ซีรีส์ มนต์รักบ้านนา

54.0K · จบแล้ว
โยธกา ดรินทร์ น้ำอ้อม
34
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ซีรีส์ มนต์รักบ้านนา ชวนน้องไปงมปลา ผู้ใหญ่แดน หนุ่มใหญ่วัย 38 ครองกายเป็นหม้ายมาหลายปี เพราะดันตาดี จ้องเด็กน้อยข้างบ้านไว้ น้องโตขึ้นทุกวัน สวยขึ้นทุกวัน จากเรียกลุงก็ตะล่อมให้เรียกพี่ได้ไหม? จนน้องสิบแปดกำลังสุกหวานบาดใจ พอมีหนุ่มเริ่มมาจีบน้อง ใจผู้ใหญ่แดนก็สั่นราวกับแผ่นดินไหว มดแดงแฝงมะม่วงแก้มแดงอย่างเขา จะทำยังไงดีนะ นิยายรักบ้านนา บรรยากาศฟุ้งไปด้วยไอรัก ของโคแก่ กับ หญ้าละอ่อน ชวนพี่ไปหาหอย พี่เขยคนซื่อ ที่พี่สาวฝากไว้ให้ดูแล... และเธอก็มีใจ ได้แต่แอบรักเขา ทำท่าจะเพลี่ยงพล้ำ โดนนังอ้อยสาวแรดแห่งหมู่บ้านจับไปขยำปล้ำ อีพิมพ์ยอมได้ยังไง ชวนพี่ไปหาหอย งมหอยกันดีกว่า งมไปงมมา อาจจะได้ปลาช่อนหัวโต๊ โต! พลอตแนว PWP อย่ามาหาสาระใดๆ มีแต่สาระความบันเทิงแห่งบั้นเอวล้วนๆ คร้าบบบบ ถ้าชอบก็มาจัดเด้อสูเด้อ น้องตำแตง พี่ตำถั่ว เมื่ออดีตคนเท มาเปิดร้านแข่ง แย่งลูกค้า หึ... ยังไงล่ะพี่บ่าว...แบบนี้ต้องหัวร้าวล่ะงานนี้ อยากดีกับเขาแต่เราก็ฟอร์ม... นุ้ยเอ๊ย พี่บ่าวอยากจะดีกับนุ้ยเหลือหลาย คิดจนหัวจะปวด ได้แต่วิธีนี้ล่ะ กวนตีนให้เมียโมโห แล้วไปเคลียร์กันในสวนยาง! เอาบองลา ฉกนุ้ยสักทีสองที เผื่อนุ้ยจะยอมคืนดีมาเป็นแม่ศรีเรือนพี่บ่าวดั่งเดิม โรมานซ์ตลก กลิ่นอายใต้นิดๆ ฝากความเฮฮาด้วยจ้า จุ๊บๆๆ โปรยปราย ทิศที่บ่าวเจ็ดวิ่งสปีดเต็มกำลังนำหน้ามาคือสวนยาง...อันรกครึ้ม จำได้เลาๆ ว่าเป็นสวนของญาติที่อยู่ใกล้กับปั๊ม ปตท. สาวมะนาววิ่งตามมาด้วยสปีดกำลังด้อยกว่า หลับหูหลับตาวิ่งไปตะโกนไปเพราะโมโหอย่างแรง มีดไม่รู้กระเด็นหายไปตอนไหน? รู้อีกทีเหลือแต่มือเปล่าๆ แล้วก็วิ่งตามเขาเข้ามาในป่ายาง... ไอ้บ่าวเจ็ดจอมกวนประสาทหายไปไหนอะ สวนยางรกครึ้มไปด้วยต้นยางสูงลิบ มะนาวตอนแรกก็โมโห ต่อมาก็เหนื่อยที่ไอ้พี่บ่าวเจ็ดสิ่งเร็วและพาเธอมาไกลมาก ตอนนี้เริ่มจะกลัว สวนยางรกครึ้มและเริ่มมืดเพราะตอนนี้บ่ายคล้อยแล้ว “ไอ้พี่บ่าวเจ็ด ไอ้...” ด่าเขาไปแรงๆ ด้วยประโยคที่เขาจะต้องโผล่พรวดมาถ้าได้ยินเข้า แต่ก็เงียบ... มะนาวเม้มปาก เอามือปาดเหงื่อ มองไปรอบๆ เงียบ...