4
Chapter 4
“อร่อยจ้ะ”
“แบบนี้ต้องมาอยู่สักเดือนสองเดือน ปกติบัวกินข้าวยังกับแมวดม วันนี้ดีใจจังที่กินหมดชาม”
“อยู่นานขนาดนั้น บัวเกรงใจจ้ะ” บัวบูชาบอกอย่างเกรงใจ
“บัวน่ะชอบเกรงใจ ไม่เห็นต้องเกรงใจเลย”
“ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี”
เสียงไม่เป็นมิตรหาเรื่องอีกแล้ว พิมพ์นาราเอ่ยขอตัวจากพี่ชาย สะบัดหน้าใส่ก่อนจะคว้าแขนเพื่อนพาเดินขึ้นห้อง โดยมีสายตาของพันกรมองตามไปไม่วาง
“ระหว่างถ่ายละคร บัวมานอนกับพิมพ์ทุกคืนเลยนะ”
“ถ้าวันไหนมีคิวถ่ายดึกก็ต้องเข้าฉาก อาจจะไม่ได้มานอนด้วยนะพิมพ์”
“แบบนั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่มีคิวก็มานอนกับพิมพ์นะ”
“ได้จ้ะ”
“อย่าถือพี่ชายของพิมพ์เลยนะ เฮียก็ปากเสียแบบนั้นแหละ แบบนี้ไงเลยหาเมียไม่ได้”
“เป็นธรรมดาที่พี่ชายย่อมห่วงน้องสาว เฮียพันห่วงพิมพ์ กลัวอยู่กับบัวแล้วจะเสียคน”
“อยู่กับบัวแล้วเสียคน ก็ไม่ต้องคบใครแล้ว บัวนิสัยดีไม่เคยเอาเปรียบพิมพ์เลย” พิมพ์นาราส่ายหน้าไปมา
..ไม่รู้ทำไมโดนพี่ชายเธอว่า เพื่อนรักยังเข้าข้างอีก
“บัว... พิมพ์ถามหน่อยสิ”
“ถามอะไร”
“ไม่โกรธเฮียเหรอ เฮียคอยหาเรื่องว่าบัวตลอดนะ”
“บัวไม่ถือสาหาความใครอยู่แล้ว ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป พิมพ์ก็รู้ว่าบัวไม่ชอบสุงสิงหรือยุ่งกับใคร หรือใส่ใจเรื่องที่คนอื่นพูดแล้วไม่เป็นความจริง”
“ต้องยกนิ้วให้คุณยายที่สอนบัวมาแบบนี้ เป็นพิมพ์นะไม่ได้ มาว่าพิมพ์แบบนั้น พิมพ์ใส่ไม่ยั้งแน่”
“เฮียเขาเป็นห่วงพิมพ์ไง ภาพพจน์ของบัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่” บัวบูชาพูดเป็นกลาง
“แค่การแสดงเท่านั้น เป็นนางร้าย นางเอกแล้วยังไง ใส่ชุดวาบหวามถ่ายแบบแล้วยังไง” พิมพ์นาราไม่เห็นด้วยที่จะมองคนแค่ภายนอกและปกติพี่ชายของเธอก็ไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ไฉนตอนนี้ถึงได้อคติกับเพื่อนเธอนักก็ไม่รู้
“บัวชอบเฮียรึเปล่า”ที่ถามเพราะรู้สึกสิ้นหวัง ถ้าบัวบูชาชอบพี่ชายของเธอสักนิด ก็จะยุให้จีบเองเสียเลย
“พิมพ์พูดอะไรแบบนั้น” บัวบูชาสะดุ้งรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ถ้าบอกว่าบัวชอบเฮีย พิมพ์เชื่อเลยนะ เข้าข้างเฮียตลอด” พิมพ์นาราก็ถามไปแบบนั้นเอง เพราะไม่ได้เห็นแววหรอกว่าคนทั้งสองจะชอบกัน ทั้งๆ ที่เธอแอบเชียร์อยู่ในใจ
“บัวเปล่าเข้าข้างนะพิมพ์ ก็พูดไปตามเหตุผล”
“แต่ก็จริง ไม่เห็นบัวเคยโกรธใครที่ไหน” พิมพ์นาราพยักหน้าเออออ
บัวบูชาลอบผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เพื่อนยอมเชื่อ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูก่อนที่พิมพ์นาราจะไปเปิดประตูให้พี่ชาย
“นินทาอะไรเฮียอยู่ห๊ะ”
“นินทาอะไร ที่ร้อนตัวนี่เพราะรู้ใช่ไหมว่าตัวเองไม่ดี” พิมพ์นาราสวนกลับพี่ชาย
“ก็ไม่รู้สิ เกิดมายังไม่เคยเจอใครดีเลิศประเสริฐศรีเลยสักคนเดียว”
เขายืนอยู่หน้าประตูนานแล้ว นานพอที่จะได้ยินอะไรต่อมิอะไร ขณะพูดสายตาก็มองเพื่อนน้องสาวเขม็ง
“แต่เพื่อนของพิมพ์ดีเลิศค่ะ ขนาดโดนคนบางคนว่ายังไม่โกรธเลย”
“คนบางคนชอบสร้างภาพให้ตัวเองเป็นคนดี” พันกรนั่งลงบนเตียงใกล้ๆ กับน้องสาว ก่อนจะเอื้อมมือไปโยกศีรษะอีกฝ่าย
พิมพ์นาราทำหน้างอ แต่ก็ยอมให้พี่ชายโยกศีรษะไปมา
“เฮียว่าใคร”
ปากว่า แต่หยอกล้อพี่ชายโต้ตอบกันไปมาอย่างสนุกสนาน แถมยังหัวเราะอย่างมีความสุข นั่นเป็นภาพที่บัวบูชาเห็นบ่อยๆ ระหว่างพี่น้องคู่นี้
“เรานี่ยังไงชอบขึ้นเสียง เฮียไม่ได้ว่าเราก็แล้วกัน แต่ถ้าใครอยากรับก็รับไป”
“เฮียนี่ยังไง ชอบหาเรื่อง” พิมพ์นาราโถมตัวเข้าใส่พี่ชาย จี้เอวอีกฝ่ายก่อนจะขึ้นนั่งบนพุงแล้วขู่ฝ่อๆ
พันกรพลิกร่างน้องสาวลงก่อนจะจี้เอวกลับบ้าง พิมพ์นาราหัวเราะเสียงดัง ร้องให้บัวบูชาเข้ามาช่วย แต่หญิงสาวไม่กล้าเข้าไป เพราะเธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินของพี่น้องคู่นี้
“บัว ช่วยเค้าด้วย คิกๆๆ จั๊กจี้เอวเฮียที” พิมพ์นาราหัวเราะคิกๆ ดิ้นเร่าๆ ไปมา ก่อนจะรีบดึงมือบัวบูชาเข้าไปหา อยากให้ช่วยจัดการจี้เอวพี่ชายแล้วก็ดึงอีกฝ่ายออกไป
“อุ๊ย!” บัวบูชาร้องอย่างตกใจเมื่อถลาเข้าไปหาร่างสูงของพันกร เธอทำอะไรไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายพลิกตัวมาทาบทับเอาไว้
ในขณะที่พิมพ์นาราหนีลงจากเตียงไปยืนหอบอยู่อีกด้าน
“ขอโทษค่ะ” บัวบูชาดันอกแกร่งของพี่ชายเพื่อนรักออกห่าง แต่เขาไม่ยอมถอยห่าง ลมหายใจของเขาทำให้เธอหน้าแดงซ่าน สัมผัสใกล้ชิดทำให้เธอหวั่นไหวอย่างประหลาด
“เฮีย!!! ตายซะเถอะ”
พิมพ์นาราดูเหมือนจะไม่รู้อีโหน่อีเหน่ รีบโถมตัวเข้ามาจี้เอวพี่ชาย สั่งเพื่อนให้ล็อกแขนอีกฝ่ายเอาไว้
บัวบูชาทำตามอย่างเก้ๆ กังๆ เธอหลบสายตาพันกรเมื่อเผลอมองสบตากันอย่างไม่ตั้งใจ น่าแปลกที่เขายอมให้เธอล็อกแขนเอาไว้
เธอกับเขาไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวกันมาก่อน เลยรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด
อาจเพราะเธอคิดอะไรกับเขาเกินเลยคำว่าพี่ชายเพื่อนไปแล้วนั่นเอง...
