บทที่ 3
ผู้ใหญ่แดนถึงกับตัวชาเมื่อเห็นบัวชูช่อขาวผ่องตรงหน้า...
ตาของเขาเบิกกว้างตามองภาพนั้น เต้าสองเต้าขาวอมชมพูแต้มยอดด้วยทับทิมเม็ดเล็กสวยสีเข้ม ได้มองเพียงชั่ววินาทีเพียงจดจำ เจ้าของบัวงามก็รีบเอาท่อนแขนบัง แต่สองแขนก็บังเต้าอวบไม่พ้นจากตาเขา ช้องนางหน้าแดงตัวแดงตัวแข็งเพราะตกใจ ที่จู่ๆ ผ้าก็หลุด...สาวน้อยตั้งใจมาเล่นน้ำ เลยใส่กระโจมอกกับกางเกงใน ตอนนี้เธอก็เผยสัดส่วนต่อหน้าเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ โอ...อายเหลือเกิน
ร้องกรี๊ดออกมาเบาๆ แล้วก็นั่งคุกเข่าลงในน้ำหันหลังให้เขา ไม่กล้าเอามือออกดึงผ้าขึ้นมา เขินจนจะเป็นลมแล้วตอนนี้ หูของเธอมีแต่เสียงวี้ๆ อยู่ในนั้น
ผู้ใหญ่แดนพอตั้งสติได้ ก็เอาผ้าขาวม้าของตัวเองออกจากเอว มาคลุมพันให้น้อง เมื่อผ้าโปะลงบนไหล่ สาวน้อยก็ตัวสั่น แล้วตัวแดงหน้าแดงไปหมด
“เอ่อ...”
ท่ามกลางความเงียบกริบ ขัดเขิน อึดอัด เขาก็กระแอมแก้เขิน พลางทำเสียงดุๆ
“มาพาเด็กเล่นน้ำในสระลุง ก็ไม่ยอมบอกกันเลย ดีนะลุงไม่ตกใจว่าเป็นคนมาลักข้าวลักปลา เอาปืนไล่ยิงเอา อีกอย่างในสระมีช่วงน้ำลึก ลุงจะได้บอกเตือน เดี๋ยวเป็นอันตรายกัน”
“นะ หนูขอโทษจ้ะ วะ วันหลังไม่มาเล่นแล้ว”
เธอพึมพำอ้อมแอ้ม ไม่ได้เจอเขามานานก็อยากมองเขาให้เต็มตา ยิ้มให้เขาเต็มที่ ไม่ใช่มาอวดนมให้เขาดูแบบนี้ แง๊
แล้วแบบนี้เธอจะมีหน้ามามองหน้าเขาได้อีกไหมล่ะ ฮือ...
“มาได้ลุงไม่ว่า แต่ให้บอก...ใครจะหวงของกับนางล่ะ ลุงไม่ได้หวงแค่ว่าห่วงเท่านั้น ตรงกลางๆ น้ำจะลึกเลยแนวดอกบัวตรงนั้นไป จะได้ชี้บอกว่าอย่าไปเล่นกัน เดี๋ยวจมน้ำ ห่วงนั้นแหละ”
เสียงเข้มว่า เขาเองก็ใจเต้นตึกๆ ไม่ได้เจอน้องมานาน อยากมองให้ชื่นใจ ก็...ชื่นใจชุ่มฉ่ำจริงๆ ล่ะหนนี้
มือของเขาทาบลงบนบ่านุ่ม ราวกับประจุไฟฟ้าแล่นไปทั่วกายสาวน้อย เธอตัวสั่นนิดๆ กับสัมผัสใกล้ชิดนั่น
อา...
ลุงผู้ใหญ่
จะทำอะไรนะ
ช้องนางหลับตาปี๋ ใจคิดเตลิดไปโน่น! เธอเองก็ไม่ใช่สาวไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ไปเรียนในเมือง ไปรู้ไปเห็นอะไรมาเยอะแยะ เพียงแค่เธอไม่เคยไปริลอง หรือต้องใจใคร ก็คนมันมีคนในใจมาตั้งแต่แรกสาว ประทับใจเขาจนฝังในนั้นแล้วไม่คิดชอบคนอื่น
พอเขามาแตะต้องแบบนี้ใจก็เตลิดไถลไกลเวอร์แล้ว
หรือเขาจะกระชากเราไปกอด...แล้ว....
“ใส่ผ้าถุงให้เรียบร้อย ลุงจะหันหลังให้ไม่ดู นางมาเล่นน้ำอย่างเดียวหรือ เป็นหัวหน้าเด็กหรือยังไงเราน่ะ”
โธ่...