ไร้วี่แววของบ่าวเจ็ด เอ่อ...ช่างแม่งเหอะ พรุ่งนี้อย่าให้เจอหน้าที่ร้านตำถั่วนะ ถอยดีกว่า อยู่ตรงนี้นานไปไม่ดี มะนาวกลัวผี ยิ่งกว่าผีก็น่าจะงูจงอางหรือที่คนใต้เรียกว่าบองหลา ที่มีเยอะมากในป่าสวนยางแบบนี้ เธอทำทีจะหันหลังกลับ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงร้องอย่างตกใจ นั่นมันเสียงของบ่าวเจ็ดนี่นา! “โอ๊ย ช่วยด้วย บองหลาขบพี่” มะนาวทิ้งความโกรธ แล้ววิ่งไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ปากจะด่า ใจจะเคือง แต่ลึกๆ แล้วเธอนั้นก็ยังมีเขาอยู่เต็มหัวใจ “พี่บ่าว พี่บ่าวอยู่ไหน พี่บ่าวเจ็ด” เธอกรีดร้องหาเขาด้วยความตกใจ ได้ยินเสียงเรียกชื่อเธออ่อยๆ ดังมาจากใต้ต้นยางใหญ่ “พี่อยู่นี่ นุ้ยเอย โอย...พี่ตาลายหมดแล้ว สงสัยว่าพิษบองหลาจะออกแล้ว” “พี่บ่าว” เธอเห็นเขาในที่สุด บ่าวเจ็ดอยู่ใต้ต้นยาง เขานั่งเอนพิงต้นไม้ ร้องครางอ่อยๆ มือจับตรงบั้นเอวไว้ “พี่บ่าวเจ็ด โดนบองหลาขบเข้าตรงไหน” เธอน้ำตาไหลแล้วตอนนี้ กลัว...กลัวว่าเขาจะตาย ลืมไปแล้วความโกรธแค้นโมโหใดๆ เมื่อเห็นเขาอยู่ในสภาพนี้ “ตรงนี้” บ่าวเจ็ดชี้ตรงที่เอว แล้วทำเสียงระโหยอ่อยอ้อน “นุ้ยมาดูใกล้ๆ มาดูใจพี่พรือ โอยยยย ทำไมตาพร่า” “พี่บ่าว ทำใจดีๆ ไว้ เดี๋ยวนุ้ยไปตามคนมาช่วย” เธอทำท่าจะวิ่งออกไป แต่เขาร้องค้านไว้ก่อน “นุ้ย นุ้ยช่วยพี่...ดูดพิษให้พี่ที” เขากวักเธอหย็อยๆ มะนาวนั้นกำลังตกใจ ทำอะไรไม่ถูก พอเขาบอกแบบนั้น ก็เดินปรี่เข้าไปหาเขา พอเขาอ้าแขนออก ชี้จุดที่บองหลาฉกเอา เธอก็ก้มลงจะดูดพิษ แต่แล้ว... มือของเขาดัน กระตุกผ้าเคียนเอวออก บองหลา...ตัวใหญ่ พุ่งตะหง่านขึ้นเตะตาสาวนุ้ยที่เบิกตากว้าง เมื่อเห็นงูจงอางของผัวเข้าเต็มๆ แบบนั้น “ดูดตรงนี้สิจ๊ะ”

