บทที่ 3
เขามีแผนจะขยายกิจการเรือสำราญลอยน้ำ ที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ที่เปิดให้บ่อนเป็นสิ่งไม่ผิดกฎหมาย จะทิ้งทุกสิ่งที่นี่ให้ปราณปรัชญ์และลูกน้องมือขวาอย่างวิชาติดูแล เขาจะให้พ่อเลี้ยงอิทธิช่วยในเรื่องธุรกิจบ่อนข้ามประเทศที่มีเส้นสายอยู่ทางนั้น นั่นเป็นที่มาของแผนการ 'กำจัด' ตัวอัปมงคลประจำบ้าน
เขาจะเอาหล่อนไปเซ่นให้กับพ่อเลี้ยง คงไม่ผิดหรอกนะ ก็เขาเลี้ยงดูหล่อนมาจนอายุเท่านี้แล้ว ทั้งที่หล่อนเป็นสาเหตุของการที่ครอบครัวของเขาแตกแยก และน้องชายของเขาติดคุก น้องชายอีกคนก็ตาย ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาอยู่หลายปีนี่ ก็ถือว่าการุณกันมากพอแล้ว
นึกถึงหล่อนแล้ว ปราชญ์ก็กวาดตามองหา เรือนร่างเล็กบางอ้อนแอ้นของจิรา เขาขมวดคิ้วนิดๆ ที่เห็นหล่อนปะปนกับคนรับใช้ ช่วยเสิร์ฟ ช่วยรับใช้แขก พลางทำเสียงหึ! ในลำคอ คงไม่กล้าสู้หน้าคนที่ตัวเองทำให้ติดคุกติดตะรางไปหลายปีสิ
"อาปืนขา ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะ ดีใจจังเลย"
เสียงแหลมๆ ดังขึ้นข้างกายสองพี่น้อง ก่อนที่ร่างงามอวบอิ่มในชุดเดรสปักเลื่อมสีแดงสดตัดกับผิวขาวๆ ของหล่อน จะโถมเข้ากอดปราณปรัชญ์อย่างถือสนิท ปราณปรัชญ์ผลักหล่อนออกห่างตัวนิดหนึ่ง หล่อนยิ้มกว้างขวางส่งให้เขา แวบแรกเขาคิดว่าหล่อนคือจิรา แต่...ไม่ใช่หรอก หล่อนน่าจะเป็นยลดา ลูกเลี้ยงอีกคนของปารมีพี่ชาย
"เอ่อ...ขอบใจจ้ะ หนูดาใช่หรือเปล่า โตเป็นสาวขึ้นมากจนอาแทบจำไม่ได้"
"ค่ะ หนูดาเอง"
หล่อนยิ้มยั่วส่งให้เขา ยิ้มยั่ว...ปราณปรัชญ์แน่ใจแบบนั้น พี่ชายพาเขาไปพบเพื่อนเก่าๆ ในงาน โดยมีหล่อนติดแจคล้องแขนไปด้วย เขาพยายามมองหาจิรา แต่ทว่า...มองไม่เห็นแม้แต่เงาของหล่อนเลย
เวลาของงานล่วงไปจนเที่ยงคืน ดึกดื่น บรรยากาศเริ่มสุดเหวี่ยงมากขึ้น เมื่อมีสาวๆ จากอาบอบนวดของปราชญ์เข้ามาดูแลแขก ตอนนี้ปราณปรัชญ์ถูกประกบด้วยสาวสวยแสนเซ็กซี่ถึงสองคน ที่ผลัดกันเอาใจเขา ยลดาที่ถูกกันออกมาจากชายหนุ่ม เพราะปราชญ์สั่ง ทำหน้างอๆ ค้อนใส่เขา ก่อนจะเดินไปคุยกับคนนั้นคนนี้ในงาน เขาเห็นว่าหล่อนไปเคลียคลอออเซาะกับวิชาติ ลูกน้องมือขวาของพี่ชาย เบียดเนื้อตัวกับทางนั้นอย่างไม่หวงตัว ปราชญ์ก็เห็นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งที่มันไม่เหมาะสม ก็ยลดาอายุอานามยังน้อย มีศักดิ์เป็นหลานเลี้ยง ส่วนวิชาตินั้นก็เป็นคนทำงานมือขวา
อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปมากมายเสียเหลือเกินที่นี่
ปราณปรัชญ์คิดขณะที่จิบเหล้าในมือที่สาวสวยข้างตัวชงให้ แปลกที่เขาไม่ยักกะมีอารมณ์ร่วมไปกับการลูบไล้ของพวกหล่อนทั้งที่ห่างหายเนื้ออุ่นๆ มานาน เขากำลังมองหาเธอ...จิรา ทำไมเธอเป็นคนเดียวที่ไม่มาหาเขา แม้กระทั่งป้าเอียดหัวหน้าคนครัวยังมาทักทายเขา หรือพี่ชายจะทำอะไรกับสาวน้อยไปแล้วนะ เขาจำได้ว่าปราชญ์โกรธแค้นและเกรี้ยวกราดขนาดไหนกับเหตุการณ์ทั้งหมด แถมโทษว่าสาเหตุมาจากจิรา แทนที่จะโทษฝ่ายชาย
สาวน้อยอายุสิบสอง น่ารักเหมือนตุ๊กตา แต่ก็คือเด็กที่ไม่มีส่วนโค้งเว้าอะไร หล่อนซื่อ ใส ชอบอ่านหนังสือเล่มโต หล่อนมีความสุขทุกหนเวลาที่เขาพาหล่อนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ความรู้ หมกมุ่นกับนิยายอิงประวัติศาสตร์ หนังสือประวัติศาสตร์เล่มหนา บอกเล่ากับเขาขณะที่นอนใกล้ๆ เขา เวลาเขาเล่นกีตาร์ให้หล่อนฟัง ว่าหล่อนอยากเป็นนักโบราณคดี ซึ่งพี่ชายคนรองของเขาก็ดูจะรักและสนับสนุนลูกสาวคนนี้มากเสียด้วยทั้งที่หล่อนไม่ใช่ลูกแท้ๆ
จิราและยลดาเป็นเด็กที่ปารมีรับอุปการะไว้ หล่อนเป็นลูกสาวของเพื่อนเขาที่เสียชีวิตทั้งบ้านเพราะอุบัติเหตุ ปารมีรับเด็กน้อยวัยสิบขวบและสิบเอ็ดขวบเข้ามาที่บ้าน บอกว่าต่อไปนี้พวกหล่อนจะเป็นลูกสาวของเขา จิราและยลดาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน จึงรับมาด้วยกันเพราะไม่มีคนดูแลทั้งคู่
เด็กสาวทั้งสองนิสัยต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ยลดาพยายามเป็นคนโปรดของปารมีและทุกคนในบ้าน ขณะที่จิรานั้นนิ่งกว่า หล่อนไม่ได้พยายามฉอเลาะขนาดนั้น เป็นเด็กค่อนข้างเงียบและโตเกินวัยของหล่อนด้วยซ้ำ ปราณปรัชญ์ชอบและเอ็นดูหล่อนเพราะตาแป๋วๆ คู่นั้น หล่อนดูจะกลัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในตอนแรก เกาะปารมีแจเลยก็ว่าได้เธอดูจะหวาดทุกคนในบ้าน นอกจากพ่อเลี้ยงของเธอที่เธอไว้วางใจและยึดเขาเป็นที่พึ่งพา
จากครอบครัวธรรมดา มาสู่ครอบครัวของผู้มีอิทธิพลที่ทำงานสีเทา แน่ล่ะ บรรยากาศในบ้านและผู้คนย่อมไม่เหมือนกัน ยลดาดูจะปลื้มเปรมมาก และยืดว่าหล่อนเป็นถึงลูกเลี้ยงของตระกูลพิทักษ์ราชสีห์ ขณะที่จิราตัวหดตัวลีบอยู่อย่างเจียมตัวเจียมตน