“หึหึ... โดนจับเป็นตัวประกันแล้ว หนีไม่รอด ต่อไปนี้จะโดนจกพุงกินตับแล้วนะ” พิมพ์นาราจี้เอวพี่ชาย
พันกรหัวเราะท้องแข็ง ยอมให้น้องสาวจกพุงอย่างสนุกสนาน ตอนเด็กๆ ที่พิมพ์นาราคลอด พันกรเลี้ยงน้องมาตลอด ตั้งแต่ป้อนนม เปลี่ยนผ้าอ้อม ล้างก้น แม้กระทั่งอาบน้ำ พิมพ์นาราชอบปีนขึ้นมาเล่นบนตัวเขา กอดคอ ให้อุ้ม หยอกล้อกันตามประสาพี่น้อง
บัวบูชาที่เกร็งๆ อยู่เพราะทำตัวไม่ถูก พอถูกใช้ให้ล็อกพันกรเอาไว้ให้แน่น เธอก็รีบทำตาม
พันกรโดนจกพุงจนหัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล พิมพ์นารานอนหอบ วางศีรษะเล็กๆ อยู่บนหน้าท้องของพี่ชายอย่างมีความสุข ในขณะที่บัวบูชาพิงศีรษะกับเตียงอีกด้านมองสองพี่น้องอย่างอิจฉานิดๆ
“ยัยเด็กบ๊อง วันๆ ไม่คิดจะทำอะไร จกพุงพี่กินอย่างเดียว”
“เฮียเริ่มก่อน จี้เอวเค้าทำไม รู้ว่าเค้าจั๊กจี้”
“ตอนเด็กๆ พี่ก็จี้เอวออกบ่อย เราน่ะชอบขี่คอพี่”
ความรักของสองพี่น้องทำให้บัวบูชาอมยิ้ม
..ถ้าเธอมีพี่ชาย จะน่ารักแสนดีและดูแลเธอดีแบบนี้ไหมนะ
ถึงแม้พันกรจะปากร้าย ก็ปากร้ายแต่กับคนอื่นเท่านั้น กับน้องตัวเองเขารักและดูแลเป็นอย่างดี จะเถียงกันก็เป็นเรื่องที่ต่างคนอยากยกเหตุผลมาอ้างมากกว่าจะเถียงกันเอาเป็นเอาตายแล้วโกรธกัน
“บัวมานอน นั่งแบบนั้นเหนื่อยแย่เลย”
พิมพ์นารากวักมือเรียก ก่อนจะดึงเพื่อนรักมานอนด้วย บัวบูชาไม่ทันระวัง เสียหลักทิ้งตัวลงนอนอีกด้าน ศีรษะชนกับศีรษะของพันกรอย่างไม่ตั้งใจ เธอขยับหนีไม่ได้เพราะพิมพ์นาราที่นอนหนุนพุงของพี่ชายโอบกอดเอาไว้ เธอรู้สึกได้ว่าถูกจ้องมองจากอีกคน เลยได้แต่หลุบตาลงมองแค่หน้าของเพื่อนรักเท่านั้น
พิมพ์นาราดูมีความสุขกับการเล่าเรื่องต่างๆ ให้เพื่อนรักฟัง บัวบูชาฟังไปเผลอหัวเราะตามไป แต่พอเหลือบไปมองหน้าอีกคนที่กำลังมองเธออยู่ก่อนแล้ว เธอก็หยุดหัวเราะเกร็งขึ้นมาอีก
นอนพูดคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้จนเผลอหลับไป เธอไม่รู้ตัวว่าใครห่มผ้าให้ และใครแอบทำอะไรกับบางส่วนของร่างกายเธอบ้าง
การถ่ายทำละครเรื่องนี้ดูจะไม่ยุ่งยากอะไรเลย ถ้าพระนางจะไม่เรื่องมากขนาดที่ต้องเลิกกองกะทันหัน ใครจะคิดว่าจากที่วางแผนเอาไว้ว่าจะให้เสร็จเร็วหน่อย ก็กลับล่าช้าต่อไปอีก
“ตอนแรกแอบปลื้มพระเอกเรื่องนี้อยู่นะ ตอนนี้พอเห็นนิสัยไม่ไหวเลยอะ” พิมพ์นาราแอบวิจารณ์พระเอกให้บัวบูชาฟัง
“เขาอาจจะอยากให้งานดีก็ได้”
“นางเอกก็เพลียมาก พอเห็นตัวจริงเข้านิสัยแย่พอๆ กับพระเอก เรียกว่าผีเน่ากับโลงผุ” พิมพ์นาราเบ้หน้าอย่างรังเกียจ
..คนเราพอดังแล้วเรื่องมาก