นิยายรักคนธรรมดาพ่อเลี้ยงรักแรกพบโตมาด้วยจีบเมียเก่าตลกรักหวานๆ25+

ชวนน้องไปงมปลา บทที่ 1

“พี่ผู้ใหญ่จ๋า แวะก่อนจ้า”

เสียงหวานทัก เมื่อจักรยานของผู้ใหญ่แดนกำลังจะขี่เลยบ้านหลังของตนไป เขาเบรกรถก่อนจะเลี้ยวเข้าไปตามเสียงเรียก พบกับหญิงสาวร่างอวบ ใบหน้าสดใส วัยอ่อนกว่าเขาสองปียืนยิ้มให้อยู่

“ว่ายังไงแม่นิด”

“ทำแกงขี้เหล็กเนื้อย่างไว้ พี่เอาไปกินสิ”

นิดว่า เธอเป็นแม่หม้ายมีลูกติดและไม่มีสามีใหม่ เธอยังรักอดีตสามีที่เพิ่งตายไปเมื่อห้าปีก่อน และลูกสาวกำลังอยู่ในวัยสิบแปดเรียกได้ว่ากำลังสาวสะพรั่ง และช้องนาง ลูกสาวของเธอก็เป็นที่โจษจันในความสวยน่ารัก เคยมีคนขอตัวไปประกวดประขันชิงตำแหน่งในงานต่างๆ ที่นิดก็ยอมให้ไป เพราะมันเป็นรายได้ แต่หลังๆ ก็ชักจะไม่ให้ไปเท่าไหร่ เพราะช้องนางกลายเป็นที่หมายตา เลยถูกมาทาบทามเนืองๆ

ทาบแต่ล่ะอย่างไม่ใช่จะไปแนวดี ขอไปเป็นเมียน้อยเมียเก็บ พวกคนใหญ่คนโตทั้งนั้น ใครจะไปปล่อยให้ไป ล่าสุดก็มาขอไปประกวดเวทีใหญ่ แต่ช้องนางบอกว่าไม่ไป อยากจะอยู่ดูแลแม่...เนื่องจากไปเรียนพาณิชย์ ในวิทยาลัยในเมือง ไปอาศัยกับปู่ย่าที่อยู่ที่โน่น เธอเลยไปกลับเอาไม่ได้อยู่กับแม่เท่าไหร่ หลังๆ พวกท่านป่วยสาวน้อยจึงรับภาระดูแลพวกท่าน เลยอยู่ยาวไม่ได้กลับบ้านเลยเกือบสองปี แม่นิดเทียวไปหาลูกสาวเอง จนเมื่อทางนั้นเสียทั้งคู่ ช้องนางเลยกลับมาอยู่กับแม่อีกหน มาช่วยแม่ดูแลไร่นาเรือกสวน และกะจะหางานทำในพื้นที่ เพราะไม่อยากไปไกลจากแม่ อยากอยู่กันเป็นครอบครัวแม่ลูกที่เหลือกันเพียงเท่านี้

“ขอบใจมาก พี่กำลังอยากกิน ใครก็ทำไม่อร่อยเหมือนแม่นิด”

ผู้ใหญ่แดนยิ้มให้ นิดหัวเราะ แล้วส่งถุงแกงให้กับผู้ใหญ่แดน เขาเป็นสหายสนิทของสามีเธอ วันที่โชติประสบอุบัติเหตุผู้ใหญ่แดนก็ช่วยจนสุดความสามารถ แถมยังโทษว่าเป็นเพราะตัวเองเป็นคนขับสามีเธอเลยตาย ผู้ใหญ่แดนยื่นมือเข้าช่วยเหลือหลายอย่างมาตั้งแต่สามีของเธอเสีย ทั้งช่วยดูแลบ้านช่อง หาคนมาช่วยทำงานในนาในสวน และแม้กระทั่งยื่นมือช่วยเหลือเรื่องเรียนต่อของช้องนาง แม้เธอจะไม่ติดใจว่าเป็นเพราะเขา แต่เขาก็ไม่ยอม รั้นที่จะส่งเสียช้องนาง สุดท้ายก็ต้องยอมให้จ่ายค่าเทอมให้กับช้องนางตามความประสงค์จนลูกสาวเรียนจบ