นั่นมันทำให้ปราณปรัชญ์เอ็นดูหล่อน และมักจะชวนหล่อนคุย จนสนิทสนมกัน หล่อนติดเขามากรองจากปารมี ปราณปรัชญ์ชอบพาหล่อนไปเที่ยวด้วย เหมือนพี่ชายกับน้องสาว เพราะเขาเคยอยากมีน้องสาว จิราจึงทดแทนส่วนตรงนั้นให้กับเขา เขากับหล่อนสนิทกันมาก เขานึกรักและเอ็นดูหล่อน ความผูกพันกับหล่อนมีมากขึ้นในทุกวัน เขาหลงรักความฉลาด ช่างเจียมตน และความสดใสของหล่อน เมื่อหล่อนถูกย่ำยีรังแก เขาจึงไม่คิดตรองใดๆ เขาจัดการคนที่รังแกทำลายหล่อน ให้ย่อยยับด้วยมือของเขา
เขาฆ่ามันตายคามือคู่นี้
แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด รู้สึกด้วยซ้ำว่าคนอย่างดิเรก สมควรแล้วที่จะจบชีวิตชั่วๆ ของมันลง
"ขึ้นข้างบนไหมคะคุณปืน"
สาวข้างตัวเขาฉอเลาะ แล้วเคลียจมูกกับแก้มของเขา หนุ่มๆ หลายคนเริ่มปลีกตัวไปกับสาวๆ ของปราชญ์แล้วตอนนี้ คฤหาสน์พิทักษ์ราชสีห์มีห้องรับรองเกือบยี่สิบห้อง และคืนนี้คือคืนเฉลิมฉลอง ที่ปราชญ์ไม่อั้นกับทุกสิ่งเพื่อแขก สาวงามตัวท็อปงดรับงานในคืนนี้ มารองรับแขกของนายโดยเฉพาะ
"เอ่อ..."
"ไปสิปืน พี่เองก็จะไปเหมือนกัน สองพอไหม หรือจะต้องสาม"
"ผม อยากพักผ่อนมากกว่าพี่ปราชญ์"
คำตอบของน้องชายทำให้ปราชญ์ขมวดคิ้ว
"เฮ้...อะไรกันวะ อยู่ในนั้นมาตั้งแปดปี ไม่จุกอกบ้างหรือไงไอ้ปืน หรือว่าชอบแบบอื่น พี่ก็หาให้ได้นะ"
"ไม่ครับ หึๆ ผมอยากพักจริงๆ พี่ปราชญ์ เริ่มเมาแล้วด้วย ได้กลับมาบ้าน ได้นอนเตียงตัวเอง มันก็คือสวรรค์สำหรับผมแล้ว"
"ชอบล่าเองว่างั้นเหอะ" เขาขยิบตาให้น้องอย่างรู้ใจกันดี ก่อนจะโบกมือให้กับปราณปรัชญ์
"เอ้าๆ ตามใจ จะไปนอนก็ไป แต่ทางนี้พี่กับแขกคงไม่นอนว่ะ"
คำอนุญาตนั้นทำให้เขาเลี่ยงออกมาได้ ก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนปีกของเจ้าของบ้าน ที่มีการ์ดคอยอารักขาเป็นอย่างดี กันคนมั่วเข้าไป
เขาถอนใจน้อยๆ รู้สึกมึนเพราะดื่มเข้าไปมาก จนถึงกับเซนิดๆ เขาเดินขึ้นไปยังชั้นที่เป็นห้องของเขา ห้องเดิม...ตอนนี้ถูกปัดกวาดทำความสะอาดอย่างดีต้อนรับเจ้าของห้อง ห้องตรงกันข้ามของเขาคือห้องของจิรา...
สาวน้อยเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับและพี่ชายไม่ได้เอ่ยถึงเธอกับเขาเลยสักคำ ราวกับว่าจิราไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว
ปราณปรัชญ์เปลี่ยนใจที่จะเข้าห้องของตนเองเขาเคาะห้องของจิรา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เขายืนนิ่งตรงนั้นอีกเกือบนาที ถอดใจแล้วว่าเธอคงไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว
ทว่าประตูห้องค่อยแง้มแล้วเปิดออก
ปราณปรัชญ์หรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อเห็นเจ้าของห้องเต็มตา
"อะ...อาปืน"