ใจเต้นตกใจไปเสียเปล่า ช้องนางรีบดึงผ้าขึ้นมาแล้วทบอกให้เรียบร้อย ตามองหาเสื้อแขนยาวที่เธอโยนทิ้งไว้ริมตลิ่ง ก่อนจะเดินไปหยิบมันมาสวม มองค้อนให้กับผู้ใหญ่แดน ที่ทำให้เธอใจเต้นเก้อ
แอร๊
ยัยช้องนางเธอคิดอะไรของเธอ ยัยเด็กลามก
ก็ยังไงล่ะ เผื่อได้เฉยๆ ฮือ ฉันก็รักของฉันมานาน
เสียงสติกับหัวใจของเธอกำลังตบตีกันแหละตอนนี้
“แหะๆ เรียบร้อยแล้วจ้ะ ไม่โป๊แล้ว”
เธอยังเขินนิดๆ ที่ดันไปเปิดอกให้เขาดู ผู้ใหญ่แดนหันมาแล้วทำหน้าขรึม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิด ทำเหมือนไม่ได้เห็นอะไร ดีนะที่เขาผิวคล้ำ ไม่อย่างนั้นน้องคงเห็นแหละว่าเขาหน้าแดงเถือกไปหมดแล้วตอนนี้
หน้าร้อน ร้อนไปถึงท้อง ร้อนไปถึงไหนต่อไหน
ใจอยากจับน้องกด แต่...ทำแบบนั้นได้ที่ไหนวะไอ้ผู้ใหญ่ เสียคนหมดล่ะหนนี้
น้องยังเด็กจริงๆ นั่นแหละ ยิ่งมองหน้าใสๆ แดงเรื่อนั่น ใจก็ยิ่งเหี่ยว โธ่...ช้องนางเอ๋ย ทำไมไม่เกิดไวกว่านี้สักสิบปีหนอหนู...แล้วทำไมจะต้องเป็นลูกเพื่อนด้วยนะ
น้องคงจะสาวเต็มตัวสวยเต็มที่ขณะที่เขาทั้งเหี่ยวทั้งผมหงอกนำไปไกล
“มาหาสายบัวจะไปแกงตอนเย็น แล้วก็เลยงมหอยงมปลากันเล่นน่ะจ้ะ”
สาวน้อยว่า พลางยิ้มแหย แล้วมองไปรอบๆ เพื่อนเด็กร่วมอุดมการณ์ของเธอ หนีกันไปหมดล่ะตอนนี้ คงจะกลัวลุงผู้ใหญ่นั่นแหละ
“มาเดี๋ยวลุงช่วยหา แกงมาเผื่อด้วยล่ะ แล้ววันหลังจะมาเล่นก็บอกกล่าวไว้ด้วย”
ลุงจะมาเฝ้า...
ประโยคหลังนี่ว่าในใจ สาวน้อยยิ้มส่งให้เขา ใจยังเต้นนิดๆ แล้วพนมมือไหว้ขอบคุณ ผู้ใหญ่แดนพาน้องหาหอย หาสายบัว แล้วก็ช้อนกุ้งฝอยให้น้องด้วย สักพักเด็กๆ ที่หนีเตลิดกันไป ก็ค่อยๆ แอบย่องกลับมากันทีละคนสองคนเพราะเป็นห่วงพี่นางกัน
ผู้ใหญ่แดนเรียกมาคุย อบรมว่ามาเล่นได้ มาหากินได้ แต่ให้บอกกล่าว เพราะมีช่วงน้ำลึกน้ำตื้น เด็กๆ พนมมือขอโทษและขอบคุณ
มื้อเกือบบ่ายคล้อยวันนั้น ผู้ใหญ่แดนก็ไปนั่งเป็นประธานหัวหน้าเด็กแทนช้องนาง พากันตำส้มตำ ทำหอยนึ่ง แล้วก็ทอดกุ้งฝอย ตำน้ำจิ้มกินกันอร่อย แกล้มกับผักบุ้งผักกระถิน ทำเป็นถาดใหญ่เพราะคนเยอะกินกันสนุกสนานเจริญอาหารไปเลยทีเดียว
เขามองช้องนางที่คุยเล่นกับเด็กๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน ตั้งวงกินกันที่บ้านผู้ใหญ่นั่นแหละ ใช้อุปกรณ์ครัวของบ้านเขา เขาอยู่เพียงลำพังก็ตั้งแต่เมียหนีนั่นแหละ ก็หลายปีแล้ว บ้านของพ่อแม่นั้นอยู่อีกหลังหนึ่งใกล้ๆ กัน บางมื้อก็ไปกินกับพ่อแม่ บางมื้อก็ทำรับประทานเองง่ายๆ พอมีผู้หญิงมาหยิบจับทำอาหารในบ้าน มันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
เด็กๆ และช้องนางกำลังเล่นกับเจ้าหมาน้อยทั้งสี่ตัวของเขา รถคันหนึ่งเป็นรถยนต์ก็แล่นเข้ามาในเขตบ้าน เขามองแล้วก็ขมวดคิ้ว พร้อมกับลุกไปต้อนรับ
“พี่ผู้ใหญ่ครับ รบกวนหรือเปล่า แวะเอาของฝากมาให้ครับ”