สนิทสนมกันจนบางคนก็จับตามองว่าผู้ใหญ่แดนกับแม่นิดอาจจะมาชิดใกล้สร้างครอบครัวเพราะโสดแล้วทั้งคู่ แต่สำหรับคนทั้งสองก็ได้แต่หัวเราะเมื่อได้ยินข่าวนี้ เพราะรักกันแบบพี่น้องไม่ได้คิดแบบอื่น

แน่ล่ะผู้ใหญ่แดนรักแม่นิดเหมือนน้องสาว เหมือนญาติที่จะต้องดูแลช่วยเหลือ

แต่ผู้ใหญ่แดนนั้นแอบรักใครบางคนอยู่...

“ไม่ได้ทำเองนะแกงรอบนี้ ยัยนางทำ แต่รับประกันฝีมือ”

ได้ยินชื่อของช้องนาง ผู้ใหญ่แดนก็ใจเต้นเร็วขึ้นมาทันที ก่อนจะขอตัวกลับ อ้างว่ามืดแล้ว ไม่รู้ว่ามีคนให้ข้าวลูกหมาหรือยัง แม่ของมันโดนรถทับตายไป...เหลือหมาน้อยหลายตัวให้เขาไปจัดการดูแล

ผู้ใหญ่แดนขี่จักรยานคันเก่งออกจากบ้านของแม่นิดอย่างรวดเร็ว ทันได้ยินเสียงหวานๆ ของช้องนางดังทักถามแม่ว่าใครมา

ใจของคนแก่กว่าเต้นไม่ยอมหยุดแค่ได้ยินเสียงน้อง

ได้แต่ท่องบอกตนว่านั่นลูกเพื่อนนะ ลูกเพื่อน...

โสดมานานก็หลายปี เป็นหนุ่มเทื้อแต่เนื้อหอมกลับมาวอกแวกหวั่นไหวเสียแล้วไหมหนอไอ้แดน

ลูกเพื่อน...ลูกเพื่อน...

..............

“แม่จ๋า...วันนี้หนูจะไปเก็บบัวมาทำแกงสายบัวนะ”

ช้องนางบอกกับมารดา พร้อมกับเตรียมครุพลาสติกคล้องแขนไว้ เธอสวมเสื้อแขนยาว และข้างในสวมผ้าถุงคาดอกไว้...เธอมีนัดกับเด็กๆ ใกล้ๆ บ้านว่าจะไปเล่นน้ำแล้วก็เก็บสายบัว ตั้งแต่กลับมานี่ ช้องนางก็เหมือนหัวหน้าเด็กน้อย มีเด็กๆ ชวนไปเล่นด้วย พี่ช้องนางคนสวยเสียงหวานใจดี สอนการบ้านให้ฟรี พาทำขนมอร่อยๆ พาหาปูหาปลาเล่น เด็กก็สนุก พ่อแม่ก็วางใจที่มาอยู่กับพี่ช้องนางเพราะดูแลน้องๆ ได้

แม้จะอยู่ในวัยสาวสะพรั่งแล้ว แต่ช้องนางก็ยังเหมือนเด็กๆ ยิ่งได้มีภาระที่จะต้องดูแลปู่ย่าที่ป่วย ไหนจะเหนื่อยจากการเรียน พอทุกอย่างปลดเปลื้องไปแล้ว ช้องนางก็ขอปลดปล่อย ทำตัวเป็นเด็กอีกหน เล่นกับเด็กๆ นี่แหละสนุกสนานบันเทิงใจ วัยที่สนุกสุดของชีวิตมนุษย์เราก็คือวัยเด็กนี่แหละ และช้องนางก็กำลังทำตัวย้อนวัยอีกหนมันสนุกสบายใจดี

