3
Chapter 3
บัวบูชารู้ดีว่าโดนแขวะ เธอแทบกลืนข้าวไม่ลง แต่ก็กล้ำกลืนฝืนกินไม่ตอบโต้คนชอบหาเรื่องจิกกัดเธออยู่ตลอด เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ไม่ชอบหน้าเธอนัก
“หาผู้หญิงดีๆ สิ คนที่เฮียเลือกมันไม่ดีสักคนเดียว”
“เฮียถอดใจมานานหลายสิบปีแล้ว ไม่รู้ตัวหรือไง” พันกรประชดน้องสาว
แต่พิมพ์นารายิ้มแป้นทันที อยากให้พี่ชายอยู่ในโอวาท เพราะสิบปีมานี้พี่ชายของเธอไม่ให้ผู้หญิงคนไหนมาทำตัวเป็นเจ้าของไร่เหมือนก่อนๆ
..เธอไม่ชอบผู้หญิงพวกนั้นจริงๆ
“ดีแล้วละเฮีย ยัยปากแดงที่เฮียเอามาน่ะ ได้แต่จิกหัวใช้งานคนอื่น ทำเป็นอยู่อย่างเดียวนั่นแหละ”
“ทำอะไรเป็นอยู่อย่างเดียว” พันกรเอ่ยถาม
“อย่าให้พูดเลยเฮียมันกระดากปาก เฮียเองก็รู้” พิมพ์นาราเบ้ปากใส่พี่ชาย
พันกรพอจะเข้าใจ
..เรื่องบนเตียงมันขาดได้ซะที่ไหนล่ะ
“ดีแล้วที่รู้จักกระดากปาก ไม่ทำไม่พูด บางคนอาจจะกระดากปาก แต่การกระทำมันไม่ใช่ สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง”
“เอ๊ะ! เฮียนี่ยังไง บอกว่าอย่าหาเรื่องบัว เดี๋ยวทิ้งให้กินข้าวคนเดียวเลย”
“แตะไม่ได้เลยนะ คบกันอย่าชวนกันไปทำเรื่องเสียหายล่ะ เราก็เหมือนกันอย่าใจแตกไปแก้ผ้าแก้ผ่อนทำงานน่าอายแบบนั้น”
“โอ๊ย! เฮีย คิดได้นะ ดูหุ่นพิมพ์ก่อน ไปแก้ผ้า แถมข้าวสารอีกกระสอบยังไม่มีใครมองเลย ไม่เหมือนหุ่นบัว บัวน่ะหุ่นดี ขนาดไม่แก้ผ้ายังมีผู้ชายมองเหลียวหลังเลย”
“พิมพ์” บัวบูชารีบปรามเพื่อน เมื่อเห็นสายตาวาววามไปด้วยความไม่พอใจของพันกร เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาไม่พอใจอะไรเธอนัก
เธอทำงานสุจริต ไม่เคยทำเรื่องผิดกฎหมาย หรือศีลธรรมและไม่เคยชวนพิมพ์นาราทำอะไรเสื่อมเสียเหมือนอย่างที่เขาชอบพูดเสมอๆ
“งานอื่นมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องไปแก้ผ้าให้ผู้ชายดู หน้าไม่อายหรือไง”
“ก็มีคนแบบเฮียนั่นแหละ งานนี้ถึงได้มีขึ้นมา”
“คนแบบเฮียมันยังไง” พันกรใบหน้าเหลอหลา
“เฮียชอบดูไหมล่ะ ผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำ อย่าบอกนะ ว่าไม่ชอบดู พิมพ์ไม่เชื่อหรอก”
“เฮียไม่ได้บอกว่าไม่ชอบสักหน่อย” พันกรยักไหล่ไปมา
“นั่นไง เพราะมีผู้ชายลามกแบบเฮียไง หนังสือพวกนี้เลยขายดี”
“แค่กๆๆ” พันกรสำลักจนต้องหยิบน้ำมาดื่มอีกรอบ
บัวบูชาอ้าปากค้างไม่คิดว่าพิมพ์นาราจะพูดกับพี่ชายแบบนี้ แต่พันกรก็ไม่ได้โกรธน้องสาวจริงจังอะไร เพราะเธอเห็นอยู่ว่าพันกรค่อนข้างจะรักน้องสาวคนเดียวเอามากๆ
“พอพูดเรื่องจริงทำเป็นรับไม่ได้ ชิ!”