เสียงคุ้นเคยดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงในเครื่องแบบสีกากีก็ก้าวลงมา
“อ้าว เกษตรมายังไงครับ”
เขาทัก ช้องนางเห็นว่าเขามีแขกมาบ้าน เลยบอกเด็กๆ ให้แยกย้ายกลับบ้าน ส่วนตัวเธอเลี่ยงไปเก็บล้างอุปกรณ์ข้าวของอยู่ในครัว ทำหน้าที่แม่บ้านชั่วคราวให้กับเขาโดยอัตโนมัติ
“มาทำงานที่บ้านไผ่ครับ ผมไปต่างจังหวัดมาได้ของดีมาก็เลยติดรถไว้ว่าจะเอามาให้ผู้ใหญ่”
วิชาญ เกษตรตำบลที่คุ้นกันมาพักหนึ่ง ทำงานขลุกด้วยกันบ่อย และนึกรักนึกชอบผู้ใหญ่แดนเป็นพี่ชาย แวะมาเยี่ยมเขาตลอดถ้ามาแถวนี้
วันนี้บ้านผู้ใหญ่ดูจะคึกคัก เด็กๆ ค่อยๆ ย่องมายกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่แดน แล้วก็กระจายตัวกันกลับไปบ้าน ส่วนช้องนางเขายังไม่เห็น น้องคงเก็บล้างเครื่องครัวอยู่
นั่งคุยกับเกษตรตำบลไปสักพักที่แคร่ใต้ถุนเรือน ช้องนางก็เอาน้ำเย็นมาบริการ แล้วขอตัวกลับบ้าน วิชาญถึงกับมองสาวน้อยด้วยนัยน์ตาตื่นตะลึง ตามองตามไปแบบไม่วางตาเลยทีเดียว ขณะที่ช้องนางเดินกลับไปยังบ้านของตนเอง ในมือถือครุบรรจุดอกบัวไปด้วยและอีกข้างหิ้วกระป๋องใส่ปลาที่เขาให้ปลาที่ไปหามาไว้และขังไว้ให้กับเธอไปทำกับข้าวด้วย
“ใครน่ะพี่ผู้ใหญ่”
“เอ่อ เด็กน้อยข้างบ้านน่ะ”
เขาเห็นสายตาของวิชาญแล้วก็รู้สึกใจคอไม่ดียังไงพิกล
“ยังเด็กอยู่เลย มาเล่นน้ำกันที่สระหลังบ้านนี่แหละ”
เขาเน้นคำว่าเด็ก เหมือนจะจงใจให้วิชาญหยุดคิดซะ เด็กนะเว้ย!
“พี่มีสาวสวยข้างบ้านขนาดนี้มาอยู่ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ได้เด็กแล้วนะครับนั่น สาวสวยมากด้วย”
“เอ่อ อย่าไปสนใจเลยมาคุยกันต่อดีกว่า”
“ยังเด็กแบบนี้ก็ยังไม่มีแฟนใช่ไหมครับ”
แนะ...ยังไม่หยุดอีก ตาของผู้ใหญ่แดนเริ่มขวางนิดๆ ขณะที่เกษตรตำบลหนุ่มที่ถูกศรรักปักฉึกเข้าแล้วยังเวิ่นไม่เลิก
“ก็ ไม่รู้สิ แม่เค้าหวงนะ”
“แม่หวงแบบนี้ก็คงจะยังไม่มีแฟนแน่ล่ะ พี่ผู้ใหญ่ น้องชื่ออะไรครับ ผมชอบ”
ไอ้ห่า!
อยากจะด่าแต่ได้แต่ยิ้มแสยะ แล้วก็บอกชื่อของน้องไปด้วยเสียงห้วนๆ
“ช้องนาง ลูกสาวแม่นิด อยู่กันสองคนแม่ลูก แม่นิดนี่เป็นเพื่อนกับพี่เอง พี่ดูแลครอบครัวนี้อยู่ ฉะนั้น...อย่างที่บอก น้องยังเด็ก เด็กมาก ยังไม่ควรมีแฟนหรือไม่ควรไปจีบ”
พูดออกไปโต้งๆ นี่แหละ
เกษตรตำบลเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วมองหน้าเพื่อนรุ่นพี่ที่อายุห่างกันสิบกว่าปี ที่ตอนนี้ผู้ใหญ่แดนหน้าตึงมาก หนวดกระดิกกันเลยทีเดียว
อ้อ...คงจะหวงหลานสาว
เขาหัวเราะ ตีความไปแบบนั้น เอาเถอะ...เดี๋ยวค่อยหาทางมาเนียนๆ เลียบๆ เคียงๆ อีกที ไม่เด็กแล้วแบบนั้น...และเขาก็ชอบมากด้วย
ตอนนี้ผู้ใหญ่แดนชักจะไม่ชอบขี้หน้าเพื่อนรุ่นน้องที่เคยกลมเกลียวช่วยกันทำงานถึงขนาดกอดคอกันกินเหล้าอย่างวิชาญขึ้นมาเสียแล้วสิ
ยังไงยี่สิบห้า กับสามสิบแปด มันบวกลบกับสิบแปดแล้ว ยี่สิบห้าก็ได้เปรียบกว่าอยู่ดี หึ!
โอ๊ย...
ทำไมหงุดหงิดจังวะ