“จะไปกับใคร”

นิดมองลูกสาวพร้อมกับขมวดคิ้วกับชุดไปเก็บสายบัวของยัยตัวยุ่ง ช้องนางยิ้มกว้างรับหมวกสานปีกกว้างที่มารดาส่งให้ไปสวมไว้

“ไปกับพวกเด็กน้อยนี่แหละจ้ะ นัดกันไว้แหละ แม่อยากกินหอยไหม หนูจะงมมาให้ด้วย ว่าจะชวนเด็กๆ งมหอยโข่งมานึ่งกินเล่นกัน ทำส้มตำกินสักตอนเที่ยง”

“หัวหน้าเด็กหรือยังไงกันนะเรา” นิดหัวเราะ แล้วก็สั่นหน้าน้อยๆ

“อย่าพาลูกหลานเขาไปเล่นน้ำนานนะยัยนาง แล้วก็โตเป็นสาวแล้วนะเราน่ะ ระวังตัวด้วยล่ะ แม่รู้หรอกว่าเราจะไปเล่นน้ำ ส่วนอย่างอื่นแค่ของประกอบผลพลอยได้”

ช้องนางหัวเราะขำ พลางพยักหน้า บอกว่าเธอระวังตัวดี นิดมองลูกสาวคนสวยผิวพรรณผุดผ่อง หุ่นเซ็กซี่ของลูกแล้ว ก็เกิดความเป็นห่วง แต่จะห้ามก็คงห้ามปรามกันไม่ได้ จึงเอ่ยถามว่าจะพากันไปเล่นน้ำ หาสายบัว หาหอยที่ไหนกัน

“ว่าจะไปที่บึงน่ะแม่ ดอกบัวเยอะดี” เธอหมายถึงบึงขนาดใหญ่เป็นบึงสาธารณะของหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับฝายน้ำล้น ไกลจากบ้านประมาณหนึ่งกิโลเมตร ความคุ้นเคยตั้งแต่เล็กทำให้เธอไม่นึกระแวงภัยกลัวอะไร แต่คนเป็นมารดานั้นไม่ไว้ใจนัก ถ้าไปไกลขนาดนั้น

“ไปที่บ่อน้ำสระบัวของลุงผู้ใหญ่ดีกว่า”

นิดแนะนำ ผู้ใหญ่แดนขุดสระเลี้ยงปลาไว้ที่ท้ายนา ที่ติดกันใกล้ๆ กับบ้าน แม่สาวน้อยน่าจะยังไม่รู้ว่ามีสระบัวอยู่ใกล้ๆ นี่เอง แถมไม่มีคนไปยุ่งย่ามเพราะเป็นที่นาของผู้ใหญ่แดน ปลอดภัยแน่นอน

“เอ๋...มีด้วยหรือจ๊ะ”

“มีสิ ลัดเลาะไปทางนั้นแหละลูก ไม่ไกลหรอก ต้นไม้เยอะดอกบัวก็เยอะ กุ้งหอยปูปลาคงมีเยอะนั่นแหละ สระบัวลุงผู้ใหญ่ของเราพึ่งจะขุดเมื่อปีกลายนี้เอง เล่นน้ำเสร็จก็เอาสายบัวไปฝากแกด้วยล่ะ เขามีบุญคุณกับบ้านเรามาก”

นิดเอ่ยย้ำ สาวน้อยพยักหน้า นึกถึงหน้าของลุงผู้ใหญ่ที่มารดาเอ่ยถึง ใจของเธอก็พลันเต้นนิดๆ ไม่รู้ว่าทำไม?

