๆ “ดูเหมือนประธานหรงเชื่อใจเธอมาก แบบนี้เราก็ให้เบื้องบนกำจัดเธอไม่ได้แล้ว”
หนุ่มแว่นเอาทิชชูมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก เขาแอบยักยอกเงินมาไม่น้อย “แล้วจะทำยังไง ปล่อยให้พวกเขาเล่นงานเราเหรอ”
“จะตื่นตระหนกทำไม”
หลิวหย่งไฉเป็นหัวหน้าเหมือนกัน เขาระงับอารมณ์ได้ “แม้ประธานหรงปกป้องหลินเฉินเสวี่ยสุดๆ แต่ฉันได้ข่าวจากคณะกรรมการอาวุโสคนหนึ่ง เหมือนหลินเฉินเสวี่ยเดิมพันกับคณะกรรมการบริหาร ถ้าทำตามเงื่อนไขบางอย่างไม่ได้ก่อนสิ้นปี หลินเฉินเสวี่ยต้องเจอโทษหนัก แต่ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเธอต้องทำเงื่อนไขอะไรให้สำเร็จ”
“แต่ฉันทุ่มเงินให้คนไปสืบแล้ว อีกไม่นานคงได้เรื่อง”
หลิวหย่งไฉคาบซิการ์ “ถึงตอนนั้นเราค่อยแก้ปัญหาให้ถูกจุด หาวิธีไล่เธอออกจากบริษัทสาขา”
พวกเขาได้ยินแล้วดีใจมาก พากันพยักหน้าทันที “ผู้จัดการหลิวฉลาดมาก”
“แก้ปัญหาให้ถูกจุด......อืม เป็นวิธีที่ดี”
หลิวหย่งไฉปรายตามองหลินเฉินเสวี่ย รอยยิ้มค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นชั่วร้าย “บางทีคืนนี้เราอาจเริ่มแก้ปัญหาให้ถูกจุดเลยก็ได้”
“ยาปลุกเซ็กส์ตราจรวดของสเปน หยดเดียวทำให้หญิงรักนวลสงวนตัวกลายเป็นโสเภณี”
เขาดึงหนุ่มหัวเกรียนเข้ามาใกล้ จากนั้นเอากล่องเล็กๆ ออกมาจากในอก “เฉาหยาง เอาอันนี้ให้เสี่ยวฮวา บอกให้เธอผสมลงไปในแก้วของหลินเฉินเสวี่ย”
“นายหาผู้ชายให้เธอสักคน คืนนี้ทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง ขอแค่เธอเสียตัว ภาพบนเตียงของเธอถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต”
“เพื่อธุรกิจและชื่อเสียงของบริษัท ถึงประธานหรงจะปกป้องเธอขนาดไหน คณะกรรมการบริหารก็ต้องไล่เธอออก”
พวกชายหนุ่มหัวเกรียนตาเป็นประกาย พากันยกนิ้วโป้งแล้วพูดชม “ผู้จัดการหลิวฉลาดมาก”
“ถ้ามีโอกาส จัดการไอ้เด็กนั่นด้วย”
หลิวหย่งไฉสะบัดมือ “หลังเสร็จงาน จัดการให้เรียบร้อยด้วย”
ชายหนุ่มหัวเกรียนรีบออกไปทันที