“ปากแกนี่มันจัดจ้านจริงๆ ระวังหาผัวไม่ได้”
“ไม่มีผัวก็ไม่เป็นไร เกาะเฮียกินก็ได้”
“เฮียส่งเรียนจบ จะตัดหางปล่อยวัดเรานะยัยตัวเล็ก หัดทำมาหากินเอาเองบ้าง”
“เฮีย!!!” พิมพ์นาราแทบเต้นเมื่อโดนพี่ชายยั่ว
บัวบูชานึกขำสองพี่น้อง บางทีเถียงกันไปมาก็น่ารักเหมือนกัน เธอพอจะรู้ว่าพันกรอายุห่างกับพิมพ์นาราอยู่มาก เรียกว่าเป็นพ่อลูกกันได้เลย ดังนั้นพิมพ์นาราก็เลยค่อนข้างเอาแต่ใจเพราะถูกตามใจตั้งแต่เด็ก เรียกว่าพี่ชายเลี้ยงมายิ่งกว่าไข่ในหิน แต่ถึงจะเอาแต่ใจเพียงใด เพื่อนของเธอคนนี้ก็เป็นคนจิตใจดี ไม่เคยดูถูกใครและชอบช่วยเหลือคนอื่น เธอจึงรักพิมพ์นารามาก เรียกว่ารู้ใจกันที่สุด เพราะเธอเองก็ไม่มีเพื่อนคนไหนที่สนิทเท่านี้อีก
“เรียกอยู่ได้” พันกรทำท่ารำคาญ แต่ไม่จริงจังนัก
บัวบูชาดูออกว่าพันกรรักน้องสาวยิ่งกว่าอะไร ที่เถียงๆ กันนั้นก็ยอมพิมพ์นาราตลอด เพราะถ้าเพื่อนของเธอจะเอาให้ได้ พันกรก็จะยอม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าอาจจะเถียงกันเกือบตายก็ว่าได้
“บัวกินเยอะๆ นะ อย่าไปสนใจปากหอยปากปู”
พิมพ์นาราตักกับข้าวให้เพื่อนที่นั่งเงียบมาตลอด ปกติบัวบูชาเป็นคนไม่ค่อยพูด มีอะไรก็จะเก็บเอาไว้ในใจ อะไรที่ช่วยเหลือคนอื่นได้ก็จะช่วยเหลือ พิมพ์นาราจึงรู้ดีว่าเพื่อนจะไม่ทำให้ใครอึดอัดหรือเดือดเนื้อร้อนใจเด็ดขาด เวลาเธออยู่กับพิมพ์นารา เรียกว่าเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องสวมหน้ากาก ไม่ต้องเก๊กไม่ต้องอะไรเลย เพราะเพื่อนคนนี้ไม่ได้สนใจรูปลักษณ์ภายนอก เป็นกันเองเป็นธรรมชาติ แถมยังมองโลกในแง่ดีอีก
“เค้าไม่กล้ากินเยอะๆ เหมือนเราหรอก เดี๋ยวไปแก้ผ้าแล้วไม่มีคนมอง”
“เอ๊ะ! เฮีย ยังจะหาเรื่องกันอีก บัวกินน้อยแล้วมันหนักอะไรเฮียล่ะ อีกอย่างขอแก้ประโยคของเฮียก่อน หลายรอบแล้วนะ บัวเค้าไม่ได้แก้ผ้า มากสุดก็แค่ชุดว่ายน้ำเท่านั้น”
พิมพ์นาราออกรับแทนเพื่อนทุกอย่าง
“เป็นใบ้หรือไง”
“คะ” บัวบูชาสะดุ้งเมื่อเงยหน้าก็เห็นเขาจ้องมองมา
“ถามว่าเป็นใบ้หรือไง ให้เพื่อนพูดแทนทุกอย่าง”
“เฮียนี่ยังไง พิมพ์พูดก็เหมือนบัวพูดนั่นแหละ พิมพ์รู้ใจบัวทุกอย่าง”
“นึกว่าเป็นใบ้”
พันกรพูดลอยๆ แต่คนที่เขาอยากหาเรื่องก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหาร เหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูด นั่นยิ่งทำให้เขาหมั่นไส้หนักขึ้นไปอีก