ผู้ใหญ่แดนเป็นเพื่อนของพ่อเธอ แต่หน้าตาของเขายังไม่ได้ดูแก่เลยแม้แต่น้อย เขายังดูราวกับหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ตัวสูงใหญ่ ผิวเป็นสีน้ำตาลแดงเพราะทำงานกลางแดดเกือบทุกวัน เป็นคนหล่อเหลาคมเข้ม ไว้หนวดเครายิ่งทำให้หน้าของเขาดูดุดันน่าเกรงขาม แต่ลุงผู้ใหญ่ใจดีกับเธอมาก...

รอยยิ้มของเขาอบอุ่นมาก

พูดถึงเขาแล้วหน้าของสาวน้อยก็ดันแดงขึ้นมา เธอไม่ได้เจอเขามานานแล้ว เจอกันก็ผ่านๆ รับรู้ว่าเขาช่วยเหลือจุนเจือเธอจนเรียนจบ แต่เพราะวุ่นๆ เรื่องปู่ย่าทำให้เธอยังไม่ได้ไปขอบคุณเขาอย่างที่ตั้งใจ เธอบอกกับมารดาไว้ว่ามีของขวัญตอบแทนที่ผู้ใหญ่แดนส่งเธอจนเรียนจบ กำลังขอเวลาเก็บเงินอีกนิดหน่อยแล้วจะนัดท่านไปไหว้กราบผู้ใหญ่แดนที่บ้าน

นอกจากช่วยมารดาเรื่องงานนางานสวน ช้องนางคนขยันก็มักจะทำขนมไปขายที่ตลาดในวันหยุด และมีแพลนว่าจะทำข้าวแกงขายกำลังหาตลาดลงอยู่

สิ่งที่ร่ำเรียนมาคือวิชาบัญชีนั้น ตอนนี้เธอก็รับทำงานนอกให้กับบริษัทของพี่ที่รู้จักกันจากการไปฝึกงาน แล้วเกิดถูกจริตเลยจ้างเธอทำงานนอก งานส่งภาษีห้าร้อยพันหนึ่ง เดือนหนึ่งๆ ก็พอได้ พอเก็บ นี่แหละเธอกำลังเก็บหอมรอมริบเงินส่วนนี้และเงินที่ขายของเล็กๆ น้อยๆ สะสมเพื่อรวบรวมซื้อของสิ่งหนึ่งให้กับลุงผู้ใหญ่ของเธอนี่แหละ

แต่เอาจริงๆ ช้องนางไม่อยากเรียกเขาว่าลุงเลยสักนิด

นั่นก็เพราะ...

หน้าของเธอเห่อร้อนนิดๆ ช้องนางไม่เคยมีคนรัก มีคนมาจีบมากพอสมควรเพราะเธอเป็นคนหน้าตาดี แต่ก็ไม่เคยตกลงปลงรักกับใคร มันมีใครบางคนไปแอบอยู่ข้างในน่ะสิ

แต่เขาจะหาว่าเธอแก่แดดแก่ลมไหมนะ

“เป็นอะไรไปน่ะยัยนาง อยู่ๆ ก็หน้าแดง”

“ร้อนน่ะแม่ เดี๋ยวชวนน้องๆ ไปสระบัวลุงผู้ใหญ่ก็แล้วกัน จะได้ไม่ไปไกลนัก”

เธอว่า แล้วเดินไปรวบรวมกองกำลังเด็กๆ ของเธอเพื่อภาระกิจในวันนี้

เธอจะหน้าแดงทำไมนะแค่คิดถึงลุงผู้ใหญ่

เฮ้อ...

สาวน้อยลอบถอนใจ เธอควรจะคิดถึงคนวัยเดียวกันหรือไม่ก็แก่อ่อนกว่าเธอไม่เกินสิบปี ดีกว่าไหมหนอ...แถมกับคนที่คงไม่เคยคิดกับเธอเป็นอื่นนอกจากลูกหลานอีกนะยัยนาง...แค่เก็บเขาไว้เป็นความอบอุ่นในใจดีกว่า

สาวน้อยคิดในใจอย่างปลงๆ