“บัวน่ะเค้าจะพูดกับคนที่พูดดีๆ คนพูดจาไม่ดีแบบเฮีย ใครจะอยากพูดด้วย” พิมพ์นาราว่าพี่ชาย
“สาวๆ อยากพูดกับเฮียตั้งเยอะแยะ”
“ยัยปากแดง โนตมนมโตพวกนั้นน่ะเหรอ พวกนางไม่อยากพูดกับเฮียแน่ ถ้าเฮียไม่มีเงิน” พิมพ์นาราเบ้ปาก
“ถึงไม่มีเงิน สาวๆ ก็อยากพูดกับเฮียเยอะแยะ”
“มั่นหน้ามากนะเฮีย ถึงให้หล่อขนาดไหน ถ้าเฮียจนพวกหล่อนก็ไม่ชายตาแลหรอก”
“พวกผู้หญิงก็หวังเงินสินะ”
“ยกเว้นพิมพ์กับบัว” พิมพ์นาราพูดอย่างมั่นใจ
“ใครเชื่อก็โง่แล้ว”
“ดูถูกน้องตัวเองขนาดนี้เลยเหรอเฮีย”
“เราน่ะอาจจะไม่หวัง แต่คนอื่นไม่แน่”
บัวบูชาสะดุ้งเพราะรู้ดีว่าโดนเขาแขวะเข้าอีกแล้ว
“ไม่ต้องมาหาเรื่องเพื่อนพิมพ์เลย เพื่อนพิมพ์ก็ไม่ใช่คนแบบนั้น บัวกินข้าวกันเถอะ อย่าไปสนใจคนแถวนี้เลย” พิมพ์นาราหันไปตักกับข้าวให้เพื่อนอีก
“พอแล้วจ้ะพิมพ์ ตักมาเต็มจานแบบนี้ บัวกินไม่หมดหรอกจ้ะ” บัวบูชารู้ดีว่าเพื่อนรักกำลังโมโหพี่ชาย เลยระบายอารมณ์โดยการตักอาหารให้เธอจนเต็มจาน ปากเถียงกับพันกร มือก็ตักอาหารให้เธอไม่หยุด เห็นแล้วก็ขำๆ อยู่เหมือนกัน เพราะเธอก็เพิ่งเคยเห็นพี่น้องทะเลาะกัน แต่รักกันจะเป็นจะตาย แค่พิมพ์นาราไม่สบาย พันกรก็รีบเดินทางลงไปหาน้องสาวถึงกรุงเทพฯ ทันที
“กับพี่กับเชื้อไม่ตักให้ ตักให้แต่คนอื่น”
“เอ๊ะ! บัวไม่ใช่คนอื่นนะ”
บัวบูชาอดยิ้มไม่ได้ ปากบอกว่าอย่าไปสนใจ พอพันกรพูดมาก็สวนกลับทันควัน ก่อนจะตักของโปรดใส่จานของพี่ชาย
พันกรเลยยิ้มออก
“หัวเราะอะไร” พันกรเอ่ยถามเมื่อหันไปมองคนข้างๆ น้องสาว อีกฝ่ายกำลังขำ
“อยากจะพูดกับเพื่อนพิมพ์ละสิ แต่เพื่อนพิมพ์ไม่พูดด้วย” พิมพ์นาราทำหน้ารู้ทันพี่ชาย “เฮียนี่นะ”
พันกรแทบสำลักรอบสาม แต่ดีที่เขากลืนข้าวลงคอไปก่อน
“บัวเค้าไม่อยากพูดกับเฮีย เฮียก็พูดอยู่คนเดียว เหมือนพวกมีปัญหาชีวิต”
“พิมพ์!” บัวบูชาปรามเพื่อน ไม่ใช่เธอไม่อยากพูดกับพันกร แต่เขาต่างหากไม่อยากพูดกับเธอ พิมพ์นาราไปพูดแบบนั้น เดี๋ยวเขาจะหาว่าเธอรังเกียจ มีเรื่องมีราวกันอีก เธอไม่อยากมีเรื่องกับใคร
“ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุย ทำยังกับว่าใครอยากคุยด้วยงั้นละ”
หลังจากนั้นบัวบูชาก็เห็นสองพี่น้องเถียงกันไปมา การกินอาหารฝืดๆ ในคราแรก กลายเป็นกินหมดชามได้อย่างไรก็ไม่รู้
“ดีใจจัง บัวกินข้าวหมดด้วย อาหารที่บ้านของพิมพ์อร่อยใช่ไหม” พิมพ์นารายิ้มแก้มปริ